GE32 แม่ชีพรหมจรรย์ตกลงสู่เงื้อมมือของปีศาจ
“โลหะเหอฮวน... แหวนกระถาง...”
หนิงฝานสัมผัสโลหะเหอฮวนเบาๆและค่อยๆสงบใจลงอย่างช้า ในเมื่อได้โลหะเหอฮวนมาโดยบังเอิญ หนิงฝานจะเก็บมันไว้หลอมสร้างแหวนกระถางในภายหลัง
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือหนิงฝานยังไม่มีกระถางขัดเกลา...
หนิงฝานส่ายหน้าและล้มเลิกความคิด จากนั้นถ่ายเพลิงหยินหยางแผดเผาโลหะเหอฮวน
ฝั่งสีแดงและดำผสานรวมเป็นหนึ่ง ต่อให้มันต้องการจะผละออกย่อมทำได้ยาก
หากเทียบกับทุกสรรพสิ่ง เพลิงหยินหยางนับว่าอ่อนด้อย แต่ด้วยทักษะการควบคุมเพลิงตามประสบการณ์ของจักรพรรดิสวรรค์ รวมกับเพลิงปีศาจทมิฬ ทำให้หลอมและแยกเอาสิ่งสกปรกออกจากโลหะเหอฮวนได้ ยามนี้ โลหะเหอฮวนค่อยๆเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเหล็กหลอมเหลวอย่างช้าๆ
เมื่อโลหะเหอฮวนแปรสภาพเป็นเหล็กหลอมเหลวทั้งหมด หนิงฝานสะบัดชายเสื้อส่งพลังความเย็นที่อยู่ภายในเส้นชีพจร ไปยังเหล็กหลอมเหลวเพื่อทำให้มันแข็งตัว
เมื่อโลหะเหอฮวนแข็งตัว หนิงฝานก็ยื่นส่งให้โม่หรูฉุ่ย
การควบคุมเพลิงของหนิงฝานในครึ่งชั่วยามที่ผ่านมา เขาทำได้อย่างผ่อนคลาย จนทำให้โม่หรูฉุ่ยที่เฝ้ามองตกตะลึง
แม้ใบหน้าของนางจะปกปิดด้วยผ้าคลุม แต่ริมฝีปากแดงระเรื่อยังเปิดอ้าด้วยความไม่อยากเชื่อ
เมื่อได้เห็นทักษะการควบคุมเพลิงของหนิงฝาน นางรู้สึกได้ว่าเต๋าแห่งการหลอมสร้างของตนยังด้อยเกินไป
“ทักษะของนายน้อยช่างแตกต่างจากที่ข้าได้รับรายงาน ข้านับถือท่านนัก” นางรับโลหะเหอฮวนมาแล้วกล่าวชม
“เรื่องเสริมวิญญาณคงต้องยกให้เป็นหน้าที่ของแม่นางโม่”
แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังห้องหลอมสมบัติของตระกูลโม่ การเสริมวิญญาณดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง 1 วันเต็ม หนิงฝานได้เฝ้าดูกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ
เรื่องการเสริมวิญญาณ นี่เป็นครั้งแรกที่หนิงฝานมีโอกาสได้เรียนรู้
การเสริมวิญญาณคือการหลอมโลหะวิญญาณเพื่อแยกเอาพลังวิญญาณออกมา จากนั้นสลักมันลงไปบนสมบัติวิญญาณด้วยรูปแบบวิญญาณพิเศษ
แม้จะเป็นโลหะวิญญาณชนิดเดียวกัน แต่การสลักมันลงบนสมบัติวิญญาณจะใช้วิธีการที่แตกต่างกัน เพราะรูปแบบวิญญาณมีด้วยกันกว่าพันชนิดแตกต่างกันไป
หนิงฝานหวังใช้ความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์เพื่อแอบช่วงชิงทักษะเสริมวิญญาณ แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกความคิดไป
การเสริมพลังนั้นยากยิ่งกว่าเต๋าแห่งข่ายพลัง หากต้องการเป็นนักเสริมวิญญาณอย่างโม่หรูฉุ่ย อย่างน้อยต้องใช้เวลา 10 ปี
แต่หนิงฝานไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น หากเขาต้องการเสริมพลังวิญญาณ เขาเพียงต้องหานักเสริมวิญญาณ
เมื่อเสริมวิญญาณเสร็จสิ้น โม่หรูฉุ่ยคืนกระบี่แยกสวรรค์ให้หนิงฝานโดยไม่เต็มใจนัก ทำให้เขารู้สึกราวกับแย่งชิงมันมา
“นายน้อย... ท่านต้องรักษามันให้ดี...” นางจ้องมองหนิงฝานอย่างทุกข์ใจ และกล่าวร้องขออ้อนวอน
“ย่อมได้...”
หนิงฝานจ้องมองกระบี่แยกสวรรค์ เขาไม่เห็นถึงความเปลียนแปลงของมันมากนัก ตัวกระบี่เปล่งแสงแห่งดารา คมกระบี่ทอประกาย แต่ประกายนั้นแฝงด้วยอำนาจของ ‘เผาวิญญาณ’ ดูเหมือนกระบี่แยกสวรรค์จะยกระดับและอำนาจ
เมื่อลองกวัดแกว่งกระบี่อยู่หลายครั้ง ใบหน้าของหนิงฝานก็เผยรอยยิ้มพึงพอใจ ปากอ้ากว้างและกลืนกระบี่ลงไปในตันเถียน จากนั้นกล่าวลากับโม่หรูฉุ่ย
การเสริมวิญญาณของกระบี่แยกสวรรค์สำเร็จแล้ว ในที่สุดสมบัติวิญญาณชิ้นแรกของหนิงฝานก็เสร็จสิ้น
ก่อนจะมุ่งหน้าไปนิกายกุ่ยเชว่ หนิงฝานยังมีเรื่องต้องจัดการอีก 2 เรื่อง
อย่างแรกคือการปรุงโอสถจักรพรรดิหยก อย่างที่สองคือทำให้ซื่อหวูเสียเป็นทาส!
ยามนี้ห้องปรุงโอสถถูกหานหยวนจี๋ทำลาย ด้วยการทำให้กระถางปรุงโอสถระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้หนิงฝานไม่มีสถานที่ปรุงโอสถจักรพรรดิหยก ดังนั้นหนิงฝานจึงตัดสินใจจัดการเรื่องซื่อหวูเสียก่อน
ซื่อหวูเสียถูกหนิงฝานทำลายแก่นทองคำ ทำลายพลังที่ขัดเกลามาทั้งหมด ภายในตันเถียนต้อง ‘พิษน้ำแข็งฉีเหม่ย’ ยามนี้มันถูกกักขังไว้
ผู้คุ้มกันคุกน้ำแข็งคือผู้ฝึกตนฝ่ายอธรรม เมื่อคนเหล่านั้นเห็นหนิงฝานมา พวกมันล้วนป้องมือคาราวะอย่างนอบน้อม เพราะพวกมันทุกคนล้วนได้รับการชี้แนะจากหนิงฝาน
“บ่าวคาราวะนายน้อย!”
หัวหน้าผู้คุ้มกันคุกน้ำแข็งมีนามว่า ‘เว่ยหวางหลิง’ เป็นผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรที่ 10 ของผู้ฝึกตนฝ่ายอธรรม เมื่อครั้งงานประมูลผลไม้แห่งเต๋า มันรับหน้าที่ดูแลงานประมูล เมื่อยามนั้นมันมีโอกาสได้เห็นปราณสังหารที่น่าสะพรึงกลัวของหนิงฝาน ทำให้มันเคารพหนิงฝานเป็นอย่างมาก
“อืม.. ข้าจะไปหาคนที่คุกน้ำแข็งชั้น 9...”
คุกน้ำแข็งชั้น 9 คือชั้นที่เลวร้ายที่สุด เป็นสถานที่กักขังผู้นำนิกายเทียนหลีโม่ ซื่อหวูเสีย หนิงฝานไม่ได้เอ่ยชื่อของมันเพราะนอกจากหานหยวนจี๋และสามองครักษ์ปีศาจแล้ว ไม่มีผู้ใดที่รู้ว่าชั้น 9 คือสถานที่คุมขังซื่อหวูเสีย
“ฮ่าฮ่า หัวหน้าหนานกงบอกข้าแล้วว่านายน้อยจะมาพบคนที่นี่... หากเป็นท่านชั้น 9 อาจไม่หนาวเพราะมีคนเคียงคู่...”
เว่ยหวางหลิงนำทางหนิงฝานไป รอยยิ้มบนใบหน้าของมันทำให้หนิงฝานขมวดคิ้ว คำกล่าวของมันฟังดูคลุมเครือ ซื่อหวูเสียเป็นคนผิดเพศ...เหตุใดมันถึงกล่าวว่าเคียงคู๋?
หนิงฝานส่ายหน้าไม่ใส่ใจ
เมื่อหนิงฝานได้รับกุญแจคุกน้ำแข็งมา เขาก็มุ่งหน้าไปยังชั้น 9 อย่างรวดเร็ว ทั้งยังกำชับว่าไม่ให้เว่ยหวางหลิงติดตาม
คุกน้ำแข็งชั้น 1 ใช้ขังผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรที่ 1... คุกชั้นที่ 8 ลึกลงไปใต้พื้นดินกว่า 1000 จ้าง ใช้ขังผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ ความเย็นในชั้นนี้รุนแรง มีศพที่แข็งตายและถูกพันธะนาการด้วยโซ่ตรวนมากมาย จากลักษณะ ดูเหมือนพวกมันจะถูกแช่แข็งตายมาหลายปี
ที่คุกชั้น 9 ความเย็นรุนแรงมาก เมื่อหนิงฝานเปิดประตู เขาเห็นผู้ต้องขังคนหนึ่งในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง ร่างกายถูกพันธะนาการด้วยโซ่ตรวนน้ำแข็ง มันก้มหัวราวกับกำลังมึนงง
“ซื่อหวูเสีย... วันนี้เจ้าเสียใจกับสิ่งที่ทำในอดีตหรือยัง?” หนิงฝานกล่าวอย่างไม่แยแส
“หนิงฝาน... เจ้ามาฆ่าข้าหรอ? ถ้าเจ้ากล้า...” ซื่อหวูเสียไม่ยอม แม้มันอ่อนแรงแต่ยังกล่าวอย่างแข็งกร้าว
“ร่างจริงของข้าอยู่บนแดนสวรรค์”
“ตัวเจ้าก็เป็นเพียงมดปลวกชั้นต่ำ”
หนิงฝานย่อมทราบดี แต่ความรู้สึกที่ซื่อหวูเสียมอบให้หนิงฝานในวันนี้ไม่เหมือนก่อน
ในความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ มีทักษะสร้างทาสรับใช้อยู่ 1 ชนิด ทักษะนี้จะลบความทรงจำ แต่ยังรักษาร่างกายและจิตวิญญาณ เพื่อเปลี่ยนให้อีกฝ่ายเป็นทาสรับใช้ ทักษะนี้มีชื่อว่า ‘ทักษะทาสวิญญาณ’
หนิงฝานเดินเข้าใกล้ซื่อหวูเสียอย่างช้าๆและเตรียมทักษะทาสวิญญาญไว้จัดการกับมัน
แต่ยิ่งเข้าใกล้หนิงฝานก็ยิ่งกังวล เขาคิดอยู่เสมอว่ามีบางสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง
ความกังวลยังคงดำเนินต่อไป... หนิงฝานแอบนำกระบี่แยกสวรรค์ออกมาแล้วซ่อนมันไว้ในแขนเสื้อ
เมื่ออยู่ห่างจากซื่อหวูเสียงเพียง 3 ฉื่อ หนิงฝานกลับสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่รุนแรงที่แผ่ออกมาจากมัน ทำให้เขาเร่งถอยอย่างรวดเร็ว
ซื่อหวูเสียคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะระวังตัวขนาดนี้ ยามนี้มันเงยหน้ามองหนิงฝาน ใบหน้าปรากฏเป็นใบหน้าของสตรีผู้งดงาม ริมฝีปากแดงระเรื่อ โครงหน้าได้รูปราวกับดอกบัวแรกแย้ม สีหน้าเคร่งขรึมและจริงจัง แต่แววตาที่อ่อนโยนกลับเปี่ยมไปด้วยเจตนาสังหาร
เมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสุดท้ายของซื่อหวูเสีย ร่างกายของหนึงฝานถูกตรึงนิ่งไม่อาจขยับ สัมผัสเทพของมันแปรเปลี่ยนเป็นกระบี่บิน พุ่งทะยานจู่โจมทะเลสติของหนิงฝาน
สีหน้าของหนิงฝานแปรเปลี่ยน หากทะเลสติถูกทำลายด้วย ‘กระบี่บินสัมผัสเทพ’ เขาจะกลายเป็นคนบ้าทันที นี่คือแผนการของซื่อหวูเสีย เป็นแผนการที่โหดเหี้ยมที่ปิดซ่อนได้เป็นอย่างดี
นางจะถูกทำลายแก่นทองคำ ทำลายพลังที่ขัดเกลา ทำให้นางคืนร่างเป็นสตรีอีกครั้ง
ใบหน้า กลิ่นอาย และเรือนร่างของสตรีนั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะแสร้งทำได้
หนิงฝานขบคิดสิ่งต่างๆมากมาย กระทั่งสุดท้ายก็ได้กุญแจสำคัญ สีหน้ากลับคืนสู่ความสงบ กระบี่แยกสวรรค์ปรากฏ แสงแห่งดาราสาดส่องเริงระบำ กระบี่เข้าทำลายกระบี่บินสัมผัสเทพที่กำลังตรงเข้ามา
เมื่อเห็นการโต้กลับของหนิงฝาน ซื่อหวูเสียก็กล่าวอย่างอ่อนแรง “อาวุธเทพโบราณ... ช่างน่าเศร้าที่มันกลายเป็นเพียงสมบัติวิญญาณระดับเริ่มต้น... มันไม่สามารถทำลายสัมผัสเทพของข้า...อ้า~~ เป็นไปไม่ได้...”
ยังไม่ทันได้กล่าวจบนางก็เปล่งเสียร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา สัมผัสเทพที่ทรงพลังของนางกลับถูกกระบี่แยกสวรรค์ทำลาย ทั้งอานุภาพของเผาวิญญาณที่คงอยู่ในกระบี่ ยังแผดเผาสัมผัสเทพจนสิ้น
ใบหน้าที่งดงามของนางซีดขาวไร้โลหิต กลิ่นอายที่ทรงพลังหายไป กลับกลายเป็นจ้องมองหนิงฝานด้วยความหวาดกลัว
“เผาวิญญาณ... พลังเทพระดับคงชู... เป็นไปไม่ได้ ด้วยขอบเขตประสานวิญญาณอย่างเจ้า เจ้าจะไปเอาวัตถุดิบเทพแบบนี้มาได้ยังไง!”
นางขบฟันและใช้พลังวิญญาณจู่โจหนิงฝาน แต่นั่นกลับสายเกินไป หนิงฝานไม่ปล่อยให้นางลอบจู่โจมรอบสอง!
ใต้ฝ่าเท้าของหนิงฝานปรากฏเส้นสายหิมะ เขาเร่งก้าวเข้าหาร่างของซื่อหวูเสียและใช้ดรรชนีคลายหยินสัมผัสที่หน้าอกของนาง พลังของทักษะคลายหยินแพร่กระจายไปทั่วร่าง ทำให้ปราณของนางปั่นป่วนยุ่งเหยิง ลมหายใจร้อนผ่าว แววตาพร่ามัว ยากจะใช้พลังวิญญาณ กลับกลายเป็นว่านางถูกหนิงฝานลอบจู่โจมบ้าง!
“คาดไม่ถึงว่าผู้นำหวูเสียจะเป็นสตรี... ‘ทักษะแปลงหยาง’ เปลี่ยนสตรีให้เป็นบุรุษ ปิดซ่อนความจริงจากข้า ทักษะนี้สามารถสร้างแก่นทองคำปลอมขึ้นมาตบตา ทำให้ข้าสับสน มิน่าข้าทำลายแก่นทองคำของเจ้าไป แต่เจ้ากลับยังมีพลังวิญญาณเหลืออยู่... ซื่อหวูเสีย ข้าดูแคลนเจ้าเกินไป...”
หนิงฝานฉีกทำลายอาภรณ์ของนาง ทำให้สิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นสตรีปรากฏ
นางทั้งอับอายและคับแค้น ใบหน้าแดงก่ำราวกับโลหิต เข่าทั้งสองข้างทรุดลงกับพื้น แววตาคู่งามเผยเจตนางสังหารที่รุนแรง “เจ้ากล้าทำให้ข้าอับอาย ร่างจริงของข้าในแดนสวรรค์มีที่มา...อื้ม~~ พลังดรรชนีนี่มัน...”
นางยังไม่ทันได้กล่าวจบ ดรรชนีคลายหยินก็สำแดงอานุภาพ อานุภาพของมันทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของนางเริ่มไร้เรี่ยวแรงกำลัง ของเหลวใสไหลซึมออกจากจุดลับ
“อย่า...อย่ามาอง... ข้าคือ... ข้าคือแม่ชีพรหมจรรย์... หากเจ้าล่วงเกิน... ล่วงเกินข้า... พลังที่ข้าสั่งสมมากว่า 1 แสนปีจะหายไป... ข้าจะฆ่าล้างตระกูลเจ้า... อื้ม~~ อย่ามอง... ข้าขอร้อง..”
ซื่อหวูเสียผู้เคร่งครึมกลับกลายเป็นคนละคน จิตสังหารที่รุนแรงจางหาย ใบหน้าซีดขาวไร้โลหิต นางร่ำร้องคล้ายเด็กสาวผู้บริสุทธิ์
“เจ้าคิด... จะทำอะไรกับข้า... เจ้าทำไม่ได้... อื้ม~~ อึดอัด... นี่...มันทักษะเย้ายวนอะไร...”
ผิวหนังทั่วร่างของนางแดงก่ำด้วยโลหิตที่สูบฉีด นี่เป็นครั้งแรกที่นางอยู่ต่อหน้าบุรุษเช่นนี้ นางหวาดกลัว
“แม่ชีพรหมจรรย์... แล้วยังไง...” หนิงฝานเชยคางของซื่อหวูเสีย มุมปากยกยิ้มเย้ยหยัน แต่ในใจรู้สึกสงสาร
แม่ชี... แม่ชี... คือนามอันศักดิ์สิทธิ์และไม่อาจล่วงเกิน แต่นางเป็นเพียงร่างจำลอง เป็นเพียงปีศาจชั่วร้ายที่ทำลายตนเอง ทำลายหนิงกู่ นางใช้ใบหน้าที่งดงามหลอกลวงผู้คนมามากมาย ทำให้หลงคิดว่านางคือคนดี... แต่แท้จริงกลับเป็นงูพิษ
แดนสวรรค์ทั้ง 4 ไม่ใช่สถานที่บริสุทธิ์... ไม่มีโลกไหนดินแดนใดที่บริสุทธิ์
“แม่ชีพรหมจรรย์... เป็นนามที่ข้าหนิงฝานเกลียดที่สุด” หนิงฝานเอื้อมมือบีบเข้าที่หน้าอกอันอ่อนนุ่มของนางอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ที่เหลืออีกเพียงก้าวเดียวจะบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มอย่างนางร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเจ็บ ไม่นานนางเริ่มรู้สึกมึนชา ขาเรียวขาวราวกับหยกสั่นเทายากจะหยุด
นางหวาดกลัว นางรู้ว่าบุรุษเบื้องหน้าผู้นี้โหดเหี้ยม ไร้ซึ่งความหวาดกลัวต่อผู้ที่อยู่ในแดนสวรรค์ ที่สำคัญ ยังกล้าล่วงเกินนาง
ยามนี้นางทั้งเกลียด ทั้งหวาดกลัว อำนาจดรรชนีคลายหยินของหนิงฝาน ทำให้สตรีผู้หยิ่งทะนงอย่างนางอับอาย
“ปล่อยข้า... ข้าไม่ได้ทำร้ายเจ้า... ข้าไม่ได้ทำลายหนิงกู่...” แววตาของซื่อหวูเสียแสดงออกถึงความน่าสังเวช มีหลายส่วนที่นางกล่าวความจริง แต่มีอีกหลายส่วนที่เป็นเท็จ หนิงฝานเองก็ไม่ทราบ
“วางใจเถอะ... ข้าไม่ได้สนใจร่างกายของเจ้า... หากเทียบกับร่างกายของเจ้าแล้ว ข้าต้องการทาสในขอบเขตแก่นทองคำมากกว่า...”
หนิงฝานยื่นนิ้วสัมผัสกลางหน้าผากของนาง ทักษะทาสวิญญาณสำแดงเดช แปรเปลี่ยนให้นางกลายเป็นทาส
ผ่านไปครึ่งวัน หนิงฝานผ่อนลมหายใจ สตรีผู้มีเรือนร่างเปลือยเปล่าเบื้องหน้า มีแววตากระจ่างใสบริสุทธิ์ เปี่ยมด้วยพลังของขอบเขตแก่นทองคำขั้นสุดท้าย ที่หน้าอกของนางมีตราประทับรูปดอกเหมย ยามนี้ นางกำลังจับจ้องหนิงฝานด้วยความสับสน
ตราประทับรูปดอกเหมยคือตราประทับของทักษะทาสวิญญาณ
“เจ้าเป็นใคร...แล้วข้าเป็นใคร?” นางยิ้มอย่างงดงาม ดวงตากลมโตจับจ้องหนิงฝาน
“เจ้ามีนามว่า ‘ซือซือ’ นับจากวันนี้ไป เจ้าคือกระถางขัดเกลาใบแรกของข้า”
“กระถางขัดเกลา... ซือซืออยากเป็นภรรยาท่าน...” แววตาของนางดูอ้อนวอน ยามนี้นางหลงลืมทุกสิ่ง จดจำได้เพียงหนิงฝาน นางเชื่อใจหนิงฝานตามสัญชาตญาณ เพราะตราประทับที่หน้าอกของนาง ทำให้นางเชื่อฟังคำสั่ง
“ไม่ได้... เจ้าเคยกระทำความผิดร้ายแรง เจ้าเป็นได้เพียงกระถางขัดเกลา... เจ้าเปลี่ยนอาภรณ์แล้วออกไปพร้อมข้า เมื่อใดที่ข้าหลอมสร้างแหวกกระถางสำเร็จ เจ้าจะได้บ้านใหม่”
ร่างจำลองของแม่ชีพรหมจรรย์กลับกลายเป็นกระถางขัดเกลาใบแรกให้หนิงฝาน!
แม่ชีพรหมจรรย์... ซื่อหวูเสีย... ซือซือ... ชะตากรรมของนางจะเป็นเช่นไรต่อไป?...