บทที่ 6 การตื่นขึ้นของมังกรฟ้า
พลังปราณบนภูเขามีความหนาแน่นมากกว่าด้านล่าง ในชั่วพริบตาเซียวเฉินรู้สึกได้ว่าพลังปราณในเส้นลมปราณของเขาที่ขยายกว้างขึ้นจากทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว
พลังปราณของเขาไหลเวียนเข้าสู่เส้นลมปราณพิเศษ 8 เส้น เซียวเฉินไม่กล้าที่จะบีบบังคับให้พลังปราณไหลเข้าไปในตันเถียนเหมือนกับเมื่อวันก่อนและใช้พลังปราณเพื่อหล่อเลี้ยงกระดูก ผิวหนังและกล้ามเนื้อของเขาแทน
เขาหายใจเข้าออกสลับไปมาและลมการใจของเขาเริ่มเสถียรขึ้น จากนั้นเซียวเฉินทำจิตใจให้ว่างเปล่าราวกับว่าเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งกับภูเขา
เขาอยู่ในสภาวะนี้ประมาณ 4 ชั่วโมง พลังปราณที่อยู่ภายในรัศมีไม่กี่ร้อยเมตรของเซียวเฉินเริ่มปั่นป่วนและพลังปราณอันไร้ที่สิ้นสุดเริ่มถูกดูดเข้าไปในร่างกายของเซียวเฉินด้วยพลังอำนาจอันลึกลับ
เซียวเฉินที่กำลังเข้าฌานอยู่ยังรู้สึกตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พลังปราณนี่เปรียบเสมือนกับแม่น้ำสายใหญ่ที่กำลังโถมเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน พลังปราณในเส้นลมปราณของเขาเริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆเป็นเหตุทำให้เซียวเฉินเปี่ยมไปด้วยพลังปราณจนทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด
ถ้าเหตุการณ์นี่ดำเนินต่อไปอีกหนึ่งชั่วโมง เขาจะไม่สงสัยเลยถ้าตัวเขาระเบิดและตายไป เขาไม่สามารถควบคุมการไหลเวียนของทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ได้ ซึ่งมันกำลังไหลเวียนด้วยตัวมันเองเร็วกว่าปกติอย่างน้อย 2 เท่า
เกิดอะไรขึ้น? ความหวาดกลัวปะทุขึ้นมาอยู่ในส่วนลึกของจิตใจของเซียวเฉิน ข้ากำลังจะตายแบบนี้งั้นหรือ?
พลังปราณพุ่งเข้าสู่ร่ายกายของเขาอย่างต่อเนื่อง เขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะเปลี่ยนเส้นทางการไหลเวียนของพลังปราณในเส้นลมปราณของเขาไปยังกระดูก ผิวหนังและกล้ามเนื้อของเขา แต่เขาไม่อาจทำได้เมื่อเทียบกับพลังปราณอันมหาศาลที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขา
เส้นโลหิตของเขาเริ่มแสดงรอยปริแตกเล็กน้อย ความเจ็บปวดที่แสนสาหัสส่งเข้าไปยังสมองของเขา มันเกือบจะทำให้เซียวเฉินสลบเพราะความเจ็บปวด
เขาส่งกระแสจิตลงไปและสังเกตเห็นว่าตันเถียนของเขายังคงเป็นมวลที่ไม่มีรูปร่าง เขากัดฟันแน่นและตัดสินใจที่จะเดิมพัน ถ้าพลังปราณของเขาไม่สามารถหาทางออกได้ เช่นนั้นร่างของเขาก็จะระเบิดจนตัวตาย มีเพียงแค่เขาประสบความสำเร็จในการหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณต่อสู้ของเขาเท่านั้นถึงสามารถทำให้เขาเปลี่ยนพลังปราณเป็นแก่นแท้ได้
หลังจากที่ตัดสินใจเช่นนั้น จิตสำนึกของเขาเข้าควบคุมพลังปราณทันทีและบังคับมันให้พุ่งเข้าไปในตันเถียน
พลังปราณนี่ทรงพลังกว่าพลังปราณที่เขาบีบบังคับให้เข้าไปในตันเถียนก่อนหน้านี้ แต่มันก็เป็นเหมือนเดิม เมื่อมันเข้าใกล้กับตันเถียนมันก็หยุดตัวลง
แต่ทว่าคราวนี้มันกลับไม่ถูกตีกลับ เส้นลมปราณพิเศษ 3 เส้นบนหน้าอกของเขากับคลื่นพลังปราณอีกสายหนึ่งผสานเข้าด้วยกันทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น แล้วกระแทกเข้ากับกำแพงที่อยู่รอบตันเถียน
เซียวเฉินกระอักเลือดออกมา แต่พลังปรารณก็ยังคงไม่เข้าไปในตันเถียนของเขา
เขาไม่เชื่อว่าเขาไม่อาจทำลายกำแพงนี้ได้ แต่เขาพยายามอีกสองสามครั้งแต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม มันทำให้เซียวเฉินเริ่มฉุนเฉียวมากยิ่งขึ้นและควบคุมพลังปราณพุ่งเข้าหากำแพงที่อยู่รอบตันเถียนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่พยายามไป 5 ครั้ง เซียวเฉินก็ได้กระอักเลือดออกมาอีก 5 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ากำแพงที่อยู่รอบตันเถียนมันเบาบางลง
เขารู้สึกมีความสุขอยู่ในใจ แต่แทนที่จะรวบรวมพลังปราณเพื่อทะลวงผ่านกำแพงตันเถียนอีกครั้งหนึ่ง เขากลับสูดลมหายใจเข้าลึกๆและปล่อยให้พลังปราณหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขาได้อย่างอิสระ หลังจากนั้นไม่นานพลังปราณที่ถูกรวบรวมก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ พลังปราณทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของเซียวเฉินและเขาบังคับให้มันพุ่งปะทะกับตันเทียนราวกับมังกรที่ต้องการแหวกว่ายเข้าไป
“ตู้ม!”
มีเสียงดังออกมาจากร่างกายของเซียวเฉิน อุปสรรคในตันเถียนที่หยุดยั้งความก้าวหน้าของเซียวเฉินเป็นเวลา 8 ปีถูกทำลายแล้ว เขาเมินเฉยต่อความเจ็บปวดและส่งสติลงไปเพื่อดูว่าอะไรเป็นต้นเหตุของปัญหาภายในตันเถียนของเขา
ดวงตาคู่หนึ่งปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันและจ้องมองเขา มันเป็นดวงตาที่สว่างไสวเหมือนคบเพลิงเผยให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่าง
เซียวเฉินรู้สึกเหมือนกับว่ามีภูเขาขนาดใหญ่กำลังกดทับตัวเขาอยู่ ในสถานที่แห่งนี้ เขาเป็นเหมือนมดตัวเล็กๆเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะรู้สึกหวาดกลัว ความเจ็บปวดทำให้เขาสลบไปเสียก่อน
เมื่อเซียวเฉินสลบไปแล้ว ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงไม่หยุดโคจร ซึ่งหมายความว่าพลังปราณที่อยู่รอบกายเซียวเฉินยังคงถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
แต่มันไม่เหมือนกับแต่ก่อน พลังปราณที่เขาดูดซับมามันไม่ได้แทรกซึมเข้าไปในกล้ามเนื้อและกระดูกของเขา แต่มันกลับถูกรวบรวมไว้ที่ตันเถียนของเขา ตันเถียนซึ่งเดิมทีไม่มีมวลไม่มีรูปร่างแต่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป มันมีมังกรฟ้าตัวน้อยล่องลอยอยู่ด้านใน
ดวงตาของมังกรฟ้าปิดลงและแยกกรงเล็บออกมาเล็กน้อย มันดูดพลังปราณที่เข้ามาในตันเถียนอย่างตะกละตะกลาม
และดูเหมือนมันจะมีความสุขมากขณะที่มันแหวกว่ายอยู่ในตันเถียนเป็นวงกลมและดูดกลืนพลังปราณอย่างไม่หยุดหย่อน ผิวหนังอันอ่อนนุ่มของมังกรฟ้าเริ่มแข็งกระด้างขึ้นมีเพียงแค่รูปร่างของมันเท่านั้นที่ไม่เปลี่ยน
พลังปราณโดยรอบเริ่มเบาบางลง แม้แต่สถานที่ที่มีพลังปราณหนาแน่นยังไม่เพียงพอต่อการบริโภคพลังปราณของมังกรฟ้า อย่างช้าๆ พลังปราณโดยรอบถูกดูดจนเหือดแห้งอย่างสิ้นเชิง
มังกรฟ้าดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจนักและต้องการพลังปราณมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม มันไม่มีพลังปราณหลงเหลือในร่างกายของเซียวเฉินแล้ว เมื่อมันเห็นกล้ามเนื้อของเซียวเฉินแข็งแกร่งขึ้น มังกรฟ้าจึงเริ่มดึงพลังปราณที่อยู่ในกล้ามเนื้อของเขาออกมา ทำให้ร่างกายของเซียวเฉินผอมแห้งลง
มังกรฟ้ายังคงดูดซับพลังปราณอย่างต่อเนื่องเป็นชั่วโมงก่อนที่จะหยุด ผิวของมันเริ่มแข็งกระด้างและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น มันลืมตาของมันขึ้นพร้อมกับกางกรงเล็บทั้งห้า แล้วแหวกว่ายอยู่ในตันเถียนอย่างสนุกสนาน และเงยหน้าของมันขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยเสียงคำรามอันดุร้ายออกมา ราวกับว่ามันถูกขังอยู่ในนี้มานานหลายปีและในที่สุดมันก็ได้เห็นท้องฟ้าอีกครั้ง!
เสียงคำรามอันดุร้ายนั่นดังออกมาจากร่างกายของเซียวเฉินและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สัตว์อสูรที่อยู่บริเวณรอบนอกของภูเขาชีเจี่ยวทุกตัวต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว
ในเวลาเดียวกัน ประมุขนิกายพระราชวังวิหคเพลิง เมืองจักรพรรดิขาว และประตูจอมยุทธศักดิ์สิทธิ์แห่งทวีปเทียนหวู่ พวกเขาทั้งหมดหยุดมือในสิ่งที่พวกเขากำลังกระทำอยู่และมองไปในทิศทางเดียวกันพร้อมกับพูดพึมพำคำเดียวกันออกมาว่า 'มังกรฟ้าได้ตื่นขึ้นแล้ว!'
ในตอนที่เซียวเฉินได้ลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นคือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเขา ร่างกายของเขาหดเล็กลง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากนัก เขาจำได้ว่ามีดวงตาลึกลับคู่หนึ่งอยู่ในตันเถียนของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวมาก เขาจึงรีบลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิอย่างรวดเร็วและส่งสติของเขาเข้าไปในตันเถียน
แต่ทว่าเขากลับไม่เห็นดวงตาคู่นั้นอีกต่อไป เขาเห็นแค่มังกรฟ้าตัวเล็กเท่านั้น มันมีเมฆสีขาวกำลังลอยอยู่รอบตัวของมันและดวงตาของมันกำลังปิดอยู่
เกิดอะไรขึ้น...เขาเห็นดวงตาคู่นั้นได้อย่างชัดเจน เขาไม่มีวันลืมอย่างเด็ดขาด หรือว่านี่เป็นฝีมือของเจ้ามังกรฟ้าตัวน้อยนี่น่ะหรือ?