ตอนที่ 415 หุบเขาเบลล์
มันเป็นตอน8โมงครึ่ง สองชั่วโมงก่อนแลนเซล็อตจะสามารถอัญเชิญได้อีกครั้งขณะที่มันจะใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียวในการเดินทางไปหุบเขาเบลล์ เนื่องจากพวกเขามีเวลาว่างกว่าชั่วโมง หลิน ฮวงจึงตัดสินใจพาหลิน ซินไปเดินเล่นรอบเมือง หลิน ซินงุนงงเมื่อเธอเห็นหลิน ฮวงอัญเชิญหมาป่าวิริเดี้ยนแทนที่จะเป็นสายฟ้า
“พี่คะ มอนสเตอร์ที่พี่กำลังตามหาอยู่ใกล้เมืองนี้?”
“ไม่ มันอยุ่ในหุบเขาเบล์ซึ่งไกลถึง1600กิโลเมตร”เขาส่ายหัว และในไม่ช้าก็ตระหนักว่าทำไมหลิน ซินจึงถามคำถามนั้น
“ไม่ต้องรีบ อีกหนึ่งชั่วโมงค่อยออกเดินทางเพราะแลนเซล็อตยังคงถูกผนึกอยู่ เราสามารถเดินเล่นรอบเมืองไปก่อนได้”
เมืองยี่ไม่ถือว่าใหญ่ มันคล้ายกับขนาดของเมืองปาฉี ด้วยการขี่หมาป่าวิริเดี้ยนพร้อมกับแผนที่บนมือหลิน ฮวง พวกเขาจึงมาถึงถนนการค้าในเมืองยี่ภายใน10นาที แม้มันจะเป็นเมืองเกรดC ถนนการค้าก็ยังเต็มไปด้วยผู้คน มันเป็นวันหยุดฤดูร้อน ดังนั้นคนหนุ่มสาวจำนวนมากจากเมืองเกรดDจึงมาเที่ยวที่นี่
“คนเยอะมาก!”หลิน ซินตื่นเต้น หากนี่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งปีก่อน เธอคงจะพบว่าถนนการค้านี้น่าสนใจ แต่ทว่า เนื่องจากเธอเคยอยู่เมืองหิมะและเมืองหลวงขาวขจีมา ที่นี่จึงไม่ได้พิเศษอะไรมากนัก
“ไปซื้อเสื้อผ้ากันหน่อยไหม?”หลิน ฮวงถามเธอด้วยคิ้วที่เลิกขึ้น
“เย้!”หลิน ซินพยักหน้าถี่ยิบเพราะเธอรักการช้อปปิ้งกับหลิน ฮวง
พวกเขามุ่งหน้าไปห้างสรรพสินค้าที่ใกล้สุด ชั้นแรกจะเป็นแผนกเครื่องประดับ ชั้นสองจะเป็นชุดชั้นในขณะที่พวกเขามุ่งตรงไปชั้นสามซึ่งขายเสื้อผ้าผู้หญิง หลิน ซินเห็นเสื้อผ้าแบรนด์โปรดเธอขณะที่ก้าวไปในชั้นสาม เธอชอบเสื้อโค้ทที่หุ่นโชว์ ดังนั้นเธอจึงให้พนักงานหาไซส์Sให้เธอ และเธอก็วิ่งไปห้องลอง เธอลองอยู่2-3นาทีก่อนจะออกมา
“พี่คิดว่าไง?”หลิน ซินถามหลิน ฮวงขณะที่เดินออกมาหาเขา มันเป็นเสื้อคลุมสีเทาเข้มซึ่งเหมาะกับผู้หญิงที่สูงและดูเป็นผู้ใหญ่ เมื่อเขาเห็นชุดนี้ คนแรกที่ผุดขึ้นในหัวเขาก็คือหยี่ เยว่หยู่ทันที มันไม่ค่อยเหมาะกับหลิน ซิน แม้เธอจพยายามทำท่าให้ดูดี หลิน ฮวงก็เพียงหัวเราะและส่ายหัว
“ชุดนี้ไม่เหมาะกับน้อง ไปลองอันอื่นเถอะ”
“คะ...”หลิน ซินถอนหายใจและเดินไปในห้องลองอีกครั้ง
ทั้งคู่ช้อปกันอยู่นานถึงชั่วโมง แต่หลิน ซินกลับเลือกอะไรไม่ได้เลย
“เอาละ มันเกือบถึงเวลาแล้ว”หลิน ฮวงตั้งนาฬิกาไว้ตอน9โมงครึ่งก่อนจะเดินเล่น เขาหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงร้องของนาฬิกา
“เราต้องไปแล้ว?”หลิน ซินยังช้อปปิ้งไม่เสร็จ
“พี่คิดว่าน้องควรจะอยู่ในเมืองนะ มอนสเตอร์ที่พี่กำลังล่าในครั้งนี้เร็วมาก หากมันพบว่าน้องอยู่ใกล้ๆ พี่อาจจะไม่สามารถช่วยน้องได้ แม้ว่าน้องจะมีไคลี่คอยปกป้องอยู่ก็ตาม แต่หากไคลี่ปะทะกับมัน น้องจะไม่สามารถต้านทานคลื่นพลังได้”
ขณะที่พวกเขากำลังช้อปปิ้ง หลิน ฮวงก็ได้พิจารณาว่าเขาควรจะพาหลิน ซินไปด้วยหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยเธอ เขาจึงตัดสินใจบอกให้เธออยู่ในเมืองยี่ หากมันเป็นมอนสเตอร์อื่น หลิน ฮวงอาจสามารถหยุดพวกมันจากการโจมตีหลิน ซินได้แต่ปีกเทพประกายนั้นรวดเร็วและมันก็ยากจะไล่ตามได้ทันเมื่อมันเปลี่ยนเป้าหมาย หลิน ซินรู้สึกเสียใจ เธอคิดว่าเธอจะได้เห็นพี่ชายเธอแสดงฝีมือ แต่เธอกลับไม่ได้รับอนุญาติในครั้งนี้
“พี่ต้องใช้เวลากว่าชั่วโมงเพื่อไปที่นั่นและการฆ่ามอนสเตอร์นั่นจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง พี่จะใช้ประตูมิติเพื่อกลับมา พี่คิดว่าพี่ควรจะกลับมาก่อน11โมงครึ่ง น้องสามารถเดินเล่นกับไทแรนด์ต่อไป กลับไปที่โรงแรมหลังเดินเล่นเสร็จละ”หลิน ฮวงปลอบเธอ เขารู้ว่าหลิน ซินต้องเศร้าเสียใจ แต่ไม่ว่าจะยังไง ความปลอดภัยของเธอต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
“คะ”แม้เธอจะรู้สึกผิดหวัง เธอก็ยอมรับมัน
จากนั้นหลิน ฮวงก็อัญเชิยไทแรนด์ที่อยู่ในชุดสูทดำ จากนั้นเขาก็เฝ้าดูทั้งคู่เดินจากไปหลังจากที่สรุปให้ไทแรนด์ฟังว่ามันต้องทำอะไร เขาออกจากห้างไปและอัญเชิญสายฟ้า เขากระโดดและนั่งบนหลังมัน มุ่งหน้าสู่หุบเขาเบลล์ หุบเขาเบลล์ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองยี่และพวกเขาต้องผ่านทุ่งหญ้าหู่หลุนไปตลอดทาง ในความเป็นจริง ทุ่งหญ้าหู่หลุนนั้นใหญ่มาก เมืองหู่หลุนนั้นตั้งอยู่ริมตะวันตกเฉียงใต้ของทุ่งหญ้า ขนาดของทุ่งหญ้านั้นใหญ่เสียยิ่งกว่าทวีปเอเชียบนโลกเสียอีก แม้พวกเขาจะเดินทางออกจากเมืองยี่ การเดินทางไปยังหุบเขาเบลล์ก็ยังไกลกว่า1600กิโลเมตร
เมื่ออยู่บนหลังสายฟ้า หลิน ฮวงก็สูดอากาศในทุ่งหญ้า สีเขียวมีอยู่ทุกที่ และเขายังสามารถได้กลิ่นแม้กระทั่งดอกไม้ ในที่สุดเขาก็มาถึงปลายทางในหนึ่งชั่วโมงต่อมา ก่อนที่สายฟ้าจะร่อนลง หลิน ฮวงสามารถเห็นหุบเขาเบลล์ได้จากด้านบน หุบเขาเบลล์แท้จริงแล้วคือรอยต่อ มันตั้งอยู่ใจกลางที่ราบสูงอู๋ล่า และที่ราบสูงหลายล้านตารางกิโลเมตรนี้จะถูกแบ่งออกเป็นตะวันออกและตะวันตก
เมื่อมองจากด้านบน มันดูราวกับก้อนเค้กขนาดยักษ์บนโต๊ะที่ถูกผ่าครึ่ง ในความเป็นจริง มีตำนานเกี่ยวกับหุบเขาเบลล์อยู่ มีคนบอกว่ามันถูกผ่าครึ่งด้วยดาบ อย่างไรก็ตาม นักธรณีวิทยากลับบอกว่ามันเกิดจากแผ่นดินไหว แต่ชาวบ้านกลับเลือกที่จะเชื่อบรรพบุรุษ ในอดีต เรื่องราวได้ถูกเล่าต่อกันมาว่าทวยเทพได้บังเอิญตัดผ่าพื้นดินเนื่องจากมันกำลังต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตจากขุมนรก
อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงไม่ได้คิดว่าตำนานจะเป็นจริงเพราะดาบไม่อาจตัดผ่าเป็นเส้นยาวหลายพันกิโลเมตรได้ ยิ่งเข้าใกล้ระดับเพลิงสวรรค์เท่าไร เขาก็ยิ่งเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นไปไม่ได้มากขึ้นเท่านั้น แม้กระทั่งระดับจักรพรรดิก็ไม่อาจทำเช่นนี้ได้ เขาไม่มั่นใจว่ากึ่งเทพในตำนานสามารถทำเช่นนี้ได้ไหม แต่เขาเลือกที่จะเชื่อนักธรณีวิทยา เขาคิดเกี่ยวกับตำนานเทพเจ้า อย่างไรก็ตาม การต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตจากขุมนรกจะทิ้งไว้เพียงร่องรอยดังกล่าวแต่ไม่ทิ้งร่องรอยแห่งการทำลายล้างอื่นใดไว้?
เมื่อมองพิกัดที่ใกล้ขึ้นบนแผนที่ เขาก็ตบหลังสายฟ้า
“ลงไปได้แล้ว”
สายฟ้าหดปีกมันและร่อนลง
ปล.อ่านฟรีเน้อช่วงนี้เอื่อยเฉื่อยมาก