บทที่ 69 - ฉัน เทพพระเจ้า!? (2) [อ่านฟรีวันที่ 2/11/61]
บทที่ 69 - ฉัน เทพพระเจ้า!? (2)
[คุณได้รับค่าประสบกาณณ์ 524,839]
[คุณได้รับค่าประสบกาณณ์ 499,539]
[คุณได้รับค่าประสบกาณณ์ 512,293]
ได้มีทูตสวรรบางคนที่บอกว่าคำขอของยูอิลฮานไร้สาระมากๆและพวกเขาก็ไม่พอใจ แต่ว่าคนส่วนใหญ่ก็ยอมรับในคำของที่เพื่อที่จะแก้วิกฤติอย่างรวดเร็ว
ทูตสวรรค์นับสิบได้มาบนโลกในทันทีและในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ให้พรที่แข็งแกร่งกับมนุษย์บนโลกยูอิลฮาน พวกเขาได้เพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษลงไปในกระเป๋าสะายสองอย่างตามคำขอ จำนวนความสามารถของกระเป๋าสะพายในตอนนี้มันน่าทึ่งมากๆแล้ว
ในตอนที่ออฟชั่นได้ถูกเพิ่มลงไปในกระเป๋าแล้วทำให้เขาได้รับหอกที่ขว้างออกไปและได้ซากมอนสเตอร์กลับมา เพียงแค่เขามองเห็นมันก็มากพอที่จะทำให้มันเข้ามาในกระเป๋าแล้ว
เพราะแบบนี้เองได้ทำให้การล่าของยูอิลฮานแบบไม่แสดงตัวตนออกไปได้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ถ้าจะมีออฟชั่นอะไรอีกงั้นก็คงเป็นออฟชั่นแยกหมวดหมู่ที่ทำให้เขาไม่ต้องหยิบหอกออกมาเองแล้ว
"หอกกำลังลอยออกมาจากที่ไหนซักที่ หลบ!"
"ไม่ หอกพวกนี้เล็งไปแต่ที่พวกมอนสเตอร์ นี่เป็นพันธมิตร"
แม้ว่ายูอิลฮานจะขว้างหอกอยู่ข้างหน้าของคนพวกนี้เลยแต่ว่าพวกเขาก็ไม่เห็นตัวยูอิลฮานเลย ไม่ว่าการปกปิดตัวตนของยูอิลฮานจะยอิดเยี่ยมแค่ไหน แต่ว่าปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย
ใช่แล้วถ้าหากว่ายูอิลฮานยังมีเพียงแค่เทคนิคการปกปิดตัวตนนี้มันจะเป็นไปไม่ได้เลย
[ฆ่ามอนสเตอร์คลาสสองที่ปกปิดตัวตนด้วยการโจมตีด้วยการโจมตีทีเผลอ 3,000/3,000]
[ฆ่ามอนสเตอร์คลาสสามที่ปกปิดตัวตนด้วยการโจมตีด้วยการโจมตีทีเผลอ 300/300]
[ได้รับฉายาระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการปกปิดตัวตน]
[หินพลังเวทย์คลาส 2 1,000/1,000]
[หินพลังเวทย์คลาส 3 100/100]
[วัตถุดิบทั้งหมดได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน]
[ดูดซับบันทึก สกิลปกปิดตัวตนวิวัฒนาการ]
ที่เป็นแบบนี้ก็ต้องขอบคุณมอนสเตอร์เงาเลยที่พวกมันได้วิวัฒนาการไปเป็นคลาส 3 ยูอิลฮานได้ประสบความสำเร็จในการทำตามเกณวิวัฒนาการสกิลปกปิดตัวตนของเขาก่อนที่จะจัดการกวาดล้างดันเจี้ยนอออกมา
เขาได้เสียหินพลังเวทย์คลาส 2 กับ 3 ไปจากการใช้เป็นวัตถุดิบ แต่ว่าเนื่องจากว่าเขามั่นใจว่าเขาจะได้รับมันมากกว่านี้แน่นอนด้วยการใช้สกิลที่วิวัฒนาการมานี้ทำให้ยูอิลฮานวิวัฒนาการสกิลลงไปโดยไม่ลังเลใจ
[คุณได้รับสกิลเทพแห่งความตาย มานาที่ใช้ในการปกปิดตัวตนลดลงและผลของการปกปิดตัวตนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล การปกปิดตัวตนจะไม่หายไปหากว่าคุณฆ่าศัตรูภายในครั้งเดียวด้วยการโจมตีทีเผลอ นอกไปจากนี้การฆ่าศัตรูอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 นาทีจะเพิ่มความสามารถทั้งหมดขึ้น 0.1% ในปัจจุบันที่เลเวล 1 นี้สามารถเก็บสะสมได้ไปจนถึง 50% และมันจะหายไปหาว่าคุณไม่ฆ่าศัตรูใดๆเลยภายในฆ่านาที ความสามารถอื่นๆจะถูกเพิ่มขึ้นมาหากว่าเลเวลของสกิลเพิ่มขึ้นไป
[เนื่องจากออฟชั่นเบต้าจากอาร์ติแฟค หอกหนามสังหารมังกรของยมทูตทำให้ความสามารถทั้งหมดของสกิลเทพแห่งความตายเพิ่มขึ้น 30%]
น่าทึ่งมากที่ความสามารถที่พัฒนาขึ้นมามันเป็นแบบติดตัว และแม้ว่าเขาจะใช้มานาไม่ได้มันก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย นี่มันเป็นความสามารถที่เหมาะสมกับตัวเขาที่ส่งผลกับการต่อสู้ได้อย่างมากมาย
แต่เพราะแบบนี้สกิลนี้มันก็จะไม่มีความหมายใดๆหากไปต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งซักตัวหนึ่ง และกลับกันมันเป็นสกิลที่เหมาะในการต่อสู้กับศัตรูที่อ่อนแอจำนวนมาก นี่มันเป็นเพียงจุดบกพร่องเดียวของสกิลนี้
ยังไงก็ตามสำหรับสนามรบที่เขาอยู่ในตอนนี้มันเหมาะเป็นอย่างมาก
"โอ้พระเจ้า หอกนั่นเพิ่งจะผ่านหัวฉันไป!"
"มีพวกมันตายไปสามตัวอีกแล้วในครั้งเดียว!"
"ศพของพวกมันที่ถูกหอกกำลังหายไป! วะ เวร นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี้ย....!"
เนื่องจากว่าเขาได้ฆ่าศัตรูทั้งหมดด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากการขว้างหอกทำให้การปกปิดตัวตนของยูอิลฮานไม่เคยได้หายไปเลย มันไม่มีใครที่สังเกตุถึงตัวตนของเขาถึงแม้ว่าเขาจะขว้างหอกอยู่เบื้องหน้าของคนพวกนี้
"นี่มันสบายดีจังเลยแหะ...."
[สกิลที่น่าสยดสยองได้พัฒนาขึ้นมาจนน่ากลัวอีกแล้ว แต่ว่าเมื่อได้เห็นคุณอารวาดแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกมากๆเลยนะ] (เอิลต้า)
[ว้าว เขาฆ่าไป 200 ตัวในทันทีเลยล่ะ] (ลิต้า)
มอนสเตอร์ที่บินอยู่ได้ถูกกวาดล้างออกไปจากที่แห่งนี้ทั้งหมดแล้ว ในตอนที่ยูอิลฮานได้รู้เรื่องนี้เขาก็ได้เปลื่ยนไปจัดการมอนสเตอร์บนพื้นต่อและในเวลาที่ไม่ถึง 15 นาทีมอนสเตอร์คลาส 2 ที่อยู่บนพื้นก็ถูกจัดการออกไปจนหมดเหมือนๆกัน สกิลเทพแห่งความตายได้กลายเป็นเลเวล 3 เข้าแล้ว
"ดูเหมือนฉันจะต้องย้ายที่แล้วนะ ฉันจะต้องจัดการกับพวกมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนที่ดวงจันทร์ยังขึ้นอยู่"
[....ฉันคิดว่าต่อให้คุณไม่มีดวงจันทร์คุณก็จัดการพวกมันได้ในครั้งเดียวอยู่ดี] (ลิต้า)
เมื่อเขาได้ยืนยันว่าหอกที่ปาออกไปและร่างของมอนสเตอร์ได้มาอยู่ในกระเป๋าแล้ว ยูอิลฮานก็หยักหน้าก่อนที่จะออกไปหาพื้นที่อื่นที่มอนสเตอร์อารวาดอยู่ ที่แห่งนี้มีเพียงมอนสเตอร์คลาส 1 ที่ซึ่งอ่อนแอกว่ามนุษย์ แต่ถึงแบบนั้นทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์ต่างก็กำลังหวดกลัว
"นะ น่ากลัวมาก"
"น่ากลัวกว่ามอนสเตอร์อีก"
"ฮิคคค ฮิคคค"
ได้มีตำนานของเมืองเกิดขึ้นที่นี่
ในจังหวัดคานากาว่า เมืองโตเกียว จังหวัดชิบะ ที่เหลานี้คือพื้นที่สนามรบระหว่างมอนสเตอร์กับมนุษย์ ไม่มีใครสามารถจะพูดได้เลยที่ไหนมีความสำคัญกว่ากัน แต่ว่ามันก็ชัดเจนอยู่แล้วที่โตเกียวที่ซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆและดันเจี้ยนที่ยังเหลืออยู่ทำให้มีโอกาสที่จะกู้คืนเหมือนกัน ที่จังหวัดชิบะก็ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ทำให้มีความสำคัญที่มากกว่าคากานาว่า
นี่มันเป็นเรื่องที่โหดร้าย แต่ว่าผู้คนทั้งหมดในคากานาว่าได้ถูกกระทำเหมือนกับหมากที่ใช้แล้วทิ้งและพวกเขาต้องป้องกันมอนสเตอร์ไม่ให้กระจายออกไปในพื้นที่เหล่านั้น
ก่อนอื่นเลยพวกเขาจะต้องหยุดการกระจายของพวกมัน จากนั้นก็จำกัดพวกมันในขณะที่ปิดรอบเอาไว้ ถึงแม้ว่านี่มันจะเป็นขั้นตอนโดยธรรมชาติในการป้องกันคลื่นดันเจี้ยนก็ตาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคานากาว่าล่ะ? มันจะเป็นอย่างงั้นได้ยังไงกันหากว่ามอนสเตอร์เหนือกว่ามนุษย์
"เวรเอ้ย กองกำลังหนุนจากอเมริกากับที่ฝรั่งเศษยังคงไปเน้นอยู่ที่โตเกียวกับชิบะงั้นหรอ?"
"พวกเราก็ด้วย มีคำสั่งให้เราไปร่วมแนวป้องกันโตเกียว ที่คานากาว่าได้ถูกทิ้งไปโดยสมบูรณ์แล้ว"
เนื่องจากว่าทุกๆคนบนโลกในตอนนี้ต่างก็เป็นผู้ใช้พลังจึงมีผู้คนเลเวลสูงจำนวนมากที่มีชาติกำเนิดในคากาน่าว่าและก็มีตระกูลสองตระกูลที่มีรากฐานอยู่ที่คากานาว่าอีกด้วยเช่นกัน ในแง่ของประชากรแล้วที่คากาน่าว่าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าโตเกียวหรือที่โอซาก้าเลย
ทั้งสองตระกูลที่ได้ตั้งขึ้นมาต่างก็มีความใฝ่ฝันที่จะกลายเป็นตระกูลระดับสากลในตอนที่ตั้งกันขึ้นมา แต่ว่าในตอนนี้พวกเขาได้อยู่ในจุดที่พวกเขาต้องปกป้องตระกูลของตัวเองด้วยชีวิต
"พวกเรามีแผนที่จะทิ้งเมืองได้เมื่อไหร่ก็ได้ที่เกิดเรื่องแบบนี้งั้นเรอะ? ห่าเอ้ย!"
"ด้านบน! เจ้าลิงสารเลวนั่น!"
"ถอยก่อน พวกแนวหน้าถอยไปที่แนวป้องกัน"
สงครามที่เมืองโอดาวาระของจังหวัดคากานาว่าได้เป็นไปด้วยความสิ้นหวัง
กลุ่มของมอนสเตอร์ลิงได้สร้างความวุ่นวายขึ้นด้วยการกระโดดไปทั่วๆทุกๆที่ที่ดูเหมือนจะใช้เป็นที่ซ่อนได้ และมันยังใช้ทุกๆอาคารไม่ว่าจะที่พังแล้วหรือเป็นที่เป็นป้องปราการก็ตาม พวกมันได้กระโดดไปทั่วในระหว่างไล่ล่าเหล่ามนุษย์
เลเวลของพวกมันอยู่ประมาณที่ 65 ถึง 80 ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นภูใช้พลังระดับสูงคนใดก็ตามมันก็เป็นเรื่องยากที่จะสู้กับพวกมันแบบ 1 ต่อ 1 เพราะแบบนี้เองทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
{กี้!}
"อ๊ากกกก! หะ หัวหน้า!"
"เวรเอ้ย ทามูระ!"
พรรคพวกที่เพิ่งจะบ่นกับสถานการณ์ข้างๆเขาเมื่อกี้นี้ได้ถูกลิงยักษ์คว้าลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
มันจบลงแน่นอนแล้วหากว่าถูกจับโดนสักครั้ง คนที่ถูกเรียกว่ากัปตันได้พยายามที่จะคว้าร่างชายคนนั้นเอาไว้ แต่ว่าในเวลาต่อมานั้นเองจู่ๆได้มีหอกลอยมาจากที่ไหนสักแห่งทำลายหัวกระโหลกของลิงปีศาจไป
"แอ๊ก!"
"อะ อะไรนะ!"
ชายคนนั้นได้เบิกตากว้างในขณะที่พรรคพวกของเขาได้เข้ามาช่วยจากด้านหลัง เขาไม่รู้สึกถึงสัญญาณใดๆเลยสักนิด ยังไงก็ตามในทันทีที่เห็นหอกและลิงปีศาจได้ล้มลงไป ทั้งสองอย่างนี้ก็หายไปทันที
[คุณได้รับค่าประสบกาณณ์ 486,989]
[คุณได้รับบันทึกลิงปีศาจเลเวล 66]
"ฉันยังไม่เจอใครที่ใกล้เลเวล 60 เลยนะ มันเป็นไปได้ยังไงกัน?"
ยูอิลฮษนได้บ่นขึ้นในทันทีหลังจากนั้น
[ฉันบอกแล้วไงว่าการที่คุณได้กลายมาเป็นคลาส 2 มันก็เป็นเรื่องที่พิเศษมากแล้ว] (เอิลต้า)
[นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำอะไรได้ บันทึกแห่งอคาชิคเข้มงวดเกินไป] (ลิต้า)
"ฉันขอเดิมพันร้อยวอนว่าในตอนท้ายบันทึกแห่งอคาชิคจะกลายมาเป็นบอสตัวสุดท้ายแน่"
[โชคดีนะที่คุณเดิมพันแค่ 100 วอน เพราะว่าบันทึกแห่งอคาชิคไม่มีพลังโจมตีกายภาพเลย] (เอิลต้า)
ถึงแม้ว่าเขาจะคุยกับทูตสวรรค์อยู่แต่ยูอิลฮานก็ไม่ได้หยุดการขว้างหอกของเขาแต่อย่างใด หากเขาโชคร้ายเขาก็จะฆ่ามันได้แค่ตัวเดียว ถ้าเป็นปกติเขาจะฆ่าได้สองตัว บ่อยครั้งเขาจะฆ่าได้สาม แล้วหากเขาโชคดีเขาจะฆ่าได้สี่ตัวในครั้งเดียว
{กี้!}
{กี้! กี้!}
พวกลิงปีศาจไม่ได้รู้เลยว่าใครเป็นคนโจมตีพวกมัน แต่ว่าพวกมันก็รู้ว่าถูกโ๗มตี พวกมันได้พยายามที่จะหาที่หลบกำบังหรือไม่ก็พยายามเร่งความเร็วเพื่อหลบหลีก แต่ว่าทั้งหมดนั้นต่างเปล่าประโยชน์
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ 690,983]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ 675,938]
ยูอิลฮานได้ขว้างหอกออกไปอย่างแม่นยำ รวดเร็ว และทรงพลัง หอกที่เขาขวางก็ยังทรงพลังขึ้นไปอีกจากการเสริมพลังขึ้น 40% จากแสงจันทร์ ต่อให้มีคอนกรีตมาขวางเขาก็ยังฆ่าเจ้าลิงพวกนี้ได้อย่างสบายๆ กำแพงของตึกก็ไม่มีความหมายใดๆเลย
"ใกล้จะถึงเลเวล 75 แล้ว แต่ว่าฉันจะต้องฆ่ามันอีกกี่ตัวกันนะฉันถึงจะเลเวลอัพนะ? ประมาณ 3,000 ได้ปะ?"
[ตามปกติแล้วผู้คนจะเลเวลเพิ่มขึ้นไปด้วยการฆ่าเจ้าพวกนี้ประมาณ 3,000 ตัว นี่มันก็ยังเป็นเหตุผลที่ทำให้การเลเวลขึ้นช้ามากด้วย.... ไม่สิ คนอื่นๆก็จะไม่ได้รับค่าประสบการณ์พิเศษจากผลของฉายาด้วย ดังนั้นพวกเขาจะต้องฆ่าเจ้าพวกนี้ประมาณ 4,000 ตัวได้] (เอิลต้า)
หลังจากผ่านไปประมาณสามชั่วโมงนับตั้งแต่ที่ยูอิลฮานได้เริ่มล่า เขาก็ได้ล้างอำเภอที่มีขนาดใกล้เคียงกับเมืองโอดาวาระไปแล้วถึงห้าแห่ง แต่ถึงแม้แบบนั้นเขาก็ไม่ได้เลเวลขึ้นเลย ถึงแม้ทุกๆตัวที่เขาฆ่าจะมีคลาส 2 ก็ตาม
ถ้าหากว่าจะมีการปลอบใจอะไรบ้างงั้นก็คงเป็นการที่เขาได้รับหินพลังเวทย์คลาส 2 ที่ไม่น้อยไปกว่าร้อนก้อนเลย เนื่องจากว่าเขาได้ใช้หินพลังเวทย์ไปกับการพัฒนาสกิลเป็นจำนวนมากทำให้เขารู้สึกดีในทุกๆครั้งที่มีร่างของมอนสเตอร์คลาส 2 เข้ามาในกระเป๋า
และผู้ที่รอดที่โอดาวาระก็กำลังมองหาบางอย่างอย่างไร้จุดหมาย
"เจ้าพวกลิงสารเลวนั่นทั้งหมด...."
"โอ้พระเจ้า ฉันเห็นพวกมันตายไปในทุกๆวินาทีใช่ไหมนะ? จนถึงตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่กัน!"
"มันน่ากลัว มันน่ากลัวมาก แต่...."
หอกที่ถูกขว้างยังคงลอยออกไปทั่ว แต่ว่าพวกเขาไม่รู้เลยว่ามันมาจากไหน ยังไงก็ตามเป้าหมายของหอกทั้งหมดก็คือมอนสเตอร์ที่ข่มเหงมนุษย์
มันเป็นฉากที่น่ากลัวจริงๆแต่ว่ามนุษย์ที่กำลังยืนอยู่ก็รู้สึกโล่งใจในเวลาเดียวกัน
"พระเจ้าจะต้องพิโรธออกมาแน่"
"ไม่ พระเจ้าจะต้องส่งลูกๆของท่านหลังจากที่โกรธพวกมอนสเตอร์บ้านี่"
"ซูซาโนะ ซูซาโนะลงมาแล้ว!"
ยูอิลฮษนที่ขว้างหอกออกไปไม่กี่อันในตอนนี้ได้ถูกคิดว่าเป็นเทพแห่งพายุที่ปรากฏตัวในตำนานของญี่ปุ่นไปแล้ว แน่นอนว่าเทคนิคนี้ของเขาก็สามารถจะคิดได้ว่าเป็นพายุได้เช่นกันในเมื่อมันทำลายมอนสเตอร์ทุกๆตัวที่อยู่ใกล้ๆ แต่พูดตรงๆแล้วฉายานี่มันน่าอายมาก
"เยี่ยม ฉันน่าจะแสดงตัวออกไปซักนิดไหมนะ?"
[ดูเหมือนคุณจะชอบฉายาอัศวิคทมิฬแห่งLA หรือบุรุษความเร็วแสงสินะ]
ยูอิลฮานที่รู้สึกเศร้าไปเล็กๆได้เริ่มเพิ่มจำนวนหอกที่เขาปาขึ้นไป ถ้าหากว่าเขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นซูซาโนะไปแล้วงั้นเขาก็จะใช้ชีวิตกับความคาดหวังของคนพวกนี้และเหนือกว่าพวกนั้น!
จนกระทั่งพระอาทิตย์ในวันรุ่งขึ้นขึ้นมายูอิลฮานก็ได้จัดการกวาดล้างมอนสเตอร์ทั้งหมดหรือพวกที่อยู่ใกล้ๆในเขตอำเภอประมาณ 30 แห่ง พูดให้ง่ายๆคือเขาได้จัดการกวาดล้างไปได้ครึ่งแถบจังหวดคานากาว่าแล้ว
ความสำเร็จนี้เป็นสิ่งที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง มันไม่มีทงที่จะมองข้ามได้เลย
ผู้ที่รอดชีวิตอยู่ต่างก็ชื่นชมยินดี แต่ว่าในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ตกใจและหวาดกลัวเมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นออกไป และตามบอร์ดต่างๆก็ได้มีการพูดถึงเรื่องราวของซูซาโนะเทพพายุได้มาจุติที่ญี่ปุ่น
ด้วยพลังที่มหาศาลโดยไม่มีใครรู้เลย
ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูไร้สาระมากแต่ว่าเนื่องจากมันได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาจึงไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เลย บางคนก็พูดว่าได้มีเทพจุติลงมาจริงๆ แต่ว่าคนส่วนใหญ่ต่างก็คิดว่ามันยังเป็นมอนสเตอร์ชนิดหนึ่งที่มาบุกคามมนุษยชาติ
และนั่นก็ไม่เว้นแม้กระทั่งคนอย่างหัวหน้าตระกูลเทพสายฟ้าคังมิเรย์และผู้ใช้พลังที่แข็งแกร่งคนต่างๆก็คิดแบบๆเดียวกันนี้
นั่นมันเป็นเรื่องไร้สาระมากที่สิ่งที่อันตรายได้ปรากฏออกมาแล้ว