ตอนที่แล้วตอนที่ 116 อาวุธวิญญาณเต็มไปหมด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 118 ภูเขาน้ำพุโลหิต

ตอนที่ 117 ไม่มีความภักดี


“เอาล่ะๆ พวกเราทุกคนที่นี่ล้วนแต่เป็นสหายกัน เพราะงั้นเลิกทะเลาะกันได้แล้ว!” หลิงฮันพูดแสดงตัวเป็นกลาง ตอนนี้เขารู้สึกสนใจเรื่องของลำธารใต้พิภพ เขาจึงไม่อยากจะให้หญิงสาวสองคนนี้เสียเวลาทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระ

 

“ใครเป็นสหายของนางกัน!” หญิงสาวทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน และหลังจากนั้นพวกนางก็ตะโกนขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง “อย่าลอกเลียนแบบคำพูดของข้า!”

 

“ฮ่าๆๆ” หลิงจือซ่วนเผลอหัวเราะ ฮูหนิวเองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน ถึงแม้นางจะไม่รู้ว่ามีเรื่องสนุกอะไรเกิดขึ้น แต่นางก็แค่อยากจะมีส่วนร่วมด้วยเท่านั้น

 

“ทุกคนกินเสร็จแล้วสินะ? ถ้างั้นก็ไปกันเลย!” หลิงฮันลุกยืนขึ้น

 

“ไม่! ไม่!” ฮูหนิวรีบพูดขึ้นมาอย่างอู้อี้ เด็กสาวคนนี้มีความสามารถในการเรียนรู้ที่ไวมาก นางเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นทุกวัน

 

หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะและพูด “อู๋ตง เจ้าอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเด็กน้อยสองคนนี้”

 

หลิวอู๋ตงรีบส่ายหัว “ข้าอยากจะช่วยเจ้า!” นางอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุ ดังนั้นนางจะสามารถช่วยหลิงฮันได้แน่นอน

 

หลิงฮันรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย การเดินทางครั้งนี้คงจะไม่ใช่แค่วันสองวัน แล้วใครจะคอยดูอลเด็กสาวสองคนนี้? หลิงจือซ่วนยังไม่เท่าไหร่ แต่ฮูหนิวเป็นเสือน้อยที่แสนป่าเถื่อน ไม่ว่าเขาจะไปขอฝากให้ใครดูแล เขาก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี

 

แต่มีโอกาสสูงมากที่ภายในโบราณสถานจะเกิดภัยอันตรายที่คาดไม่ถึงขึ้น เพราะงั้นไม่ว่ายังไงเขาก็พาเด็กสาวสองคนนี้ไปด้วยไม่ได้

 

“งั้นข้าจะไปขอให้หวู่ซงหลินคอยดูแลพวกนาง!” หลิงฮันตัดสินใจหลังจากคิดอยู่ชั่วขณะ

 

หลีซื่อฉางกรอกตาทันที อาจารย์ของนางเป็นถึงนักปรุงยาระดับดำขั้นสูง แถมยังเป็นอาจารย์ใหญ่ของสาขาปรุงยา และตอนนี้เขาได้ถูกลดขั้นลงมาเป็นคนดูแลเด็ก นางไม่รู้ว่าอาจารย์ของนางจะหมดสติไปหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้รึเปล่า

 

แต่หลิงฮันกลับคิดว่านี่เป็นความคิดที่ดีแล้ว เพราะว่าฮูหนิวคงไม่มีทางทำตัวเป็นเด็กว่าง่ายแน่นอน เพราะงั้นในกรณีที่นางสร้างปัญหาอะไรขึ้นมา ด้วยสถานะของหวู่ซงหลิน มันจะสามารถจัดการปัญหาได้อย่างง่ายดาย

 

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว เมื่อฮูหนิวกินจนอิ่ม เขาได้พาเด็กสาวทั้งสองคนไปยังที่พักของหวู่ซงหลินพร้อมกันกับหลีซื่อฉาง

 

ในเวลานี้หวู่ซงหลินอยู่ที่ที่พักพอดี เมื่อมันเห็นหลิงฮัน มันรีบออกมาต้อนรับทันทีราวกับว่ามันเป็นลูกศิษย์ของอีกฝ่าย

 

เมื่อหลิงฮันบอกมันว่าอยากจะฝากเด็กสาวสองคนนี้เอาไว้ แน่นอนว่าชายชราต้องรีบตอบตกลงในทันที และมันใช้โอกาสนี้ในการถามหลิงฮันเกี่ยวกับบางส่วนของทักษะเสริมจิตก่อเกิดวิญญาณ เพราะอย่างไรในปัจจุบัน ทักษะบ่มเพาะทักษะนี้ก็ได้สูญหายไปแล้ว ดังนั้นมีหลายส่วนที่ชายชราไม่สามารถทำความเข้าใจได้

 

หลิงฮันชี้แนะให้กับหวู่ซงหลินอย่างใจเย็น และถามเรื่องราวเกี่ยวกับลำธารใต้พิภพเล็กน้อยก่อนที่จะขอตัวเดินทางไปพร้อมกับหลีซื่อฉาง

 

หลังจากออกมาจากลานที่พักของหวู่ซงหลิน ทั้งสองคนยังไม่ได้ไปไหนไกลก็มองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ มันดูมีอายุประมาณยี่สิบสี่หรือยี่สิบห้าปี ค่อนข้างรูปร่างหน้าตาดี แต่ใบหน้าของมันได้ปลดปล่อยกลิ่นอายของอันธพาลออกมา ราวกับว่ามันกลัวคนอื่นไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเป็นนักเลง

 

ดวงตาของหลีซื่อฉางกลายเป็นคมกริบ และความไม่พอใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง จากที่ดูแล้วนางคงจะรู้จักอันธพาลคนนี้ แต่มันคงจะไม่ใช่คนที่นางอยากจะพบด้วยเท่าไหร่

 

“ซื่อฉาง!” ชายหนุ่มคนนั้นสังเกตเห็นหลีซื่อฉางและใบหน้าของมันเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีขึ้นมาทันที มันรีบเดินมาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกำลังจะจับมือของนาง

 

หลีซื่อฉางกระโดดไปด้านข้างเพื่อหลบหลีกสิ่งที่มันพยายามจะทำ คิ้วของนางขมวดเข้าหากันและพูด “หวู่ซงอี้ เจ้าควรจะแสดงความเคารพให้มากกว่านี้! ยิ่งกว่านั้นข้าเคยบอกเจ้าไปหลายครั้งแล้วไง ว่าเจ้าต้องเรียกข้าว่าท่านป้า!”

 

“บัดซบ!” ชายหนุ่มที่ชื่อหวู่ซงอี้บ่นพึมพำ ใบหน้าของมันปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ยและพูด “เจ้าคิดจะลืมหนี้ที่เจ้าติดไว้รึไง? อย่าลืมล่ะว่าถ้าปู่ของข้าไม่รับเจ้าเป็นลูกศิษย์ เจ้าคงจะถูกถอดกางเกงและโดนข่มขืนจนตายไปนานแล้ว!”

 

“เจ้า...” หลีซื่อฉางมีสีหน้าซีดเผือดทันที คำพูดของชายหนุ่มนั้นหยาบคายเกินไป ทำให้ร่างกายอันบอบบางของนางเกือบจะกระอักเลือดออกมาเพราะความโกรธ

 

“ข้าพูดผิดรึไง?” หวู่ซงอี้เค้นเสียงขึ้นมา “เจ้าคงจะเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับนิสัยของเจ้าคนตระกูลเหอนั่นมาแล้ว! มันไม่ได้แค่ชอบทรมานสาวงามเท่านั้น แต่มันยังชอบทำในที่สาธารณะอีกด้วย! ถ้าไม่ใช่เพราะปู่ของข้าปกป้องเจ้า เจ้าคงจะถูกมันเล่นเป็นของเล่นจนไม่มีอะไรเหลือแล้ว!”

 

“และตอนนี้เจ้าคิดว่าปีกของเจ้าได้งอกออกมาเต็มที่ จนคิดที่จะลืมหนี้ที่ติดเอาไว้แล้วรึไง?”

 

เมื่อหลิงฮันได้ยินที่ทั้งสองคนพูด เขาเข้าใจในทันทีว่าพวกนางมีปัญหาอะไรกัน ดูเหมือนว่าหวู่ซงอี้คนนี้จะเป็นหลานชายของหวู่ซงหลิน และมันได้หลงรักหลีซื่อฉาง แต่หลีซื่อฉางไม่ชอบมันแม้แต่นิดเดียว

 

เฮ้อ บางครั้งการที่งดงามเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี! จากในแง่มุมนี้ หลิวอู๋ตงถือว่าโชคดีกว่ามาก ในฐานะที่นางเป็นเจ้าหญิงของตระกูลหลิว ใครจะกล้าล่วงเกินนางอย่างเปิดเผย?

 

“ข้าจะต้องตอบแทนท่านอาจารย์อย่างแน่นอน!” หลีซื่อฉางพูดในขณะที่กัดฟัน

 

“ก็ดี งั้นเจ้าก็ตอบแทนซะเลยสิ!” หวู่ซงอี้พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความใคร่ “ครอบครัวของข้ารู้สึกว่าพวกเราสองคนเหมาะสมกันมาก ทำไมพวกเราไม่แต่งงานกันพรุ่งนี้เลยล่ะ ครอบครัวของข้าจะต้องดีใจแน่นอน”

 

“นี่เจ้าน่ะ ดูยังไงตัวเจ้าก็เหมือนกับหมู อะไรทำให้เจ้ามีความคิดสัปดนแบบนั้น?” หลิงฮันก้าวไปข้างหน้าและดันหลีซื่อฉางมาอยู่ข้างหลัง “ชื่อของเจ้าเองก็ไม่ดีเช่นกัน หวู่ซงอี้? ไม่มีความภักดี? เฮ้อ จากชื่อของเจ้าข้าก็รู้เลยว่าเจ้าคือเศษสวะ”

 

“แล้วเจ้าเป็นใครกัน?” หวู่ซงอี้จ้องมองอย่างไร้อารมณ์

 

“เพี๊ยะ!”

 

มือของหลิงฮันยกสูงขึ้นและตบออกไป เขาค่อยๆดึงมือกลับและพูดอย่างสงบนิ่ง “สิ่งที่ข้าไม่ชอบที่สุดคือการที่มีคนมาพูดหยาบคายตรงหน้าข้า”

 

หวู่ซงอี้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนมาด่าข้าว่าเป็นหมูก่อนรึไง?

 

“โอ้ เมื่อสักครู่ข้าไม่ได้พูดด่าเจ้า ข้าแค่พูดความจริงเท่านั้น ไม่งั้นลองบอกข้าสิว่าส่วนไหนของเจ้าที่คิดว่าไม่เหมือนหมู?” หลิงฮันพูดอธิบาย

 

เจ้ายังเรียกข้าว่าหมูอีกรึ?

 

หวู่ซงอี้กระโดดลุกขึ้นมาและชี้ไปยังจมูกของหลิงฮัน “เจ้ากล้าดีอย่างไร! เจ้าไม่ได้แค่พูดด่าว่าข้า แต่เจ้ายังกล้าตบข้าอีกด้วย?”

 

“เพี๊ยะ!”

 

หลิงฮันตบมันไปอีกรอบ ทำให้ตัวของหวู่ซงอี้หมุนไปมาสี่รอบก่อนที่จะล้มลงไปนั่งที่พื้น เขาแกว่งมือเล็กน้อยและพูด “ข้าไม่ชอบให้คนอื่นมาชี้หน้าข้าเช่นกัน เจ้าไม่รู้รึไงว่าการทำแบบนั้นมันเสียมารยาท และเป็นการกระทำที่หยาบคาย?”

 

แล้วการตบคนอื่นมันเป็นสิ่งที่สุภาพและสมควรทำรึไง?

 

หวู่ซงอี้คิดอยู่ในใจ มันไม่กล้าพูดสิ่งที่คิดออกมาเสียงดัง มันค่อยๆคลานลุกขึ้นยืนช้าๆ และชี้ไปยังหลีซื่อฉาง “เจ้าผู้หญิงเนรคุณ เจ้ากล้าร่วมมือกับคนอื่นเพื่อรังแกข้า ข้าจะทำให้เจ้าเห็นเอง! สักวันหนึ่ง เจ้าจะต้องแต่งงานกับข้าและคอยดูเถอะว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้าบ้าง!”

 

คำพูดเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของหลีซื่อฉางกลายเป็นซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม แม้แต่หลิงฮันก็ไม่สามารถทนฟังคำพูดเหล่านี้ได้ เขาหยิบหินขึ้นมาจากพื้นและทุบเข้าใส่หวู่ซงอี้

 

“อ้ากก!” หวู่ซงอี้ร้องเสียงดังอย่างอนาถด้วยความเจ็บปวด มันร่วงลงไปที่พื้นและไม่ขยับตัวอีกต่อไป

 

สีหน้าของหลีซื่อฉางเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและพูด “เจ้าไม่ได้สังหารมันไปแล้วใช่ไหม?” เป็นความจริงที่นางไม่ชอบคนคนนี้ แต่ถึงยังไงหวู่ซงอี้ก็ยังเป็นหลานของหวู่ซงหลิน ถ้ามันตายก็หมายถึงตระกูลหวู่จะต้องสิ้นสุดลงในยุคสมัยนี้

 

“ไม่ต้องห่วง ข้ารู้กำลังของตัวเอง อย่างมากมันก็คงต้องนอนอยู่บนเตียงซักสิบวัน และความทรงจำมีปัญหาเล็กน้อย อย่างเช่นมันอาจจะจำไม่ได้ว่าในช่วงสองสามวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือไม่ก็อาจจะจำเรื่องราวของเดือนนี้ไม่ได้เลย” หลิงฮันพูดอย่างไม่มั่นใจ

 

หลีซื่อฉางกรอกตา นี่เรียกว่าลงมือไม่หนักแล้วรึ? แต่ถึงยังไงหลิงฮันก็ทำไปเพราะนาง ทำให้ทำรู้สึกดีเล็กน้อย

 

“ไม่ต้องไปสนใจมัน ยังไงก็มีคนมากมายเดินผ่านไปมาอยู่แล้ว เดี๋ยวก็มีใครมาเจอมันเอง!” หลิงฮันคว้ามือของนางและดึงตัวไป หวู่ซงอี้เป็นคนที่มีนิสัยน่ารังเกียจ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดมากที่จะปล่อยมันนอนเอาไว้ที่นี่สักพัก

 

หลีซื่อฉางไม่สามารถต่อต้านหลิงฮันที่แข็งแกร่งกว่านางได้ นางจึงทำได้เพียงยอมให้เขาจับมือและดึงตัวไป

 

“พวกเจ้าสองคน...” เมื่อพวกเขากลับมาถึงที่พักของหลิงฮัน หลิวอู๋ตงสังเกตเห็นว่าพวกเขากำลังเดินจับมือกัน ใบหน้าอันงดงามของนางจึงปรากฏประกายไฟแห่งจิตสังหารขึ้นมาทันที

*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด