GE40 ศพที่แปรเปลี่ยน พรหมจรรย์ที่ไม่อาจหวนคืน
หนิงฝานไม่เคยพบเห็นสิ่งที่แปลกเช่นนี้มาก่อนในชีวิต
ร่างเปลือยเปล่าของศพปรากฏต่อสายตา ผิวพรรณที่งดงามต้องสัมผัส
หลังจากที่นางตาย ดูเหมือนนางถูกผนึกไว้ในโลงศพโบราณ แม้ไม่ทราบว่านานเท่าไหร่ แต่หนิงฝานบอกได้จากอาภรณ์ของนางว่านางถูกผนึกมาไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปี
ผิวพรรณของนางนวลผ่อง เรือนร่างงดงามสมส่วน หากไม่ได้เพ่งพิศอย่างละเอียด หนิงฝานย่อมคิดว่านางกำลังหลับไหล
ขนตาโก่งโค้ง เส้นผมนุ่มลื่น ร่างกายผอมบาง ริมฝีปากแดงระเรื่อ... ก่อนตายนางอาจเป็นคนอ่อนแอด้วยโรคภัย
ภายในสมองของหนิงฝานปรากฏภาพของบุรุษผู้น่าสงสาร อ่อนแอ ถูกข่มเหง เหมือนต้นหญ้าที่ถูกสายลมพัดพาอย่างโดดเดี่ยว ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง
หนิงฝานส่ายหัวเพื่อขับไล่ความคิดเหล่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาล้วนเป็นเพราะสัมผัสต้องกายของนาง
บางที...หนิงฝานอาจรู้สึกเช่นเดียวกันกับสตรีผู้โดดเดี่ยวนางนี้
แต่ยามนี้การสะกดความเจ็บปวดจากโอสถจักรพรรดิหยกคือเรื่องสำคัญกว่า ดังนั้นหนิงฝานจึงเริ่มสัมผัสร่างของนางอีกครั้ง
ร่างของสตรีผู้งดงามและเปลือยเปล่าเริ่มเย็น ย้ำเตือนให้หนิงฝานรู้ว่านางคือศพ
ศพของนางเริ่มแข็งตัวไม่อาจขยับเคลื่อนไหวเพราะกล้ามเนื้อหดเกรง แต่ในวิชาการแปลงหยินหยางมีวิธีที่ช่วยแก้ไขเรื่องนั้น
หนิงฝานโคจรพลังภายในร่างไปตามวิชา จากนั้นโคจรไปปลายนิ้ว สัมผัสลงที่แก้ม แล้วถ่ายเข้าไปที่ใบหน้าของนาง
พลังงานเริ่มแผ่นไปทั่วใบหน้า ทำให้ใบหน้าที่แข็งเริ่มอ่อนนุ่มอย่างช้าๆ เมื่อใบหน้าอ่อนนุ่ม หนิงฝานก็เปิดริมฝีปากของนางออกแล้วใช้ปลายนิ้วสัมผัสหาบางสิ่งภายในนั้น
เมื่อปลายนิ้วสัมผัสลิ้นของนาง หนิงฝานสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้น แม้นางจะเป็นศพ แต่ดูราวกับยังหลงเหลือสัญชาตญาณ เพราะความเย็นสายหนึ่งได้แผ่ออกมาจากปาก ทำให้หนิงฝานสะดุ้ง
นางตาย...หรือยังมีชีวิต?
เมื่อนิ้วของหนิงฝานกำลังจะเคลื่อนออกมาจากปากของนาง กลับสัมผัสเข้ากับบางสิ่งที่แหลมคม กระทั่งมันแทงทะลุผิวหนัง
หนิงฝานที่เพิ่งกินโอสหหยกหลวงไป ทำให้ร่างกายของเขาต้านทานสมบัติวิญญาณระดับต่ำได้ แต่ยามนี้นิ้วของเขากลับถูกฟันเขี้ยวของนางแทงทะลุผิวหนัง พร้อมกับพิษที่เริ่มกระจายไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว
“พิษศพ!”
หนิงฝานใช้มือทั้งสองข้างง้างปากของนางออก ภายในปากของนางมีเขี้ยวที่แหลมคม ทำให้หนิงฝานนึกถึงบางสิ่งที่น่าหวาดกลัว
“ศพปีศาจ”
เมื่อครั้งอดีต มีเผ่าอสูร เผ่ามนุษย์ และเผ่าปีศาจ... ในหมู่เผ่าทั้งหมด เกี่ยวข้องกับ ‘ศพปีศาจ’
หลังจากเทพเซียนตาย ศพของคนเหล่านั้นจะแปรสภาพเป็นศพปีศาจ ไม่มีผู้ใดช่วงชิงพลังที่อยู่ภายในร่างได้ แต่หากช่วงชิงได้ อาจได้ความทรงจำของเจ้าของศพมาด้วย
ศพปีศาจที่เกิดจากการแปรสภาพนั้นมีอยู่น้อยมาก แม้เทพเซียนจะตกตายไปนับพัน แต่การที่ศพของคนเหล่านั้นจะแปรสภาพเป็นศพปีศาจกลับเกิดขึ้นได้ยาก แต่ดูเหมือนศพของนางสวรรค์นางนี้จะโชคดี ที่ศพของตนได้แปรสภาพเป็นศพปีศาจ
‘หากข้าสอดใส่ความเป็นบุรุษเข้าไปในร่างของนาง แล้วนางเกิดผุดลุกขึ้น กัดเข้าที่คอของข้า...’
ความคิดเช่นนั้นปรากฏขึ้นในหัวของหนิงฝาน แต่ก็เพียงครู่เดียว ยามนี้สิ่งสำคัญคือดูดกลืนพลังของนาง และสะกดความเจ็บปวดจากโอสถจักรพรรดิหยก
หนิงฝานเคลื่อนปลายนิ้วสัมผัสไปยังต้นคอที่ขาวนวลของนาง โคจรปราณถ่ายเข้าไปภายใน แผ่ไปยังกระดูกต้นคอ กระดูกไหปลาร้า หัวไหล่ และเริ่มฟื้นฟูฃเส้นชีพจรของนางเพื่อทำให้ร่างกายของนางอ่อนนุ่มขึ้น
หลังจากบริเวณลำคอสำเร็จ หนิงฝานก็เคลื่อนมือลงมาที่หน้าอกของนาง จากนั้นเค้นคลึงและถ่ายพลังเพื่อให้มันอ่อนนุ่มเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
มือของหนิงฝานยังคงเคลื่อนต่ำ สัมผัสและหยุดลงที่หน้าท้องของนาง จากนั้นนวดเค้นเพื่อทำให้หน้าท้องของนางค่อยๆอ่อนนุ่ม
หลังจากนั้นฝ่ามือยังคงเคลื่อนลงต่ำกว่าหน้าท้อง เคลื่อนลงมายังจุดสงวนของนาง… ประตูศักดิ์สิทธิ์ของนางนั้นดูราวกับไม่เคยมีผู้ใดเปิดมันมานานกว่า 100 ล้านปีแล้ว
เมื่อเคลื่อนต่ำลงมากว่านั้น เรียวขาที่ขาวนวลราวกับหิมะของนางไม่สามารถเปิดอ้าออก หนิงฝานจึงเปลี่ยนตำแหน่ง นั่งคุกเข่าลงที่ปลายเท้าของนางและเริ่มนวดที่ฝ่าเท้าของนาง
ยามนี้ลมหายใจของหนิงฝานเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ 6 เดือนที่แล้วหนิงฝานยังเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่หลังจากนั้น ชีวิตของเขากลับต้องเผชิญกับหายนะมากมาย จนทำให้ต้องก้าวเดินมายังเส้นทางแห่งปีศาจ และกลายเป็นปีศาจผู้ที่ศพของนางสวรรค์ยังไม่เว้น
แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด สตรีนางนี้ตกตายมานาน นางได้สูญเสียความเป็นมนุษย์ไปแล้ว
หนิงฝานไม่มีทางเลือก ยามนี้มี 2 คำที่ปรากฏอยู่ในหัวของเขา นั่นคือ ‘ชีวิต’ และ ‘ความตาย’ ไร้ซึ่งความคิดเรื่องศีลธรรมอย่างสิ้นเชิง
ในโลกของผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้ใดแข็งแกร่งผู้นั้นก็ถูกต้อง ดังนั้นชีวิตจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ
แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานยังหลงเหลือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง จื่อเฮ่อ...อาจารย์...หนิงกู่ ทั้งสามคือแสงตะวันที่อบอุ่นที่ทำให้หนิงฝานไม่ก้าวล้ำเข้าไปในเส้นทางของปีศาจโดยสมบูรณ์
เท้าของศพนางสวรรค์นางนี้ดูราวกับไม่เคยมีผู้ใดได้สัมผัส หลังจากหนิงฝานนวดคลึงชั่วครู่ เท้าของนางก็เริ่มอ่อนนุ่ม หนิงฝานเคลื่อนฝ่ามือไปยังน่องขาทั้งสองข้าง จากนั้นเคลื่อนไปยังต้นขา เมื่อทั่วร่างของนางอ่อนนุ่มเป็นปกติแล้ว หนิงฝานก็แยกขาทั้งสองข้างของนางออก เผยให้เห็นประตูศักดิ์สิทธิ์ทั้งบานที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว
ประตูศักดิ์สิทธิ์นั่นกระจ่างใส ได้รูป และเย้ายวนงดงาม
แต่ไม่นานนัก ศพกลับเกิดการตอบสนองบางอย่าง จนทำให้หนิงฝานเริ่มหวาดกลัว
เป็นศพปีศาจจริงๆ...นางตายมานานแต่ยังตอบสนอง แต่หากนางไม่ใช่ศพปีศาจ...เช่นนั้นนางเป็นอะไร
ในเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว หนิงฝานไม่ทางหันหลังกลับได้อีก ที่สำคัญ เมื่อก้าวเดินสู่เส้นทางของปีศาจแล้ว หนิงฝานไม่คิดจะหันหลังกลับเด็ดขาด
ดังนั้นหนิงฝานจึงก้มศีรษะลงแล้วเริ่มใช้ลิ้นของตนเลียสัมผัสประตูศักดิ์สิทธิ์ของนาง
หากไม่ทำเช่นนี้ หนิงฝานก็ไม่อาจสะกดความเจ็บปวดจากโอสถจักรพรรดิหยก
“พี่ฝาน... ข้า... ข้าอึดอัด...” เมื่อเห็นหนิงฝานใช้วิธีการนั้นกับศพของนางสวรรค์อย่างเชี่ยวชาญ ร่างกายของจื่อเฮ่อกลับเกิดการตอบสนองแปลกๆ
นางและหนิงฝานเคยเผชิญปัญหาเดียวกัน ทั้งสองต่างพัดพรากจากครอบครัว ตกลงสู่เงื้อมมือของนิกายฝ่ายอธรรม หากกล่าวถึงการยั่วยวนและร่วมรัก แม้นางยังไม่เติบโตพอที่จะสมควรรู้เรื่องนั้น แต่นางก็เคยเห็นมามากมาย
ก่อนหน้านี้ นางและหนิงฝานยังไม่เปิดใจต่อกัน ทั้งสองยังคงปิดกั้นแม้จะมีความรู้สึกต่อกันมากมาย แต่สุดท้ายนางก็เลือกที่จะพังกำแพงที่สร้างขึ้น เปิดใจรัก และปกป้องซึ่งกันและกัน
ก่อนหน้านี้ นางและหนิงฝานเกลียดการร่วมรัก แต่เมื่อครั้งที่ความพิเศษของร่างกายนางสำแดงผล ทั้งสองจึงปล่อยให้เป็นไปตามความต้องการ
ยามนี้จื่อเฮ่อรู้สึกอัดอัดมาก นางคาดไม่ถึงว่าการร่วมรักของบุรุษสตรีจะมีวิธีการที่ใช้ลิ้นเลียสัมผัสไปยังจุดสงวนด้วย
เมื่อนางเริ่มทนกับความรู้สึกไม่ได้ นางก็เริ่มคุกเข่าลง ความร้อนภายในร่างกายเพิ่มมากขึ้น และจุดสงวนของนางเริ่มเปียกชุ่ม
“พี่ฝาน...ข้าต้องการ...”
นางสวมกอดหนิงฝานจากด้านหลัง จากนั้นเอื้อมสัมผัสกับความเป็นบุรุษของหนิงฝาน นางแอบตกใจ เพราะมันแข็งตัวมาก
หนิงฝานสัมผัสได้ว่าความเป็นบุรุษของตนเริ่มแข็งมากขึ้นจากการนวดสัมผัสของจื่อเฮ่อ แต่ในขณะนั้น หนิงฝานก็สังเกตุเห็นว่าร่างของศพนางสวรรค์เริ่มมีเลือดฝาด การตอบสนองที่เกิดขึ้นทำให้หนิงฝานเริ่มกังวลอีกครั้ง
‘ศพปีศาจ... นี่คือศพปีศาจ... แต่ก็ช่างมัน!’
แล้วหนิงฝานก็ตัดสินใจเคลื่อนความเป็นบุรุษของตนผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้เปิดมากว่า 100 ล้านปี จากนั้นเริ่มขยับเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วง
โลหิตหยดลงจากประตูศักดิ์สิทธิ์ คิ้วของศพขมวดแน่น หยาดน้ำตาไหลริน ‘เจ็บ... เจ็บ... รุนแรง...’
พรหมจรรย์ที่นางสวรรค์ผู้นี้รักษามานานได้ถูกช่วงชิง
“เจ็บ...ข้า...เกลียดเจ้า” แม้ศพนางสวรรค์อยากจะกล่าว แต่นางทำไม่ได้... แต่หากนางคืนชีพได้ นางต้องสังหารหนิงฝานแน่
หนิงฝานร่วมรักกับศพนางสวรรค์ เมื่อตนเองบรรลุถึงจุดสุดยอด ความเจ็บปวดจากโอสถจักรพรรดิหยกทั้งหมดก็ถูกสะกดไป ยามนั้นเอง หนิงฝานใช้มือข้างหนึ่งเค้นคลึงหน้าอกของจื่อเฮ่อ อีกข้างเคลื่อนสัมผัสที่ประตูศักดิ์สิทธิ์ของนาง
“อึ้ม~~~~” เสียงครางกระเส่าของจื่อเฮ่อดังสะท้อนภายในห้อง แม้หนิงฝานจะไม่ได้ร่วมรักกับนาง แต่ยามนี้นางพอใจแล้ว เพียงแค่นิ้วของหนิงฝานก็ทำให้จื่อเฮ่อคลายอารมณ์ได้...
บนท้องนภาเหนือเมืองหนิงเกิดการต่อสู้ที่รุนแรง แต่ข้างล่างกลับอบอวนไปด้วยราคะ
ยามนี้หนิงฝานยังไม่หยุดกระทำกับศพนางสวรรค์ และนั่นจะเป็นการปลุกนางขึ้นมาหรือไม่?...