ตอนที่ 125 ทักษะดาบสี่ฤดู
ภายในช่วงหลายวันนี้ หลิงฮันและสองสาวทะลวงขั้นพลังได้สำเร็จ
หลิวอู๋ตงสะสมปราณก่อเกิดมาเป็นเวลานานแล้ว แถมนางยังมีเส้นโลหิตสามหยินไร้ตัวตนที่สามารถบ่มเพาะทักษะสามหยินเร้นลับได้ ทำให้นางสามารถบ่มเพาะพลังด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ในมือของนางยังมีเม็ดยาแปรเปลี่ยนสี่ภพ การที่นางจะบ่มเพาะพลังได้เร็วขึ้นกว่าเดิมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
สิ่งสำคัญที่สุดคือเม็ดยาแปรเปลี่ยนสี่ภพ มันช่วยให้นางทะลวงผ่านขั้นสองของระดับก่อเกิดธาตุได้โดยไม่ติดคอขวด!
สำหรับคนส่วนใหญ่ กำแพงระหว่างขั้นพลังคือความยากลำบากที่สุดที่จะก้าวผ่านไปได้ ตราบใดที่มีความพยายามหรือการสนับสนุนจากเม็ดยามากพอ พวกเขาจะสามารถบ่มเพาะพลังจากขั้นหนึ่งชั้นต้นไปยังขั้นหนึ่งชั้นปลายได้อย่างราบรื่น
แต่การจะทะลวงผ่านขั้นไปได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต่อให้เป็นระดับก่อเกิดธาตุขั้นหนึ่งไปยังขั้นสอง การจะทะลวงผ่านก็ยังคงเป็นเรื่องยากอยู่ดี
ทำไมแคว้นพิรุณถึงมีจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณอยู่นิดเพียงแค่หยิบมือเดียว? เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะพวกมันไม่สามารถทำความเข้าใจในระดับพลังบ่มเพาะของพวกมันได้และติดคอขวดอยู่ที่ระดับห้วงจิตวิญญาณ! นอกจากระดับห้วงจิตวิญญาณยังมีผู้คนอีกมากมายที่ติดคอขวดอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุและรวมธาตุ
เม็ดยาแปรเปลี่ยนสี่ภพสามารถช่วยเพิ่มความเข้าใจในระดับพลังบ่มเพาะของตนเองให้กับจอมยุทธ ไม่ว่าใครที่รู้เรื่องนี้ก็ต้องตกตะลึงจนขนหัวลุก
หลิวอู๋ตงเป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่แรก และนางมีพลังระดับก่อเกิดธาตุขั้นแรกชั้นปลายอยู่แล้ว ด้วยการสนับสนุนของเม็ดยาแปรเปลี่ยนสี่ภพ ภายในเวลาไม่กี่วันนางก็สามารถทะลวงผ่านไปยังขั้นใหม่ได้อย่างราบรื่น
นางไม่ได้บ่มเพาะพลังต่อ แต่ใช้เวลาที่เหลือไปกับการทำให้รากฐานมั่นคง เพราะอย่างไรนางก็ทะลวงระดับขั้นมาด้วยความช่วยเหลือจากโอสถ ถ้านางยังโลภมากและฝืนบ่มเพาะพลังต่อไป มันจะทำให้รากฐานของนางไม่มั่นคง และในอนาคต นางจะไม่สามารถบรรลุระดับพลังที่สูงกว่านี้ได้
หลิงฮันสอนทักษะเพลงดาบสี่ฤดูที่เป็นทักษะยุทธระดับดำขั้นสูงให้กับนาง แม้แต่ตระกูลหลิวก็ยังไม่มีทักษะระดับนี้ บางทีอาจจะมีเพียงตระกูลจักรพรรดิเท่านั้นที่ครอบครองทักษะยุทธระดับสูงเช่นนี้
ดังนั้นหลิวอู๋ตงจึงใช้เวลาสองวันที่เหลือในการศึกษาเคล็ดลับของทักษะเพลงดาบสี่ฤดู หากมีส่วนไหนที่นางไม่เข้าใจ นางจะถามหลิงฮันทันที ผลลัพธ์จึงทำให้พลังต่อสู้ของนางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุต้องมาขอคำแนะนำจากจอมยุทธระดับรวมธาตุ สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นเรื่องประหลาด แต่สำหรับหลิวอู๋ตงกับหลีซื่อฉางแล้วไม่นับว่าเป็นเรื่องผิดปกติอันใด
...หลิงฮันเป็นสัตว์ประหลาด สมมุติว่าหากตอนนี้หลิงฮันสามารถใช้ทักษะยุทธระดับสวรรค์ได้ได้ อย่างมากพวกนางก็คงอุทานว่า‘โอ้’ขึ้นมาเท่านั้น
พลังบ่มเพาะของหลีซื่อฉางเองก็เพิ่มขึ้นจากรวมธาตุขั้นสามไปเป็นรวมธาตุขั้นสี่ นักปรุงยาส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นเหมือนกับขวดเม็ดยาเคลื่อนที่ พวกเขาจะพึ่งพาเม็ดยาเพื่อฝืนเพิ่มพลังบ่มเพาะของตน เพราะงั้นนางกายของนางจึงมีภูมิคุ้มกันต้านทานฤทธิ์ของเม็ดยา แต่โชคดีที่พลังบ่มเพาะของนางยังต่ำ ภูมิคุ้มกันจึงยังไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่
ในขณะเดียวกัน หลิงฮันได้ทะลวงผ่านไปยังระดับรวมธาตุขั้นหก แม้พลังบ่มเพาะของเขาจะต่ำ แต่พลังต่อสู้นั้นอยู่ในระดับที่สูงจนน่ากลัว
...เมล็ดก่อเกิดห้าธาตุ ปราณดาบหกเล่ม คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ กายาต้นไม้มรณะ หากใช้ทุกอย่างรวมกัน ระดับพลังต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นสิบห้าดาวเป็นอย่างน้อย แถมพลังป้องกันของเขายังมีมากกว่าพลังต่อสู้เสียอีก หากจะบอกว่าพลังป้องกันของเขาสูงถึงยี่สิบดาวก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
“ยังไม่พอ!” หลิงฮันส่ายหัว มีเพียงแต่ตอนที่เขาก้าวไปยังระดับก่อเกิดธาตุเท่านั้นถึงจะสามารถใช้ทักษะยุทธระดับดำขั้นสูงได้ พลังที่เพิ่มขึ้นจากทักษะยุทธระดับดำไม่ใช่พลังที่ทักษะยุทธระดับเหลืองจะสามารถนำไปเทียบได้ ตอนนี้เขามีทักษะเหล่านั้นอยู่เป็นภูเขาแต่กลับไม่สามารถใช้ได้ หลิงฮันทำได้เพียงถอนหายใจและรู้สึกผิดหวัง
หลิวอู๋ตงกรอกตาไปทางหลิงฮัน หมอนี่อยู่ในระดับหลอมกายาขั้นสองเมื่อครึ่งปีก่อน แต่ตอนนี้บรรลุระดับรวมธาตุขั้นหกแล้ว ถึงจะยังงั้นเขาก็ยังจะบ่นอีกว่ายังช้าไป ถ้าแบบนี้เรียกช้าแล้วจอมยุทธคนอื่นล่ะ?
พวกเขาทั้งสามออกจากเต็นท์ที่พักไปหาคนอื่น
“หืม... อู๋ตง เจ้าก็มาถึงแล้วรึ!” เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งเห็นหลิวอู๋ตง มันรีบเดินเข้ามาทางพวกเขาทันที ชายคนนั้นคืออู่โปว
“ระวังดาบของข้าไว้ให้ดี!” เมื่อหลิวอู๋ตงเห็นมัน นางไม่พูดทักทาย แต่กลับชักดาบและโจมตีออกไป
ก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะตามหานาง อู่โปวได้ไปยังตระกูลหลิงและสร้างความยุ่งเหยิงครั้งใหญ่ มันสังหารและทำร้ายคนไปมากมายซึ่งทำให้นางรู้สึกผิดอย่างมาก เมื่อนางเห็นหน้ามัน นางรู้สึกราวกับเห็นศัตรูคู่อาฆาต นางไม่สามารถอดกลั้นความโกรธเอาไว้ได้และโจมตีใส่มันในทันที
“อะไรกัน?!” เมื่อหลิวอู๋ตงโจมตีใส่มัน สีหน้าของอู่โปวได้เปลี่ยนไป
ระดับก่อเกิดธาตุขั้นสอง... นางบรรลุระดับก่อเกิดธาตุขั้นสองแล้ว!
ก่อนหน้านี้ที่มันเห็นหลิวอู๋ตงในเมืองหมอกเมฆา นางเพิ่งจะทะลวงผ่านขึ้นมาระดับก่อเกิดธาตุได้ และตอนนี้เวลาผ่านไปเพียงครึ่งเดือน นางกลับสามารถบรรลุขั้นสองได้แล้ว แค่คำว่าอัจฉริยะคงไม่เพียงพอที่จะใช้เรียกนางแน่นอน
นางเป็นเหมือนกับตัวมันที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาความสามารถ แต่ตอนนี้มันยังอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุขั้นหนึ่งชั้นปลาย มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีกหนึ่งเดือนถึงจะสามารถทะลวงขั้นได้ แต่แค่เพียงเท่านี้มันก็ได้รับการยกย่องจากตระกูลว่าเป็นอัจฉริยะไร้ที่เปรียบแล้ว!
แต่ถ้าเทียบกับหลิวอู๋ตง มันเป็นได้แค่ตัวโง่งมเท่านั้น!
ภายใต้การโจมตีของจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นสอง อู่โปวจะกล้ายืนนิ่งลังเลรึ? มันรีบชักดาบออกมา ถ้ามันชักช้าไปแม้แต่นิดเดียว มันจะต้องถูกจัดการแน่นอน
...ถ้ามันถูกจัดการโดยผู้หญิงที่มันกำลังไล่ตาม ในอนาคตมันจะยังมีหน้าไปพบกับหลิวอ๋ตงได้อีกรึ?
“ปัง ปัง ปัง ปัง” ดาบสองเล่มเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
โดยปกติแล้ว การต่อสู้ระหว่างจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นสองกับขั้นหนึ่งจะนับว่าเป็นการทุบตีอยู่ฝ่ายเดียว แต่หลิวอู๋ตงเพิ่งจะทะลวงขั้นมา แถมยังเป็นการช่วยเหลือของยาโอสถด้วย ดังนั้นตอนนี้รากฐานของนางจึงยังไม่แข็งแกร่งพอและส่งผลต่อพลังต่อสู้ของนาง และถึงแม้อู่โปวจะใช้เม็ดยาเพื่อทะลวงระดับมาเหมือนกัน แต่มันติดอยู่ในขั้นหนึ่งชั้นปลายมาสักพักแล้ว ดังนั้นรากฐานของมันจึงมั่นคง
เพราะอย่างนั้นแล้ว การต่อสู้ของทั้งสองจึงไม่มีฝ่ายใดแข็งแกร่งหรืออ่อนแอกว่ากันเท่าไหร่ และเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินผู้ชนะในเวลาอันสั้น
“หืม นั่นมันไข่มุกแฝดจากตระกูลหลิวไม่ใช่รึ ทำไมนางถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น?”
“นั่นสิ ข้าจำได้ว่าเมื่อประมาณครึ่งปีก่อนนางยังอยู่ในระดับรวมธาตุขั้นแปดเอง หากจะทะลวงผ่านระดับก่อเกิดธาตุ นางต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองปี! แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้นางกลับอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุขั้นสองแล้ว! นี่มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง!”
“บัดซบ ดอกไม้งามดอกนี้ยิ่งยากจะเด็ดดมขึ้นไปอีก!”
“อย่างไรก็ตาม นางจะกลายเป็นสตรีที่เป็นที่ต้องการมากขึ้นไปอีก ด้วยพรสวรรค์ระดับนั้น ฮ่าๆๆ ข้าจะต้องได้นางมาให้ได้!”
“ไร้สาระ เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรกับนางงั้นรึ?”
เหล่าคนที่มารวมตัวกันได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเมามัน พวกมันเป็นสมาชิกของตระกูลจักรพรรดิหรือไม่ก็แปดตระกูลใหญ่ ตระกูลของพวกมันล้วนแต่มีอำนาจไม่อ่อนด้อยไปกว่าตระกูลหลิว และในเมื่อพวกมันสามารถมาที่นี่ได้ นั่นหมายความว่าพลังและพรสวรรค์ของพวกมันอยู่ในระดับที่สูงมาก
หลิวอู๋ตงโจมตีอยู่เป็นเวลานานแต่ก็ไม่สามารถเป็นฝ่ายได้เปรียบเสียที ดังนั้นเพลิงแห่งความโกรธในใจของนางจึงยิ่งรุนแรงมากขึ้น จู่ๆนางก็สะบัดดาบ เจตจำนงแห่งดาบได้โคจรหมุนรอบดาบของนาง ทั่วทั้งร่างของกลายเป็นเคร่งขรึม
ทักษะยุทธระดับดำขั้นสูง เพลงดาบสี่ฤดู!
ทักษะดาบนี้ถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน แต่ละส่วนแสดงถึงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ในความเป็นจริง มันสามารถเรียกได้ว่าเป็นทักษะดาบสี่ทักษะย่อยที่รวมกันเป็นหนึ่งทักษะใหญ่ ความสามารถที่น่ากลัวที่สุดของทักษะนี้คือการปลดปล่อยทักษะดาบทั้งสี่ออกมาพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้เกิดพลังทำลายล้างที่มหาศาล
สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้ทักษะนี้คือการควบคุมดาบที่เชี่ยวชาญ ทักษะทั้งสี่จะต้องใช้ติดต่อกันโดยเรียงจาก ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว เมื่อใช้ทักษะทั้งสี่ติดต่อกันจะทำให้เกิดวัฏจักรแห่งฤดูทั้งสี่ที่จะแปรเปลี่ยนเป็นทักษะโจมตีที่น่าสะพรึงกลัว
หลิวอู๋ตงเรียนรู้สำเร็จเพียงไม่กี่กระบวนท่าของทักษะฤดูใบไม้ผลิ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถสร้างวัฏจักรแห่งฤดูขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ายังไงทักษะยุทธระดับดำขั้นสูงก็ยังคงเป็นทักษะยุทธระดับดำขั้นสูง เพียงแค่กระบวนท่าเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะโจมตีออกไปได้อย่างรุนแรง
“ฟุบ” ใบดาบส่องแสงสว่างเยือกเย็น และเมื่อใบดาบกวาดผ่านอากาศ บนอากาศได้ปรากฏหยาดน้ำฝนขึ้นมาตามการเคลื่อนไหวของดาบจนเกิดกลายเป็นภาพที่งดงาม
ความงดงามที่ปรากฏขึ้นมาทำให้คนที่มองดูรู้สึกอยากจะเขียนบทกลอนและร้องเพลง
สิ่งเดียวที่ทุกคนอยากจะพูดก็คือ ‘ช่างงดงามยิ่งนัก’
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*