บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 49 กิเลนดำ
ตอนที่ 49
กิเลนดำ
“.....”เหม่ยหลินที่นั่งอยู่กลางถ้ำแมงมุมไม่ทราบจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี ภาพเขตอสูรที่น่ากลัวเต็มไปด้วยสัตว์อสูรมากมายที่พร้อมจะฆ่ามนุษย์ได้อย่างเลือดเย็นแทบจะสลายหายไปหมดเมื่อเห็นอสูรจิ้งจอกกำลังสาละวนกับการเตรียมเครื่องดื่มให้แขกที่มาเยี่ยมบ้าน
“พวกเจ้านั่งพักกันไปก่อนนะ น้าจะไปป่าวัฒนะหน่อย แม่หนูกินผลไม้ได้ใช่ไหม”จิ้งจอกเหมันต์ถามหลังจากวางแก้วน้ำให้ทั้งสองแล้ว
“มะ ไม่ต้องก็ได้ค่ะ”เหม่ยหลินรู้สึกเกรงใจอย่างบอกไม่ถูกที่อสูรตนนี้จะไปเอาผลไม้มาให้ ด้วยระดับพลังที่นางสัมผัสได้อสูรตนนี้ไม่ใช่ตัวตนที่นางสมควรจะได้พบหรือพูดคุยเสียด้วยซ้ำ
“ไม่เป็นไร เจ้ากินเนื้อของอสูรไม่ได้นี่นา ปล่อยเพื่อนของจูเอ๋อท้องหิวได้อย่างไรกัน”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางออกไปจากถ้ำแมงมุม ไม่ต้องเดาเลยว่าพวกราชาคนอื่นๆคงรีบมาหาจูเอ๋อโดยไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยแน่ๆ
“ท่านน้าของเจ้าเป็นอสูรเหรอ”เหม่ยหลินถามพลางมองทางเข้าถ้ำแมงมุมที่น้าจิ้งจอกพึ่งอออกไป
“ข้าโตมาเพราะมีพวกท่านน้าคอยเลี้ยงดู มันแปลกงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองสีหน้าของเหม่ยหลิน ยามนี้ใบหน้าของนางไม่ค่อยมีท่าทีกังวลแล้ว สีหน้าเองก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม นั่นอาจจะเพราะนางทราบแล้วว่าพี่หยวนหยวนของนางยังมีชีวิตและปลอดภัยดี
“มะ..ไม่แปลกหรอก”เหม่ยหลินส่ายหน้าไปมาราวกับเด็กๆ
“ข้าเองก็มีพี่หยวนพี่ฮุ่ยอยู่ด้วยเหมือนครอบครัวเช่นกัน”เหม่ยหลินยิ้มบางๆพลางนึกถึงภาพสมัยก่อนที่ตนอยู่กับพี่หยวนและพี่ฮุ่ย ทั้งสองเป็นเหมือนพี่ชายพี่สาวแท้ๆไม่มีผิดเพราะแม่ของนางเสียไปตั้งแต่นางยังเด็ก พี่สาวพี่ชายจริงๆก็ตายจากกันไปหมดแล้ว ส่วนพ่อ... สำหรับนางแล้วพ่อแทบไม่ต่างจากคนอื่น แม้จะเป็นบุตรสาวของหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร แต่พ่อสำหรับนางแล้วก็ไม่ต่างจากหัวหน้ากลุ่มเท่าไหร่ อาจจะเพราะนางไม่เคยได้รับความรักจากพ่อนางเลยอาศัยความรักของพี่หยวนพี่ฮุ่ยแทนก็ได้
“จูเอ๋อ เจ้ากลับมาแล้ว”เสียงที่ดังขึ้นหน้าถ้ำเป็นเสียงของน้าพัคฆ์อย่างไม่ต้องสงสัย เรื่องความเร็วนี่ต้องให้ท่านน้าจริงๆ
“ท่านจะบ้าหรือไง อยู่ๆเร่งความเร็วขนาดนั้นข้าได้ตายพอดี”อีกเสียงที่ตามมากลับเป็นเสียงที่ไป๋จูเหวินไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ก็พอจำได้ว่าเป็นเสียงของหยวนหยวนอย่างแน่นอน
“โอ้ จูเอ๋อเจ้าโตขึ้นมากเลย”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางตรงเข้ามากอดจูเอ๋อเอาไว้แน่นโดยไม่สนใจอสูรแมวที่เกาะอยู่บนไหล่ตัวเองเลยแม้แต่น้อย
“พี่หยวน”เหม่ยหลินเห็นหยวนหยวนบนไหล่ของพยัคฆ์อัสนีก็ส่งเสียงเรียกทันที ทำให้อสูรแมวได้เห็นคุณหนูของมันอีกครั้ง
“คุณหนู”หยวนหยวนแสดงอาการเช่นเดียวกับพยัคฆ์อัสนีไม่มีผิด มันเปลี่ยนร่างเป็นหญิงสาวก่อนจะเข้าไปกอดเหม่ยหลินอย่างรักใคร่
“พี่หยวนท่านยังมีชีวิตอยู่”เหม่ยหลินได้กอดร่างของหยวนหยวนเอาไว้ก็พลันบ่อน้ำตาตื้นขึ้นมาเสียเฉยๆ นางอดทนกับความกังวลมาหลายวันพอได้เห็นและสัมผัสพี่หยวนของนางแล้วก็พลันปลดปล่อยความกังวลออกมาในรูปแบบน้ำตา
“โถ่คุณหนู ไม่ใช่เด็กแล้วนะ”หยวนหยวนว่าพลางเช็ดน้ำตาของหยวนๆเบาๆ
“พี่หยวน...ท่านพลังเพิ่มขึ้นงั้นเหรอ”เหม่ยหลินถามหลังจากใจเย็นลงแล้ว แต่เดิมหยวนหยวนเป็นอสูรชั้นสูงอยู่แล้ว เทียบกับระดับพลังของเขตอสูรก็ระดับทองขั้นแรกๆ แต่ตอนนี้หยวนหยวนกลับมีพลังระดับหยกขั้น 1 เสียแล้ว
“ระ เรื่องนั้น”หยวนหยวนพูดพลางหน้าแปลเปลี่ยนเป็นสีแดง
“พวกท่านราชาเลี้ยงดูข้าดีมากเลยล่ะ”หยวนหยวนว่าพลางหัวเราะเบาๆออกมา พอโดนจับมาในกลุ่มราชาทั้ง 5 ตัวนางก็คิดว่าคงไม่รอดเสียแล้ว ใครจะไปคิดล่ะว่าเหล่าราชาจะดีใจกันมากที่ได้รู้ข่าวของไป๋จูเหวินเลยให้นางพักที่นี่ในฐานะแขก แถมยังให้กินผลไม้ทิพย์หรือสมุนไพรวิเศษได้ตามใจอีกต่างหาก ไม่ต้องไปถึงป่าวัฒนะแค่ป่าเมฆาอัสนีก็มีของพวกนี้มากมายแล้ว ยามนี้แม้แต่อสูรหมาป่าขนเงินก็ยังต้องเป็นมิตรกับนางเพราะนางเป็นแขกของพวกราชานั่นเอง
“ราชา?”เหม่ยหลินถามพลางเอียงคออย่างสงสัย เขตอสูรราวกับเขตลึกลับของเหล่ามนุษย์เรื่องมีราชาคอยควบคุมเขตอยู่ 5 ตนไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะรู้ได้ แม้แต่พ่อของเหม่ยหลินยังทราบแต่เพียงว่ามีราชา 5 ตนแต่ไม่ทราบว่าแต่ละตนเป็นเช่นไร
“อยะ อย่างท่านพยัคฆ์อัสนียังไงละเจ้าคะ ท่านเป็นราชาของป่าเมฆาอัสนีที่พวกเราหลงเข้าไป ส่วนราชาอีก 4 ตนต่างก็มีพลังระดับเดียวกับท่านทั้งนั้น”หยวนหยวนตอบพลางมองไปทางพยัคฆ์อัสนี ทำเอาเหม่ยหลินนึกภาพเสื้อขนาดใหญ่ที่เข้ามาหาพวกตนในวันนั้นขึ้นมา หากเป็นร่างนั้นละก็จะเรียกว่าราชาก็ไม่แปลก แต่ราชาที่มีพลังระดับนั้นกลับมีถึง 5 ตนงั้นเหรอ...
“เจ้าหมายความว่าอย่างไรที่ว่าระดับเดียวกัน”พยัคฆ์อัสนีถามพลางปล่อยไป๋จูเหวินเป็นอิสระ
“ข้าน่ะแข็งแกร่งกว่าพวกมันทั้ง 4 เห็นๆ”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางยืดอกอย่างลำพอง
“เจ้าเนี่ยนะแข็งแกร่งกว่าข้า”มังกรธรณีว่าพลางเดินเข้ามาหาจูเอ๋ออย่างรวดเร็ว ไม่นานไก่ฟ้าหงอนทองและราชสีห์เพลิงก็เข้ามาเช่นเดียวกันทำเอาเหม่ยหลินที่พึ่งเคยเห็นกลุ่มอสูรที่มีพลังระดับนี้ได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าสอดปากสอดคำแม้แต่น้อย
“ไม่เลว จูเอ๋อเจ้าพัฒนาได้ไวมาก”มังกรธรณีพูดพลางนั่งลงข้างๆไป๋จูเหวิน ทันทีที่มันได้เจอหน้าหลานรักมันก้เริ่มตรวจสอบพลังทันที แม้ตัวมันจะตรวจสอบพลังวิญญาณไม่ได้แต่การตรวจสอบพลังอสูรถือว่าง่ายดายมากสำหรับมัน เมื่อเห็นพลังอสูรของหลายชายเติมโตขึ้นมาหลายขั้นมันก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ แต่ขณะมันกำลตรวจสอบพลังของไป๋จูเหวินอยู่นั้นมันก็เหลือบไปเห็นพลังบางอย่างที่คุ้นเคย
“กิเลนดำ”เสียงของมังกรธรณีทำเอาหยวนหยวนและเหม่ยหลินสะดุ้งทันที
“กิเลนดำ? อะไรเหรอท่านน้า”ไป๋จูเหวินถามด้วยความสงสัย มันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“มันเป็นอสูรที่อยู่ระดับเดียวกับพวกข้า แต่มันไม่ได้มาอยู่ในเขตอสูรเช่นเดียวกับพวกข้า”ราชสีห์เพลิงว่าพลางลองสัมผัสพลังอสูรที่ไหลออกมาจากร่างของเหม่ยหลินบ้าง ตัวมันก็เคยพบกับกิเลนดำมาก่อน พลังที่ไหลออกมาจากร่างของนางย่อมเป็นกิเลนดำอย่างไม่ต้องสงสัย
“แก่นอสูรที่เจ้ากลืนเข้าไป คือแก่นอสูรของกิเลนดำสินะ”มังกรธรณีถามพลางจ้องเหม่ยหลินนิ่ง
“ค่ะ...”เหม่ยหลินตอบออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะแรงกดดันของมังกรธรณีมีมากเกินไป
“ใครเป็นคนฆ่ามัน”มังกรธรณียังคงถามด้วยน้ำเสียงจริงจังเหมือนตอนสอนหนังสือให้ไป๋จูเหวินไม่มีผิด
“ไม่ทราบค่ะ แก่นอสูรที่ข้ากลืนเข้าไปเป็นแก่นอสูรที่ท่านพ่อของข้าได้รับมาจากสหายของท่าน”เหม่ยหลินว่าพลางทาบมือไปที่ท้องของตนเอง
“นอกจากเรื่องที่ว่าแก่นอสูรชิ่นนี้คือแก่นอสูรของอสูรกิเลนในตำนานแล้ว เรื่องอื่นข้าไม่ทราบจริงๆ”เหม่ยหลินตอบออกมาตามตรงโดยไม่คิดจะปิดบัง เพราะเรื่องที่นางรู้มีเท่านี้จริงๆ แถมอีกฝ่ายยังเป็นถึงราชาแห่งเขตอสูรหากรู้ว่านางโกหกไม่ทราบจะทำอะไรบ้าง
“เช่นนั้นก็ช่างเถอะ”มังกรธรณีว่าพลางยอมถอยแต่โดยดี แต่เดิมมันก็ไม่ได้สนิทสนมกับกิเลนดำอยู่แล้ว มันจะเป็นหรือตายก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมัน เพียงแต่มันก็ไม่อาจมองข้ามได้ว่ามีมนุษย์ที่สามารถสังหารกิเลนดำลงได้ หากมนุษย์ผู้นั้นลงมาในเขตอสูรพวกมันก็ต้องเป็นผู้รับมือ แต่ยามนี้ราชาทั้งห้าต่างช่วยเหลือกันไม่เหมือนแดนอสูรเมื่อครั้งก่อนที่พวกมันต่างไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องของกันและกัน
“เจ้าเป็นสหายของจูเอ๋อก็พักให้เต็มที่เถอะ ภายในเขตอสูรนี้จะไม่มีอะไรทำร้ายเจ้าแน่ๆ”มังกรธรณีว่าพลางกลับไปคุยกับไป๋จูเหวินที่โดนไก่ฟ้าหงอนทองไล่ถามสารทุกข์สุกดิบอย่างกระตือรือร้น ไม่นานน้าจิ้งจอกก็เข้ามาในถ้ำพร้อมผลไม้ให้กับเหม่ยหลินทำเอาดวงตาของเหม่ยหลินเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ ผลไม้ที่น้าจิ้งจอกเอามามีแต่ผลไม้ทิพย์หายากอย่างยิ่ง แม้แต่พ่อของนางก็ไม่สามารถหาผลไม้หายากเช่นนี้มาได้ง่ายดายราวกับออกไปเด็ดที่สวนหลังบ้านเช่นนี้
“ทานได้เลยนะจ๊ะไม่ต้องเกรงใจ”น้าจิ้งจอกว่าพลางมองเหม่ยหลินอย่างอารมดี
“ใช้แล้วค่ะคุณหนู ทานได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ที่นี่มีผลไม้เช่นนี้ขึ้นทุกที่”หยวนหยวนว่าพลางยิ้มกว้าง นางเอกก็อึ้งไปเหมือนกันที่ได้รู้ความจริงข้อนี้ แต่ไม่นานนางก็เริ่มกินทั้งผลไม้ทั้งสมุนไพรที่มีเหลือล้นอย่างสบายใจจนพลังเพิ่มพูนหลายเท่า