ตอนที่ 264 ฆ่าในการพูดครั้งเดียว (FREE)
มันเป็นเรื่องยากที่จะบอก จาง หยางปิง ว่าเงินพวกนี้มาจากไหน เขาได้มาจากการขายม้าหยกหิมะของ ปิง หยาง
เขาทำได้แค่บอกว่าได้มันมาอย่างถูกต้อง
แม้ จาง หยาง ปิง จะไม่ค่อยเชื่อ แต่ ฟาง เจิ้งจือ เป็นถึงเจ้าหน้าที่ระดับ 4 เขาจะทำอะไรได้บ้าง?
จากนั้น จาง หยางปิง ได้เชิญทุกคนมาที่ลานหมู่บ้านเขาต้องการที่จะต้อนรับ ฟาง เจิ้งจือ อย่างเป็นทางการและประกาศแผนการสร้างโรงเรียน
ช่วงบ่ายผ้าไหมสีแดงถูกแขวนขึ้นบนศาลเจ้า ที่ถูกทำความสะอาด
ฟาง เจิ้งจือ ไม่อยากเข้าร่วมเทศกาลนี้แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานยังคงฝังแน่นในใจเขา
อย่างไรก็ตาม จาง หยางปิง และคนอื่นๆในหมู่บ้านต่างเห็นด้วยให้จัดงานเทศกาล
นอกจากนี้ชาวบ้านบางคนยังจะใช้ความสนุกสนานในงานเทศกาลเพื่อกำจัดลางร้ายออกไป
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาจัดให้ชาวบ้านที่บาดเจ็บรวมถึงครอบครัวอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด
ปิง หยาง และ ฉือ กูเหยียน ไม่นานก็มาถึงทั่วทั้งพื้นที่ดูสดใสขึ้นและชาวบ้านกระตือรือร้นมากขึ้น ขณะที่พวกเขากำลังจะคุกเข่า ฟาง เจิ้งจือ ได้หยุดพวกเขา
จากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็พา ปิง หยาง ไปนั่งข้างๆโต๊ะหลัก
ปิง หยาง ไม่พอใจทันที
นางเป็นองค์หญิงผู้เป็นที่รัก ไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาก่อน ขณะที่นางกำลังจะโวยวายออกมา นางก็เห็นว่า ฉิน ซูเหลียน และ ฟาง เฮ่าเตอ ก็นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ด้วย
ฟาง เจิ้งจือ เองก็อยู่เช่นกัน
ปิง หยาง จึงหยุดความคิดที่จะโวยวายไปทันที
ฉือ กูเหยียน นั้นอยู่ในท่าทีสงบตั้งแต่ต้นจนจบ
หลังจากที่ทุกคนทำการสักการะศาลเสร็จแล้ว ไม้กุหลาบ ก็ถูกวางไว้ใกล้กันแสดงถึงระดับที่เท่าเทียมกัน
จากนั้นเมื่อเทศกาลจบสิ้น จาง หยางปิง ได้กระแอมลำคอ เหลือบไปมองยัง ฟาง เจิ้งจือ เพื่อขอให้เขาเป็นคนประกาศ
ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว
จาง หยางปิง ไม่มีทางเลือกเขาขึ้นไปยืนบนเวทีและเริ่มประกาศเกี่ยวกับแผนการสร้างโรงเรียน รวมถึงการสร้างถนนไปยังเมืองฮวายอัน
"พวกเราจะเอาเงินขนาดนั้นมาจากไหนกัน?"
"แค่เงินที่พวกเรามีก็ไม่เพียงพอจะเลี้ยงตัวเอง"
จาง หยางปิง เข้าใจความคิดของชาวบ้าน เขาชี้ไปที่ จาง หลี่และเด็กวัยรุ้นกลุ่มหนึ่ง พวกเขาเริ่มเปิดกล่องเงินออกมาบนเวที
ชาวบ้านไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง และมองหน้ากันไปมา
พวกเขาไม่เคยเห็นของมีค่ามากมายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
จาง หยางปิง เห็นความสงสัยในสายตาของพวกเขาเขาจึงทำให้ทุกคนมั่นใจว่าเงินนี้มาจากการบริจาคของ ฟาง เจิ้งจือซึ่งได้รับมาอย่างถูกกฎหมาย
ชาวบ้านทุกคนต่างโห่ร้องตะโกนชื่อ ฟาง เจิ้งจือ
ปิง หยาง ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
"ไอที่บอกว่าได้มาอย่างถูกกฎหมายนี่ยังไงกัน? เขาได้เงินมาจากการขายม้าของข้า! " ปิง หยาง กล่าวด้วยความไม่พอใจ
อย่างไรก็ตาม นางรู้สึกแปลกใจที่ ฟาง เจิ้งจือ จะใช้เงินเพื่อสร้างถนนและโรงเรียน
นางเคยคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ให้ความสำคัญกับเงินมากที่สุดในชีวิตนางไม่คิดว่าเขาจะเอาทั้งหดมาสร้างอนาคตให้หมู่บ้าน
เขากำลังทไบางอย่างให้สังคมดีขึ้น
นางรู้สึกเหมือนนางเข้าใจ ฟาง เจิ้งจือ ผิดมาตลอดขณะที่นางกำลังเอ่ยชมเขา ฟาง เจิ้งจือ ก็ยื่นถ้วยชามาให้นาง
"อาา... ในฐานะองค์หญิงท่านอยากจะช่วยบริจาคสักหน่อยหรือไม่?โรงเรียนนี้จะทำให้อาณาจักรรุ่งเรืองขึ้น ไม่มากหรอกก็ประมาณ 80,000 เหรียญเงิน? "
"ไปตายซะ!" ปิง หยาง ปฏิเสธเขาอย่างชัดเจน เขาก็เป็นแค่คนโลภมากและไร้ยางอายเหมือนเดิม! 80,000 ?! เขาคิดจะปล้นข้ากลางวันแสกๆ!
"เจ้าคิดจะทำโรงเรียนใหญ่ขนาดนั้นเลย?" ฉือ กูเหยียน ถาม
"แน่นอน ข้าอยากมั่นใจว่ามันจะดีที่สุด! " ฟาง เจิ้งจือ อธิบาย
"อย่างไรก็ตามเงินทุนที่จำเป็นนั้นมหาศาล กองบัญชาการศักดิ์สิทธิ์อาจจะปิดค่าใช้จ่ายเรื่องอาจารย์ได้ แต่ค่าอื่นๆเช่นค่าบำรุงรักษาโรงเรียน ค่ารักษาห้องสมุด รักษาลานล่าสัตว์ โรงเรียนฉิงเฟิงในเมืองฮวายอันได้รับการสนับสนุนจากหลวงและตระกูลใหญ่ๆอย่างไรก็ตามหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ "
ฉือ กูเหยียน เข้าใจอย่างชัดเจน
ในเมื่อมีโรงเรียนในเมืองฮวายอันแล้ว อาณาจักรก็คงไม่คิดจะสร้างโรงเรียนที่สองขึ้นที่นี่
ถ้าเป็นโรงเรียนเล็กๆ ฉือ กูเหยียน ก็คงมีวิธีทำให้มันเปิดต่อไปได้อย่างไรก็ตามโรงเรียนขนาดดังกล่าวต้องใช้ประมาณ 100,000 เหรียญเงินต่อปี
"ข้ามีวิธีหาเงิน" ฟาง เจิ้งจือ กล่าวอย่างมั่นใจ
ที่ที่ดีที่สุดในการหาเงินคือ การศึกษา สถานพยาบาล สิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร...ทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
แน่นอนว่าโลกนี้ สิ่งดูแลสุขภาพ อาหาร ดูจะไม่เหมาะสมมากนัก
ดังนั้น...
การศึกษาเป็นทางออกที่ดีที่สุดของเขา
ตระกูลที่สนับสนุนโรงเรียนฉิงเฟิง โดยการแลกกับมั่นใจว่าลูกของพวกเขาจะได้เรียนในโรงเรียน มันเป็นแนวคิดเดียวกันที่เขาจะเอามาใช้กับโรงเรียนนี้
เขาจะมีอาจารย์ 50 คนที่ดีที่สุดในดินแดนตอนเหนือ
เขาได้แก้ปัญหาเรื่องอาจารย์ไปแล้ว ถนนทุกเส้นล้วนนำทางไปสู่กรุงโรม แค่อาศัย"ทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ "ปัญหาก็จะถูกแก้ไขอย่างง่ายดาย
...
ภายในที่พักอันเงียบสงบในเมืองฮวายอัน
ท่าทางของ ไป่ ซิง ดูแย่มาก เขาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นบนภูเขาคังหลิงอย่างไรก็ตาม เขาเป็นปีศาจตนเดียวที่กลับมาได้
ที่สำคัญ เขาได้สูญเสียทั้งกลืนกินโลก และ ศิลาเซียน
"ได้โปรดลงโทษข้า!"
"หัวหน้าดินแดนไป่ ท่านบอกว่ากลืนกินโลกถูกเอาไปแล้ว?" เสียงคมชัดดังขึ้นจากด้านหลังร่างที่สวมชุดสีขาวนั่งอยู่
นางคือ หยุน ชิงวู
"ใช่ หลังจากที่กลืนกินโลกดูดกลืนภูเขาคังหลิงเข้าไป น้ำหนักของมันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเคลื่อนย้ายได้ต้องมีพลังมากพอจะเคลื่อนย้ายภูเขาหรือทั้งมหาสมุทร ข้าเชื่อว่ามีความเป็นไปได้อยู่แค่ 2 ข้อ ข้อแรก เซียนทั้ง 4 ได้เข้ามาช่วย หรือข้อสอง อีกฝ่ายมีสมบัติที่ใช้ต่อต้านกลืนกินโลกอยู่ "
"เจ้าคิดว่าจะเป็นข้อไหน?"
" ข้อแรก ข้อที่สองข้าว่าความเป็นไปได้นั้นมีน้อย"
"อืม เรื่องนี้ข้าไม่สามารถว่าเจ้าได้ ข้าลืมเรื่องของ 2 คนนี้เสียสนิท ข้าไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน จะปรากฎตัวขึ้นในกลืนกินโลก"
"นายน้อย สิ่งที่เราต้องทำต่อไปคืออะไร?"
"ซิง หยวนกัว เห็น ฉาง เจีย แล้วนี่อาจไม่ใช่เรื่องแย่ ฉาง เจีย มาจากตระกูลชั้นสูงของภูเขาทางใต้ พวกเขามีชื่อเสียงมากในอาณาจักรเซี่ย ใช้โอกาสนี้เขาสู่ภูเขาทางใต้ นั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องทำ! "
"แต่นายน้อย... ฟาง เจิ้งจือ เขา..."
"ฟาง เจิ้งจือ?!ข้าได้ยินว่าเขาฆ่าทหารไปเกือบ 100 คนที่หมู่บ้าน แม้ ฉือ กูเหยียน จะคอยช่วยแต่เขาก็ไม่มีทางใช้ชีวิตอย่างราบรื่นในเมืองหลวงได้ข้าคิดว่าถึงเวลาที่ข้าจะไปพบเขาแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของเขา! "
"ขอรับ นายน้อย!"
...
ในวันต่อมา ฟาง เจิ้งจือ เริ่มเส้นทางแห่งการฝึกฝน การเข้าใจความต่างของเต๋าเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด
พวกมันเป็นเหมือนก้อนหิมะก้อนเล็ก ที่จำเป็นต้องกลิ้งลงมาจากยอดเขาเรื่อยๆ จนกลายเป็นก้อนใหญ่อยู่ที่ตีนเขา
ฟาง เจิ้งจือ ต้องพยายามกลิ้งพวกมัน 200-300 ลูก คำถามที่ใหญ่ที่สุดคือเขาควรจะกลิ้งพวกมันที่ละลูกหรือพร้อมกันทั้งหมด
คำตอบนั้นเป็นเรื่องง่าย
เขาจะกลิ้งพวกมันลงมาพร้อมกัน
มันอาจจะดูเหมือนไม่มีเหตุผล
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ชอบที่จะกลิ้งพวกมันลงมาพร้อมกัน นั่นก็เป็นเหตุผลที่พอแล้วสำหรับเขา
ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังฝึกตน หมู่บ้านของเขาก็กำลังวุ่นวายทีเดียว
หลังจากได้ยินเรื่องการสร้างโรงเรียนขึ้นที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ หมู่บ้านโดยรอบก็ส่งคนมาตรวจสอบข้อมูล มันเป็นข่าวที่สะเทือนไปทั้งแผ่นดิน
หมู่บ้านภูเขาทางเหนือมีเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง?
ไม่มีใครเชื่อ
อย่างไรก็ตาม จาง หยางปิง แสดง "ภูเขาเงิน" ให้พวกเขาเห็น พวกเขาต่างเชื่อย่างสนิทใจ
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดต่างมาชุมนุมกันที่นี่ พวกเขาต่างอ้างอยากจะมีส่วนร่วมในการสร้างโรงเรียน แม่จะไม่มีเงินช่วยเหลือก็ตาม!
นี่เป็นความไร้เดียงสาของชาวบ้านและเป็นความสามัคคีระหว่างหมู่บ้านเมื่อมองเห็นความหวัง หลังจากโรงเรียนถูกสร้างขึ้นแล้ว ช่วงที่สำคัญที่สุดจะเริ่มขึ้น
การรับสมัคร!
พวกเขาทั้งหมดมีเหตุผลที่จะช่วยในโครงการนี้ ความคิดนั้นคือยิ่งมีส่วนร่วมมากเท่าไรยิ่งมีโอกาสได้รับคัดเลือกมากเท่านั้น
แก้ไขแล้ว
ทางตะวันออก ดินและต้นไม้ทั่วเนินเขาถูกนำมาใช้เพื่อการสร้างโรงเรียน
การสร้างถนนสู่เมืองฮวายอันก็ทำคู่กันไป
มันจะเป็นทางตรงไปจนถึงตัวเมือง และจะสร้างผ่านหมู่บ้านมากมายเมื่อทุกคนได้ยินว่าถนนกำลังสร้างต่างก็รีบไปช่วย เมื่อพวกเขาได้ยินว่ามีค่าจ้างให้กับผู้สร้าง พวกชาวนา ชาวทุ่งต่างทิ้งงานในไร่ทั้งหมดเพื่อมาช่วยงานนี้
ฟาง เจิ้งจือ อธิบายถึงโครงสร้างอาคาร ให้ จาง หลี่ เป็นผู้ควบคุมงาน จาง หลี่ เป็นเด็กหนุ่ม และสามารถจัดการงานได้อย่างราบรื่น
...
เมืองเหยียนอยู่ในช่วงที่วุ่นวาย
จดหมายมากมายส่งถึงจักรพรรดิที่หอบัลลังก์ เป็นเรื่องที่ ฟาง เจิ้งจือ สังหารพวกทหาร
"องค์จักรพรรดิ ฟาง เจิ้งจือ ได้เพิกเฉยต่อกฎหมายถ้าเราไม่ลงโทษเขาอย่างรุนแรง พวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? "
"ฟาง เจิ้งจือ ได้มัวเมาในตำแหน่งที่ได้รับจึงทำเช่นนั้นถึงแม้ว่ากองทัพได้กระทำความผิด แต่พวกเขาก็ทำไปโดยคำสั่ง ฟาง เจิ้งจือ ถือดียังไงถึงฆ่าเหล่าทหาร?"
"1 ในแม่ทัพและทหารมากมายต้องตายลง มันส่งผลกับกองทัพอย่างมาก ข้าหวังว่าองค์จักรพรรดิจะทรงไต่สวนเรื่องนี้! "
เจ้าหน้าที่ทุกคนล้วนสามัคคีกันเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะ ฟาง เจิ้งจือ เป็นฑูตแห่งดาบ เจ้าหน้าที่ระดับ 4 กฎหมายจะจับเขามาลงโทษโดยเรื่องไม่ต้องถึงองค์จักรพรรดิ
"ฝ่าบาท ข้ารู้ว่าท่านสนใจความสามารถของเขา ฟาง เจิ้งจือ พึ่งจะได้รับตำแหน่งไปไม่นานท่านกังวลว่าหากจับเขามาในตอนนี้จะส่งผลต่อเขามากยังไงก็ตามตอนนี้เขาหาเรื่องใส่ตัวแล้ว! " รัฐมนตรี หวัง ซ่ง พูดด้วยความโกรธ
องค์จักรพรรดิ มู่ ไป่ ขมวดคิ้ว
กองทัพส่งข่าวเรื่องการสังหารของ ฟาง เจิ้งจือ จากนั้นเขาได้รับจดหมายจาก ฉือ กูเหยียน นางเขียนบอกทุกสิ่ง
เห็นได้ชัดว่าใครผิด
ยังไงก็ตาม ...
กองทัพต้องรักษาจุดยืนของพวกเขา
ถ้ามีใครสามารถสังหารหมู่กองทัพได้ แล้วใครจะเคารพกองทัพกัน ที่สำคัญกว่าจำนวนทหารที่เขาฆ่ามีมากเกินไป
ทหารต้องตายไปเป็น 100 และได้รับบาดเจ็บอีกมาก นี่ไม่ใช่แค่การปกป้องหมู่บ้านและหยุดกองทัพ นี่เป็นการสังหารหมู่
มีทหารตายมากเกินไป
ชื่อเสียงของกองทัพจะถูกทำลายหากไม่มีการไต่สวน
อย่างไรก็ตามเขาควรจะปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ ถูกไต่สวนตามกฎหมายหรือไม่?
จักรพรรดิลังเล ในจดหมายของ ฉือ กูเหยียน ได้อธิบายเรื่องทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่ ฟาง เจิ้งจือ ถูกยั่วให้โกรธและด้วยความกตัญญู เขาแค่ฆ่าเพื่อปกป้องครอบครัวของเขา
"ฝ่าบาท ข้าคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ควรได้รับโทษทั้งหมด!"รัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ยู่ ยี่ปิง ยืนขึ้น
"โอ้ะ รัฐมนตรียู่ มีความคิดอะไรงั้นหรือ?" หลิน มู่ไป่ ตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของ ยู่ ยี่ปิงอย่างไรก็ตาม ยู่ ยี่ปิง ดูเหมือนจะไม่ถูกกับ ฟาง เจิ้งจือ เท่าไรก่อนหน้านี้
แล้วตอนนี้ทำไมกัน?
"จากการสืบสวน กองทัพได้เข้าคุกคามหมู่บ้าน ทำตัวเป็นกษัตริย์ทั้งกินและดื่มของชาวบ้านจากนั้นพวกเขาได้รับคำสั่งให้สังหารคนในหมู่บ้าน แม่ทัพทำร้ายชาวบ้าน 2-3 คน พวกเขาเป็นความอับอายของกองทัพ สมควรตายเป็นอย่างยิ่ง! " ยู่ ยี่ปิง เหลือบมองไปที่องค์จักรพรรดิขณะพูด
"ที่ ยู่ ยี่ปิง พูดก็ถูก น้อง6 เจ้าได้สร้างกองทัพอันดีเยี่ยมขึ้นมา ยังไงก็ตาม จากการกระทำในครั้ง... ข้าคิดว่าควรต้องมีการสั่งสอนกันบ้าง เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ! " องค์รัชทายาทกล่าวสมทบ
การแสดงออกของราชาต้วนดำทมึนขึ้นทันทีเขารู้ว่า ยู่ ยี่ปิง และองค์รัชทายาทพยายามทำอะไรอย่างไรก็ตามกองทัพอยู่ในการควบคุมของเขา เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดได้
"ขอบคุณสำหรับคำเตือน แน่นอนข้าจะกำชับเรื่องระเบียบวินัยของพวกเขา ข้าจะบอกโทษของสิ่งพวกเขาได้ทำไป! " ราชาต้วนไม่ได้ปัดข้อกล่าวหาทิ้งไป
เขาจะยอมรับความผิดพลาดของเขา
ดีกว่ามานั่งถกเถียงกัน ทุกคนรู้ดีว่ากองทัพนั้นมีจำนวนมาก มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีข้อผิดพลาดขึ้นบ้าง
เรื่องนี้เองก็เล็กๆน้อยๆ การรับผิดก็ไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด
"ด้วยการกำชับของราชาต้วน ข้าเชื่อว่าวินัยของพวกทหารจะดีขึ้น!"รัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ยู่ ยี่ปิง ตอบในทันที
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังราชาต้วนเกือบจะก้าวเท้าออกไปแต่เมื่อได้บยินคำพูดของ ยู่ ยี่ปิง เขาก็ถอยกลับไป
ยู่ ยี่ปิง ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง
"ตึ้ง!" เข่านั่งคุกเข่าลง
องค์จักรพรรดิหันไปหา ยู่ ยี่ปิง "ท่านยู่ ท่านจะทำอย่างนี้ทำไม?"
"ข้าควรช่วยท่านแก้ปัญหาในครั้งนี้ มีบางอย่างที่ข้าอยากพูด แต่มันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าหน้าที่ควรพูด! "
"โปรดบอกข้ามา"
"รับทราบแล้วฝ่าบาทข้าไม่คิดว่ามันสำคัญที่จะตัดสินว่ากองทัพจะผิดหรือไม่ฝ่ายกฎหมายเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องเหล่านี้ ความคิดเห็นของข้าในวันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎหมายใดๆ ข้ากังวลเกี่ยวกับความภักดี คุณธรรมและศีลธรรม ฟาง เจิ้งจือ มีท่าทีที่จะทำอะไรเกินเหตุและฆ่าโดยไม่ลังเลเขาไม่สนใจกองทัพอย่างสิ้นเชิงและนี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี! ข้าหวังว่าท่านจะระมัดระวังถ้าจะใช้เขาในอนาคต! "
ยู่ ยี่ปิง ทำให้เกิดความโกลาหลอีกครั้ง น้ำตาไหลอกมาจากดวงตาของเขาทำให้เขาดูเป็นคนที่จงรักภักดีและซื่อสัตย์
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดต่างตะลึงด้วยคำพูดของ ยู่ ยี่ปิง
จากนั้น พวกเขาก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว
ยู่ ยี่ปิง ได้ช่วยให้ ฟาง เจิ้งจือ หลุดจากปัญหาอย่าง่ายดาย ด้วยโทษว่าเป็นการขาดวินัยของทหาร
เขาดูเป็นกลาง รวมถึงช่วยองค์จักรพรรดิแก้ปัญหา
มันเป็นการกระทำที่แทบจะสมบูรณ์แบบ
จากนั้นเขาก็จัการฆ่าทิ้ง แค่พูดเพียงครั้งเดียว
เขาไม่ได้พูดถึงกฎหมายใด ๆ เขาพูดถึงความจงรักภักดีคุณธรรมและศิลธรรม มันเป็นการปิดผนึกโชคชะตาของ ฟาง เจิ้งจือ โดยสิ้นเชิง
ความภักดีนั้นสำคัญเสมอ
ยู่ ยี่ปิง ได้ลงโทษฝาง ฟาง เจิ้งจือ โดยอ้างว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องทางทหาร
เขาเพียงแต่บอกว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่จงรักภัคดี!
องค์จักรพรรดิคิดออกได้อย่างเดียว!
ประสบการณ์นั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ ยู่ ยี่ปิง ทำได้ขนาดนี้!
"กราบเรียน องค์จักรพรรดิ ซิง เฮ่า ต้องการพบท่าน!" ในขณะที่ทุกคนกำลังชื่นชม ยู่ ยี่ปิง เสียงจากนอกห้องก็ดังเข้ามา
เพจหลัก : Double gate TH