ตอนที่แล้วDND.65 - คู่รักแต่เยาว์วัย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.67 - หาเทียบเคียงสุนัข

DND.66 - หัวร่อสยบชิงชัง


“ซือหยู เจ้ายังรักข้าอยู่ไหม?”

เจียงซื่อฉิงยิ้ม นางลืมตากว้างจ้องตาซือหยู

“ข้ามีคู่หมั้นอยู่แล้ว”

ซือหยูตอบตรงไปตรงมา เขามิอยากให้เกิดความรู้สึกใดระหว่างเขาและเจียงซื่อฉิงขึ้นอีก นั่นจะเป็นการทรยศเซี่ยนเอ๋อ

เจียงซื่อฉิงยังคงยิ้ม คำตอบของซือหยูมิได้ต่างจากที่นางคิดไว้ นางมิได้ผิดหวัง เพราะมิได้คาดหวัง แต่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“ดูเหมือนข้าจะไม่มีตัวตนในสายตาและหัวใจเจ้าอีกแล้ว”

นางแนบชิดไหล่ของซือหยูอีกครั้ง นางรู้สึกถึงความปรารถนาและความปิดกั้น น้ำตาอันขื่นขมไหลรินจรดมุมปาก สีหน้าผสมปนเปความสุขความเศร้าประกอบเป็นรอยยิ้มอันน่าเวทนา

“ซือหยู...ข้าขอโทษ...ข้าเสียใจ...กับทุกสิ่ง”

ถ้อยคำขอโทษผ่านอารมณ์โศกเศร้า ทุกคำกลั่นมาจากหัวใจของนาง

เด็กสาวที่เคยภาคภูมิใจในตัวเอง กลับโศกเศร้าเสียใจเมื่อได้เรียนรู้บทเรียนจริงแท้ของชีวิต

ซือหยูใจสั่น เขารู้สึกเสียใจเมื่อได้ยินเสียงอันเวทนาของนาง นางเพิ่งจะอายุสิบสี่ปี เป็นวัยไม่รู้ประสาและบ้าบิ่น นางได้ทำพลาดไป...เขาควรจะได้โอกาสนางอีกครั้งไหมนะ?

ภาพเซี่ยนเอ๋อที่น่าหลงใหลปรากฏขึ้นในใจ ร่างที่เขาหลงรักนั้นทำให้เขาส่ายหัว

เขามิอาจทรยศเซี่ยนเอ๋อ

“มิอาจมีหนทางแก้ความผิดพลาดในอดีต แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ฉิงเอ๋อ เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี...”

เจียงซื่อฉิงตัวสั่น ความหวังเพียงเสี้ยวของนางถูกสลัดหายจนหมดสิ้น

ความเจ็บปวดอันเข้มข้นเจาะทะลุภายในวิญญาณ นางกอดซือหยูแน่นโดยมิอาจห้ามร่างไม่ให้สั่น

ทันใดนั้นนางก็นึกถึงวันที่นางเสียซือหยู วันที่ซือหยูทำลายตัวแทนแห่งความรักลงกับพื้น ในที่สุดนางก็เข้าใจ ว่านางได้เสียสมบัติล้ำค่าที่สุดในชีวิต สมบัติอันจริงใจ ความรักแท้จริงที่มิอาจหวนคืน

แต่นางมิอาจย้อนอดีต

ที่ตำหนักองค์ชายสาม เจียงซื่อฉิงกลับไปพักผ่อนในห้องของตน

ก่อนจะลงจากม้า เจียงซื่อฉิงมองซือหยูอีกครั้ง

เมื่อเขากลับไปที่โถง ซือหยูก็แสดงความเคารพต่อดยุคเซี่ยนหยู

พวกเขาทั้งสองร่ำไห้มานักต่อนักและมีหลายเรื่องต้องพูดคุย

“ท่านพ่อ หากมีโอกาส ข้าจะหาโอสถมารักษาแขนของท่านให้จงได้”

ซือหยูทำใจให้ดีขึ้น

ดยุคเซี่ยนหยูยิ้มและลูบหัวซือหยู

“เด็กโง่เอ๋ย โอสถอมตะที่ชุบชีวิตคนตายมีแต่ในตำนาน เจ้าจะไปหาจากที่ไหน?”

ซือหยูไม่ตอบแต่มองอย่างเด็ดเดี่ยว

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ดยุคเซี่ยนหยูก็จ้องซือหยูอย่างลึกซึ้งก่อนจะสั่งอย่างหม่นหมอง

“หยูเอ๋อ ข้ารู้ว่าว่าเจ้าบากบั่นเหนือผู้ใด เมื่อเจ้าเข้าสู่วิหาร เจ้าจะต้องทำให้หนักกว่าเดิม ก่อนหน้านั้น อย่าพยายามหาตัวเซี่ยนเอ๋อ”

ซือหยูขมวดคิ้ว

“ท่านพ่อ เหตุผลอันใดกัน? วันนี้ท่านได้เป็นผู้บริสุทธิ์และจะได้ครองเซี่ยนหยูอีกครั้ง เราแค่ไปเฟิงหวงแล้วพาเซี่ยนเอ๋อกลับมา จะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง...”

“แม่เซี่ยนเอ๋อเป็นบุตรีแห่งเจ้าเฟิงหวง นางหนีจากหุบเขามากับข้า ที่นั่นยังคงไม่รู้ตัวตนของเซี่ยนเอ๋อ”

ดยุคพูดอย่างขมขื่น

“ตอนนี้ตัวตนของนางเป็นที่รู้จักในเฟิงหวงแล้ว ทุกคนรู้ว่านางมีโลหิตของแม่ไหลเวียนอยู่ พวกเขาจะต้องเลี้ยงดูและปกป้องนางด้วยทุกสิ่งที่มี พวกเขาไม่มีทางคืนนางให้ข้า”

“สำหรับเจ้า ซือหยู หากเจ้าอยากได้เซี่ยนเอ๋อกลับมา เจ้าต้องแกร่งกว่านี้ให้เร็ว มิเช่นนั้นเจ้าก็ลืมเซี่ยนเอ๋อไปได้เลย แม้ชีวิตเจ้าเองก็จะตกอยู่ในอันตราย”

ดยุคเซี่ยนหยูบอกความจริงอันน่าตกตะลึง

ซือหยูตกใจก่อนจะรู้สึกตัว

“ท่านพ่อ หุบเขาเฟิงหวงเป็นเช่นใดกันแน่? ที่นั่นมีนักรบแข็งแกร่งแค่ไหนกัน?”

ดยุคเซี่ยนหยูส่ายหัว

“ข้าไม่รู้ ข้าเพียงรู้ว่ามันลึกลับซับซ้อน ลึกลับจนไม่มีใครในเฟิงหวงเอื้อนเอ่ยนาม ตัวตนของมันเป็นสิ่งต้องห้าม”

สิ่งต้องห้ามงั้นรึ? ซือหยูตกใจ

ซือหยูคิดถึงเสียงของเซี่ยนเอ๋อและทำใจให้ดีขึ้น

“เซี่ยนเอ๋อคือคู่หมั้นของข้า หามีใครเอานางไปจากข้าได้ หากใครอยากจะแข็งข้อกับข้าก็ให้เข้ามา! ข้ามิเกรงกลัวผู้ใด!”

หุบเขาเฟิงหวง...ตัวตนต้องห้าม!

พลังของเขาตอนนี้ยังคงไม่พอ!

“สมกับเป็นบุตรเขยแห่งข้า ยอดเยี่ยม! ชีวิตนี้ของข้า ขอมีเจ้าเป็นบุตรเขยแต่เพียงผู้เดียว!”

ดยุคเซี่ยนหยูหัวเราะเต็มที่

พวกเขาทั้งสองคุยกันจนดึกดื่น ก่อนจะจากกัน ดยุคเตือนซือหยูเป็นครั้งสุดท้าย

“หยูเอ๋อ ฝึกให้จงหนัก อย่าเพิ่งสืบเรื่องเฟิงหวง โดยเฉพาะในวิหาร หาข้อมูลในวิหารจะนำพาอันตรายมาให้เจ้ามากกว่าสิ่งที่เจ้าจะได้รับ”

แคว้นเฟิงหลินและเฟิงหวงอยู่ห่างไกลจากกันนัก ความสัมพันธ์เป็นกลางต่อกัน วิหารที่เป็นที่ใหม่สำหรับซือหยู ความสงสัยใครรู้อย่างบ้าบิ่นจะนำพาปัญหามาสู่ซือหยูได้

ซือหยูลาดยุคและกลับมาที่ห้องพัก พรุ่งนี้เขาจะไปยังวิหารสวรรค์กับฉิวชางเจี้ยน ที่นั่นจะเป็นเช่นใดกัน?

เมื่อถึงห้อง เขาก็ได้กลิ่มหอมอ่อนๆ

เขามองไปยังมุมกำแพง มีธูปสีดอกเหมยถูกจุดเอาไว้

ซือหยูมิได้สนใจมันนัก เขารู้ว่าข้ารับใช้จะต้องดูแลที่นี่ทุกวันมิให้มีกลิ่นแปลกปลอม แม้กลิ่นธูปนี้จะต่างจากธูปธรรมดา แต่โจรใดกันจะกล้าเข้ามาในตำหนักองค์ชายสาม?

ซือหยูสูดดมกลิ่นหอมก่อนจะถอดเสื้อคลุมและหลับไป

เขาฝันเห็นร่างสตรีทิ้งรอยจูบไว้บนแก้ม

“พี่ซือหยู หากย้อนเวลากลับไปได้ ข้าปรารถนาจะเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาคนนั้นอีกครั้ง ข้าจะอยู่กับเจ้าตลอดไป หัวเราะเมื่อมองอาทิตย์อัสดง ฟังเสียงขลุ่ยอย่างเงียบเชียบและมองมหาสมุทรกว้างใหญ่และทุ่งหญ้าไร้ขอบเขตร่วมกันอีกครั้ง...”

“แต่ข้าทำได้เพียงกลับไปในที่เดิมครั้งอดีต...แต่มิได้อยู่ในอดีตนั้นอีกแล้ว พี่ซือหยู...ลาก่อน”

แสงตะวันยามรุ่งสางของวันถัดไปช่างอ่อนโยน

ซือหยูลืมตาด้วยความงุนงง หัวของเขาหนักอึ้ง

คืนก่อนช่างหนักหน่วงนัก ความทรงจำของเขาแยกไม่ออกระหว่างความฝันกับความฝัน

เขามองไปรอบๆ เมื่อมองกระจกก็พบรอยริมฝีปากสีแดงบนแก้ม

“เจียงซื่อฉิง...”

ซือหยูเข้าใจเรื่องราวทันที เขาแต่งตัวและตามหานางในตำหนัก

แต่นางจากไปแล้ว นางออกจากตำหนักองค์ชายสามเพียงลำพังเมื่อยามรุ่งสาง มิรู้ว่าอยู่ที่ใด

ซือหยูรู้สึกอ้างว้าง ลาก่อน...ยอดรักครั้งอดีต

ถึงเวลาที่ต้องไปยังวิหารแล้ว

ซือหยูอำลาองค์ชายสาม ดยุคเซี่ยนหยู และเซี่ยหลินฉวน

หลังจากอำลา ซือหยูและเซี่ยจิงหยูจะได้ไปยังสถานที่แห่งใหม่

ที่โถงองค์ชายสาม หลินเสี่ยวสับสน

“นายท่าน ท่านส่งคนไปตามรอยเจียงซื่อฉิง เหตุใดไม่บอกซือหยู?”

องึ์ชายสามมองไปยังเส้นขอบฟ้าและถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

“เจียงซื่อฉิงรู้สึกผิดเต็มหัวใจ มิต้องการให้ซือหยูพบเจอ ซือหยูมีคนอื่นในหัวใจเช่นกัน มิอาจมอบอนาคตแก่เจียงซื่อฉิงได้ ชะตาพวกเขาจบลงที่นี่ พวกเขามิควรได้พบเจอกันอีก”

Banshee

ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด