ตอนที่แล้วDND.56 - พยานปาฏิหาริย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.58 - ประลองสุดท้าย

DND.57 - ความพ่ายแพ้ของเหล่าอัจฉริยะ


เซิงยี่หลินหุบยิ้มที่ฝืนความโกรธในใจออกมา

เซิงยี่หลินยังมิทันได้สะสางเรื่องที่ซือหยูร่วมเตียงกับเซี่ยจิงหยู แต่ในตอนนี้ซือหยูช่างจองหองและทำให้เขาต้องอับอายต่อหน้าผู้คน

กล้ามเนื้อเขาเริ่มหดเกร็งเมื่อหัวเราะ

“ฮ่าๆๆๆ เจ้ามั่นใจเกินไปเหลือเกินนะ ช่างน่ายกย่องซะจริง...”

ซือหยูตวาดด้วยสายตาเย็นชา

“เจ้าจะพูดมากเกินไปแล้ว! ถ้าจะสู้ก็เข้ามา หากไม่ก็ออกจากลานประลองไปซะ!”

ซือหยูคิดเพียงการช่วยดยุคเซี่ยหยูเท่านั้น เขาจะต้องใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่า เขามิอาจทนการปลิ้นปล้อนเซิงยี่หลินได้!

เซิงยี่หลินแสร้งมีมารยาทต่อไปไม่ไหวเพราะซือหยูด่าทอเขาต่อหน้าธารกำนัล เขาหน้าแดงก่ำและหยุดปกปิดความเยือกเย็นภายใน

“รู้ที่ต่ำที่สูงซะบ้าง! ให้ศิษย์พี่สอนมารยาทหน่อยแล้วกัน!”

เซิงยี่หลินพุ่งไปข้างหน้าราวกับพยัคฆ์

ไม่นานร่างกายของเขาก็มีชั้นแสงปกคลุมจนดูบิดเบี้ยว

“สิบหมัดเบญกระจ่าง!”

เขาตะโกนและปล่อยหมัดไปข้างหน้า

เมื่อรวมกับฎีกาสวรรค์แล้วจะทำให้แสงจากหมัดปรากฏขึ้นและหายไปอย่างสับสน

หนึ่งหมัดเล็งไปที่อกซือหยู แต่ในเสี้ยววิหมัดนั้นกลับเปลี่ยนทิศไปที่แขน! แต่ละหมัดปรากฏและหายไปอย่างลึกลับ ทำให้ยากที่จะบอกว่ามันมาจากไหน!

ในตอนนั้นเองดวงตาของซือหยูได้เปลี่ยนเป็นสีแก้ว!

เมื่อสิบหมัดใกล้เข้ามา...ซือหยูเริ่มเคลื่อนไหว!

“วายุกระหน่ำ!”

ซือหยูใช้เพียงวิชาระดับกลางเพื่อต่อสู้กับฎีกาสวรรค์!

ปั้ง ปั้ง ปั้ง---

ซือหยูเตะสิบครั้งในเวลาเสี้ยววินาที แต่ละครั้งเล็งไปที่หมัดของเซิงยี่หลินที่ปรากฏและหายไปอย่างลึกลับ!

ราวกับในใจซือหยูรู้อยู่แล้วว่าหมัดของเซิงยี่หลินมาจากทิศทางไหน

ซือหยูเดาว่าหมัดจะมาจากทางไหนและเข้าปะทะกับหมัดอย่างแม่นยำ!

เกิดเสียงปะทะกันสิบครั้งในลานประลอง

ชั้นแสงที่ปกคลุมเซิงยี่หลินได้หายไปเพราะซือหยู!

“นี่เจ้า! เป็นไปได้ยังไง?”

เซิงยี่หลินตกตะลึง

หนานเฟยทำได้แค่ป้องกันหมัดนี้เพียงสามหมัด แต่ซือหยูกับมองฎีกาสวรรค์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งและป้องกันตัวอย่างง่ายดาย!

แน่นอนว่าเซิงยี่หลินไม่รู้ว่าซือหยูได้ใช้พลังดวงตา

วิชาสิบหมัดเบญกระจ่างของเซิงยี่หลินลึกลับซับซ้อนมากอย่างมิต้องสงสัย แต่เมื่อมันช้าลง...ความลึกลับก็ได้กระจ่างอย่างรวดเร็ว

ตามปกติซือหยูจะไม่ใช้พลังดวงตาเพราะต้องการเก็บพลังไว้ใช้ยามคับขัน แต่เหตุการเร่งด่วนเช่นนี้เขาต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อประหยัดเวลา

ซือหยูพุ่งเข้าหาโดยไม่สนใจเซิงยี่หลินที่กำลังตกตะลึง ซือหยูยังคงใช้วิชาระดับกลางเช่นเดิม

แค่วิชาระดับกลางก็เกินพอจะชนะเซิงยี่หลิน!

เซิงยี่หลินทั้งตกใจและโกรธเกรี้ยว เขาต้องการคำตอบจากซือหยู! เขาบ่มเพาะวิชาของเขาจนถึงระดับสามขั้นกลาง แต่ซือหยูกลับฝึกจนถึงระดับสามขั้นสูง

แม้พื้นฐานบ่มเพาะของเซิงยี่หลินจะมากกว่าซือหยู ซือหยูก็มีร่างกายอันยอดเยี่ยม ด้วยความต่างนี้ซือหยูจึงเหนือกว่า!

ครืนนน ปั้ง ปั้ง--

เซิงยี่หลินถอยครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อซือหยูพุ่งเข้ามา นั่นทำให้เหล่าผู้ชมตัวแข็งทื่อ!

นี่คือเซิงยี่หลินคนเดียวกับที่ชนะหนานเฟยในกระบวนท่าเดียวงั้นรึ? ต่อหน้าซือหยูเขาทำได้เพียงป้องกันตัวเอง!

เซิงยี่หลินทั้งอัปยศและโกรธเกรี้ยว เขาด้อยกว่าซือหยูจริงๆ!

ตลอดมาเขารู้สึกว่าซือหยูคือผู้ที่ทนเขาไม่ได้แม้กระบวนท่าเดียว หากเขาเอาจริง เอาจะชนะทุกคนอย่างง่ายดาย เขาจึงไม่เคยมองซือหยูอย่างจริงจัง

แต่เขาที่สู้กับซือหยูครั้งแรกเขาก็พบว่าตัวเองนั้นด้อยกว่าซือหยู!

ความต่างระหว่างอดีตและปัจจุบันช่างยากที่จะทำให้เขายอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้!

และมันยังยากมกที่จะยอมแพ้ต่อหน้าเซี่ยจิงหยู!

ด้วยขาทั้งสองของซือหยู วายุกระหน่ำที่เซิงยี่หลินเห็นราวกับมาจากแดนหิมะ ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง เขาเย็นไปทั้งหัวใจ กระดูก และจิตวิญญาณ

“ออกไปนะ...”

เซิงยี่หลินตะโกนอย่างไม่พอใจ!

ตู้ม--

ซือหยูเตะปากเซิงยี่หลินด้วยลูกเตะน้ำแข็งอย่างโหดเหี้ยม

อ๊ากก---

เซิงยี่หลินตัวสั่นระริก ปากของเขาที่อ้าปากพูดนั้นแข็งขยับไม่ได้ น้ำลายในปากกลายเป็นน้ำแข็ง แก้มของเขาเต็มไปด้วยหิมะ

เขาถูกเตะที่ใบหน้าอีกครั้งอย่างโหดเหี้ยม เซิงยี่หลินกระเด็นออกจากลานประลอง!

สามกระบวนท่า!

ซือหยูชนะเซิงยี่หลินด้วยสามกระบวนท่า!

เซิงยี่หลินที่กระเด็นออกจากลานประลองทั้งอัปยศและโกรธ

“เจ้า...”

ซือหยูแววตาเยือกเย็น

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่มีสิทธิ์ชี้แนะอะไรข้านะ ฎีกาสวรรค์ของเจ้ามิได้ยอดเยี่ยม อ่อนแอกว่าวิชาระดับกลางด้วยซ้ำ”

ตอนที่ซือหยูเห็นฎีกาสวรรค์ของเซิงยี่หลินเขาก็ไม่ประทับใจ...แม้จะไม่แน่ใจว่าเพราะเหตุใด

เขารู้สึกว่าฎีกาสวรรค์ของเซิงยี่หลินมันจืดชืดและไร้จังหวะ ซือหยูไม่เข้าใจว่าทำไมจึงรู้สึกเช่นนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาเป็นผู้ใช้ฎีกาสวรรค์?

เซิงยี่หลินหน้าแดงก่ำ ตอนแรกเขาพูดว่าจะชี้แนะซือหยู แต่ในท้ายสุดเขากลับอ่อนแอกว่าวิชาระดับกลางของซือหยู!

เขาที่อัปยศอยู่เต็มหัวใจเหลือบมองไปยังเซี่ยจิงหยู

เขาเห็นเซี่ยจิงหยูยิ้มอย่างอ่อนโยนมองซือหยูด้วยแววตาสดใส แววตาเต็มไปด้วยความนับถือ

เมื่อนางรู้สึกว่าเซิงยี่หลินกำลังมอง นางก็มองเขาและส่ายหัวเบาๆ จากนั้นก็หันไปมองทางอื่นอย่างเย็นชา

แววตาของนางบอกทุกสิ่งโดยมิต้องเอื้อนเอ่ยคำใด นางบอกเซิงยี่หลินว่าฎีกาสวรรค์มิใช่สิ่งพิเศษเพราะพ่ายแพ้วิชาบ่มเพาะขั้นกลาง ถึงอย่างนั้นเขาก็กล้าจะเอามันมาขอหมั้นนาง

อั่ก---

ร่างกายเขาบาดเจ็บอยู่แล้ว และเซี่ยจิงหยูยังทำร้ายจิตใจของเขาเช่นนี้ทำให้เขาพ่นโลหิตออกมา เขาหมดสติทันที

เซิงยี่หลิน อันดับหนึ่งแห่งสำนักเซี่ยนหยู พ่ายแพ้ราบคาบ!

หลายคนมองเงาร่างสีม่วงบนลานประลองและกลัวจนตัวสั่น

“ชัยชนะเป็นของซือหยู!”

ผู้ตัดสินตกตะลึง วิชาขั้นกลางเอาชนะฎีกาสวรรค์ไปแล้ว สิ่งเหนือจินตนาการกำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา

แม้หลายคนจะทึ่ง แต่คนจากวิหารก็ดูไม่ประทับใจ

“ฎีกาสวรรค์มีหลายประเภท มีทั้งประเภทโจมตีและสนับสนุน ฎีกาสวรรค์ของเซิงยี่หลินใช้แสงลวงตาเพื่อเอาชนะศัตรู มันคือฎีกาสวรรค์แบบสนับสนุน มันมิได้แข็งแกร่งและถ้าหากมองภาพลวงตาออกมันก็เสียพลังไปทั้งหมด มิแปลกใจที่เขาแพ้”

ผู้รับใช้เพลิงกล่าว และมองซือหยู

“ส่วนซือหยู ถือว่ายอมรับได้”

เหล่าผู้ประเมินแอบพยักหน้า แม้ผู้รับใช้เพลิงจะประเมินเซิงยี่หลินต่ำกว่าความจริง เขาก็มิอาจปฏิเสธว่าฎีกาสวรรค์ของเขาไม่ได้แกร่งอย่างที่คิด

ฎีกาสวรรค์คือสิ่งจำเป็นในการขึ้นเป็นราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ แต่หลายต่อหลายคนเชื่อมั่นในพลังของฎีกาสวรรค์เกินไป พวกเขาคิดว่าหากเชี่ยวชาญฎีกาสวรรค์แล้วเขาจะไร้เทียมทาน แต่เขามิได้รู้เลยว่าฎีกาสวรรค์นั้นแบ่งเป็นหลายระดับเช่นเดียวกับวิชาทั้งหมด

ฎีกาสวรรค์ของเซิงยี่หลินนั่นมิได้เก่งกาจ หรือจะบอกว่าเขาประเมินฎีกาสวรรค์ตัวเองสูงไปมาก

ผู้ตัดสินสังเกตพลังของซือหยูและพบว่าเขาเหนื่อยเล็กน้อย

วายุกระหน่ำใช้พลังเพียงน้อยนิด แต่พลังดวงตานั้นกินพลังกายไปมาก

นี่คือเหตุที่ซือหยูมักจะไม่ใช่พลังดวงตา มันเป็นท่าที่ใช้พลังมหาศาล หากไม่อยู่ในจุดวิกฤติเขาจะไม่มีวันใช้มันเด็ดขาด

“ซือหยู จากนี้เจ้าคือผู้คุ้มกันลานประลอง ตามกฎแล้วหลังจบการประลองเจ้าจะได้พักหนึ่งชั่วยาม เจ้ามีเวลาหนึ่งชั่วยามในการเตรียมรอบถัดไป”

ผู้ตัดสินเตือนอย่างหวังดี

ซือหยูหายใจเข้าลึกให้ใจเย็นลง

“ไม่จำเป็น!”

ซือหยูยืนอยู่ที่ขอบลานประลองและมองจุดแปดอัจฉริยะที่เหลือ

“เจ้า ขึ้นมา!”

ซือหยูเลือกคนที่พลังน้อยที่สุด...เขาคือศิษย์อสูรที่แกร่งที่สุดในซักสำนัก

ฟึ่บ--

คู่ประลองกระโดดขึ้นมายังลานประลองด้วยความมั่นใจ

“ซือหยู แม้ทุกคนจะพูดว่าเจ้าเป็นม้ามืด ข้าก็ไม่เชื่อว่าเจ้าจะแกร่งกว่าข้า!”

“หมัดมังกรสายฟ้า!”

วิชาขั้นกลางที่ฝึกจนถึงระดับสามขั้นกลาง!

หมัดทั้งสองราวกับเป็ยมังกรวารีที่ผุดขึ้นมาจากมหาสมุทร!

นี่เป็นวิชาระดับกลางที่เหนือวิชาระดับกลางทั้งหมด!

“วายุกระหน่ำ!”

ซือหยูเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างไร้อารมณ์

ปั้ง ปั้ง--

อ๊าก--

เตะหนึ่งครั้ง...หมัดของคู่ต่อสู้ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง

เตะสองครั้ง...คู่ต่อสู้ชาไปทั้งร่าง

เตะสามครั้ง...คู่ต่อสู้กระเด็นออกจากลานประลอง!

ศัตรูพ่ายแพ้เพียงการโจมตีสามครั้ง!

แม้ซือหยูจะมีพลังแค่ระดับห้าขั้นต้น เขาก็เอาชนะศิษย์อสูรที่มีพลังระดับหกได้!

“ซือหยู ชนะต่อเนื่องสองครั้ง!”

ผู้ตัดสินประกาศ

ซือหยูมิรอคอยเวลา เขาเต็มไปด้วยความกังวล!

ตลอดการประลองต้องรอความเห็นของเหล่าผู้ประเมินและผู้รับใช้เพลิง นั่นกินเวลากว่าชั่วโมง เวลายาวนานเช่นนี้ทำให้ซือหยูหวั่นใจ!

หลังจากชนะติดต่อกันสองครั้ง ซือหยูเหลือเวลาเพียงแปดชั่วโมง!

เขายังมีศัตรูเหลืออีกเจ็ดคน ทุกคนที่เขาเจอจะแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!

แม้เขาจะรู้สึกเหนื่อย ซือหยูก็ไม่มีเวลาหยุดพักแม้วินาทีเดียว

“เจ้า...ขึ้นมา!”

ผู้ตัดสินประหลาดใจ ทุกคนที่ต่อสู้ติดกับสามครั้งจะต้องใช้พลังจนหมด เหตุใดซือหยูจึงรีบร้อนเช่นนี้?

บางคนเริ่มตระหนักได้ว่ามีบาอย่างผิดปกติ ดูเหมือนซือหยูกำลังแข่งกับเวลา...เขาปฏิเสธที่จะพัก!

การประลองที่สาม!

“อสรพิษเจ็ดก้าว!”

“วายุกระหน่ำ!”

“อ๊าาา--”

ซือหยู ชนะต่อเนื่องสามครั้ง!!

ประลองครั้งที่สี่!

“ข้ามิเชื่อว่าจะแพ้เจ้าหรอก ให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าจะไปได้ซักกี่น้ำ”

“วายุกระหน่ำ!”

“อ๊ากก---”

ซือหยู ชนะต่อเนื่องสี่ครั้ง!

ประลองครั้งที่ห้า!

“ฮื่ม! เจ้าควรจะพักซักหน่อยนะ ข้าไม่อยากจะสู้กับคนที่เหนื่อยอ่อนเช่นนี้ มันไม่ยุติธรรม!”

“วายุกระหน่ำ!”

“อ๊ากกกกก--”

ชนะต่อเนื่องห้าครั้ง!

ซือหยูชนะมาแล้วห้าครั้ง เขายังต้องชนะอีกสี่ครั้งก่อนที่เขาจะได้มงกุฎศักดิ์สิทธิ์!

เหลือเวลาอีกห้าชั่วโมงก่อนดยุคเซี่ยนหยูจะถูกประหาร!

แต่ซือหยูเหนื่อยล้าเต็มที ใบหน้าซีดเผือด เขาตบหน้าตัวเองอย่างแรงเพื่อคืนสติ

ผู้ชมต่างสับสนและเป็นห่วง เขาใช้พลังไปมหาศาล ยิ่งสู้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอ่อนแอลงเท่านั้น พลังของซือหยูอ่อนแอลงเรื่อยๆ

ศัตรูที่เขาเจอแต่ละคนยังแข็งแกร่งกว่าคนก่อนเรื่อยๆ ชัยชนะต่อเนื่องของซือหยูเริ่มห่างไกลความจริงขึ้นทุกขณะ

“เขาบ้าไปแล้วรึไง? เขาชนะมาแล้วห้าครั้งนะ!”

“ไม่รู้เหมือนกัน...เขาดูบ้าบิ่นไปหน่อย”

ผู้ตัดสินทนไม่ไหวอีกต่อไป

“ซือหยู พักหนึ่งชั่วยามเดี๋ยวนี้!”

เขาสั่ง

ซือหยูปฏิเสธ เขาลากร่างกายอันเหนื่อยอ่อนไร้ซึ่งพลังไปยังขอบลานประลองและชี้คนที่หก

“เซี่ยจิงหยู มาประลองกันเถอะ!”

เขาไม่มีเวลา! เวลาไม่เหลือแล้ว!

ดยุคเซี่ยนหยูกำลังจะถูกประหาร...หัวใจของเขาร้อนรุ่มไปด้วยเพลิงและเหนื่อยอ่อนเต็มที่

นอกจากซือหยู เซี่ยจิงหยูก็มีพลังต่อสู้มาถึงสิบอันดับแรกเช่นกัน แม้นางจะยังไม่มีพลังถึงระดับหกก็ตามที

นั่นหมายความว่าเซี่ยจิงหยูมีพลังที่เหนือกว่าคนทั่วไป พลังของนางโดดเด่นกว่าผู้อื่น

สายตาสดใสของเซี่ยจิงหยูเห็นเพียงร่างซือหยูที่อ่อนล้า แม้เขาจะอ่อนแอ เขาก็ยังฝืนตัวเอง

ความจดจ่อ ความปากแข็งและสภาพร้อนรนของเขาเข้าถึงหัวใจของนาง

คุ้มแล้วหรือกับการต่อสู้เพื่อตอบแทนบุญคุณ? เซี่ยขิงหยูคิดว่าไม่คุ้มค่าที่ซือหยูต้องมาทรมานตนเองเช่นนี้

แต่ในใจนางก็ดีใจมาก...ที่ได้พบกับบุรุษที่ยอมสละชีวิตเพื่อเรื่องเช่นนี้

ฟึ่บ--

นางกระโดดขึ้นลานประลองและมองซือหยูอย่างสุดซึ้ง นางส่งสีหน้าให้กำลังใจ

หลังจากนั้นนางก็หันกลับไปกระโดดออกจากลานประลอง ไม่มีใครรู้ว่านางทำอะไรอยู่

ผู้ตัดสินยืนนิ่ง

“เซี่ยจิงหยูยอมแพ้ ซือหยูชนะต่อเนื่องหกครั้ง!”

เขาประกาศ

ซือหยูอบอุ่นใจ ความเคารพรักผุดขึ้นมาในใจของเขาพร้อมกับความสำนึกในบุญคุณ

ถึงคราวดงหลิน

ดวงตาของเขาทั้งโกรธและไม่พอใจ

ตอนที่ดงหลินแพ้ตู้หยุนเทียนนั้นเป็นเวลาเดียวกับที่ซือหยูชนะหนานเฟย

นี่เท่ากับบอกว่าดงหลินอ่อนแอกว่าซือหยู!

และเขายังสังเกตเห็นอีกว่าองค์ชายสามได้มุ่งหวังทั้งหมดยังซือหยู ความคาดหวังที่เคยอยู่กับเขา...ดงหลินผู้นี้!

เขาร้อนรนด้วยความโกรธและความไม่พอใจ

ตามจริงหากเทียบพลังกันแล้วดงหลินจะแกร่งกว่าหนานเฟย

เพราะยังไงเขาก็มีวิชาบ่มเพาะขั้นสูงขณะที่หนานเฟยมีเพียงวิชาขั้นกลาง

“ซือหยู! ข้าจะประลองกับเจ้า! อยากจะรู้นักว่าเจ้าจะแกร่งกว่าข้าได้ยังไง!”

ดงหลินลุกขึ้นทันที แววตาเต็มไปด้วยการหยามเหยียด

ซือหยูมีแค่วิชาขั้นกลาง จะสู้กับข้าได้ยังไง?

Banshee

ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด