DND.45 - สละตนเพื่อหนึ่งคน
เซี่ยจิงหยูที่โกรธเกรี้ยวและอับอายใช้มืองดงามราวหยกของนางยกผ้าห่มขึ้น ในผ้าห่มคือคนที่ดูราวกับขอทานที่สวมเสื้อผ้าขาดๆนอนตัวสั่นอยู่
แต่เมื่อนางมองที่ใบหน้าก็ตัวแข็งทื่อ! นางมิอาจเชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า ไม่ใช่ว่าซือหยูหนีไปจากเฟิงหลินแล้วหรือ? ทำไมเขาถึงอยู่นอกเมืองหลวงบนเตียงข้ากัน?
นางเดินเข้าไปใกล้เตียงและยืนยันว่านางไม่ได้คิดไปเอง ซือหยูสวมชุดหมั้นจากครั้งที่แล้ว
เขาจริงๆด้วย! เซี่ยจิงหยูหายใจแรง นางมิเชื่อสายตา
นางเก็บกลั้นความยินดีไม่อยู่ ความเยือกเย็นเปลี่ยนเป็นพลังและความเบิกบานใจ นางหันเตรียมจะออกไปข้างนอก
“ท่านพ่อ ซือหยู...”
ซือหยูกึ่งหลับกึ่งตื่น การเคลื่อนไหวของเซี่ยจิงหยูทำให้เขาตื่นเล็กน้อย
แม้ว่าศีรษะจะหนักอึ้ง ความคิดเขาก็ยังคงอยู่ เขาคว้าเอวเซี่ยจิงหยูโดยไม่รู้ตัว
“ไม่มีอะไรอันตราย...มีคนไล่ตามและคิดจะฆ่าข้า….”
หลังจากนั้นเขาก็หลับสนิท
เซี่ยจิงหยูตกใจมาก ซือหยูมีบัญชาศักดิ์สิทธิ์ติดตัว...ใครกันจะกล้าสังหารเขา? แต่นางก็เข้าใจความหมายลึกๆของซือหยู หากมีคนอยากจะสังหารเขาและนางเปิดเผยที่อยู่ออกไป คนที่ไล่ตามมาก็อาจจะสังหารคนทั้งกลุ่มเพื่อปิดปาก!
หากอยู่ในเขตเซี่ยนหยู เซี่ยจิงหยูคงจะไม่กังวล พ่อนางมีพลังแข็งแกร่งและนับว่าเป็นตำนานแห่งเซี่ยนหยู
แต่พวกเขาอยู่ใกล้เมืองหลวงที่มีผู้แข็งแกร่งราวจำนวนเมฆาบนท้องนภา ดังนั้นมันจึงยากที่จะบอกว่าคนที่ตามซือหยูมามีพลังแค่ไหน
นางจะให้ใครรู้เรื่องซือหยูไม่ได้ มิเช่นนั้นข้อมูลสำคัญจะหลุดออกไป!
เซี่ยหลินฉวนอยู่ไม่ห่างจากลูกสาวนัก เมื่อได้ยินเสียงแปลกๆของนางเขาจึงรีบมุ่งหน้ามาที่กระโจม
“หยูเอ๋อ เกิดอะไรขึ้น?”
“อ๊ะ...ไม่มีอะไรค่ะท่านพ่อ ข้าแค่รู้สึกเศร้า ท่าพ่ออย่าเข้ามานะ ข้าถอดเสื้อผ้าอยู่”
เซี่ยหลินฉวนที่ยื่นมือเปิดกระโจมชักมือกลับทันที เขาถอนหายใจเบาๆ
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว...สวรรค์ช่วยคนที่คู่ควร...เจ้ามิต้องกังวลถึงซือหยู”
“ข้ารู้ ท่านพ่อ”
เซี่ยจิงหยูใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หน้านางแดงด้วยความเขินอาย
เมื่อเสียงฝีเท้าของพ่อไกลออกไปนางก็โล่งใจ นางหันกลับไปจ้องซือหยูที่กำลังหลับลึก ความสุขอันเปี่ยมล้นทำให้นางน้ำตาคลอ เซี่ยจิงหยูกระซิบเสียงสั่น
“ข้าคิดว่าเจ้าตายไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเจ้าอีกครั้ง”
น้ำตาไหลอาบแก้มนางอย่างแช่มช้า ใจนางรู้สึกได้ถึงความสุขสงบ ความอบอุ่นและยินดีเมื่อมองซือหยู ราวกับวันที่นางกับเขาร่ายรำใต้แสงจันทร์และมวลบุพผา ซือหยูจับมือนางและช่วยสอนฎีกาสวรรค์ให้ ตอนนั้นนางรู้สึกถึงอีกขอบเขตที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ในความจริงนางเพียงเอนกายให้กับอกอันมั่นคง
แม้จะผ่านมานาน นางก็ยังคงไม่ลืมความรู้สึกที่ได้แนบชิด มันฝังลึกภายในใจ แม้จะผ่านไปหลายปีจนลืมเลือนทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ นางก็จะไม่ลืมวันใต้แสงจันทร์ที่ได้แนบชิดอกซือหยู
หลังจากจ้องมองนางก็คิดได้ว่าต้องเตรียมน้ำและอาหารให้ซือหยู นางลุกขึ้นแต่ซือหยูก็กอดเอวนางไว้แน่นไม่ให้นางไปไหน นางยิ้มอย่างอ่อนโยนและนั่งที่ขอบเตียงอยู่กับซือหยูเงียบๆ
ด้านนอก ไป่ชี่เซียงกับองครักษ์เฉินกำลังมองมาทางกลุ่มคน
“บัญเอิญอะไรเช่นนี้ สำนักเซี่ยนหยูพาสิบศิษย์อสูรมาเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประเมินศักดิ์สิทธิ์”
ทุก 13 เขต ทุกสำนักมีอำนาจส่ง 10 ศิษย์ที่แกร่งที่สุดมาที่เมืองหลวงเพื่อร่วมงานประชุมศักดิ์สิทธิ์
“ลูกพี่ มันไม่ยากหรอกที่จะหาว่าซือหยูอยู่ที่นั่นหรือไม่ แต่เราจะทำยังไงถ้ามันอยู่”
“ถ้าเขาไม่ได้อยู่กับพวกนั้นก็ดีสิ เราเพียงแค่ขอโทษเท่านั้น ด้วยพลังของเราสำนักคงจะอำนวยความสะดวกให้”
“ถ้าซือหยูอยู่กับพวกนั้นจริงเราจะทำยังไง? ถ้าเราลงมือ เป็นไปไม่ได้ที่เซี่ยหลินฉวนจะไม่รู้! แต่ถ้าเราไม่ลลงมือ ซือหยูก็จะเข้าเมืองหลวงกับพวกเขาพรุ่งนี้ เราจะลงมือยากขึ้นอีก”
ไป่ชี่เซียงบ่นพึมพำและมองด้วยแววตาเย็นชา
“เรามีทางเลือกรึ? ฆ่ามันให้หมด!”
“นั่นนับว่าฆ่ากลุ่มคนผู้มีบัญชาศักดิ์สิทธิ์ ด้วยสร้อยหยกที่องค์ชายให้ข้า เราจะฆ่ามันทั้งหมด!”
ไป่ชี่เซียงถอดหน้ากากและไปที่กลุ่มคนกับองครักษ์เฉิน ผู้มีพลังระดับห้าและหกสองคนถึงค่ายพักแรมทันที
เซี่ยหลินฉวนกับเย่ฉวนออกมาทันที เซี่ยหลินฉวนตากระตุก องครักษ์เฉินนั้นคือคนที่เขาไม่คุ้นหน้า
แต่ไป่ชี่เซียงคือคนที่มีพลังระดับหกขั้นสูงแน่นอน เซี่ยหลินฉวนพบเขาในวันที่ดยุคเซี่ยนหยูถูกจับกุม
“ไป่ชี่เซียง! เจ้าคิดจะทำอะไรกับค่ายของข้า? องค์ชายหนึ่งบอกว่าพวกข้าเป็นกบฎอีกงั้นรึ?”
เซี่ยหลินฉวนไม่พอใจกับสิ่งที่ดยุคเซี่ยนหยูต้องเจอ
ตลอดชีวิตของดยุคเซี่ยนหยู เขาทั้งภักดีและทุ่มเทให้กับแคว้น เขามีชื่อเสียงที่ดีมาตลอด แต่เขาไม่คิดว่าเขาจะต้องถูกจับเพราะอำนาจของราชวงศ์
สมุนขององค์ชายลำดับหนึ่งปรากฏตัวที่ค่ายพวกเขา พวกเขาจะดูแลอย่างดีได้เช่นไร?
“ข้ารับคำสั่งให้จับตัวองค์หญิง และข้ายังได้เบาะแสว่าสำนักให้ที่อยู่นาง ข้าต้องค้นที่นี่ เจ้าบ้านเซี่ย ข้าแนะนำท่านให้พวกเราทำตามนี้นะ!”
เซี่ยนเอ๋อคือกบฎที่เฟิงหลินต้องการตัว ใครที่ให้ที่พักกับนางจะต้องถูกลงโทษด้วย รวมถึงเซี่ยหลินฉวน!
“ไป่ชี่เซียง เจ้าลืมต้นกำเนิดของสำนักไปแล้วรึ?”
เซี่ยหลินฉวนพูดอย่างเย็นชา
สำนักนับเป็นสาขาย่อยของวิหารศักดิ์สิทธิ์ ตามทฤษฎีแล้วตระกูลราชวงศ์ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย ไป่ชี่เซียงนำสร้อยหยกที่มีพลังโจมตีระดับเจ็ดขั้นสูงออกมา
เซี่ยหลินฉวนตกตะลึง หากไป่ชี่เซียงปล่อยพลังของสร้อยหยก ทุกคนในค่ายคงจะตายทันที รวมถึงเขาด้วย!
“เจ้าบ้านเซี่ย เรื่องมันชักจะแปลก”
เย่ฉวนกระซิบ
“ถึงไป่ชี่เซียงจะรู้ว่าสำนักคือลูกของวิหารศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ยังกล้าขู่เรา ข้าคิดว่าเขาตั้งใจจะฆ่าเราทุกคนจริงๆ”
เซี่ยหลินฉวนพยักหน้า เรื่องนี้มันไม่ปกติ
“ไป่ชี่เซียง ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่!”
สุดท้าย เซี่ยหลินฉวนเลือกทางประนีประนอม ถ้าเขาตายคนเดียวก็ไม่เป็นไรนัก แต่เขาพา 10 ศิษย์อสูรมาด้วย พวกเขาจะเป็นเหยื่อจากความไม่ยุติธรรมเช่นนี้ได้
เขาค่อยๆเปิดทางให้พวกไป่ชี่เซียง เซี่ยหลินฉวนไม่มีฉินเซี่ยนเอ๋ออยู่ด้วยจริงๆ เขาไม่มีอะไรต้องกลัว
ไป่ชี่เซียงกับองครักษ์เฉิยช่วยกันตรวจทีละกระโจมเพื่อไม่ให้พลาด จนมาถึงกระโจมสุดท้าย
พวกเขาสีหน้าหม่นหมอง ซือหยูจะอยู่กับพวกเขาจริงๆงั้นหรือ? หรือเขาเปลี่ยนเส้นทางและหนีไปเมืองอื่น?
ไป่ชี่เซียงกำลังจะเปิดกระโจมสุดท้าย เซี่ยหลินฉวนยื่นมือมาหยุดเขา
“นี่เป็นของลูกสาวข้า นางเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ข้าไม่ให้เจ้าล่วงเกินนาง!”
หรือซือหยูจะอยู่ในนี้กัน? ไป่ชี่เซียงกำสร้อยหยกแน่น เขาพร้อมจะบีบมันให้แตกทุกเมื่อเพื่อฆ่าทุกคนรวมถึงซือหยูด้วย!
เซี่ยจิงหยูได้ยินเสียงด้านนอก หัวใจนางเต้นอย่างบ้าคลั่ง หรือคนที่ไล่ตามซือหยูจะอยู่ข้างนอกนั่น?
หากพ่อนางขวางพวกมันไม่ได้ แสดงว่าคนที่ไล่ล่าซือหยูต้องแกร่งมาก! ไม่นะ! นางจะให้ใครเจอซือหยูไม่ได้ ไม่ใช่แค่นางคนเดียว ทั้งกลุ่มจะตกอยู่ในอันตรายด้วย!
แต่กระโจมตีธรรมดาและติดตั้งอย่างหยาบๆทำให้เห็นข้างในอย่างชัดเจน ไม่มีที่ให้ซ่อนคนเลย!
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทำให้เซี่ยจิงหยูกระวนกระวาย นางหน้าแดงราวกับดอกบัวที่บานหลังฝนหยุด
เซี่ยจิงหยูห่มผ้าและนอนบนเตียง นางใช้ร่างกายตนเองเพื่อปกปิดร่องรอยของซือหยู
เมื่อไป่ชี่เซียงเปิดทางเข้ากระโจมเขาก็พบเพียงแผ่นหลังสตรีที่หลับใหล เขาผิดหวังมากแต่ก็คิดอะไรขึ้นมาได้...หรือซือหยูจะอยู่บนเตียงนั่น?
แต่เขาก็ทิ้งความคิดไปทันที หากนางสละตนเพื่อบุรุษแล้วนางจะไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป
จากข้อมูลที่มี เซี่ยจิงหยูกับซือหยูสนิทสนมกันแต่ยังไม่ถึงขั้นที่เซี่ยจิงหยูจะสละความบริสุทธิ์เพื่อช่วยเขา
องครักษ์เฉินมองเข้ามาและส่ายหัว สำนักไม่ได้ซ่อนซือหยูเอาไว้ มีโอกาสมากที่ซือหยูจะเปลี่ยนทางในตอนที่หนี
องครักษ์เฉินและไปชี่เซียงมองหน้ากันไปมาและจากไปอย่างโกรธแค้น
เซี่ยหลินฉวนและเย่ฉวนถอนหายใจ ไป่ชี่เซียงตรวจสอบกระโจมเซี่ยจิงหยูด้วยจิตสังหาร!
เซี่ยหลินฉวนกับเย่ฉวนกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
เหตุด้านนอกกระโจมทำให้ซือหยูตื่น เขาลืมตาเล็กน้อย เขาเห็นหญิงสาวที่สวยงามราวเทพธิดา! นางช่างคุ้นเคย
แต่ดวงตาของเทพธิดามีแต่น้ำตา ใบหน้านางแดงด้วยความอายและรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่มีคนทำลายความบริสุทธิ์ของนาง
“ศิษย์พี่...ศิษย์พี่เซี่ย...”
ซือหยูตกใจราวกับอยู่ในฝัน
เขากำลังหนีจากคนที่ไล่ตามและหมดสติในกระโจม แล้วทำไมเซี่ยจิงหยูจึงกอดเขาทั้งน้ำตากัน?
เมื่อได้ยินเสียงเซี่ยจิงหยูก็รู้ว่าซือหยูได้สติแล้ว นางหน้าแดงก่ำ
“เจ้า...อย่ามองนะ”
เซี่ยจิงหยูพูดเบาๆทั้งน้ำตาราวกับดอกท้อที่เปียกฝน
“ไม่เป็นไรแล้ว”
เซี่ยจิงหยูสวมชุดสบายๆ ผมนางยุ่งเล็กน้อย
“ศิษย์พี่เซี่ย เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึง….”
ซือหยูเหนื่อยมาก แต่เขาก็ถามเซี่ยจิงหยูด้วยความไม่สบายใจ
ดวงตาสดใสของเซี่ยจิงหยูเยือกเย็นและส่ายหัวเล็กน้อย
“ไป่ชี่เซียงเพิ่งมาที่นี่ ข้าต้องทำแบบนี้ให้เจ้าปลอดภัย อย่าใส่ใจเลย”
ซือหยูเป็นคนอ่อนโยน เขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากเซี่ยจิงหยูทันที!
ซือหยูใจสั่นไม่เป็นจังหวะและมองเซี่ยจิงหยูด้วยความเสียใจ อย่าใส่ใจงั้นเหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง?
เพื่อปกป้องเขา เซี่ยจิงหยูสละความบริสุทธิ์ของนาง! สำหรับสตรี การสละความบริสุทธิ์ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก นางจึงร้องไห้ออกมาเช่นนี้!
ในโลกนี้มีกฎสำคัญ สตรีและบุรุษมิอาจสัมผัสกันได้ กฎนี้เคร่งครัดยิ่งกว่าโลกก่อนของเขามาก!
เพื่อจับซือหยูที่ทำลายความบริสุทธิ์ของลูกสาว ดยุคเซี่ยนหยูสั่งให้ค้นทั้งเมืองโดยไม่ลังเล นี่เห็นได้ชัดว่าผู้คนในโลกนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
เซี่ยจิงหยูคือชนชั้นขุนนางที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้อาจจะทำให้เซี่ยจิงหยูต้องทนอับอายเพราะมลทินไปตลอดกาล
ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา