DND.46 - มงกุฎศักดิ์สิทธิ์
เมื่อศิษย์อสูรในสำนักรู้ว่าซือหยูซ่อนตัวจากไปชี่เซียงและองครักษ์เฉินยังไง ชื่อเสียงของเซี่ยจิงหยูคงจะมัวหมองทันที
นางเป็นชนชั้นขุนนางที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง นางไม่ยอมให้ฟางฉิงโจวสัมผัสตัวเพื่อคงความบริสุทธิ์เอาไว้จนคิดปลิดชีวิตตนเอง แต่ในตอนนี้นางเต็มใจใช้ร่างกายงดงามราวหยกกอดซือหยู
“ศิษย์พี่...เซี่ย...”
ซือหยูมักจะใจเย็นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ในหัวของเขาว่างเปล่า
ในชีวิตก่อน หากมีเรื่องเข้าใจผิดกับสตรี เขาเพียงแค่ใช้ถ้อยคำหวานให้พวกนางสุขใจและหาโอกาสสลัดทิ้งไป
แต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้กับเซี่ยจิงหยูเพราะเป็นนางที่สละความบริสุทธิ์เพื่อช่วยเขา หากเขาไม่มีเซี่ยนเอ๋อเป็นคู่หมั้นเขาคงจะกล้ารับผิดชอบนาง แต่ฉินเซี่ยนเอ๋อคือคู่หมั้นของเขา นางที่เสียพ่อไปคงทนรับการสูญเสียคู่หมั้นอีกมิได้แน่
เซี่ยจิงหยูเช็ดน้ำตา ผิวนางยังคงสะท้อนแสงยามค่ำคืน มันเป็นแสงที่หม่นหมองราวกับดอกบัวยามใบไม้ร่วง ทั้งน่าหลงใหลและดูเย็นชา
นางบอกซือหยูว่าอย่าใส่ใจ นางท่องประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงอนาคต
ในตอนนั้นมีเสียงฝีเท้าจากด้านนอกใกล้เข้ามา
“หยูเอ๋อ พ่อเข้าไปได้ไหม?”
เซี่ยจิงหยูใจหายใจที นางมองซือหยูอย่างซับซ่อน อ่อนโยน และสิ้นหวัง
“ได้ค่ะ ข้าตื่นแล้วท่านพ่อ”
สิ่งที่นางต้องเจอ ท้ายสุดก็ต้องเจอ เป็นไปไม่ได้ที่นางจะซ่อนซือหยูในกระโจมนี้
เซี่ยหลินฉวนกังวลว่าลูกสาวกำลังหวาดกลัวข้างในกระโจม แต่เขากลับเห็นชายที่ใบหน้าเหน็ดเหนื่อยและดูราวกับขอทานนั่งอยู่กับเตียงลูกสาว เขาที่เป็นพ่อของเซี่ยจิงหยูรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า!
เมื่อมองเขาก็รู้สึกคุ้นหน้าชายหนุ่มผู้นี้มาก!
“ซือหยู!”
เซี่ยหลินฉวนตกตะลึงอีกครั้ง เขาถูกผู้อาวุโสฉินช่วยหนีไปจากเฟิงหลินแล้วมิใช่หรือ? ทำไมเขามาอยู่ที่นี่?
แต่ก็มีอีกหนึ่งคำถามที่ทำให้เขาโกรธเกรี้ยว! หากลูกสาวเขานอนเปลือยกายบนเตียง แล้วซือหยูไปอยู่บนเตียงกับนางได้ยังไง?
ลูกสาวเขาบริสุทธิ์ผุดผ่อง เซี่ยหลินฉวนเชื่อว่านางจะไม่ทำอะไรที่ทำให้ตระกูลเสื่อมเสีย เห็นได้ชัดว่านางปกป้องซือหยูและแสร้งหลับ แต่ในตอนนั้นเองซือหยูก็อยู่ร่วมเตียงกับนาง!
เซี่ยหลินฉวนตกใจมาก! ความบริสุทธิ์ของลูกสาว….
หลังจากได้ยินเสียงดัง เย่ฉวนกับศิษย์อสูรก็รีบมาที่กระโจมเซี่ยจิงหยู พวกเขาตัวแข็งทื่อกับสิ่งที่ได้เห็น
เซี่ยจิงหยูนอนเปลือยกายกับซือหยูงั้นเหรอ? คนข้างนอกกระโจมต่างนิ่งงัน!
เมื่อมีสายตาหลายคู่มองเข้ามาใบหน้าเซี่ยจิงหยูก็แดงก่ำ นางที่บริสุทธิ์ผุดผ่องมิอาจทนต่อสายตาที่จ้องมองเข้ามาได้
“พวกเจ้าทุกคนออกไป!”
เซี่ยหลินฉวนตื่นตระหนกราวกับมีลาวาที่พร้อมปะทุตลอดเวลา
เย่ฉวนนำศิษย์อสูรออกไปทันที เขาเฉลียวฉลาดและระวังตัวเสมอ เขาต้องทำให้ศิษย์ไม่กระจายเรื่องซือหยูในกระโจมออกไป! หากไป่ชี่เซียงรู้เข้าเขาจะทำลายสร้อยหยกที่ทำให้พวกเขาทั้งหมดถูกสังหาร! แต่มันก็ยากที่จะรักษาความลับเช่นนี้
เซี่ยหลินฉวนเต็มไปด้วยความโกรธ เขามองลูกสาวและรู้สึกว่าสิ่งที่นางทำช่างไม่คุ้มค่า เขาเจ็บปวดจากไฟพิโรธในใจ
เพื่อช่วยซือหยู ชายที่นางรู้จักได้ไม่นาน นางต้องสละเพียงนี้เชียวหรือ? ในตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วว่านางเสียความบริสุทธิ์ให้ซือหยู แม้ว่าพวกเขาจะยังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่ชื่อเสียงของลูกสาวเขามัวหมองไปหมดแล้ว!
บุรุษผู้ใดกันจะวิวาห์กับสตรีที่นอนเปลือยกายกับชายอื่น? เมื่อเขามองซือหยูหัวใจของเขาก็ลุกเป็นไฟด้วยความโกรธแค้น!
แม้ว่าเขาจะโกรธมากเขาก็เข้าใจว่าไม่ใช่ความผิดของซือหยูไปเสียทั้งหมด หากซือหยูมีทางเลือกอื่นเขาคงจะไม่มีทางเข้ามาในกระโจมนี้
เขาข่มความโกรธและพูดด้วยความเย็นชา
“ซือหยู! บอกข้ามา เจ้าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”
ซือหยูพูดเชิงขออภัย
“ข้าให้ท่านเซี่ยตัดสินใจ!”
“ดี!”
เซี่ยหลินฉวนคิดอยู่ชั่วครู่
“ไม่มีทางใดที่จะรักษาชื่อเสียงของลูกสาวข้าได้อีกแล้ว นอกจากเจ้าต้องแต่งงานกับนาง!”
เซี่ยจิงหยูรู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาด นางหน้าแดงและยืนกรานไม่ยอมรับ
“ไม่..ท่านพ่อ! เขา...”
ซือหยูและเซี่ยจิงหยูไม่ได้รู้จักกันมายาวนาน เซี่ยจิงหยูไม่มีความรู้สึกต่อซือหยูมากนัก นางเพียงแค่ประทับใจเขา นางไม่ได้คิดที่จะแต่งงานกับซือหยู
“ฮื่ม! เจ้ายังมีทางเลือกอีกรึ? เราต้องให้ซือหยูตัดสินใจเอง!”
เซี่ยหลินฉวนจ้องลูกสาว เขาใช้โอกาสนี้เพื่อกอบกู้ลูกสาว หากเขาไม่ใช้โอกาสนี้บังคับซือหยูให้แต่งงานกับลูกสาวแล้วลูกสาวเขาจะไปแต่งงานกับชายอื่นได้ยังไง?
แน่นอนว่าลูกสาวของเขางดงามมาก มีบุรุษหลายคนหมายตานางอยู่ ไม่ยากที่นางจะแต่งงาน แต่ถ้าหากนางอยากจะแต่งงานกับผู้ที่มีศักดิ์ศรีเท่ากัน เรื่องนี้จะทำให้นางไม่บริสุทธิ์!
ซือหยูยืนกรานขอโทษ
“ท่านเซี่ย ข้ายอมรับเรื่องนี้ไม่ได้! เซี่ยนเอ๋อคือคู่หมั้นของข้าและข้าทำเช่นนี้กับนางไม่ได้!”
เซี่ยจิงหยูที่กังวลสบายใจขึ้นเมื่อได้ยินคำปฏิเสธ นางกลัวว่าพวกเขาจะต้องแต่งงานกันท่ามกลางความวุ่นวายนี่
แต่นางก็ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อโดนปฏิเสธแล้วจิตใจนางก็ไม่ได้สงบลงอย่างที่คิด นางกลับผิดหวังที่ซือหยูปฏิเสธนาง
เซี่ยหลินฉวนข่มความโกรธไม่ได้อีกแล้ว เขากัดฟันและพูดทีละคำอย่างชัดเจน
“เพราะเจ้า ชื่อของลูกสาวข้าจึงเสื่อมเสีย หากเจ้าไม่แต่งงานกับนาง แล้วเจ้าจะชดใช้นางยังไง?”
“ข้า...”
ซือหยูคิดอะไรไม่ออก เขาหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะพูดอย่างจริงใจ
“ท่านเซี่ยและศิษย์พี่เซี่ย โปรดให้เวลาข้าไตร่ตรอง หลังจากงานประชุมศักดิ์สิทธิ์จบลงแล้วข้าจัดการเรื่องงานแต่งงานกับเซี่ยนเอ๋อ ข้าจะอธิบายเรื่องกับพวกท่าน”
เซี่ยหลินฉวนโกรธจัด เขามิอาจรั้งให้เรื่องมันยาวไปกว่านี้ เขาให้ซือหยูคิดวิธีชดใช้ แต่ซือหยูกลับไม่ตอบว่าจะทำอะไร
ท้ายสุดลูกสาวของเขาที่อ่อนโยนและไม่อาจทนบังคับให้ซือหยูแต่งงานกับนางก็เกลี้ยกล่อม
“ท่านพ่อ...สะสางเรื่องนี้หลังจากซือหยูแต่งงานกับเซี่ยนเอ๋อเถอะ”
เซี่ยหลินฉวนโกรธมาก แม้เขาจะยืนกรานเพื่อสิทธิ์ของลูกสาว...นางกลับไม่เข้าข้างเขา!
“ซือหยู! ข้าจะจำเรื่องนี้ให้ขึ้นใจ! เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่!”
เซี่ยหลินฉวนกระทืบเท้าออกไป
เซี่ยหลินฉวนไม่เข้าใจ ดยุคเซี่ยนหยูไร้อำนาจไปแล้วซึ่งทำให้ซือหยูจะไม่สำเร็จอะไรที่ยิ่งใหญ่เลยในอนาคต
ลูกสาวเขาทั้งดูดีและสง่างาม ตัวเขาเองก็มีพลังระดับเจ็ดที่จะช่วยซือหยูบ่มเพาะพลังได้ แล้วทำไมซือหยูยังหนักแน่นที่จะแต่งงานกับฉินเซี่ยนเอ๋อ?
เมื่อพ่อนางเดินไปไกลแล้วนางก็พูดอย่างอ่อนโยน
“ข้าคิดมากเรื่องพ่อข้าเลย ข้ามิต้องการให้เจ้ารับผิดชอบสิ่งใด ข้าเพียงหวังให้เจ้าดูแลเซี่ยนเอ๋อให้ดี”
ซือหยูทั้งหวั่นไหวและละอายใจ
“ข้าติดหนี้ดยุคเซี่ยนหยู ก่อนเขาตาย เขาฝากลูกสาวไว้กับข้า ข้ามิอาจทิ้งเซี่ยนเอ๋อไปไหนได้ หากเรื่องทุกอย่างคลี่คลาย ข้าจะกลับมาชี้แจงกับศิษย์พี่เซี่ย”
นางรับฟังความลำบากของซือหยู นางตระหนักได้ว่าทุกอย่างเพราะเขานั้นรู้สึกเคารพนับถือดยุคเซี่ยนหยูเป็นอันมาก ความผิดหวังในใจนางค่อยๆลบเลือน นางเริ่มเข้าใจซือหยูมากขึ้น
ทุกคนคิดว่าซือหยูทะยานหนีไปด้วยปีกที่มาโอบอุ้ม ใครกันจะคิดว่าเขาจะยืนหยัดต่อสู้กับตระกูลราชวงศ์?
“เรียกข้าว่าจิงหยู บอกเรื่องเซี่ยนเอ๋อหน่อยได้ไหม?”
ซือหยูพนักหน้า
หลังจากหนึ่งชั่วโมง นางทั้งรู้สึกพอใจและเป็นห่วง
นางยินดีที่เซี่ยนเอ๋อปลอดภัยและหนีไปยังเฟิงหวง เฟิงหวงเป็นแคว้นที่แกร่งมิยิ่งหย่อนไปกว่าเฟิงหลิน ดังนั้นแล้วเฟิงหลินจะคุกคามเซี่ยนเอ๋อไม่ได้อีก
แต่นางกังวลซือหยูที่แน่วแน่จะเข้าร่วมงานประชุมศักดิ์สิทธิ์เพื่อล้างแค้น โอกาสที่เขาจะได้ลำดับหนึ่งช่างน้อยนิด และเขาอาจจะต้องจบลงอย่างน่าสงสาร
เมืองหลวงเป็นพื้นที่ขององค์ชายลำดับหนึ่ง หลังจากงานประชุมศักดิ์สิทธิ์จบลงบัญชาศักดิ์สิทธิ์ที่ซือหยูมีจะหายไป จะไม่มีอะไรขวางองค์ชายลำดับหนึ่งให้สังหารซือหยูได้อีกแล้ว
หากซือหยูใช้คนเต็มกำลัง แม้ซือหยูจะมีพลังระดับเก้าก็ต้องพบจุดจบแห่งความเศร้า
ซือหยูต้องต่อสู้ขณะแขวนชีวิตไว้บนเส้นด้าย หากเขาไม่ได้ลำดับหนึ่ง สิ่งที่รอคอยเขาจะมีเพียงแต่ความตายเท่านั้น
ซือหยูไม่ได้ข้อมูลมากนัก เขารู้แค่ว่าในวันที่พวกเขาหนีออกมา ดยุคเซี่ยนหยูถูกองค์ชายลำดับสามช่วยไว้และยังมีชีวิตอยู่ แต่เขาก็เสียแขนไปหนึ่งข้าง
เรื่องนี้ทำให้ซือหยูดีใจมาก แต่อีกเรื่องที่ได้ยินก็ทำให้เขาเศร้าหมอง เพราะองค์ชายลำดับสองถูกสังหาร นั่นทำให้ดยุคเซี่ยนหยูต้องถูกประหารในอีก 10 วัน!
นั่นเป็นวันที่งานประชุมศักดิ์สิทธิ์จบลง! ซือหยูไม่มีเวลาอีกแล้ว ซือหยูต้องได้ลำดับหนึ่งในงานประชุมศักดิ์สิทธิ์ให้จงได้! เขาจะต้องได้ที่หนึ่ง มิเช่นนั้นดยุคเซี่ยนหยูจะถูกประหาร!
“วันที่เหลืออยู่ให้ข้าประลองกับเจ้าเถอะ เราจะได้เรียนรู้ด้วยกัน ข้าหวังว่าจะทำให้เจ้าเพิ่มพลังได้มากขึ้น มิเช่นนั้นด้วยพลังระดับนี้ โอกาสที่เจ้าจะถึงสามสิบอันดับแรกจะมีน้อยนิด มิต้องพูดถึงลำดับหนึ่งเลย”
เซี่ยจิงหยูหวั่นไหวเพราะความแน่วแน่ของต่อดยุคเซี่ยนหยูของเขา นางจึงคิดสนับสนุนด้วยพลังทั้งหมดที่มี
ซือหยูส่ายหัวเบาๆ
“ไม่!”
“ทำไมกัน?”
เซี่ยจิงหยูขบริมฝีปาก
ซือหยูพูดอย่างสุขุม
“องค์ชายลำดับหนึ่งจะสังหารข้าทันทีหากข้าเข้าเมืองหลวง เขาจะต้องแอบส่งมือสังหารมาแน่นอน”
“หากพวกเขารู้ว่าข้าอยู่กับพวกท่าน เขาจะต้องสังหารทุกคนเพื่อปกปิดความจริง! ข้ามิอาจลากพวกท่านทั้งหมดมาตายกับข้า”
ซือหยูพูดช้าๆ
ตัวตนของไป่ชี่เซียงยืนยันคำพูดของซือหยูได้เป็นอย่างดี
แม้เซี่ยจิงหยูจะเข้าใจ แต่นางก็เก็บคำพูดไม่ได้อีกแล้ว
“แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อ? หากเราไม่ปกป้องเจ้า แล้วใครจะปกป้องเจ้า?”
ซือหยูมาจากหมู่บ้านยากจน คนที่แกร่งที่สุดที่เขารู้สึกมีเพียงดยุคเซี่ยนหยู เซี่ยจิงหยูไม่คิดว่าซือหยูจะมีคนอื่น
“ยังมีอีกหนึ่งคน!”
ซือหยูตาเป็นประกาย
เช้าถัดมา คณะสำนักเซี่ยนหยูเดินทางเข้าเมืองหลวงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซือหยูปลอมตัวเป็นข้ารับใช้และปะปนไปกับผู้คน เขาแอบปิดบัญชาศักดิ์สิทธิ์บนหน้าผากเอาไว้
ศิษย์อสูรทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเพราะเซี่ยหลินฉวนเตือนหลายต่อหลายครั้ง พวกเขามุ่งหน้าเข้าเมืองหลวงอย่างช้าๆ
ท่ามกลางฝูงชน ไป่ชี่เซียงและองครักษ์เฉินแอบสังเกตการมาของพวกเขาอยู่นาน องครักษ์เฉินส่ายหัวเบาๆ
“ดูเหมือนเขาจะไม่ได้อยู่กับพวกนั้นจริงๆ เราเสียเวลาทั้งคืน!”
ไป่ชี่เซียงโกรธมาก
“ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์! มันหนีรอดจริง! เราต้องกลับไปรายงานกับองค์ชายหนึ่ง!”
หลังจากเข้าเมืองหลวง ซือหยูก็มองซือหยูด้วยอารมณ์หลากหลาย ดวงตาราวหิมะของนางสั่นราวกับสูญเสียบางสิ่ง ความเศร้าหมองกัดกินจิตใจของนาง
ซือหยูและเซี่ยจิงหยูมิได้กล่าวคำอำลาเพื่อป้องกันไม่ให้ใครจับได้ พวกเขาเพียงส่งสายตาอำลา...ที่อาจจะเป็นการลาจากครั้งสุดท้าย
หากซือหยูมิได้ชนะและสวมมงกุฎศักดิ์สิทธิ์...เขาคงหลีกหนีความตายไม่พ้น
ซือหยูให้โอกาสที่ไม่มีใครมองอยู่หลบหายไป เซี่ยจิงหยูไหล่สั่นและเศร้าโศกจากใจ
“ทำไมกัน...หยูเอ๋อ ทำไมเจ้าต้องทรมานตัวเองเช่นนี้?”
เซี่ยหลินฉวนมีพลังระดับเจ็ด เขาจะไม่รู้ว่าซือหยูจากไปแล้วได้อย่างไร?
เขาลูบไหล่ลูกสาวอย่างแผ่วเบาและถอนหายใจ
“เจ้าควรบังคับเขาให้อยู่ต่อ เขาให้คุณค่ากับผู้คนมาก หากเจ้าเอาความตายมาขู่เขา เขาจะต้องอยู่กับพวกเราแน่นอน”
ดวงตานางเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อน
“ท่านพ่อ ปล่อยเขาไปเถิด ข้ามิอยากเป็นดั่งสวรรค์ที่ลิขิตชะตาเขาเช่นนี้”
*************
ที่หายไปเพราะผู้แปลถูกอุบัติเหตุรถชน ช่วงนี้อาจจะแปลช้าหน่อย หายดีแล้วจะกลับมาลงปกติเช่นเคยจ้า(ประมาณ 1 สัปดาห์) ต้องขออภัยนักอ่านทุกท่านมา ณ ที่นี้ - Banshee
************
ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา