ตอนที่แล้วตอนที่ 113 คนโง่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 115 ข่าวใหญ่

ตอนที่ 114 ทุบตี


“งั้นข้าขอถามหน่อย... ในเมื่อข้ามีเหรียญตรานี้อยู่แล้ว ข้าจะยังต้องไปขโมยอันอื่นมาอีกรึ?” หลิงฮันมองไปยังเฟิงหลัวและยิ้ม สิ่งของก็มีตั้งเยอะ ทำไมหมอนี่ต้องใช้เหรียญตราอันนี้มาใส่ร้ายเขาด้วย?

 

ทุกคนล้วนแต่นิ่งเงียบ จริงอยู่ที่การมีเหรียญตรานี้เอาไว้หมายถึงการมีสถานะที่สูง แต่การมีสองอันก็ไม่ได้หมายความว่าสถานะจะสูงขึ้นไปอีก

 

“ใครจะไปรู้ล่ะ บางทีการลักขโมยอาจจะเป็นงานอดิเรกของเจ้าก็ได้?” เฟิงหลัวโต้แย้ง “อย่างไรก็ตาม เหรียญที่หายไปก็เจอในที่พักของเจ้า เพราะงั้นเจ้าต้องเป็นคนที่ขโมยไปแน่นอน!”

 

“งี่เง่า!” หลิงฮันส่ายหัว “ความโง่ของเจ้านี่มันเป็นโรคร้ายจริงๆ เจ้าพ่ายแพ้ด้วยมือของข้าไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่เจ้าก็ยังไม่เจ้าใจอีกรึ? ในสายตาข้า เจ้าเป็นเพียงตัวโง่งมเท่านั้น!”

 

“ไร้สาระ!” เฟิงหลัวกระโดดอย่างไม่พอใจ “พี่ชายของข้าคือเฟิงหยาง ชายผู้เป็นผู้นำของเร่ารุ่นเยาว์ และในอนาคต เขาจะต้องกลายเป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัยนี้ เจ้าไม่มีคุณสมบัติจะมาเป็นศัตรูของข้า!”

 

“หนวกหูจริงๆ!” สีหน้าของหลิงฮันกลายเป็นเย็นชาขึ้นมาและก้าวเดินไปทางเฟิงหลัว “ดูเหมือนว่า ถ้าวันนี้เจ้าไม่โดนทุบตีอีกสักวัน เจ้าคงจะไม่ทำตัวให้ดีขึ้นสินะ”

 

“เจ้าจะทำอะไร?” เฟิงหลัวก้าวถอยหลังเล็กน้อย มันรู้ดีว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงฮัน

 

“ดูไม่ออกรึไง? ข้าจะทุบตีเจ้ายังไงล่ะ!” หลิงฮันส่ายหัว แขนข้างหนึ่งของเขายังคงอุ้มหูหนิวเอาไว้ แต่กับคนที่มีพลังเพียงระดับรวมธาตุ แถมยังใช้เม็ดยาเพื่อช่วยให้ทะลวงผ่านขึ้นมาได้อีก เพียงแค่แขนเดียวก็มากเกินพอแล้ว

 

“หลิงฮัน เจ้ากล้ารึ!” อันซัวหมิงชี้มายังหลิงฮัน ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความโกรธ

 

การที่ประกาศออกมาอย่างโจ่งแจ้งว่าจะทุบตีคนอื่นต่อหน้ามันที่เป็นหัวหน้าของฝ่ายควบคุมวินัยแบบนี้ หลิงฮันไม่เห็นตัวตนของมันอยู่ที่นี่เลยรึไง?

 

“เหอะ ข้าจะจัดการกับเจ้าทีหลัง!” หลิงฮันจ้องไปที่อันซัวหมิง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นและมืดมน เขาหันไปพูดกับองค์ชายสาม “องค์ชาย ช่วยข้าอย่าให้มันเข้ามาจุ้นจ้าน!”

 

น้ำเสียงแบบนั้น!

 

ทุกคนต่างก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก นี่เจ้าออกคำสั่งองค์ชายสามราวกับเป็นคนรับใช้เลยรึ? ทั่วทั้งเมืองจักรพรรดินี้ นอกจากจักรพรรดิพิรุณ ใครกันจะกล้ามาออกคำสั่งองค์ชายสามเช่นนี้?

 

องค์ชายสามถูจมูกเล็กน้อยและพูด “ไม่ต้องห่วง น้องชายหลิง!” จริงที่อยู่เฟิงหยางมีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด แต่พลังบ่มเพาะของเฟิงหยางในตอนนี้ยังเทียบกับมันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ในทางกลับกัน หลิงฮันนั้นมีสถานะที่เท่าเทียมกับฟูหยวนเชิงแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องนำทั้งสองคนมาเทียบกันอีกต่อไป

 

“พรวด!”

 

ทุกคนสำลักออกมาอีกครั้ง องค์ชายสามยอมฟังคำสั่งของหลิงฮัน! เขาเป็นถึงสมาชิกราชวงศ์ของตระกูลจักรพรรดิ และยังเป็นบุตรที่จักรพรรดิพิรุณรักมากที่สุด แต่เขากลับฟังคำสั่งของหลิงฮัน นี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!

 

หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย ในชีวิตที่แล้ว ไม่มีใครรู้ว่ามีจักรพรรดิกี่คนแล้วที่ต้องขอร้องอ้อนวอนทำสิ่งต่างๆเพื่อทำให้เขาพึงพอใจ ดังนั้นไม่ใช่ว่าเขากำลังไว้หน้าองค์ชายสามอยู่รึไง? ถ้าไม่ใช่เพราะพลังบ่มเพาะของเขาในตอนนี้มันต่ำอย่างมาก เขาจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากองค์ชายสามทำไม?

 

“หลิงฮัน!” อันซัวหมิงก้าวเดินมาข้างหน้า มันเป็นลูกน้องของเฟิงหยาง และถ้ามันยืนดูเฟิงหลัวถูกทุบตีอยู่เฉยๆ มันจะมีหน้าไปพบกับเฟิงหยางได้อย่างไร?

 

“ถอยไป!” สตรีผมแดงกระโดดออกมาขั้นกลางระหว่างหลังฮันและอันซัวหมิง ถึงแม้องค์ชายสามจะยอมตกลงที่จะช่วยต้านอันซัวหมิงเอาไว้ให้ แต่มันจำเป็นต้องให้องค์ชายสามลงมือด้วยตัวเองเลยรึ?

 

“องค์ชาย ที่นี่คือสำนักฮูหยาง ได้โปรดอย่าทำให้ข้าลำบากเลย!” อันซัวหมิงกัดฟันพูดไปยังองค์ชายสาม

 

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? ถ้าพวกเราทำให้เจ้าลำบากแล้วจะทำไม?” สตรีผมแดงพูดอย่างไม่พอใจ มือของนางเคลื่อนไหวและหยิบมีดสั้นสองเล่มที่เอวออกมา มีดสั้นทั้งสองส่องประกายสีฟ้าราวกับทำมาจากคริสตัลและปลดปล่อยความเยือกเย็นที่ทำให้จิตใจของผู้คนสั่นกลัวออกมา

 

องค์ชายสามไม่พูดอะไรตอบกลับ มันรู้ถึงสถานะของตัวมันเองดี เพราะงั้นจึงไม่ยอมลดตัวลงไปเถียงกับอันซัวหมิง

 

หลิงฮันไม่ได้สนใจพวกมันและเดินตรงไปหาเฟิงหลัว

 

“อย่าเข้ามาใกล้ข้า! อย่าเข้ามาใกล้ข้า!” ถึงแม้จะมีคนฝ่ายมันอยู่สิบกว่าคน แต่เฟิงหลัวก็ไม่รู้สึกปลอดภัยแม้แต่น้อย มันถอยหลังและหันหน้าเพื่อเตรียมตัวหนี

 

หลิงฮันพุ่งไปข้างและและจับตัวมันเอาไว้ พร้อมกับกระชากเสื้อดึงมันกลับมา ‘ตุบ’ เฟิงหลัวล้มลงไปที่พื้น หลิงฮันยิ้มอย่างสงบนิ่งและพูด “ผู้คนมักจะพูดกันว่าเมื่อบาดแผลหายไป เราก็จะลืมความเจ็บปวด แต่ในทางกลับกัน เมื่อสองวันก่อนเจ้าเพิ่งจะถูกบดขยี้ฟันทิ้งไปทั้งปาก แต่ตอนนี้กลับยังกล้ามาหาเรื่องข้าอีก? เจ้าไม่รู้จริงๆรึว่าคำว่า ‘ตาย’ มันเขียนยังไง?”

 

“หลิงฮัน เจ้าอย่าได้ใจไปนัก พี่ชายของข้าคือเฟิงหยาง!” เฟิงหลัวตะโกนดัง มันไม่เหลือไพ่ลับอะไรอีกแล้วนอกจากคำพูดนี้

 

“ข้ารู้หรอกน่า เจ้าพูดมาแล้วตั้งหลายครั้ง!” หลิงฮันยิ้ม ‘ปัง’ เท้าของเข้าเตะเข้าใส่เฟิงหลัว

 

“ปัง ปัง ปัง ปัง” หลิงฮันทุบตีเฟิงหลัวอย่างรุนแรง

 

หลังจากทุบตีเสร็จ เขาถอยหลังออกมาโดยที่ยังมีฮูหนิวอยู่ในอ้อมแขน “พูดความจริงมาซะว่าเจ้าพยายามจะใส่ร้ายข้า!”

 

“ไร้สาระ ข้าไม่ได้ใส่ร้ายเจ้า!” เฟิงหลัวโอดครวญ มันยังพอมีความฉลาดอยู่บ้าง ถ้ามันยอมรับว่ามันใส่ร้ายหลิงฮันออกไปต่อหน้าคนเหล่านี้ บทลงโทษเบาที่สุดที่มันจะได้รับคือการถูกไล่ออกจากสำนัก

 

“ให้ข้าดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะยังดื้อรั้นไปได้อีกนานเท่าไหร่!” หลิงฮันบอกฮูหนิวมาร่วมช่วยทุบตีด้วยกันกับเขา และจากนั้นทั้งคนจึงได้รุมทุบตีเฟิงหลัวอย่างคึกคัก

 

ผู้คนรอบๆแอบสูดหายใจลึก

 

ในที่นี่มีคนของฝ่ายควบคุมวินัยอยู่มากกว่าสิบคน แถมยังมีอาจารย์กับองค์ชายสามอยู่อีก แต่หลิงฮันก็ยังกล้าทุบตีเฟิงหลัวต่อหน้าผู้คนมากมายเหล่านี้ เขาช่างกล้ากาญจริงๆ

 

ทั้งอวดดี และ น่ายำเกรง!

 

เฟิงหลัวไม่ใช่คนที่อดทนอะไรได้ เพียงในเวลาไม่นานมันก็ไม่สามารถทนต่อการถูกทุบตีได้ มันจึงเล่าเกี่ยวกับแผนการใส่ร้ายหลิงฮันออกไปทั้งหมด มันถึงขั้นเปิดเผยไปด้วยว่าอันซัวหมิงก็อยู่ในแผนการของมัน

 

เมื่อได้ยินคำสารภาพความจริงของเฟิงหลัว ใบหน้าของอันซัวหมิงและเว่ยเหอเลอกลายเป็นซีดเผือด พวกมันอยากจะเข้าไปกัดเจ้าคนโง่นั่นให้ตายไปเสียตอนนี้เลย

 

“หึ่ม!” องค์ชายสามมีสีหน้าเคร่งขรึมในทันที “อันซัวหมิง เจ้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายควบคุมวินัย แต่กลับกล้าทำลายกฎเสียเอง ถึงแม้ข้าจะไม่ใช่สมาชิกของฝ่ายควบคุมวินัย แต่ในฐานะองค์ชายแห่งเมืองจักรพรรดิ ข้าจะรายงานให้สำนักลงโทษเจ้าอย่างหนัก!”

 

“ไม่! ไม่! ไม่!” อันซัวหมิงทั้งรู้สึกโกรธและหวาดกลัว

 

“พวกเจ้าทุกคนได้ยินคำสารภาพของเฟิงหลัวแล้วสินะ?” องค์ชายสามมองอย่างโหดเหี้ยมไปยังสมชิกฝ่ายควบคุมวินัยคนอื่นๆ และทุกๆคนต่างก็พยักหน้าอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

 

กำจะบ้ารึเปล่า? เฟิงหยางเป็นเพียงศิษย์แท้จริง ในขณะที่องค์ชายสามเป็นศิษย์หลัก เพียงแค่สถานะของทั้งสองพวกมันก็รู้แล้วว่าควรจะเลือกฝั่งไหน ยิ่งกว่านั้นอีกฝ่ายยังเป็นถึงองค์ชายจักรพรดิที่มีอากาสจะได้สืบทอดบัลลังก์ในอนาคต แล้วใครจะไปกล้าต่อต้านคำพูดของอีกฝ่าย?

 

“ไม่ ข้าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งหมดเป็นคำสั่งของเฟิงหลัว!” เว่ยเหอเลอพูดด้วยความสั่นกลัว ตอนนี้มันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อสองวันก่อนมันก็คอยช่วยปกป้องเฟิงหลัว และผลลัพธ์ก็คือมันถูกหวู่ซงหลินไล่ออกจากสาขาปรุงยา และคราวนี้มันได้ช่วยใส่ร้ายหลิงฮันโดยมีคำสั่งมาจากเฟิงหลัว แถมผลลัพธ์ยังดูเหมือนจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

 

ทำไมมันถึงได้โชคร้ายแบบนี้?

 

“อยากจะพูดอะไรก็ไปพูดกับผู้คุมกฎของสำนักแล้วกัน!” องค์ชายสามสะบัดมือและพูด “นำตัวพวกมันไป!”

 

“รับทราบ!” สมาชิกคนอื่นของฝ่ายควบคุมวินัยทำตามที่องค์ชายสามสั่ง เพราะอย่างไรสำนักฮูหยางก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยตระกูลจักรพรรดิ และองค์ชายสามก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นหัวหน้าของพวกมันครึ่งหนึ่ง ใครกันจะกล้าขัดคำสั่งเขา?

 

เฟิงหลัวและอีกสองคนต่างก็มีสีหน้าสีเผือดในขณะที่โดนฝ่ายควบคุมวินัยคุมตัวไป

*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด