ตอนที่ 420 เมืองใต้พิภพ
ทางเข้าแดนทมิฬอยู่ห่างจากเมืองเงาสลัวไป2300กิโลเมตร สายฟ้าพาทั้งคู่ไปที่นั่นด้วยเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีหลายกลุ่มกำลังเตรียมตัวอยู่หน้าทางเข้าขณะที่ผู้นำบางคนกำลังบรรยายสรุปให้ลูกกลุ่มฟัง หลายคนดูอิจฉาเมื่อเห็นเหยี่ยวสายฟ้าระดับทองสมบูรณ์(สงสัยตอนก่อนเขียนผิดที่เขียนเป็นเพลิงสวรรค์) แม้มันจะไม่ใช่ระดับเพลิงสวรรค์ แต่สัตว์ขี่กลายพันธ์สองครั้งเช่นมันก็มีราคาเช่นเดียวกับสมบัติขั้นสูง และไม่ใช่ทุกคนที่สามารถครอบครองได้
พวกเขาตกใจเมื่อเห็นคนสองคนลงมาจากเหยี่ยวสายฟ้าเพราะทั้งคู่ดูเด็ก
“ฉันพนันว่าพวกเขาต้องมาจากตระกูลราชวงศ์…”หลายคนคิดขึ้น
หลิน ฮวงเรียกเหยี่ยวสายฟ้ากลับและสังเกตว่าใครหลายคนกำลังมองมาที่เขาอย่างเคารพ นั่นเพราะทุกคนรู้ว่าหลิน ฮวงคือผู้ควบคุม และมันก็ยิ่งน่าเคารพมากขึ้นเมื่อเขาสามารถจับมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งเช่นนี้ได้ตั้งแต่ยังเด็ก
หลิน ฮวงไม่สนใจกลุ่มที่กำลังเฝ้าดูเขาและพาหลิน ซินตรงไปทางเข้าแดนทมิฬ
“ทั้งคู่กลับมาโดยไม่มีกลุ่ม บ้าไปแล้ว?!”บางคนสังเกตเห็น
“ฉันรู้!แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ควบคุม แต่อย่างมากเขาก็สามารถทำได้แค่อัญเชิญมอนสเตอร์2หรือ3ตัว ซึ่งทำให้มีกลุ่ม5คน เขาต้องคิดที่จะเข้าแดนทมิฬไปอย่างนั้น!”
“นั่น...หากฉันไม่ผิด สาวน้อยนั่นเป็นเพียงคนธรรมดาที่ยังไม่บรรลุระดับเหล็กด้วยซ้พไป”บางคนกล่าวเสียงเบา นั่นทำให้หลายคนเห็นว่าไม่มีคลื่นพลังชีวิตจากร่างหลิน ซิน
“กลับพาคนธรรมดาไปในแดนทมิฬ?ไอหมอนี่ต้องเป็นพวกที่คิดว่าเตียงโรงแรมไม่ใหญ่พอและต้องการหาที่ตื่นเต้นเล่น?”ชายร่างใหญ่กล่าวติดตลก
หลิน ฮวงไม่ได้ยินบทสนทนา ไม่อย่างนั้นเขาคงลงมือสั่นสอนบทเรียนให้ชายร่างใหญ่ไปแล้ว ทางเข้าแดนทมิฬเป็นคริสตัลรูปไข่ยาว4-6เมตรและมันสามารถรองรับคน5-6คนได้ในครั้งเดียว ห้องใต้ดินถูกพบโดยกลุ่มนักธรณีวิทยากว่าร้อยปีก่อน เมื่อพวกเขาระเบิดไปในห้องใต้ดิน มันกลับมีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต นักผจญภัยและนักล่าหลายคนจึงมาที่นี่เพื่อสำรวจหลังข่าวแพร่กระจายออกไป
ไม่มีตาเสมือนในแดนทมิฬ มีสองเหตุผลหลักที่ว่าทำไมจำนวนมอนสเตอร์จึงเพิ่มขึ้นแม้พวกมันจะถูกฆ่าก็ตาม หนึ่งคือมีรอยแตกที่ด้านล่างของดินแดนซึ่งเชื่อมต่อกับนรก ขณะที่อีกเหตุผลคือมอนสเตอร์ที่นี่มีความสามารถในการสืบพันธ์ซึ่งช่วยแทนที่มอนสเตอร์ที่ถูกฆ่าไป
หลิน ฮวงพาหลิน ซินลึกลงไปในห้องใต้ดิน มันดูเหมือนจะถูกขุดโดยมอนสเตอร์เนื่องจากมันไม่เป็นระเบียบดีนัก ร่องขุดลึกลงไปในดินด้วยการคดโค้ง หลิน ฮวงเดินตามแผนที่และเดินกว้าครึ่งชั่วโมงตามเส้นทางและในที่สุดก็มาถึงพื้นที่กว้าง มันมืด แต่สำหรับหลิน ฮวง มันก็เหมือนปกติ อย่างไรก็ตาม หลิน ซินต้องใช้ไฟฉายไปตามทาง ไม่อย่างนั้นเธอจะมองไม่เห็นอะไรเลย
“ใหญ่มาก!”หลิน ซินร้องอุทานเมื่อเธอใช้ไฟฉายมองไปรอบๆ
“เมืองทมิฬคือเมืองใต้พิภพที่ใหญ่ที่สุดในเขต7 นี่เป็นเพียงพื้นที่รกร้างแถวชานเมือง ยิ่งเราเดินลึกไปแค่ไหน มันก็ยิ่งกว้างเท่านั้น”หลิน ฮวงยิ้มพลางอธิบาย
“เก็บไฟฉายน้องไปและตามพี่มา”หลิน ฮวงกล่าวและจับมือหลิน ซิน
หลิน ซินหน้าแดง จากนั้นก็ปิดไฟฉายและตามหลิน ฮวงไป เธอตกใจเมื่อเห็นแดนทมิฬที่อยู่ไกลออกไปหลังผ่านสิ่งบดบังสายตา ไม่ใช่แค่เธอ แม้กระทั่งหลิน ฮวงก็ยังตกใจและแข็งค้าง แม้เขาจะเคยเห็นภาพของสถานที่นี้มาก่อน มันก็ยังคงน่าประทับใจอยู่ดี แดนรกร้างที่พวกเขาอยู่นั้นอยู่สูงกว่าตัวเมืองหลายร้อยเมตร แดนทมิฬที่อยู่ไกลออกไปกลับสว่างเฉิดฉายท่ามกลางความมืดมิด ไฟถนนทุกดวงล้วนสว่างไสวและแม้กระทั่งบ้านหลายหลังก็ยังมีแสงไฟ จากระยะไกล มันดูเหมือนเมืองที่ไม่เคยหลับใหล
นั่นทำให้หลิน ฮวงนึกถึงตอนแรกที่เขาไปเชี่ยงไฮ้และทึ่งกับทิวทัศน์ยามค่ำคืน เมืองที่เขากำลังมองอยู่นั้นใหญ่กว่าเชี่ยงไฮ้นับร้อยเท่า สิ่งเดียวที่ขาดหายไปคือเสียงรถยนต์
“มันสวยมาก!”หลิน ซินร้องตะโกน
“ใช่”หลิน ฮวงพยักหน้า
“ไปกันเถอะ!”หลิน ฮวงอัญเชิญหมาป่าวิริเดี้ยนหลังจากที่ชื่นชมทิวทัศน์อยู่สักพัก
พวกเขาขี่หมาป่าวิริเดี้ยนและมาถึงสะพานหัก สะพานควรจะเชื่อมต่อกับแดนรกร้างที่พวกเขาอยู่ก่อนหน้า มันขาดแหว่งที่ใจกลางยาวประมาณ30เมตร หมาป่าวิริเดี้ยนเร่งความเร็วมันเพื่อข้ามผ่าน จากนั้นมันก็กระโดดและข้ามไปอีกฝั่งของสะพานโดยง่าย เมื่อได้ยินเสียงกระแสน้ำใต้สะพาน หลิน ฮวงก็มั่นใจว่าต้องมีมอนสเตอร์อยู่ใต้แม่น้ำนั่น
มีหอคอยสูงอยู่ใกล้กับปลายสะพาน และเถาวัลย์ก็ม้วนพันรอบทุกสิ่งก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม สิ่งก่อสร้างมากมายกลับสว่างไสว และหลิน ฮวงก็เห็นแม้กระทั่งเงาที่เคลื่อนไหวในบางห้อง
“พี่คะ หนูคิดว่ามีบางอย่างอยู่ในตึกทางซ้าย”หลิน ซินกล่าวเสียงเบา หลิน ฮวงได้เตือนเธอสั้นๆว่าไม่ให้คุยเมื่อพวกเขามาถึงเขตมอนสเตอร์ หากเธอจะพูด เธอต้องพูดเบาๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะดึงดูดมอนสเตอร์ให้มากลุ้มรุม
“พี่ก็เห็นเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอก”หลิน ฮวงกล่าวและอัญเชิญแลนเซล็อต
“เราจะล่าอสูรดาบต้องสาปกันในครั้งนี้ นำทางไป”หลิน ฮวงสั่ง