ตอนที่ 97 ชี้แนะสั่งสอน
เสียงดาบปะทะกันดังขึ้น และหนานกงจื้อได้ถูกทำให้ล่าถอยไป มันจ้องมองอย่างดุร้ายมายังหลิงฮันและพูด “เจ้าเป็นใครกันถึงได้กล้ามายุ่งเรื่องของคนขึ้น? เจ้าไม่รู้หรือไงว่าการแทรกแซงการประลองเป็นสิ่งที่ฝ่าฝืนกฎอย่างร่ายแรง?!”
หลิงฮันยิ้มและพูด “เขาไม่สามารถสู้ต่อไปได้ ดังนั้นการประลองนี้จึงถือว่าจบแล้ว” อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าอยากจะประลองกับข้า ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสั่งสอนเจ้า”
หนานกงจื้อจ้องมองอย่างเกรี้ยวกราด ชูหวู่จิวสามารถสร้างปราณดาบขึ้นมาได้แล้ว สักวันหนึ่งเขาอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับมันก็ได้ และมันคิดว่าตั้งแต่แรกแล้วว่าจะทำให้ทุกอย่างจบลงในวันนี้ มันไม่เคยคิดเลยว่าการประลองจะถูกหลิงฮันเข้ามาแทรกแซง
“เจ้าหนู พวกคนที่ชอบมายุ่งเรื่องคนอื่นมักจะมีจุดจบที่ไม่ดี!” มันพูดขู่หลิงฮัน ตอนนี้มันคงไม่สามารถสังหารชูหวู่จิวได้แล้ว ดังนั้นภายในใจมันจึงเต็มไปด้วยความโกรธ
“เจ้ามาประลองกับข้า ถ้าไม่งั้นก็ไสหัวไป ไม่ต้องพล่ามอะไรมากมาย!” หลิงฮันพูดอย่างดูถูก
หนานกงจื้อมีท่าทางโกรธเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายมันก็สะบัดมือและเดินจากไป
จากสัมผัสการโจมตีเมื่อครู่ของหลิงฮัน มันจึงรู้ว่าอีกฝ่ายต้องไม่อ่อนแอกว่ามันแน่นอน ยิ่งกว่านั้น มันยังเป็นคนที่ระมัดระวังตัวและจะไม่ต่อสู้ในการประลองที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ในเมื่อมันไม่สามารถสังหารชูหวู่จิวได้แล้ว มันเลยเลือกที่จะเดินจากไป
แต่หากดูจากนิสัยของมันแล้ว เรื่องนี้ต้องไปจบง่ายๆแน่นอน มันจะต้องไปตรวจสอบเบื้องหลังของหลิงฮันให้ดีเสียก่อน จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะลงมืออย่างไร
“หมอนั่นคือใครกัน ถึงได้กล้าต่อต้านหนานกงจื้อ?”
“คงจะเป็นหนึ่งในศิษย์ใหม่ปีนี้ล่ะมั้ง?”
“ดูจากกลิ่นอายของเขาแล้วคงจะอยู่ที่ระดับรวมธาตุขั้นห้าเท่านั้น แต่กลับทำให้หนานกงจื้อกลัวได้ แปลกจริงๆ”
“อย่างไรก็ตาม ตระกูลหนานกงไม่ใช่สิ่งที่จะไปล่วงเกินได้ แถมยังมีหนานกงฉิงที่เป็นศิษย์ที่แท้จริงด้วยของสำนักด้วย!”
“เอาเถอะ พวกเราพยายามอย่าเข้าไปใกล้เขามากจะดีกว่า ไม่งั้นพวกเราอาจจะมีปัญหาก็ได้”
ผู้ชมพูดคุยกันอย่างคึกคัก และรีบแยกย้ายกันออกไปจากสนามฝึกซ้อม
ชูหวู่จิวค่อยๆพยายามลุกยืนขึ้นมา ร่างกายพิเศษของเผ่าจันทราสีเงินนั้นสุดยอดเป็นอย่างมาก บาดแผลสาหัสที่มันได้รับ ขอเพียงแค่นอนพักเป็นเวลาสั้นๆก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้แล้ว แต่แน่นอนว่าความเร็วในการฟื้นฟูระดับนี้เทียบไม่ได้กับคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์แม้แต่น้อย
อย่างแรกเลยเพราะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เป็นทักษะระดับที่สูงมาก และอย่างที่สองคือชูหวู่จิวยังอ่อนแอเกินไปจนไม่สามารถใช้ศักยะภาพของร่างกายที่มีอยู่ได้เต็มที่
“ทำไมเจ้าถึงช่วยข้า?” ชูหวู่จิวพูดออกมา “เจ้าไม่กลัวว่าจะมีปัญหากับตระกูลหนานกงรึไง?”
“ไม่คิดว่าข้าจะช่วยเจ้าเพราะทนเห็นความไม่ยุติธรรมที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าไม่ได้รึไง?” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้าไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะมีคนที่ไร้เดียงสาขนาดนั้น!” ชูหวู่จิวส่ายหัว “ข้ามีชีวิตที่ยากจน ดังนั้นเจ้าคงไม่ได้รับอะไรที่มีค่าไปจากข้า ข้าแนะนำว่าอย่าเปลืองแรงของเจ้าเลยดีกว่า”
“เช่นนั้น...” หลิงฮันคิดอยู่ชั่วขณะ “มาเป็นผู้ติดตามของข้าซะ”
“สำหรับความช่วยเหลือของเจ้าในวันนี้ สักวันข้าจะชดใช้คืนแน่นอน!” ชูหวู่จิวหันหน้าและเดินจากไป เห็นได้ชัดว่ามันไม่อยากจะเป็นผู้ติดตามของหลิงฮัน
ผู้คนที่สามารถเข้าร่วมกับสำนักฮูหยางได้ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะ พวกเขาจะเต็มใจเป็นเบี้ยล่างของคนอื่นได้อย่างไร?
หลิงฮันไม่ได้ได้ตามไป แต่พูดออกมาอย่างสงบนิ่ง “เจ้าไม่อยากล้างแค้นแล้วรึไง?”
ชูหวู่จิวหยุดชะงักชั่วขณะ
“ข้าสามารถชี้แนะเจ้าได้!” หลิงฮันพูดต่อ “ภายในครึ่งปี ข้าจะช่วยให้เจ้าอยู่เหนือหนานกงจื้อและเจ้าจะได้แก้แค้นด้วยมือของเจ้าเอง!”
ชูหวู่จิวหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็วและพูด “จริงรึ?”
“เจ้าพูดเองว่าเจ้ามีชีวิตที่ยากจน แล้วข้าจะได้อะไรจากการโกหกเจ้า?” หลิงฮันยิ้มออกมา
ชูหวู่จิวลังเลอยู่ชั่วขณะและพูด “ก็ได้ ข้าจะยอมเป็นผู้ติดตามของเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่สามารถช่วยให้ข้าอยู่เหนือหนานกงจื้อได้ภายในครึ่งปี ก็ถือเสียว่าการที่ข้าเป็นผู้ติดตามของเจ้าครึ่งปีเป็นการตอบแทนที่เจ้าช่วยข้าไว้ก่อหน้านี้ แต่ถ้าเจ้าสามารถทำได้ ชีวิตข้าจะเป็นของเจ้า!”
หมอนี่เป็นคนที่จงรักภักดีเป็นอย่างมาก การเป็นผู้ติดตามหลิงฮันไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย แต่กลับกัน มันคือโอกาสครั้งใหญ่ของชีวิตมันเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะหลิงฮันเป็นสหายกับราชาจันทราสีเงินที่หลายหมื่นปีก่อน เขาคงจะไม่มาพยายามทำอะไรที่เสียเวลาแบบนี้
“อืม!” หลิงฮันพยักหน้าและพูด “ข้าจะสอนทักษะบ่มเพาะให้เจ้า ต่อจากนี้เจ้าจะต้องเปลี่ยนมาฝึกฝนทักษะบ่มเพาะอันนี้”
เขาพูดด้วยเสียงต่ำและสอนทักษะบ่มเพาะให้ชูหวู่จิว มันคือทักษะบ่มเพาะที่เรียกว่า ทักษะจันทราเงิน
ถูกต้องแล้ว มันคือทักษะที่สร้างขึ้นมาเพื่อเผ่าจันทราสีเงินโดยเฉพาะ
หลายหมื่นปีก่อน หลังจากที่เผ่าจันทราสีเงินล่มสลายไป และหลิงฮันมีพลังบ่มเพาะที่สูงแล้ว เขาได้เดินทางไปทั่วเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตของเผ่าจันทราสีเงิน เขาไม่พบเจอใครทั้งสิ้น แต่เขาได้พบเข้ากับสุดยอดทักษะอันล้ำค่าของเผ่าจันทราสีเงินแทน นั่นคือทักษะจันทราเงิน
เขามีความทรงจำที่เป็นเลิศ ในตอนนั้นเขาเพียงแค่เปิดอ่านทักษะผ่านๆเท่านั้น แต่ก็สามารถจดจำมันได้ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถนำมาสอนชูหวู่จิวในตอนนี้ได้
ทักษะจันทราเงิน เมื่อถูกใช้โดยคนของเผ่าจันทราสีเงินอย่างเช่นชูหวู่จิว มันจะช่วยให้แสดงศักยะภาพของร่างกายพิเศษออกมาได้อย่างเต็มที่ อย่างน้อยมันจะช่วยให้คนคนนั้นมีพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นมาหนึ่งดาว ยิ่งกว่านั้น ทักษะจันทราเงินคือทักษะบ่มเพาะระดับปฐพีขั้นสูง มันเพียงพอแล้วที่จะช่วยให้พลังบ่มเพาะของชูหวู่จิวไล่สามารถไล่ตามหนานกงจื้อทันได้
กายาจันทราเงินกับปราณดาบ ถ้าทั้งสองอย่างนี้ถูกใช้รวมเข้าด้วยกันแล้ว แต่ชูหวู่จิวก็ยังไม่สามารถโค่นหนานกงจื้อลงได้ งั้นก็แสดงว่ามันเป็นคนที่ไร้พรสวรรค์อย่างมาก
ชูหวู่จิวไม่รู้ว่านี่คือทักษะบ่มเพาะระดับปฐพีขั้นสูง และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทักษะนี้จะช่วยให้มันใช้ความสามารถของร่างกายพิเศษได้อย่างเต็มที่ หลังจากถามชื่อและที่พักของหลิงฮัน มันก็เดินจากไป
ตอนนี้มันได้รับบาดเจ็บอยู่ มันจึงต้องไปกลับไปฟื้นตัวก่อน
“เนื้อ! เนื้อ!” ฮูหนิวดึงชายเสื้อของหลิงฮันอย่างไม่พอใจ
“ก็ได้ ก็ได้ ไปหาเนื้อกินกันเถอะ!” หลิงฮันพูดพร้อมกับหัวเราะ
“หลิงฮัน!”
“น้องชายหลิง!”
หลิงฮันได้ยินคนตะโกนชื่อของเขามาจากที่ไกลๆ และเมื่อเขาหันไปมองดูก็เห็นสหายทั้งสี่ของเขาจากจากเมืองต้าหยวน พวกมันคือ ฉีฮวงเย่ จิงหวู่จื้อ ไป๋ลี่เถิงหยุน และหลีตงเย่
“น้องชายหลิงมาช้าเสียจริง วันนี้เจ้าต้องลงโทษตัวเองโดยการดื่มไวน์สามแก้ว” ไป๋ลี่เถิงหยุนพูด
“แค่สามแก้วจะไปพอได้อย่างไร อย่างน้อยมันต้องสิบแก้ว!” หลีตงเย่พูดหยอกเย้าเสริมขึ้นมา
“เนื้อ! เนื้อ! เนื้อ!” ฮูหนิวกระโดดขึ้นลงไปมา
หลิงฮันหัวเราะลั่นและพูด “ไปกันเถอะ วันนี้ข้าจะเลี้ยงอาหารพวกเจ้าเอง และถ้ายังไม่เมาพวกเจ้าห้ามกลับเด็ดขาด!”
“ถ้าไม่เมา จะไม่มีใครกลับแน่นอน!” ฉีฮวงเย่และคนอื่นๆหัวเราะ กลุ่มของพวกเขาเดินออกไปจากสำนัก และหาร้านอาหารเพื่อเริ่มกินดื่มอย่างสนุกสนาน
แต่ฉีฮวงเย่กับคนอื่นๆได้กลายเป็นเศร้าโศกอย่างรวดเร็ว เมื่อใดที่อาหารที่มีเนื้อถูกนำมาวาง มันจะถูกฮูหนิวเขมือบเข้าไปในทันทีโดยไม่เหลือเศษใดๆไว้ให้พวกมันแม้แต่น้อย พวกมันจึงได้เริ่มต่อสู้กับเพื่อแย่งชิงอาหาร แต่ถ้าหากกพูดถึงเรื่องกินแล้ว ใครกันจะสามารถแย่งอาหารได้เร็วกว่าฮูหนิว?
“ท้องของเด็กคนนี้คือหลุมดำใช่รึเปล่า?”
ฉีฮวงเย่และคนอื่นๆอดที่จะสงสัยไม่ได้ แต่ถึงแม้จะเป็นฉีฮวงเย่ก็ไม่สามารถจำได้ว่าเด็กสาวคนนี้คือคนเดียวกับที่อยู่ในลานประลองเมื่อตอนนั้น เพราะตอนนั้นผมของฮูหนิวกระเซอะกระเซิงและตัวสกปรกเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เหมือนตอนนี้แม้แต่น้อย ตอนนี้ถึงแม้นางจะยังมีนิสัยป่าเถื่อนอยู่ แต่นางก็น่ารักและงดงามราวกับตุ๊กตาตัวน้อย
“ข้าอิจฉาน้องชายหลิงจริงๆที่ได้เป็นศิษย์ที่แท้จริงตั้งแต่แรกเมื่อเข้าร่วมกับสำนัก เจ้าจะได้รับทรัพยากรบ่มเพาะนับไม่ถ้วน” หลีตงเย่พูดอย่างคร่ำครวญ
ฉีฮวงเย่พยักหน้าแล้วพูด “ความแตกต่างระหว่างศิษย์ที่แท้จริงกับศิษย์ธรรมดานั้นมีมากจริงๆ แต่ก่อนความต่างระหว่างข้ากับเฟิงหยางไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่ดูตอนนี้สิ... เฮ้อ!”
“องค์ชายสี่ ไม่ว่าจะยังไง อย่างน้อยเจ้าก็มีราชวงศ์ต้าหยวนคอยสนับสนุน เจ้ายังดีกว่าพวกเราทุกคนมากนัก” จิงหวู่จื้อพูดขึ้นมาทันที
“ใช่แล้ว ทรัพยากรบ่มเพาะจากราชวงศ์ต้าหยวนนั้นมากมายกว่าทรัพยาของพวกเราทั้งสี่รวมกันตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ถ้าเจ้ายังคร่ำครวญว่ายากจน แล้วพวกเราล่ะ?” ไป๋ลี่เถิงหยุนพูดตัดพ้อออกมา
“หลิงฮัน ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีความบาดหมางกับเฟิงหลัว ตอนนี้มันเองก็เข้าร่วมกับสำนักแล้ว เจ้าต้องระวังตัวให้มาก มันอาจจะขอให้เฟิงหยางมาจัดการกับเจ้าก็ได้” ฉีฮวงเย่พูดออกมา
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*