ตอนที่ 430 ปลดผนึกเซียนดาบไร้ปราณี
หลิน ฮวงค่อยๆออกจากการต่อสู้และลดดาบเขาลง สีแดงในดวงตาเขาและปีกโลหิตทั้ง4บนหลังเขาหายไป
เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงหยุดนั่นเพราะการปลดผนึกแลนเซล็อตจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ มันมีมอนสเตอร์ระดับนิรันดร์อยู่ในเขตอันตรายระดับกลาง และพวกมันจะต้องสร้างปัญหาให้พวกเขาอย่างแน่นอน
เมื่อไป่ปลดผนึกในนรกภูเขาไฟ มันได้ดึงดูดมอนสเตอร์ที่ทรงพลังมากมาย และแม้กระทั่งเกิดฝูงมอนสเตอร์ หลิน ฮวงไม่อยากให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง
เขาได้วางแผนไว้ตั้งแต่เลือกจอมดาบเป็นมอนสเตอร์ตัวสุดท้ายแล้ว มันเป็นเพราะมิติแยกของอสูรแสงดาวอยู่ในทะเลทรายอุกกาบาต ตราบเท่าที่จอมดาบถูกจับไปแบบเป็นๆและพาไปในมิตินั้นก่อนฆ่า ปรากฏการณ์ระหว่างการปลดผนึกก็จะเกิดขึ้นในนั้น มอนสเตอร์ที่ทรงพลังตัวอื่นๆจะไม่ค้นพบมัน
แผนแรกเริ่มของหลิน ฮวงคือการล้มจอมดาบและจากนั้นก็จะอัญเชิญวิญญาณกระดูกเพื่อปลดผนึกมันก่อนพาไป อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่าการปลดผนึกจะไม่จำเป็นแล้วเพราะจอมดาบได้ใช้พลังชีวิตมันจนหมด
“แลนเซล็อต อย่าเพิ่งฆ่ามัน กระบวนการปลดผนึกอาจเกิดขึ้น เข้าไปในมิติแยกกันก่อน”หลิน ฮวงตบไหล่แลนเซล็อต
แม้มันจะไม่อยากรอ มันก็ยังคงอดทน
จากนั้นหลิน ฮวงก็หันหลังกลับและมองไคลี่“ไคลี่ พามันไปมิติแยกของอสูรแสงดาวและคอยดูมัน ฉันจะตามไปกับสายฟ้าทีหลัง”
จากนั้นไคลี่ก็คว้าแขนจอมดาบและบินไปในท้องฟ้า มุ่งหน้าไปยังมิติแยกของอสูรแสงดาว เธอคุ้นเคยกับทะเลทรายดี
จากนั้นหลิน ฮวงก็อัญเชิญสายฟ้า หลังจากที่คิดอยู่อีกครั้ง เขาก็ตัดสินใจไม่เรียกแลนเซล็อตกลับ จากนั้นทั้งสามก็มุ่งหน้าไปมิติแยก
สถานที่ที่จอมดาบซ่อนตัวอยู่ห่างจากโอเอซิสที่มีมิติแยกอยู่ไม่ถึง600กิโลเมตร
สายฟ้าใช้เวลาไม่ถึง20นาทีเพื่อพาทั้งสามมาถึงด้านบนมิติแยก
“ลงไป!”หลิน ฮวงสั่งและในเวลาเดียวกัน เขาก็เปิดใช้งานโล่ทมิฬ และโอบอุ้มร่างหลิน ซินไว้
อึดใจต่อมา สายฟ้าก็ดิ่งลงไปในทะเลสาป
หลังจากนั้นสักพัก จากนั้นพวกเขาก็ผ่านประตูมิติและมาถึงสถานที่ที่อสูรแสงดาวอยู่
ไคลี่กำลังรอหลิน ฮวงและคนอื่นอยู่ทางเข้า จอมดาบดูน่าสมเพชกว่าเดิม บางทีมันคงพยายามหนี ดังนั้นไคลี่จึงทุบตีมัน แต่เดิม ความสามารถมนัเทียบได้กับไคลี่ อย่างไรก็ตาม มันไม่มีพลังชีวิตแล้ว และไม่อาจใช้ทักษะใดได้ มันทำได้เพียงนอนรอการทุบตี
“เข้าไปลึกหน่อย เราอยู่ใกล้ทางเข้าเกินไป”หลิน ฮวงยังกังวลอยู่เพราะเขากลัวว่ากลิ่นอายอาจหลุดไปด้านนอก
จากนั้นไคลี่ก็คว้าจอมดาบและบินลึกเข้าไป สายฟ้ากระพือปีกมันและตามหลังไป
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็ไปไกลเกินทางเข้ากว่า1000กิโลเมตร จากนั้นสายฟ้าก็ค่อยๆร่อนลง
ไคลี่ยังคงยืนนิ่ง จากนั้นก็หันหัวกลับและมองหลิน ฮวงราวกับเธอกำลังจะพูดว่า“พอได้แล้วมั้ง”
จากนั้นหลิน ฮวงก็พยักหน้า“เรามาไกลพอแล้ว”
จากนั้นเขาก็กระโดดออกจากหลังสายฟ้าและเดินไปทางแลนเซล็อตและจอมดาบ ดาบดำในมือแลนเซล็อตทิ่มใส่หน้าอกด้านขวามันทันทีและเจาะใส่หัวใจมันอย่างไร้ความปราณี
มันไม่อาจป้องกันการโจมตีของแลนเซล็อตได้โดยไม่มีพลังชีวิตแม้มันจะทรงพลังก็ตาม พลังโจมตีของแลนเซล็อตนั้นเทียบได้กับเพลิงขาว
ดาบดำดูเหมือนจะทะลวงผ่านร่างมันโดยไม่มีอุปสรรคใด
หลิน ฮวงหันกลับไปและมองหลิน ซิน เขากลัวว่าเธอจะไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม หลิน ซินกลับดูสงบ และจ้องมองภาพตรงหน้าเขม็ง
เขาตกใจ แต่ทว่า ในไม่ช้า หลิน ฮวงก็รู้สึกโล่งใจ บางทีหลิน ซินคงเคยเห็นเลือดมานับไม่ถ้วนในเกมส์จ้าวแห่งปืน
“พี่คะ ทำไมแลนเซล็อตถึงต้องแทงหน้าอกด้านขวาด้วยละ?ไม่ใช่ว่าหัวใจมันอยู่ทางซ้ายหรอค่ะ?”หลิน ซินสังเกตว่าหลิน ฮวงกำลังมองเธอและถามเบาๆ
“หัวใจของจอมดาบอยู่ทางขวา”หลิน ฮวงอธิบายด้วยรอยยิ้ม“ตำแหน่งหัวใจของมอนสเตอร์จะแตกต่างออกไปตามประเภท”
ขณะนั้นเอง การแจ้งเตือนจากเสี่ยว เฮยก็ดังขึ้น
“ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้รับการ์ดมอนสเตอร์ระดับสุดยอด-จอมดาบ(ทาสดาบ)”
ลำแสงสีขาวคล้ายกับสปอตไลท์ส่องลงบนแลนเซล็อต
ร่างของแลนเซล็อตค่อยๆลอยขึ้นไปในท้องฟ้าราวกับมันถูกแสงสีขาวฉุดดึงขึ้นไปและไม่ถูกจำกัดด้วยแรงโน้มถ่วงอีก
หลิน ฮวงและคนอื่นต่างถอยออกไปเพราะพวกเขากลัวว่าพวกเขาจะส่งผลกระทบต่อการปลดผนึกของแลนเซล็อต
สิ่งเดียวที่แตกต่างจากการปลดผนึกไป่คือมันดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงบนร่างแลนเซล็อต แต่กลิ่นอายมันกลับแข็งแกร่งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ภายในไม่กี่นาที มันก็เลื่อนจากระดับทองสมบูรณ์เป็นระดับเพลิงขาว
ไม่นานหลังจากนั้น แสงสีขาวก็หายไป และร่างของแลนเซล็อตก็ค่อยๆลอยลงมาจากอากาศ พร้อมกับการแจ้งเตือน
“ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้ปลดผนึกการ์ดเซียนดาบไร้ปราณีระดับสุดยอดของท่าน และเลื่อนเป็นระดับเพลิงขาว”
“เงื่อนไขซ่อนของการปลดผนึกยังไม่สมบูรณ์ เซียนดาบไร้ปราณีไม่อาจเลื่อนเป็นการ์ดระดับตำนานได้”
“ขอแสดงความยินดีด้วย เซียนดาบไร้ปราณีได้รับทักษะใหม่ นายแห่งดาบ”
หลิน ฮวงรีบตรวจสอบสภาพใหม่ของแลนเซล็อตทันที
“การ์ดมอนสเตอร์”
“ความหายาก : สุดยอด”
“ชื่อมอนสเตอร์ : เซียนดาบไร้ปราณี”
“ระดับพลัง : เพลิงขาว”
“ทักษะ 1 : ชีวิตสัมบูรณ์”
“ทักษะ 2 : ย่างก้าวดาบ”
“ทักษะ 3 : ดาบไร้ปราณี”
“ทักษะ 4 : จิตวิญญาณดาบดำ”
“ทักษะ 5 : โล่ทมิฬ”
“ทักษะ 6 : อาณาเขตแห่งความตาย(เริ่มต้น)”
“ทักษะ 7 : นายแห่งดาบ”
“สิทธิ์การอัญเชิญ : เปิดใช้งาน”
“หมายเหตุการ์ด : ใช้ได้”
…
“นายแห่งดาบ : สามารถควบคุมทาสดาบทั้ง9ได้รวมถึงใช้งานทักษะใดก็ตามของทาสดาบ”
“หมายเหตุ 1 : ทักษะของทาสดาบที่ถูกใช้โดยนายแห่งดาบจะแตกต่างกันไปตามพลังของนายแห่งดาบ มันไม่เกี่ยวข้องกับพลังของทาสดาบ”
“หมายเหตุ 2 : หากทาสดาบตาย มันจะไม่ฟื้นคืน มันจะมีตำแหน่งทาสดาบว่าง และสามารถแทนที่ได้ด้วยทาสดาบตนใหม่”
“หมายเหตุ 3 : จำนวนสูงสุดของทาสดาบคือ9”
“หมายเหตุ 4 : หากนายแห่งดาบตาย ทาสดาบทั้งหมดจะตายเช่นกัน”
เมื่อเห็นทักษะใหม่ หลิน ฮวงก็ตระหนักว่าสถานะของทาสดาบบางตัวได้เปลี่ยนไป กลายเป็นสามารถอัญเชิญพวกมันได้
แม้เขาจะมีความสุข เขาก็รู้สึกแย่เมื่อเห็นหนึ่งในการแจ้งเตือน
“เสี่ยว เฮย เงื่อนไขซ่อนหมายถึงอะไร?”
“มันก็หมายถึงเงื่อนไขลับ”
“ฉันจำเป็นต้องขอให้แกอธิบายเพิ่มรึไง?ฉันกำลังถามว่าไอเงื่อนไขลับนั่นคืออะไร”หลิน ฮวงถามต่อ
“เนื่องจากมันเป็นเงื่อนไขลับ ท่านก็ต้องค้นหามันด้วยตัวเอง ข้าไม่อาจบอกคำตอบได้”
“หากแกไม่บอกฉัน งั้นก็บอกใบ้หน่อย”หลิน ฮวงอยากรู้เพราะเขาต้องการรู้ว่าอะไรคือเงื่อนไขลับ
“ข้าไม่อาจ”
“ตอนนี้มันอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ ทำไมแกไม่สามารถบอกฉันได้?เงื่อนไขลับยังมีอยู่?หากฉันบรรลุมันทีหลัง การ์ดก็จะเลื่อนระดับ?”หลิน ฮวงคาดเดา
เสี่ยว เฮยยังคงเงียบ
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเสี่ยว เฮย หลิน ฮวงก็รู้มัน
“เอาละ ในที่สุดฉันก็ผ่านมันไปหลังจากที่เหนื่อยมาหลายวัน พวกแกทั้งคู่ควรจะไปพักได้แล้ว”หลิน ฮวงเหลือบมองไคลี่และแลนเซล็อต เรียกพวกมันกลับเป็นการ์ด จากนั้นก็อัญเชิญชาโคล...