SGS บทที่ 67 – แผนที่ขุมทรัพย์ลับงั้นเหรอ!?
ยุทธภัณฑ์หลัก เมื่อคำๆนี้ปรากฏออกมาก็ทำให้ผู้คนที่ยังคงซึมกะทือจากวิชาขั้นสูงเมื่อกี้ก็หน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้นแทนทันที
เทียบกับวิชาต่างๆแล้ว ในโลกซิลวาเรีย ถือว่ายุทธภัณฑ์มีค่ามากกว่า!
เหตุผลนั้นง่ายมาก ขอถามหน่อย อะไรที่จะช่วยให้เก่งขึ้นได้ไวที่สุดนะ? คำตอบก็คือปัจจัยภายนอกหรือก็คืออาวุธอันทรงพลังไง!
วิชาและยุทธภัณฑ์นั้นต่างกัน ถึงแม้มันจะสามารถเพิ่มพลังให้ได้เหมือนกัน แต่วิชามันยังต้องไปเสียเวลาฝึกฝน ถ้ามีพรสวรรค์ก็สามารถฝึกสำเร็จได้ในเวลาอันสั้น แต่คนไร้พรสวรรค์เล่า? พวกเค้าต้องใช้เวลาถึงขนาดไหนกันจึงจะฝึกสำเร็จ?
แต่ทว่ายุทธภัณฑ์นั้นต่างออกไป ถึงแม้เอ็งจะโง่ฟ้าประทานขนาดไหน แต่ขอแค่มีมือไว้กวัดแกว่งอาวุธ เอ็งก็เพิ่มพลังตัวเองได้แล้ว!
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมดาบคุซานางิถึงได้ออกมาหลังวิชาขั้นสูงนั่น ถึงแม้มันจะไม่ใช่ชิ้นสุดท้าย แต่มีใครกล้าสงสัยมั้ยว่ามันไม่ใช่ของหายากและล้ำค่า?
วู่หยาน ฮินางิคุ และ มิโคโตะ มองดูตัวเลขราคาด้วยสายงุนงง ไม่นานนักพวกเขาก็สมองชาด้าน
เพียงแค่ชั่วพริบตาที่เปิดประมูล ราคาของคุซานางิก็พุ่งทะยานไปเท่ากับคัมภีร์เมื่อกี้350,000เหรียญทอง!
วู่หยานยกมือมาขยี้ตาตัวเอง ก่อนจะมองดูอีกครั้ง แล้วชี้นิ้วไปที่ตัวเลขใต้ภาพคุซานางิ พูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ “เฮ้....ฮินางิคุ มิโคโตะ เธอช่วยตอบฉันหน่อย นั่นมันสามแสนห้าหมื่นเหรียญทองใช่มั้ย?”
ฮินางิคุไม่แปลกใจท่าทาองของวู่หยาน เพราะเธอเองก็เป็นเหมือนกัน “นายดูไม่ผิดหรอก.....อืม ไม่สิ นายดูผิดจริงๆ ตอนนี้มันไม่ใช่สามแสนห้าหมื่นแต่เป็นสี่แสนแล้ว!”
นรกเถอะ ทำไมเพิ่มเร็วจังวะ!
“เป็นไปได้ไงเนี่ย?” วู่หยานเอามือจับคาง พูดด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย “ฉันก็เคยได้ยินมาว่าเมื่อก่อนที่นี่ก็เคยมียุทธภัณฑ์ออกมาประมูลเหมือนกัน ราคาก็สามแสนห้าหมื่น แต่ทำไมคราวนี้ถึงราคาพุ่งทะยานมาระดับนี้ตั้งแต่แรกเลยล่ะ?”
“แล้วฉันจะไปรู้มั้ย!”สองสาวเอ่ยตอบพร้อมกัน ยิ่งทำให้วู่หยานกังวลมากกว่าเดิม
“เอาน่า มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นไม่ต้องไปคิดมากอะไรหรอก” มิโคโตะส่ายหัวทำให้ผมสีน้ำตาลปลิวไสว สื่อว่าปัญหานี้มันซับซ้อนเกินไป
“ก็ใช่ มันเป็นเรื่องดี....” วู่หยานเลิกคิด แล้วหันไปชมการประมูลด้วยรอยยิ้ม
เหรียญทองจำนวนขนาดนี้ ถ้าเป็นในโลกเก่าล่ะก็ พี่ชายคนนี้แทบจะสามารถสร้างวังทองคำได้เลย.....
สิ่งที่ทั้งสามคนไม่รู้ก็คือราคาประมูลในครั้งนี้ถือว่ามากที่สุดในบรรดายุทธภัณฑ์ที่เคยขึ้นประมูลมาในอดีต เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็คือผู้ประมูลคุซานางิแทบทั้งหมดเป็นผู้หญิง!!
สิ่งที่ทุกคนบนโลกซิลวาเรียรู้เหมือนกันคือ พลังของโลกนี้แบ่งเป็นปราณกับเวทมนตร์ และแน่นอนว่าทั้งบ่มเพาะพลังปราณกับฝึกฝนเวทมนตร์ย่อมมีผู้หญิงอยู่ด้วย!
ถ้าต้องการฝึกฝนเวทมนตร์ต้องมีพรสวรรค์มากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นสัดส่วนของนักรบและนักเวทย์จึงแตกต่างกันมากสุดๆ
นักเวทมีผู้ชายกับผู้หญิง นักรบก็มีเช่นกัน ในเส้นทางของนักรบ ผู้หญิงนั้นด้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากสรีระทางร่างกายที่แตกต่างกัน แต่ถ้าจะไปทางเวทมนตร์ก็ใช่ว่าจะมีพรสวรรค์กันทุกคน ดังนั้นถึงแม้ผู้หญิงที่เป็นรักรบจะน้อยกว่าผู้ชายแต่ถ้าเทียบกับนักเวทย์ผู้หญิงแล้วย่อมมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ คิดว่าอาวุธส่วนใหญ่ของนักรบเป็นยังไงน่ะ? ดาบใหญ่เอ่ย หอกเอ่ย ล้วนถูกสร้างมาให้เหมาะสมกับผู้ชาย
ดาบของโลกนี้ไม่เหมือนของโลกเก่าวู่หยาน ที่นี่มีแค่ดาบประเภทอัศวินที่กว้างใหญ่ไม่เหมาะกับร่างกายเพรียวบางของผู้หญิง ถึงแม้ผู้หญิงที่บ่มเพาะจนมีปราณจะไม่ได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ยังไงมันก็ไม่เข้ากับกับพวกเธออยู่ดี
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด.....
ดาบคุซานางิที่มีใบดาบเรียวเล็กดูสวยงามราวกับอัญมณี แน่นอนว่าย่อมเข้าตาผู้หญิงมากกว่าอยู่แล้ว
ดังนั้น นักรับผู้หญิงแทบทั้งหมดจึงถูกคุซานางิพิชิตหัวใจไปแล้ว......
ด้วยเหตุนี้ ราคามันถึงได้พุ่งทะยานไม่หยุด....
ถ้าวู่หยานรู้เข้าล่ะก็เขาคงเสียใจไม่น้อย ไม่ใช่เพราะตนคิดไม่ออกหรอกนะ แต่เป็นเพราะถ้ารู้งี้ ตนจะได้ไม่ต้องเปลืองเซลล์สมองคิดให้ปวดหัวหรอก เพราะความคิดผู้หญิงผู้ชายอย่างเราๆไม่มีทางเข้าใจหรอก.....
โดยไม่รู้ตัว ระหว่างที่วู่หยานคิดในใจ ราคาคุซานิงุก็มาหยุดอยู่ที่ห้าแสนเหรียญทองแล้ว!
“เฮือก....” วู่หยานสูดลมหายใจฟอดใหญ่ และพูดว่า “..ตู..รวยแล้ว....”
ได้ยินเสียงวู่หยาน ฮินางิคุกับมิโคโตะก็เหลือกตามองบน มีแค่ลิลินที่หัวเราะร่าอย่างสนุกสนาน
ลุงเคาะค้อนไม้อย่างเบิกบานใจ ประกาศจบการประมูล ไม่รู้เป็นเพราะรู้สึกมีความสุขมากเกินไปรึเปล่า วู่หยานรู้สึกว่าเสียงเคาะค้อนมันเพราะมาก....
“เอาล่ะ ทุกท่านตอนนี้ก็มาถึงช่วงเวลาสุดท้ายของการประมูลแล้ว เชิญรับชมสินค้าชินสุดท้ายขอรับ!”
ทุกคนยกกระดานคริสตัลเตรียมพร้อม สายตาจ้องเขม็งไปที่ภาพบนลูกคริสตัล มือกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไป รอเวลาสุดท้ายที่กำลังจะมาถึง
ก่อนหน้านี้มี วิชาขั้นสูงกับยุทธภัณฑ์หลัก แต่ไอ้ชิ้นที่สามนี่กลับสามารถอยู่หลังทั้งสองได้ มันหมายความว่าไงนะ?
มันหมายความว่า อย่างน้อยๆก็ต้องล้ำค่ามากกว่าสองอันเมื่อกี้ไงล่ะ!
ตอนที่พูดถึงยองชิ้นสุดท้าย แววตาลุงเป็นประกายแปลกๆที่ยากจะจับสังเกตได้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยด้วย
ไม่มีใครสักคนที่ตระหนักถึงท่าทางที่เปลี่ยนไปนี้ของลุง แม้แต่พวกวู่หยานที่กำลังจินตนาการถึงภูเขาทองคำก็ตไม่เห็น.....
ลุงโบกมือ ภาพก็สั่นไหววูบวาบ ก่อนจะปรากฏแผนที่ขึ้น!
“แผนที่?” ผู้เข้าประมูลนับพันคนอดที่จะพูดออกมาพร้อมกันไม่ได้ ด้วยสีหน้าสงสัยสุดๆพวกวู่หยานก็เช่นกัน
ขมวดคิ้ว วู่หยานจ้องมองแผนที่ แล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย
สัญชาติญาณเตือนเขาถี่ยิบว่า แผนที่อันนี้ มันไม่ปกติ!
ของชิ้นสุดท้ายเป็นแผนที่ไปซะงั้น? นี่จะบอกว่ามันล้ำค่ามากกว่าวิชาขั้นสูงกับยุทธภัณฑ์หลักงั้นเหรอ? หรือว่าจะเป็นแผนที่ขุมทรัพย์ลับ?
เป็นไปไม่ได้แน่ ถ้าเป็นแผนที่ขุมทรัพย์จริง โรงประมูลไม่มีทางเอาออกมาให้ประมูลแน่นอน ใช่มั้ย?
มันแปลกเกินไป แผนที่นี้มันไม่ปิดบังเนื้อหาเลย เล่นโชว์ออกหมด คนความจำดีก็จำไป บางคนก็หยิบกระดาษมาจดแล้วเนี่ย
ถ้ำทำแบบนี้แล้วจะเอาออกมาประมูลไปทำไมล่ะ? จะบอกว่าไอ้พวกโรงประมูลมันโง่ก็คงไม่ใช่หรอกมั้ง?
ต้องไม่ใช่แน่ ไม่งั้นโรงประมูลนี่คงโดนคนอื่นเขมือบจนไม่เหลือไปแล้ว
สถานการณ์แบบนี้ ดูยังไงก็เป็นกับดักแน่ๆอ่ะ
ขนาดวู่หยานที่เมื่อก่อนใช้ชีวิตแต่บนเตียงยังคิดได้ แล้วคนอื่นล่ะ คนนับพันนี่เขาเชื่อว่าคงไม่โง่กันหมดหรอก
บางทีคนฉลาดบางคนอาจจะเริ่มคิดหาทางหนีไว้แล้วก็ได้ใครจะไปรู้......
ห้องสมุดคนรักนิยายแปล กลุ่มลับถึงตอน 93 ตอนนี้กลุ่ม1ลดเหลือ80บาท!!