GE34 ช่วงชิงเพลิงกระดูกขาว
Chapter 34 ช่วงชิงเพลิงกระดูกขาว
เทพกษัตริย์เนี่ย...จ้าวแห่งโลกปีศาจ หากมันต้องการสังหารหานหยวนจี๋ เช่นนั้น ผู้ใดในแคว้นเยว่จะหยุดยั้งมันได้
ก่อนหน้านี้ชายชรามีความสุขที่ตนสามารถฟื้นคืนพลังดังเก่า แต่เมื่อมันโผล่มา ความสุขแปรเปลี่ยนเป็นโศกเศร้า
พลังปีศาจชั่วร้ายแผ่ออกมาจากประตูกระดูกยักษ์ กวาดไปทั่วทั้งเมืองฉีเหม่ย ทำให้ผู้คนในเมืองหมดสติ
3 องครักษ์ และผู้นำตระกูลทั้ง 4 ได้รับผลกระทบ จิตใจของทั้งหมดสั่นสะท้าน สมองมึนงงไม่ได้สติกระทั่งร่วงหล่นจากท้องฟ้า
จื่อเฮ่อและซื่อหวูเสียมีอาการมึนงงแต่ไม่หมดสติ ทำให้ยามนี้ทั้งเมืองฮีเหม่ยเหลือผู้ที่ได้สติเพียง 2 คนเท่านั้น
แต่นอกจากพวกนางแล้วยังเหลือหานหยวนจี๋ที่บาดเจ็บสาหัส และหนิงฝาน
ภายในดวงตาของหนิงฝานก่อตัวด้วยจิตสังหารของจักรพรรดิสวรรค์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ทำให้เทพกษัตริย์เนี่ยได้รับแรงกดดัน
หลังจากกรงเล็บขนาดยักษ์หยุดนิ่งไปชั่วครู่ แล้วมันก็เหยียดยื่นเข้าใส่ร่างของหานหยวนจี๋
ร่างกายที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้าของหานหยวนจี๋ไม่อาจต้านรับกรงเล็บยักษ์นั่นได้ หากชายชราถูกจู่โจม ชายชราไม่รอดแน่... แต่ไม่ว่ายังไง หนิงฝานก็ไม่อยากให้ชายชราตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้
“ขอบเขตไร้แบ่งแยก...”
จิตใจของหนิงฝานสั่นสะท้าน หนิงฝานไม่สามารถต้านรับการจู่โจมจากกรงเล็บยักษ์ได้ ด้วยการจู่โจมที่ทรงพลังเช่นนี้ หากเทพกษัตริย์เนี่ยต้องการ มันสามารถทำลายทั้งแคว้นเยว่ได้อย่างง่ายดาย
นี่คือชะตากรรมของโลกที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก... ต่อหน้าพลังที่รุนแรงไร้ที่สิ้นสุดเช่นนี้ หนิงฝานดูราวกับมดที่ถูกสายลมพัดพา
ในโลกพิรุณใบนี้มีผู้ฝึกตนอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่ผู้ที่ต้านรับกรงเล็บยักษ์นี้ได้มีเพียงหยิบมือ
สมองของหนิงฝานขบคิดอย่างรวดเร็ว ยามนี้หนิงฝานมีเพียงฝักกระบี่โบราณ หากอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก แค่ฝักกระบี่อาจจะจัดการได้
หนิงฝานกำฝักกระบี่ด้วยดวงตาที่แน่วแน่
ฝักกระบี่เล่มนี้ได้มาครั้งที่ประมูลผลไม้แห่งเต๋า และฝักกระบี่นี้ยังแฝงด้วยปราณกระบี่ของสตรีนางหนึ่ง
ปราณกระบี่ที่ทรงพลังภายในฝักกระบี่ หากหนิงฝานชักนำมันออกมาได้ เขาอาจต้านกรงเล็บยักษ์ที่กำลังจู่โจมมา!
หนิงฝานไม่คิดว่าวิธีนี้จะได้ผล!
ยามนี้หนิงฝานไร้ซึ่งความหวาดกลัว เพราะการล้มเหลวนั้นดีกว่าตาย
“หืม? ขอบเขตประสานวิญญาณที่เล็กจ้อยกลับกล้าต้านทานกรงเล็บของข้า ช่างไม่เจียมตัว...” น้ำเสียงเย้ยหยันดังออกมาจากประตูกระดูกยักษ์ ดังราวกับสายฟ้าฟาด
แต่หนิงฝานทำเป็นไม่ได้ยินและจดจ่ออยู่กับฝักกระบี่ในมือ
ยามนี้ภายในใจของหนิงฝานราวกับกำลังเชื่อมต่อกับบางสิ่งอย่างช้าๆ พลังงานสายหนึ่งซึ่งเป็นปราณกระบี่ทรงพลัง หลั่งไหลเข้ามาในร่างของหนิงฝาน
และทันใดนั้น หน้าอกของหนิงฝานราวกับถูกจู่โจมอย่างรุนแรง กระดูกซี่โครงหักทั้งหมด กระดูกแขนแตกละเอียด หนิงฝานกระอักโลหิตจนเกือบร่วงหล่นจากท้องฟ้า แต่ปราณกระบี่เริ่มทวีความรุนแรง ยามนี้ทั่วร่างของหนิงฝานเต็มไปด้วยบาดแผลและโลหิต
เส้นลมปราณของหนิงฝานเกือบถูกทำลาย ความเจ็บปวดแทรกผ่านไปยังจิตวิญญาณ เพียงแต่แววตาของเขากลับปรากฏเจตจำนงค์กระบี่ระดับไร้แบ่งแยก!
เทพกษัตริย์เนี่ยแห่งโลกปีศาจตกตะลึง มันคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ จะสามารถกระตุ้นเจตจำนงค์กระบี่ในระดับไร้แบ่งแยกได้
ไม่นานนักเทพกษัตริย์เนี่ยก็คืนสีหน้าสงบ เพราะมันรู้ว่าปราณกระบี่ไม่ได้มาจากหนิงฝาน แต่มาจากฝักกระบี่ เป็นพลังที่หยิบยืมมา
“ร่างกายมนุษย์ในขอบเขตประสานวิญญาณ แต่กับทนปราณกระบี่ระดับไร้แบ่งแยกได้ เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆ... แต่ก็น่าเสียดายที่ปราณกระบี่ไม่ใช่ของเจ้า ยังไงซะในสายตาของข้า เจ้ามันเป็นได้เพียงมด...เจ้าไม่มีทางช่วยหานหยวนจี๋ได้! เพราะกรงเล็บกระดูกขาวนี้ วิวัฒนาการมาจาก ‘เพลิงกระดูกขาว’...”
เพลิงพระดูกขาว เป็น 1 ใน 12 เพลิงชีพจรพิภพ เป็นเพลิงที่มีสีขาว เมื่อก่อตัวจะเกิดเป็นโครงกระดูกขาวที่ร้อนระอุ
เทพกษัตริย์เนี่ยเชื่อมั่นมากว่า กรงเล็บกระดูกขาวของมัน ต่อให้เป็นปีศาจเฒ่าในขอบเขตไร้แบ่งแยกจริงๆก็ยากจะต้านทานได้
แต่หนิงฝานไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น ยามนี้เขาผสานรวมเป็นหนึ่งกับปราณจากฝักกระบี่
ขณะที่หนิงฝานกำฝักกระบี่แน่น น้ำเสียงของสตรีที่โดดเดี่ยว แต่แฝงด้วยเจตนาสังหารก็ดังขึ้น
“ทวยเทพแห่งพิภพสวรรค์ล้วนเป็นเพียงมดปลวก... หากข้าฟาดฟันกระบี่ พวกเจ้าทั้งหมดก็ไม่รอด...”
ไม่นานนัก เงาภาพของสตรีฟาดฟันกระบี่ก็ปรากฏพร้อมกับฝักกระบี่ในมือของหนิงฝานที่ฟาดฟัน พลังงานภายในโลกถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังของกระบี่ ด้วยอำนาจของกระบี่ฟาดฟัน การจู่โจมที่เทพกษัตริย์เนี่ยภาคภูมิก็ถูกทำลายหมดสิ้น! นี่เป็นครั้งแรกที่เทพกษัตริย์เนี่ยยากจะสยบใจได้อีก
“ปราณกระบี่อะไรกัน... ผ่านพ้นกาลเวลามาหลายหมื่นปี พลังของมันสมควรสูญสลาย แต่มันกลับทรงพลังอย่างคาดไม่ถึง... หากนายของปราณกระบี่ยังคงอยู่ ข้าคงไม่อาจรับกระบี่ได้... เป็นเพียงมดในขอบเขตประสานวิญญาณแต่กลับใช้ปราณกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวได้ เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าก็ทำได้เพียงหยุดการจู่โจมแรกของข้าได้เท่านั้น!”
เมื่อครู่กระบี่ที่แฝงพลังของโลกได้ทำลายกรงเล็บกระดูกขาวโดยสมบูรณ์ เพียงแต่กรงเล็บกระดูกขาวนั่นแปรเปลี่ยนมาจากเพลิง ต่อให้หนิงฝานทำลาย มันก็แปรสภาพกลับเป็นเพลิงเช่นเดิม ส่วนปราณกระบี่ของหนิงฝาน หลังจากใช้กระบวนท่าจู่โจมเมื่อครู่ ปราณกระบี่ก็สลายหายไปจนหมด หนิงฝานถูกบังคับถอยจากแรงกระบี่ไปไกลกว่าร้อยก้าวก่อนจะหยุดแรงผลักดันได้อย่างมั่นคง แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานไม่สามารถพยุงกายได้จนต้องคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ผู้นำศาลาไร้ธรรมคาดว่าหนิงฝานต้องได้หยิบยืมปราณกระบี่ภายในฝักกระบี่ที่หนิงฝานครอบครอง ปราณกระบี่ที่คั่งค้างอยู่นี้รุนแรงพอจะจู่โจมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตไร้แบ่งแยกได้ แต่ยามนี้หนิฝานใช้มันไปแล้ว เขาไม่อาจหยิบยืมปราณกระบี่จากมันได้อีก
การหยิบยืมพลังที่รุนแรง ร่างกายที่บรรลุเพียงขอบเขตประสานวิญญาณจึงต้องแลกด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส แต่หนิงฝานยังคงมีความสุข
แล้วการจู่โจมต่อไป หนิงฝานจะต้านรับได้อย่างไร?
ในยามนั้นเอง ยักษ์ในชุดเกราะดำที่สูงกว่า 1000 จ้างก้าวเดินออกมาจากประตูกระดูกยักษ์ แรงกดดันของมันแผ่ไปทั่วโลกพิรุณ เพลิงสีขาวลุกโหม สายลมที่รุนแรงพัดพาเข้าใส่หนิงฝาน
ยักษ์ที่ปรากฏคือเทพกษัตริย์เนี่ยแห่งโลกปีศาจ!
ร่างกายของมันสูงใหญ่ ดวงตาดูราวกับดวงตะวันและจันทรา ลมหายใจทำให้เมฆสั่นกระเพื่อม ท้องนภาปรากฏรอยปริแตกมากมาย พื้นดินสั่นสะเทือน เมืองฉีเหม่ยสั่นไหวอย่างรุนแรง
มันควบคุมเพลิงกระดูกขาวให้กลายเป็นทะเลเพลิงถาโถมเข้าใส่หนิงฝาน
แต่ก่อนที่เพลิงกระดูกขาวต้องสัมผัสกายหนิงฝาน หนิงฝานกลับต้องตกตะลึงกับการปรากฏตัวของเทพกษัตริย์เนี่ย
ยักษ์! ยักษ์ที่มีขนาดตัวใหญ่เท่าเมืองเป็นศัตรูกับอาจารย์!
หานหยวนจี๋คงอยู่ในขอบเขตไร้แบ่งแยกได้เพียงชั่วครู่ แต่ยามนี้กลับต้องเสียไป...
ขณะที่เพลิงกระดูกขาวกำลังจะสัมผัสร่างของหนิงฝาน หนิงฝานเร่งเร้าสร้อยหยินหยางที่อยู่ภายในตันเถียนเพื่อพยายามดูดกลืนเพลิงกระดูกขาวที่ทรงพลัง แต่ด้วยเทพกษัตริย์เนี่ยเป็นผู้ควบคุมมัน หนิงฝานจะดูดกลืนเพลิงได้อย่างไร?
ในเพลิงกระดูกขาวที่ทรงพลัง ปรากฏร่องรอยที่สลักด้วยสัมผัสเทพจำนวนมาก รอยสลักนั่นไม่ได้รับความเสียหายจากเพลิง และหนิงฝานก็ไม่สามารถดูดกลืนเพลิงได้
เพลิงกระดูกขาว เพลิงปีศาจทมิฬ ทั้งสองล้วนเป็นเพลิงชีพจรพิภพ ก่อนหน้านี้หนิงฝานสามารถใช้สร้อยหยินหยางดูดกลืนเพลิงปีศาจทมิฬของหานหยวนจี๋ได้ แต่นั่นอาจเพราะชายชราสูญเสียพลังไป ทำให้ยามนี้เพลิงกระดูกขาวที่อยู่ในการควบคุมของผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกนั้นดูดกลืนได้ยาก ดังนั้นหนิงฝานจึงทำได้เพียงใช้สร้อยหยินหยางคุ้มกายจากเพลิง
หนิงฝานกำกระบี่แยกสวรรค์ เร่งเร้าพลังเผาวิญญาณของมัน เขาจับจ้องทะเลเพลิงด้วยแววตาที่เย็นชา แม้หนิงฝานจะถูกผนึกอยู่ในทะเลเพลิง แต่หนิงฝานยังไม่ตาย แม้ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่เทพกษัตริย์เนี่ยก็ตกตะลึงอีกครั้ง
“เด็กนี่ช่างแปลกนัก ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก หากพวกมันตกอยู่ภายใต้เพลิงของข้า อย่างน้อยพวกมันก็รอดชีวิตได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น”
หนิงฝานต้านรับการจู่โจมที่สองของเทพกษัตริย์เนี่ยได้ หากจะกล่าว เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้มันเสียหน้ามาก
วันนี้เทพกษัตริย์เนี่ยเปิดประตูมายังโลกพิรุณเพื่อสังหารหานหยวนจี๋ แต่มันกลับคาดไม่ถึงว่าจะได้พบเด็กหนุ่มที่อยู่เพียงขอบเขตประสานวิญญาณเข้าทำลายแผนการของมัน
เทพกษัตริย์เนี่ยจ้องมองไปยังขอบฟ้าไกล มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตไร้แบ่งแยกกลุ่มหนึ่งกำลังตรงมา ดูเหมือนคนเหล่านั้นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกของโลกพิรุณที่จะเข้ามาจัดการกับมัน
นับจากนี้เทพกษัตริย์เนี่ยได้กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของโลกพิรุณ บางทีอาจมีคนมากมายหวังสังหารมัน
“ฮึ่ม! พอแค่นี้แล้วกัน เส้นลมปราณของหานหยวนจี๋ถูกทำลายแล้ว จะฆ่าหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่... ที่ข้าลงมือได้เช่นนี้ ‘คนผู้นั้น’ สมควรพึงพอใจ... ‘นิกายปีศาจขาว’ แห่งแดนสวรรค์ หากข้าไม่ได้สัญญากับพวกเจ้าไว้ ข้าไม่มีทางหักหลังอาจารย์หรอก...”
เมื่อกล่าวถึงคนผู้นั้น เทพกษัตริย์เนี่ยเผยสีหน้าหวาดกลัว ยามนี้แรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญโลกพิรุณเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และมันรู้ตัวดีว่ามันไม่อาจรับมือได้
“เด็กน้อย ในอีก 100 ปีให้หลัง ‘ลานสวรรค์โบราณ’ จะเปิดออก เมื่อถึงยามนั้น ข้าจะมาที่โลกพิรุณอีกครั้งเพื่อสังหารเจ้า”
เทพกษัตริย์เนี่ยกำลังจะก้าวเข้าไปในประตูกระดูกขาวด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อมันจะถอนทะเลเพลิงกระดูกขาวกลับ เพลิงกลับไม่ฟังคำสั่งของมันจนยากที่มันจะถอนคืนได้
“เจ้าทำร้ายอาจารย์ข้า แต่ยังคิดกลับไปหน้าตาเฉยงั้นรึ!?”
หนิงฝานที่อยู่ในทะเลเพลิงกล่าว ยามนี้อาจารย์ของหนิงฝานบาดเจ็บเป็นตายไม่อาจทราบ แม้ตนเองจะสู้เทพกษัตริย์เนี่ยไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ขอเอาชนะเพลิงของมัน เขาจะดูดกลืนเพลิงของมันให้ได้
กระบี่แยกสวรรค์ฟาดฟันทะเลเพลิงด้วยพลังเผาวิญญาณของมันอย่างต่อเนื่อง ยามนี้ร่องรอยที่สลักด้วยสัมผัสเทพของเทพกษัตริย์เนี่ยเริ่มถูกเผาทำลายและหายไปอย่างรวดเร็ว
เทพกษัตริย์เนี่ยตกตะลึง เพราะเพลิงกระดูกขาวที่มันใช้เวลาอัญเชิญมากว่า 1000 ปี ร่องรอยที่มันสลักด้วยสัมผัสนับแสน กำลังหายไปอย่างรวดเร็ว!
“เด็กน้อย! นี่เจ้ากล้าช่วงชิงเพลิงของข้า!” เทพกษัตริย์เนี่ยคำรามราวกับสายฟ้าฟาด
“ข้าจะช่วงชิงเพลิงของเจ้า!”...