ตอนที่แล้วDND.54 - บุรุษแห่งราชันย์อสูร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.56 - พยานปาฏิหาริย์

DND.55 - การต่อสู่แห่งเกียรติยศ


เป็นครั้งแรกที่องค์ชายหนึ่งกลัวพลังและความแน่วแน่ของซือหยู เขาไม่ควรแตะต้องดยุคเซี่ยนหยูเลย!

แต่เพราะกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ องค์ชายหนึ่งมิอาจรอดพ้นจากไฟแค้นของซือหยูไปได้

ความชิงชังของซือหยูฝังรากลึกมิเสื่อมคลาย

ในวันนั้นซือหยูได้สาบาน....หากเขาไม่ฆ่าองค์ชายหนึ่ง ถือว่าเขามิใช่คน สวรรค์ฟ้าดินต่างเป็นพยานกับคำสัตย์นั้น จนถึงตอนนี้ องค์ชายหนึ่งยังได้ยินคำสาบานนั้นก้องอยู่ในหัว

เขามีเพียงแผนการเดียว คือป้องกันมิให้ซือหยูได้เป็นสิบอันดับแรก หากเขาล้มแล้ว ผลที่ตามมาคงจะสาหัสเป็นแน่!

“ตู้หยุนเทียน ถ้าเจ้าประลองกับซือหยู อย่าออมมือและอย่าให้มันรอดไปได้!”

องค์ชายหนึ่งเต็มไปด้วยจิตสังหาร

ตู้หยุนเทียนขมวดคิ้วและพยักหน้าช้าๆ

“ข้าเข้าใจแล้ว ประลองกันเมื่อไหร่เขาจะต้องตาย!”

แม้การฆ่าคนจะเป็นข้อห้ามในงานประชุมศักดิ์สิทธิ์ แต่ตู้หยุนเทียนนั้นมีพลังสูงกว่าผู้อื่นมาก และผู้รับใช้เพลิงยังเป็นอาจารย์ของเขา หากเขาบังเอิญสังหารซือหยู...ใครกับจะกล้าสืบเรื่องนี้?

ดวงตาที่หม่นหมองขององค์ชายสามเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ

“หลินเสี่ยว นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?”

ตอนที่ซือหยูสู้กับหลินเสี่ยว วายุกระหน่ำยังไม่แข็งแกร่งขนาดนี้

หลินเสี่ยวตัวแข็งทื่อ เขายังคงไม่เชื่อสายตา

“หรือซือหยูจะออมมือตอนที่ใช้วายุกระหน่ำตอนนั้น?”

หัวใจแหลกสลายขององค์ชายสามกลับมามีความหวังอีกครั้ง ถ้าหากซือหยู…

องค์ชายสามปลอบใจตัวเองและมองซือหยู

ที่ลานประลอง หนานเฟยประหลาดใจขึ้นเรื่อยๆ

การประลองนี้ยาวนานกว่าสามชั่วโมงแล้ว แม้เขาจะมีพลังกายมาก หนานเฟยก็รู้สึกเหนื่อย

ซือหยูกระโดดไปมาในลานประลองและดูมีพลังยิ่งกว่าหนานเฟย!

เจ้าเด็กนี่คือสัตว์อสูรกลับชาติมาเกิดหรือไงกัน? เหตุใดร่างกายจึงแปลกประหลาดเช่นนี้?

ทันในนั้นซือหยูก็หยุดนิ่ง

ร่างกายของเขาปกคลุมด้วยหมอกเย็น พลังชีวิตโอบล้อมหัวใจของเขาและสั่นสะเทือนคลื่นพลังออกมา

แกร๊ก--

ซือหยูตื่นขึ้นจากพลัง เขาไม่หลงเหลือความแคลงใจในวิชาอีกแล้ว เขาลืมตาขึ้นและพื้นที่เท้าเขาเหยียบก็เกิดเสียงน้ำแข็งแตกออก

ร่างของซือหยูปกคลุมด้วยรังสีพลังที่แข็งแกร่งกว่าที่เขาเคยรู้สึก

ซือหยูเงยหน้ามองหนานเฟย

“ขอบคุณพี่หนานเฟยที่ทำให้ข้าสมหวัง”

หนานเฟยหัวเราะด้วยความโกรธเกรี้ยว

“เจ้าใช้ข้าเป็นที่ลับฝีมืองั้นรึ! ถ้าเช่นนั้น! ข้าจะไม่ออมมืออีกแล้ว!”

ตำแหน่งราชันย์อสูรที่หนานเฟยได้มาย่อมต้องไม่ได้มาจากระดับกลางเพียงอย่าเดียว เขามีวิชาอื่นซ่อนเอาไว้อยู่แล้ว

“ระวังให้ดี วิชาต่อไปคือวิชาเฉพาะของข้า!”

หนานเฟยเงียบขรึม เขาเริ่มจริงจังแล้ว

“ดัชนีกระบี่สวรรค์!”

นิ้วของเขากลายเป็นคมกระบี่ที่ยาวพอจะแทงทะลุเมฆาเบื้องบน!

อากาศถูกกรีดส่งเสียงโหยหวนราวกับทนพลังของกระบี่มิได้!

ผู้รับใช้เพลิงลูบคาง

“วิชาบ่มเพาะขั้นสูงระดับหนึ่งขั้นกลางงั้นรึ...แกร่งกว่าวิชาของดงหลินซะอีก”

ผู้ประเมินสำนักจื่อฉวนเต็มไปด้วยความภูมิใจ

ซือหยูยิ้ม เขากลับรู้สึกยินดีแทนที่จะกลัว

“วายุกระหน่ำ!”

เขาเตะผ่าประตูแห่งวายุหิมะ ลมเหมันต์พัดไปทั่วทุกทิศทางราวกับเกล็ดหิมะที่กำลังกลืนกินฟ้าดิน วายุหิมะปกคลุมตัวซือหยูทำให้มองเห็นตัวยากมาก

วายุหิมะมีทั้งน้ำแข็งและหิมะที่นำพาจุดจบของโลก!

เกิดเสียงดังไปทั่วลานประลอง

ท่ามกลางวายุหิมะมีเสียงสายลมกรีดร้องที่ทำให้คนดูตัวสั่น!

ลานประลองกว่าครึ่งปกคลุมไปด้วยวายุหิมะที่แช่แข็งทุกสรรพสิ่ง!

ผู้รับใช้เพลิงยังคงไม่ใส่ใจ

“เขาบรรลุวิชาบ่มเพาะระดับกลางในขณะที่ต่อสู้ สติปัญญาของเขานับว่ายอมรับได้”

ผู้ประเมินทั้งสิบสองตกตะลึง

มีเพียงฟางหยุนที่เหงื่อแตกพลั่ก เขารู้สึกผิดบาปยิ่งที่ไม่สังหารซือหยูตั้งแต่อยู่ในสำนัก

หากผู้รับใช้เพลิงรู้อดีตของซือหยูแล้วเขาจะไม่ตกที่นั่งลำบากหรือ?

องค์ชายหนึ่งสีหน้าจริงจัง

“ตู้หยุนเทียน เจ้ามั่นใจว่าจะฆ่าซือหยูได้ใช่ไหม?”

“ข้าฆ่ามันได้ในดาบเดียว!”

การต่อสู้ดำเนินต่อไป

ดัชนีกระบี่ของหนานเฟยและลูกเตะของซือหยูเข้าปะทะกัน!

ตู้ม ตู้ม!

อ๊ากกก--

หนานเฟยกรีดร้อง ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งสีขาวเปล่งประกาย เขาถอยไปสิบก้าว

ซือหยูยังคงอยู่ในวายุหิมะ เขาถอยหลังไปสิบก้าวเช่นกัน

การประลองนี้ช่างสูสียิ่งนัก!

ซือหยูมีพลังทัดเทียมกับราชันย์อสูร!

“เป็นไปได้ยังไง? ซือหยูเทียบกับข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ มันจะสูสีกับหนานเฟยได้ยังไง?”

ดงหลินที่มีแผลเหวอะหวะบนอกมองอย่างไม่เชื่อสายตา

ดวงตาเซิงยี่หลินหม่นหมอง เขาไม่คิดว่าซือหยูคือศัตรูที่คู่ควรจนถึงตอนนี้!

ดวงตาขององค์ชายสามเปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง...ยิ่งกว่าตอนที่ดงหลินประลอง!

ซือหยู...แกร่งกว่าดงหลิน!

หนานเฟยหน้าถอดสี วิชาระดับสูงของเขาถูกลบล้างโดยวิชาระดับกลาง!

ผู้รับใช้เพลิงยังคงไร้อารมณ์

“แม้หนานเฟยจะได้วิชาระดับสูง เขาก็ยังขาดความเข้าใจ ซือหยูฝึกวิชาขั้นกลางจนถึงระดับสูง ประกอบกับร่างกายอันยอดเยี่ยม...เป็นปกติที่พวกเขาจะต้องทัดเทียมกัน”

จุดอ่อนของหนานเฟยถูกเปิดเผยในการประลองครั้งนี้…

หนานเฟยมิได้เข้าใจวิชาระดับกลางอย่างถ่องแท้แต่กลับบ่มเพาะวิชาขั้นสูงเสียก่อน นั่นทำให้เขาปราบซือหยูไม่ลง

“ข้ายอมแพ้”

หนานเฟยเดินออกจากลานประลอง แม้ขอบเขตพลังจะมากกว่าซือหยู พวกเขาก็เสมอกัน แม้จะไม่มีผู้ชนะที่แท้จริงแต่ซือหยูก็ได้ชื่อเสียงไปแล้ว ขณะที่หนานเฟยเสียศักดิ์ศรีไปบ้าง

“ขอบคุณพี่หนานเฟย”

ซือหยูประสานมือขอบคุณ

หนานเฟยมองเขาอย่างมืดหม่น

“ยังเร็วไปที่เจ้าจะดีใจ ถึงรอบสิบคนเมื่อไหร่ข้าจะประลองกับเจ้าอีกครั้ง”

ด้วยพลังของหนานเฟย ไม่ยากที่เขาจะขึ้นสิบอันดับแรก การแพ้ซือหยูครั้งนี้มิได้มีผลมากสำหรับเขา เขายังคงมีโอกาสต่อสู้เพื่อแย่งสิบอันดับแรก

“หมายเลขเก้า ซือหยูชนะ!”

ผู้ตัดสินประกาศอย่างนับถือ ชัยชนะของซือหยูมิมีข้อโต้แย้งใดๆ

หลายคนคิดว่าชะตาลิขิตให้ซือหยูได้เป็นผู้ติดตามแห่งวิหารแล้ว

หากซือหยูเลิกคิดล้างแค้น...แม้เขาจะยอมแพ้ในรอบสิบคน...เขาก็ยังนับเป็นสิบผู้มีพรสวรรค์ เพียงเท่านี้เขาก็มีสิทธิ์เข้าสู่วิหาร...แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนับล้านปรารถนาจะเข้าไปให้ได้ และในที่สุดเขาจะได้เป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างหาตัวจับยาก

แต่ถ้าหากซือหยูมิได้ฆ่าองค์ชายหนึ่ง...เขาจะไม่มีวันได้เป็นบุรุษที่แท้จริง

มาถึงขั้นนี้...เขายังมีโอกาสที่จะได้อันดับหนึ่งและฆ่าองค์ชายหนึ่ง!

ความรู้สึกมีชัยขององค์ชายหนึ่งกระเจิงไปหมด

แม้ซือหยูจะยอมแพ้และปฏิเสธการประลอง แม้เขาจะไม่ล้างแค้นวันนี้ ซือหยูก็ยังคงมีโอกาสเข้าสู่วิหาร หากซือหยูไปฝึกในวิหารแล้วไซร้...เขาจะแข็งแกร่งอย่างมาก...แล้วองค์ชายหนึ่งจะปกป้องตนเองจากซือหยูในตอนนั้นได้อย่างไร? และถ้าหากซือหยูได้ไปบ่มเพาะในวิหารก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะส่งมือสังหารไปจัดการซือหยู

หากซือหยูเข้าสู่วิหารแล้ว แม้องค์ชายหนึ่งจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์หรือไม่...เขาจะไม่ได้มีชีวิตอย่างสงบสุขอีกต่อไป

“ไม่นะ! เขาจะต้องประลองกับหยุนเทียน! เขาต้องตายก่อนจะได้เข้าวิหาร! แต่ข้าจะบังคับให้มันประลองกับหยุนเทียนได้ยังไง?”

องค์ชายหนึ่งหรี่ตา

“มันเกลียดข้ามิใช่รึ? ถ้างั้นก็จงชิงชังข้าให้มากกว่าเดิมซะเถอะ แบบนั้นเขาจะได้ประลองกับหยุนเทียนแน่!”

องค์ชายหนึ่งยิ้มราวกับปีศาจ

เขาส่งคำสั่งให้ลูกน้องที่เชื่อถือทันที ทหารคนนั้นวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ครึ่งวันผ่านไปคนขององค์ชายสามได้แอบส่งกระดาษให้หลินเสี่ยว

หลินเสี่ยวอ่านข้อความในกระดาษและสั่นกลัว เขาส่งให้องค์ชายสามทันที

หลังจากอ่านข้อความองค์ชายสามก็ชักสีหน้าทันที เขาเต็มไปด้วยความโกรธ

“มัน! มันทำเช่นนี้ได้ยังไง!”

ในแผ่นกระดาษมีเพียงประโยคเดียว

“ดยุคเซี่ยนหยูจะถูกเลื่อนมาประหารในคืนนี้!”

ข้อมูลนี้ได้มาจากสายลับขององค์ชายสามในคุกสวรรค์

หลินเสี่ยวโกรธแค้น

“องค์ชายหนึ่งกลัวซือหยูแล้วเลื่อนการประหารดยุคเซี่ยนหยู เขาจะได้ไม่ต้องกังวลกับปัญหาใดอีก!”

ในตอนนั้นการประลองของ 15 คนได้จบลง เหลือสิบผู้มีพรสวรรค์ที่กำลังเตรียมตัวพร้อมกับแววตาริษยาจากเหล่าคนดูที่จับจ้อง

พวกเขามีเวลาพักครึ่งชั่วโมง...และรอบสุดท้ายจะเริ่มขึ้น!

ซือหยูกลับไปหาองค์ชายสาม เขารู้สึกถึงท่าทางแปลกๆขององค์ชาย หลินเสี่ยวก้มหน้ามิกล้ามองซือหยู

จะต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น

“องค์ชายสาม...เกิดอะไรขึ้น?”

ซือหยูถามเสียงเบา

องค์ชายลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

“ซือหยู ข้าหวังว่าหลังจากเจ้ารู้เรื่องนี้...เจ้าจะยังคงใจเย็นอยู่ได้”

“ดยุคเซี่ยนหยู...จะถูกประหารคืนนี้”

องค์ชายสามมิอาจปกปิดความจริง

องค์ชายหนึ่งแอบจับดยุคเซี่ยนหยูที่กำลังป่วยหนักสู่ฝ่ายปกครองแคว้น แม้องค์ชายสามอยากจะช่วย...เขาก็มิอาจทำสิ่งใดได้

ปกติการประหารจะเกิดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ดยุคเซี่ยนหยูกำลังจะถูกประหารคืนนี้ องค์ชายหนึ่งจัดการได้เร็วมาก

“อะไรกัน…?”

ซือหยูรู้สึกราวกับถูกทุบตีอย่างแรง เขารู้สึกว่าโลกทั้งใบแหลกสลาย

ดยุคเซี่ยนหยูกำลังจะถูกประหารเช่นนั้นหรือ?

ตั้งแต่ซือหยูรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่...หัวใจอันเย็นชาของเขาอบอุ่นไปด้วยความหวัง

แต่ทำไมเขาจะต้องถูกประหารในคืนนี้ด้วย?

ข่าวนี้กระทบจิตใจของซือหยูอย่างมาก

ตามแผน ซือหยูจะได้มงกุฎศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้เขาสังหารองค์ชายหนึ่งทันเวลาเพื่อคืนความยุติธรรมแก่ดยุคเซี่ยนหยู

ข่าวนี้ไม่ตรงกับที่ซือหยูคิดได้เลย!

พ่อตา..กำลังจะถูกประหารคืนนี้! ใจซือหยูสั่นไม่เป็นจังหวะ

“องค์ชายหนึ่ง!”

ดวงตาซือหยูเต็มไปด้วยจิตสังหารที่ทั้งหมดพุ่งไปยังองค์ชายหนึ่ง

องค์ชายหนึ่งนิ่งราวกับไม่สนใจจิตสังหารจากซือหยู

ฟึ่บ---

มีเงามาปรากฏที่ข้างองค์ชายหนึ่ง

เป็นองครักษ์ที่มีพลังระดับหก...สามคน

ตู้หยุนเทียนไปข้างองึ์ชายหนึ่งและมองซือหยู

“หากเจ้าอยากตาย...ข้าจะทำให้อย่างที่หวัง!”

องค์ชายหนึ่งมีองครักษ์ปะปนอยู่กับคนดู เขาเบิกบานใจยิ่ง

เจ้าจะพูดอะไรก็พูดไป...แต่จะทำอะไรข้าได้?

กษัตริย์ในอนาคตเช่นเขามีผู้แข็งแกร่งข้างกายนับไม่ถเวน ซือหยูทำได้เพียงยอมจำนน!

ซือหยูข่มใจไม่ให้ระเบิดความโกรธออกมา เขาพยายามใจเย็นและฝืนใจอดทน!

เขาฝืนทนต่อดวงใจที่เต็มไปด้วยความชิงชัง

หากเขาลงมือตอนนี้จะถือว่าเป็นการลบหลู่งานประชุมศักดิ์สิทธิ์ แม้คนขององค์ชายหนึ่งจะไม่ได้ทำอะไร...คนจากวิหารก็จะสังหารซือหยูทันที!

ซือหยูหายใจเข้าออกช้าๆ อกของเขาขยายกว้างและหดลีบ ในใจเต็มไปด้วยความโกรธเหลือคณานับพร้อมกับจิตสังหารที่พร้อมปะทุตลอดเวลา

เขานีกถึงในวันนั้น เพื่อที่จะช่วยเขาและเซี่ยนเอ๋อ ดยุคเซี่ยนหยูสละชีวิตตนเองและถูกกลืนกินโดยเพลิงพิโรธ ซือหยูยังจำใบหน้าเปื้อนน้ำตาของดยุคก่อนจะถูกเพลิงแผดเผาได้ขึ้นใจ...มันสลักฝังลึกในใจซือหยูมิเสื่อมคลาย

ซือหยูทั้งเศร้าโศกและเดือดดาลใจ

เขาจะไม่ยอมให้เรื่องเศร้าสลดเช่นนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว!

Banshee

ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด