ตอนที่ 408 คุ้มค่า
ณ ปราสาทยักษ์ในเขต2ที่สวยงดงามราวกับผลงานชิ้นเอก หญิงสาวในชุดม่วงวัย30กำลังนั่งอยูบนโซฟาเดี่ยว เธอกำลังกอดรัดกะโหลกไว้ในมือขวา จากนั้นชายวัยกลางคนในชุดสูทดำที่ดูราวกับพ่อบ้านก็เคาะประตูห้องเธอสามครั้ง
“มีอะไร?”หญิงสาวหันไปมองและจ้องมองพ่อบ้าน
“นายหญิง มีบางสิ่งผิดปกติกับหุ่นยนต์ลิลลี่”พ่อบ้านก้มหัวลงเล็กน้อย
“เด็กนั่นได้ติดต่อมา?”หญิงสาวในชุดม่วงเลิกคิ้วขึ้น
“ไม่ขอรับ แต่บางคนในห้องทดลองพบว่าสัญญาณหุ่นยนต์เธอได้ตายไปแล้ว ห้องทดลองรายงานมาว่าเธออาจจะทำลายตัวเอง แต่ก็อาจมีบางอย่างผิดปกติกับสัญญาณ”พ่อบ้านอธิบาย
“เธอปรากฏตัวครั้งสุดท้ายที่ไหน?”หญิงสาวถาม
“ในเมืองหลวงขาวขจีของเขต7”
“นั่นอาจหมายความว่าเธอทำภารกิจล้มเหลว”หญิงสาวในชุดม่วงหรี่ตา
“แม่ แม่หมายความว่าลิลลี่อาจจะถูกฆ่าโดยหลิน ฮวง?นั่นจะเป็นไปได้ยังไง?”กระโหลกในมือหญิงสาวตะโกนขึ้น
“มันเป็นเพียงระดับเหล็กเมื่อปีก่อน จากผลการฝึกของลิลลี่ ตอนนี้เธออยู่ในระดับเพลิงขาว ไม่สำคัญว่ามันจะอัจฉริยะแค่ไหน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะลิลลี่!”
“ฉาน เอ๋อร์ สำหรับอัจฉริยะบางคน มันเป็นไปได้ที่จะเลื่อนจากระดับเหล็กเป็นเพลิงขาวในปีเดียว ลิลลี่ไม่ได้มีพรสวรรค์มาก สิ่งที่เธอบรรลุได้นั่นก็เพราะความพยายามไม่ใช่พรสวรรค์”หญิงสาวอธิบายอย่างสงบ
“แน่นอน มันอาจเป็นเพราะการปกป้อง ตระกูลเล้งได้ทำการขัดขวางเราเมื่อปีก่อน บางที พวกมันอาจยังคอยปกป้องเด็กหนุ่มที่ชื่อหลิน ฮวงนี้อยู่”
“ตระกูลเล้ง...สักวัน พวกมันจะต้องเสียใจที่มาขัดขวางเราตระกูลเว่ย!”ดวงตากลวงโบ๋ของกระโหลกเปล่งแสงสีฟ้าออกมา เมื่อมันพูด ขากรรไกรมันก็เปิดและปิด
“นายหญิง เราควร...”พ่อบ้านพยายามพูด
“ส่งคนไปจัดการเรื่องนี้ ดูว่ามันถูกทำลายจริงๆหรือด้วยเหตุผลอื่น ไม่ว่าจะยังไง มันจะเป็นปัญหาหากตระกูลในเขต7พบหุ่นยนต์นั่น การรั่วไหลของเทคโนโลยีเราจะไม่เป็นปัญหา แต่หากรัฐบาลกลางรู้ พวกเขาจะต้องมาหาเราอย่างแน่นอน”หญิงสาวสั่งทันที
“ทำลายมันทันทีที่พบมัน”
“แม่ แล้วลิลลี่ละ?”หัวกระโหลกกังวล
“เด็กนั่นไม่อาจจัดการกับเรื่องเล็กๆได้ ทำไมเราถึงควรเก็บเธอไว้?สองปีให้หลัง เมื่อลูกฟื้นขึ้นมา แม่จะให้คนหาเด็กสาวที่ดีกว่า”หญิงสาวกล่าว
“ครับ แม่”เว่ย ฉานตัดสินใจทิ้งลิลลี่
“นายหญิง เราควรจะกำจัดหลิน ฮวงไปด้วย?”พ่อบ้านถาม
“อย่าไปยุ่งกับเขา หากเขาได้รับการปกป้องโดยตระกูลเล้งจริงๆ แม้กระทั่งระดับจักรพรรดิก็ยังไม่อาจฆ่าเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมืองหลวงขาวขจียังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขต7 รัฐบาลจะต้องรู้เรื่องหากมีบางสิ่งเกิดขึ้น ภารกิจเราควรจะเป็นความสำคัญสูงสุด จงยืนยันมาว่าหุ่นยนต์อยู่ไหน หากมันยังมีชีวิต ก็นำมันกลับมาเพื่อรีไซเคิลและพยายามอย่าให้ใครเห็น”หญิงสาวในชุดม่วงเน้นย้ำความสำคัญ
“แต่ แม่ แล้วถ้าหากมันฆ่าลิลลี่ด้วยตัวเองโดยไม่มีความช่วยเหลือจากตระกูลเล้งละ?”เว่ย ฉานอดถามไม่ได้
“นั่นก็หมายความว่าเขาต้องเป็นอัจฉริยะที่ทรงพลังและคุ้มค่าแก่การเป็นหินลับมีดของลูก สองปีให้หลัง เขาจะเป็นเป้าหมายแรกของลูก”หญิงสาวในชุดม่วงยิ้ม
“แต่ แม่ หากผมแพ้ละ?”หัวกระโหลกฟังดูเหมือนลังเล
“หากลูกตายในเงื้อมมือเขา นั่นก็หมายความว่าเขาเหมาะแก่การเป็นของสะสมแม่ จากนั้น แม่จะฆ่าเขาด้วยตัวเองและทำให้เขาเป็นชิ้นงานศิลปะที่งดงาม”
หัวใจของเว่ย ฉานดำดิ่งลงเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอกล่าว ตลอดทั้งปี เขาสงสัยว่าแม่ผู้ให้กำเนิดเขาไม่ได้สนใจชีวิตเขาเลย อย่างมาก เขาก็เป็นเพียงหนูทดลองสำหรับเธอและไม่ได้ล้ำค่าอะไรไปกว่าลิลลี่ เขาอ่านระหว่างสิ่งที่เธอพูด แทนที่จะบอกว่าหลิน ฮวงคือหินลับมีดเขา มันต้องบอกให้ถูกว่าเขาต่างหากคือหินลับมีดสำหรับหลิน ฮวง มีเพียงเหตุผลเดียวในการมีชีวิตอยู่ของเขา ซึ่งก็คือการทดสอบว่าหลิน ฮวงคู่ควรแก่การเป็นของเล่นแม่เขาหรือไม่ หากเขาแพ้ แม่เขาก็จะให้ความสนใจกับหลิน ฮวงและไม่ใช่เขา หากเขาชนะ หลิน ฮวงก็จะไร้ค่าและทำให้ตัวเขามีคุณค่ายิ่งขึ้น
“ไม่ต้องกังวลแม่ ผมจะต้องชนะ!”หัวกระโหลกในคำตอบ
“แม่ก็เชื่อว่าลูกจะชนะเช่นกัน”หญิงสาวในชุดม่วงกอดหัวกระโหลกและยิ้ม
“กระผมเข้าใจ กระผมจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้”พ่อบ้านเข้าใจสิ่งที่นายหญิงสื่อ เขาไม่ได้ตอบสนองอะไรเพราะเขารู้จักนายหญิงคนนี้ดี ตามที่คาดไว้ ลูกชายเธอเป็นเพียงหมากชิ้นหนึ่งที่เธอสามารถกำจัดไปได้ทุกเมื่อที่เธอต้องการ
....
หลิน ฮวงไม้รู้ว่าเขาเพิ่งรอดจากความตายมา ตั้งแต่ที่กลับจากงานศพเจ้าอ้วน สิ่งแรกที่เขาทำคือการติดต่อเล้ง เยวี่ยซินเพื่อขอความช่วยเหลือเพื่อหาตัวตนที่แท้จริงของเว่ย ฉาน อย่างไรก็ตาม เขาก็ถูกเตือนอีกครั้งและอีกครั้งโดยเล้ง เยวี่ยซินว่าห้ามไม่ให้สืบลึกถึงเรื่องนี้เพราะเว่ย ฉานอาจข้องเกี่ยวกับเขตหลัก
ชีวิตของหลิน ฮวงกลับเป็นปกติ เขาตื่นขึ้นตอน6โมงครึ่งในทุกเช้าและมุ่งหน้าไปหอสมุดตอน7โมง เขาอยู่ที่นั่นจนถึง6โมงและฝึกทักษะดาบเขาในห้องฝึกจนกระทั่งเที่ยงคืน เขาแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อน ในความเป็นจริง หลิน ฮวงไม่ได้ล้มเลิกการสืบสวน เขาจำได้ว่าจาง หมิงหมิงกล่าวว่าเว่ย ฉานยังมีชีวิตอยู่และจะล้างแค้นหลิน ฮวงในอีกสองปี หลิน ฮวงกำลังรอให้วันนั้นมาถึง ความจริงจะปรากฏทันทีที่เขาจับเว่ย ฉานได้!
หลิน ซินเองก็รู้สึกได้ว่าแม้หลิน ฮวงจะดูเหมือนเดิม แต่จริงๆแล้วเขาได้ปิดซ่อนความรู้สึกเศร้าหมองไว้ข้างใน เธอไม่ได้พูดอะไรเพราะเธอรู้ว่าเจ้าอ้วนคือหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของหลิน ฮวง คำพูดไม่อาจทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ทั้งหมดที่เขาต้องการคือเวลา
ในไม่ช้าครึ่งเดือนก็ผ่านไป การแจ้งเตือนจากเสี่ยว เฮยปรากฏขึ้นเมื่อหลิน ฮวงอยู่ในห้องฝึกตอนกลางดึก
“ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้สะสมชิ้นส่วนการ์ดทักษะระดับตำนาน’โดมดารา’ครบ10000ชิ้น ท่านต้องการจะผสานชิ้นส่วนการ์ดเป็นการ์ดทักษะหรือไม่?”
“ใช่!”หลิน ฮวงกล่าวโดยไม่คิดให้เปลืองเวลา
“ชิ้นส่วนการ์ดโดมดารา10000ชิ้นถูกตัดออกไป กำลังผสาน”
“ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้รับการ์ดทักษะระดับตำนาน-โดมดารา”
“ชื่อการ์ดทักษะ : โดมดารา”
“ความหายาก : ตำนาน”
“ประเภททักษะ : ทักษะต่อสู้”
“ระดับทักษะ : ทักษะต่อสู้ระดับหลุดพ้น”
“สถานะ : ใช้งานได้”
“หมายเหตุการณ์ด : คุ้มค่า!”
“คุ้มค่า...”
มันเป็นครั้งแรกที่เสี่ยว เฮยให้หมายเหตุที่ดีเช่นนี้
“ตอนนี้ ฉันเชี่ยวชาญมันแล้ว มันเกือบจะถึงเวลาต้องฆ่ามอนสเตอร์ประเภทดาบแล้ว”หลิน ฮวงได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดของมอนสเตอร์ประเภทดาบกลายพันธ์สองครั้งไว้เมื่อสองวันก่อน เขาไม่ได้ออกไปฆ่ามอนสเตอร์ขณะที่รวบรวมชิ้นส่วนการ์ดโดมดารา เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเขาจะได้รับทักษะนั้นทันทีที่สะสมชิ้นส่วนการ์ดครบ1หมื่นชึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงเลื่อนการเดินทางออกไป
เขามองดูเวลา มันเกือบ5ทุ่มแล้ว เนื่องจากเขาได้รับการ์ดทักษะมาแล้ว เขาจึงไม่อยากฝึกอีกต่อไป เขาเก็บดาบและกลับไปที่หอพัก หลิน ซินผู้ที่อยู่ในห้องนอนบนชั้นสองยังคงตื่นอยู่ เธอรู้ว่ามันคือหลิน ฮวงเมื่อเธอได้ยินเสียงเปิดประตูจากชั้นล่าง เธอลุกขึ้นทันที สวมรองเท้าแตะและลงไปชั้นล่าง
“พี่คะ ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจัง?”
“อ่า พรุ่งนี้พี่จะออกไปแล้ว พี่อาจจะใช้เวลาสองสามวัน”หลิน ฮวงพยักหน้าให้หลิน ซิน
“เพื่ออะไรค่ะ?”หลิน ซินกังวล
“ฆ่ามอนสเตอร์”หลิน ฮวงบอกความจริง
“งั้นหนูจะไปด้วย!”หลิน ซินกล่าวทันที
“งั้นก็ไปเก็บของซะ เราจะออกเดินทางกันตอนเช้าตรู่”หลิน ฮวงคิดเกี่ยวกับมันและเห็นด้วย ไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายระหว่างการเดินทางและหลิน ซินก็เคยฝึกฝนมาพอสมควร ยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรกับหลิน ซิน