ตอนที่แล้วตอนที่ 89 ปีศาจเฒ่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 91 เข้าร่วมสำนัก

ตอนที่ 90 ไม่ยอมละทิ้งความคิดชั่วร้าย


แม้ฮูหนิวจะยังไม่ปลุกรากฐานวิญญาณขึ้นมา แต่นางก็บรรลุไปยังระดับหลอมกายาขั้นหกแล้วจากการกินอาหารจำนวนมหาศาล

 

นั่นหมายความว่าอะไร?

 

ผู้ชายธรรมดาที่ถึงแม้จะร่วมมือกันยี่สิบหรือสามสิบคน ก็ไม่สามารถรับมือกับนางได้!

 

เมื่อรู้สึกตัวว่านางกำลังถูกอุ้มอยู่โดยชายที่ไม่คุ้นหน้า นิสัยอันป่าเถื่อนของนางได้ถูกปลุกขึ้นมาทันที ‘ปัง’ มือของนางกระแทกเข้ากับใบหน้าของชายคนนั้นราวกับเป็นอุ้งมือของพยัคฆ์

 

‘พรวด’ หัวของชายร่างกำยำถูกกระแทกจนเซ ฟันเจ็ดซี่และเลือดหนึ่งคำถูกบ้วนออกมา พร้อมกับตัวมันที่ลงไปนอนอย่างรวดเร็ว

 

ฮูหนิวหมุนตัวกลางอากาศและดิ่งลงสู่พื้นอย่างมั่นคง ปากของนางเปิดออกเผยให้เห็นเขี้ยวสองซี่ แขนและขาทั้งสองยันอยู่กับพื้นราวกับพยัคฆ์ร้ายที่หลุดออกมาจากการจับกุม นางยื่นแขนไปทางชายร่างกำยำ และใช้มือกดลงไปที่ไหล่ของมัน พร้อมกับปากของนางที่กัดลงไปที่คอของชายคนนั้น

 

หลิงฮันรีบไปนำตัวเด็กสาวกลับมา เขาไม่อยากให้เด็กสาวลงมือสังหารชายคนนี้ ไม่เช่นนั้นความพยายามของเขากับหลิวอู๋ตงจะต้องเสียเปล่า

 

ชายร่างกำยำที่ถูกกระแทกลงไปที่พื้นสีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเผือดเพราะความกลัว ถ้าไม่ได้มาเห็นหรือได้ยินด้วยตัวเอง คงจะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อว่าชายรูปร่างสูงและกำยำเช่นนี้จะแสดงความขี้ขลาดออกมาเพราะเด็กสาวคนหนึ่ง

 

ชายอีกคนนั้นยังโชคดีกว่า เพราะมันตายด้วยมีดของหลิวอู๋ตงที่แทงเข้าไปที่คอของมัน

 

“ถ้าเจ้ากรีดร้องอีกครั้ง ข้าจะสังหารเจ้าทิ้งซะ!” หลิงฮันพูด

 

ชายร่างใหญ่รีบนำมือสองข้างขึ้นมาปิดปาก ราวกับเป็นหญิงสาวที่พบเจอกับคนโรคจิต

 

หลิงฮันนำฮูหนิววางไว้ที่ข้างหลัง นิสัยอันป่าเถื่อนของนางเป็นสิ่งที่ยับยั้งได้ยากมาก นางยังคงแยกเขี้ยวใส่ชายร่างใหญ่ และคำรามเสียงต่ำออกมาอย่างต่อเนื่อง ชายรางใหย่กรีดร้องออกมาอีกครั้งด้วยความกลัว แต่เมื่อมันนึกถึงคำขู่ของหลิงฮัน มันจึงรีบปิดปากตัวเองอีกครั้ง

 

“ข้า...ข้าเป็นคนของสมาคมวารีล้างปฐพี ถ้าเจ้ารู้ว่าอะไรดีต่อตัวเจ้า เจ้าจะต้องปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้!” ชายร่างใหญ่พูดขู่ออกมา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังดูไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย มันมีสีหน้าซีดขาวและตัวสั่นในขณะที่มันพูดขู่หลิงฮัน

 

หลิวฮันหันหน้าไปไปมองหลิวอู๋ตงและถาม “เบื้องหลังของสมาคมวารีล้างปฐพีคืออะไรงั้นรึ?”

 

“มันคือขุมอำนาจใต้ดินของเมืองจักรพรรดิ เพราะว่ามีบางสิ่งที่ไม่สามารถลงมืออย่างเปิดเผยได้ แม้แต่ตระใหญ่ทั้งแปดก็ยังต้องใช้พลังของขุมอำนาจนี้ในบางครั้งเพื่อลงมือทำสิ่งสกปรก” หลิวอู๋ตงพูดออกมา นางคิดบางอย่างชั่วขณะและเริ่มพูดต่อ “ผู้นำของสมาคมวารีล้างปฐพีดูเหมือนจะชื่อหยางเทียนตู่ มันอยู่ในระดับห้วงจิตวิญญาณและมีความใกล้ชิดกันดีกับกลุ่มอำนาจหลายๆกลุ่มของเมืองจักรพรรดิ”

 

ในศาสตร์แห่งวรยุทธ การจะสร้างสมาคม นิกาย พรรค ฝ่ายขึ้นมานั้นเป็นเรื่องที่เข้มงวดมาก การที่จะสามารถใช้ชื่อว่า ‘สมาคม’ ได้ ต้องมีจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณคอยสนับสนุน

 

หลิงฮันส่งเสียง ‘โอ้’ ออกมา และหันกลับไปมองที่ชายร่างใหญ่อีกครั้ง “ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะมาจากสมาคมวารีล้างปฐพี หรือสมาคมวารีล้างสวรรค์ ข้าจะถามคำถามและเจ้าก็ต้องตอบ ถ้าข้าไม่พอใจกับคำตอบของเจ้า ข้าจะตัดแขนขาของเจ้าออกมาข้างหนึ่งต่อหนึ่งคำถาม ลองนับดูแล้วกันว่าเจ้าจะสามารถสร้างความไม่พอใจให้ข้าได้กี่ครั้ง”

 

สีหน้าของชายร่างใหญ่กลายเป็นซีดเผือดและรีบพยัดหน้าไม่หยุด มันไม่ได้เกรงกลัวหลิงฮัน แต่เป็นฮูหนิวต่างหากที่มันเกรงกลัว เด็กสาวคนนี้ทำให้มันรู้สึกเหมือนกับว่านางเป็นพยัคฆ์ร้ายที่ไม่สามารถใช้เหตุผลใดๆกับนางได้

 

แล้วใครล่ะจะไม่กลัวนาง?

 

“เฉินหยุนเซียงส่งเจ้ามา?” หลิงฮันถาม

 

“ใช่แล้วๆ”

 

“เจ้าช่วยมันทำการกระทำต่ำช้าเช่นนี้มากี่ครั้งแล้ว?”

 

“…” ชายหนุ่มร่างใหญ่ลังเลไปชั่วขณะ แต่เมื่อสายตาของมันมองไปยังฮูหนิว ตัวของมันก็สั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้และรีบตอบกลับไป “ข้าจำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง แต่อย่างน้อยก็เกินสิบครั้งแน่นอน!”

 

มันทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้มาแล้วสิบครั้ง!

 

หลิงฮันเค้นเสียงและกระแทกหน้าอกของชายร่างใหญ่ด้วยฝ่ามือ ด้วยคลื่นกระแทกจากปราณก่อเกิดของเขา หัวใจของอีกฝ่ายถูกบดขยี้ทิ้งในทันที

 

การที่ช่วยเหลือคนเลวกระทำความชั่ว แม้แต่ความตายก็ยังน้อยไปสำหรับพวกมัน!

 

หลิวอู๋ตงเริ่มรู้ใจหลิงฮันแล้ว นางแทงดาบสังหารชายที่นอนไม่ได้สติในทันที พร้อมกับเก็บดาบเข้าฟักและพูดกับหลิงฮัน “ปล่อยเจ้าปีศาจเฒ่านั่นให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง ข้าจะให้คนจากตระกูลข้าไปจัดการมัน”

 

หลิงฮันครุ่นคิดในสิ่งที่นางพูดออกมาชั่วขณะและพยักหน้ายอมรับ

 

เขารู้ว่าหลิวอู๋ตงทำเช่นนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของเขา เพราะอย่างไรนี่คือก็คือเมืองจักรพรรดิ ภายใต้การควบคุมโดยตรงของจักรพรรดิ ต่อให้เป็นแปดตระกูลใหญ่ก็ยังต้องคิดทบทวนอีกรอบก่อนที่จะทำอะไรบางอย่าง ถ้าเกิดเขาไปสังหารใครเข้าในขณะที่เพิ่งจะมาถึง ราชวงศ์จักรพรรดิจะต้องโกรธขึ้นมาแน่นอน

 

เมื่อเป็นเช่นนั้น แม้แต่จูเฮอซินหรือจางเหวยชางก็ไม่สามารถช่วยปกป้องเขาได้ เพราะอย่างไร แคว้นพิรุณก็อยู่ในการปกครองของตระกูลฉี

 

สำหรับตัวตนอันกระจ้อยร่อยสองคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานี้ ต่อให้พวกมันตายก็คงไม่มีใครคิดจะมาสนใจ แต่ถึงแม้เฉินหยุนเซียงเป็นหัวหน้าของร้านค้าใหญ่ และไม่ว่ามันจะมีอิทธิพลมากหรือน้อยก็ตาม ตระกูลหลิวที่เป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ก็สามารถจัดการกับมันได้อย่างง่ายดายอยู่ดี ยิ่งกว่านั้นเฉินหยุนเซียงเองก็มีประวัติที่ไม่ได้ขาวสะอาดอยู่แล้วด้วย ดังนั้นเพียงแค่สุ่มขุดคุ้ยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องชั่วช้าบางอย่างที่มันทำขึ้นมา ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชีวิตของมันพังทลาย

 

เป็นธรรมดาที่หลิงฮันจะไม่นำตัวตนอันกระจ้อยร่อยเช่นนั้นมาคิดจริงจัง ดังนั้นเขาเลยไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีของหลิวอู๋ตง

 

ทั้งสองคนเริ่มเดินทางต่อเพื่อไปยังสำนักฮูหยาง

 

เมืองจักรพรรดินั้นมีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก ขนาดของมันกว้างกว่าเมืองต้าหยวนเป็นสิบเท่า หลังจากเดินทางเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกหลิงฮันก็มาถึงทางเข้าของสำนักฮูหยาง

 

พวกเขาหยุดเดินในทันที เพราะนี่ไม่ใช่สถานที่ที่ใครก็สามารถเข้าไปง่ายๆได้

 

“ข้าคือหลิวอู๋ตง!” หลิวอู๋ตงหยิบแผ่นโลหะสีเงินออกมาและยื่นไปยังทหารคุ้มกันทั้งสี่คนที่ยืนอยู่หน้าทางเข้า

 

“เป็นศิษย์ที่แท้จริงหลิวนี่เอง!” หนึ่งในทหารคุ้มกันตรวจสอบแผ่นโลหะอย่างใกล้ชิด และรีบส่งคืนอย่างรวดเร็วด้วยความเคารพ “พวกเราไม่รู้ว่าเป็นท่าน โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย ศิษย์ที่แท้จริงหลิว!”

 

หลิวอู๋ตงปฏิเสธการขอโทษจากพวกมัน ตอนนี้นางสวมผ้าคลุมหน้าอยู่ จึงเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่พวกมันจะจำนางไม่ได้ นางชี้ไปยังหลิงฮันและพูด “นี่คือสหายของข้า เขาเจ้าเป็นต้องเข้าไปยังสำนักเพื่อทำเรื่องสำคัญ ช่วยลงทะเบียนให้เขาด้วย”

 

“รับทราบ!” ทหารคุ้มกันทั้งสี่พยักหน้า

 

สำนักฮูหยางมีกฎที่เข้มงวด ศิษย์ของสำนักสามารถนำบุคคลภายนอกเข้ามาในสำนักได้ แต่ไม่สามารถพักค้างคืนอยู่ที่นี่ได้ บุคคลภายนอกที่จะเข้าไปจำเป็นต้องลงทะเบียน และถ้าพวกเขาไม่ออกไปจากสำนักก่อนตอนกลางคืน ศิษย์ที่นำคนคนนั้นมาจะต้องถูกลงโทษ

 

หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว หลิวอู๋ตงนำหลิงฮันไปยังลานของสำนัก ซึ่งเป็นสถานที่ที่อาจารย์ที่ทำหน้าที่ต้อนรับศิษย์ใหม่ประจำการอยู่ เป็นเพราะปีใหม่เพิ่งจะผ่านไป จึงมีกลุ่มศิษย์ใหม่จำนวนมากมารายงานตัว

 

หลังจากที่หลิวอู๋ตงพาหลิงฮันมาถึงสถานที่รายงานตัว นางได้ขอตัวไปกับหลิงจือซ่วน เด็กสาวคนนี้เข้าร่วมกับสำนักผ่านข้อตกลงระหว่างหลิงตงซิงกับสำนัก ดังนั้นนางจึงไม่ต้องลงทะเบียนเหมือนคนทั่วไป

 

ในหว่างทางมาถึงที่นี่ หลิงฮันได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสำนักฮูหยางต่างๆมากมายจากหลิวอู๋ตง

 

ที่นี่แบ่งศิษย์ออกเป็นสามประเภท ศิษย์ธรรมดา ศิษย์ที่แท้จริง และศิษย์หลัก

 

ศิษย์ธรรมดาเป็นได้ง่ายๆ เพียงแค่ในขณะที่เข้าร่วมกับสำนักก็ถือว่าเป็นศิษย์ธรรมดาแล้ว ศิษย์ที่แท้จริงมีจำนวนน้อยกว่าศิษย์ธรรมดา โดยมีทั้งหมดสามสิบคนเท่านั้น ในด้านของทรัพยากรบ่มเพาะ พวกเขาจะได้รับมากกว่าศิษย์ธรรมดาสิบเท่า พวกเขาถึงเป็นตัวตนที่น่าอิจฉาสำหรับศิษย์ธรรมดา

 

มีสองเงื่อนใขในการเป็นศิษย์ที่แท้จริง อย่างแรก ต้องอยู่ในระดับรวมธาตุเป็นอย่างน้อย และอย่างที่สองคือจะต้องติดอยู่ในศิษย์สามสิบแรกที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนัก ดังนั้นจึงทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด

 

อย่างไรก็ตาม หลิงฮันที่ชนะอันดับหนึ่งของการประลองต้าหยวนในปีนี้ เขาจึงถูกนับว่าเป็นศิษย์ที่แท้จริงไปโดยปริยาย โดยตำแหน่งนี้จะคงอยู่เพียงหนึ่งปี เพราะยังมีผู้ชนะอันดับหนึ่งจากอีกสามสิบหกเมืองที่จะได้รับรางวัลนี้เช่นกัน ซึ่งหมายความว่าเมื่อถึงช่วงสิ้นปี ทั้งสามสิบหกคนจะถูกยกเลิกตำแหน่งศิษย์ที่แท้จริงทิ้งไป และหลังจากนั้นศิษย์ที่แท้จริงอันดับที่ยี่สิบเอ็ดถึงสามสิบ จะต้องรับการท้าสู้จากศิษย์ธรรมดาสิบอันดับแรก ถ้าพวกเขาแพ้ พวกเขาจะถูกลดตำแหน่งลงไปอยู่ที่ศิษย์ธรรมดา

 

นี่ก็คืออีกเหตุผลหนึ่งที่ฉีฮวงเย่กับจิงหวู่จื้อกลับไปท้าประลองอันดับหนึ่งในการประลองต้าหยวน เพราะแม้จะเป็นความแข็งแกร่งที่พวกมันมีอยู่ในตอนนี้ พวกมันก็ยังไม่ใช่ศิษย์ที่แท้จริง!

 

*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด