ตอนที่ 89 ปีศาจเฒ่า
หลังจากเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดฮูหนิวก็เริ่มเรียนรู้การพูดได้บ้างแล้ว คำที่นางพูดบ่อยที่สุดคือ ‘เนื้อ’ และ ‘สังหาร’ รวมถึงชื่อ ‘หลิงฮัน’ นางสามารถเรียนรู้คำพวกพวกนี้ได้เท่านั้น
แต่อย่างน้อยนางก็รู้ว่า ‘ฮูหนิว’ คือชื่อของนาง และจะเงยหน้าหันไปเมื่อได้ยินคนเรียก
นางยังคงไม่ชอบการเดินด้วยสองขา แต่หลิงฮันมีอิทธิพลต่อนางมาก ทำให้นางเดินเลียนแบบหลิงฮันโดยไม่รู้ตัว เมื่อทั้งสี่คนมาถึงเมืองจักรพรรดิ ในที่สุดเด็กสาวก็คุ้นชินกับการเดินด้วยสองขาเสียที แต่เมื่อไม่มีใครอยู่รอบข้าง นางจะกลับไปเดินสี่ขาเหมือนเดิม เมื่อทำเดินสี่ขานางจะเคลือ่นที่ได้รวดเร็วมาก ราวกับเป็นพยัคฆ์ที่หลุดออกจากกรง
การไม่ชอบใส่เสื้อผ้าของนางก็ยังไม่เปลี่ยนเช่นกัน เสื้อที่ซื้อใหม่ จะถูกฉีกขาดด้วยมือของนางภายไม่กี่วัน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้หลิงฮันกับหลิวอู๋ตงรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แต่หลิงจือซ่วนกลับรู้สึกอิจฉา เพราะฮูหนิวจะได้ชุดใหม่บ่อยๆ
การเข้าเมืองจำเป็นต้องเสียภาษีค่าเข้าเป็นเหรียญเงิน เพราะพวกเขามีกันอยู่สี่คนจึงต้องจ่ายสี่เหรียญ แม้นี่จะเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยสำหรับหลิงฮัน แต่เมื่อคิดถึงจำนวนผู้คนที่เข้าออกเมืองในทุกๆวัน เงินภาษีที่ได้รับไปจะต้องมหาศาลมากแน่นอน
การเป็นราชานี่ช่างมีชีวิตที่ดีจริงๆ ข้าเป็นสร้างเส้นทางนี้ ถ้าเจ้าอยากเดินเข้ามา เจ้าก็ต้องจ่ายเงินให้ข้า นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ยุติธรรม
หลังจากทั้งสี่คนเข้าไปในเมืองก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจหาสถานที่เพื่อกินอาหารกลางวันก่อน แล้วค่อยไปรายงานตัวที่สำนักฮูหยาง
“เนื้อ! เนื้อ! เนื้อ!” ฮูหนิวนั่งลงที่โต๊ะ และเริ่มมีน้ำลายไหลออกมาจากปาก
หลิงฮันไม่มองเมนูและพูดกับพนักงานอย่างไม่คิดอะไรมาก “นำอาหารอะไรก็ได้ที่รสชาติดีมา แต่อาหารเหล่านั้นต้องมีเนื้อเยอะๆ!”
“รับทราบ!” พนักงานพูดตอบก่อนที่จะเดินไป
ในตอนแรก ในร้านอาหารไม่ได้มีลูกค้าอยู่เยอะนัก แต่เมื่ออาหารหลากหลายจานถูกนำมาวางไว้ที่โต๊ะพวกเขา มันก็ถึงเวลาที่คนส่วนใหญ่จะต้องเข้ามาหาอะไรกินแล้ว จำนวนลูกค้าในร้านเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้บรรยากาศภายในร้านกลายเป็นครึกครื้นขึ้น
ฮูหนิวไม่ได้ใช้ตะเกียบ นางใช้มือเอื้อมออกไปหยิบไก่หรือเป็ดทั้งตัว และภายในเวลาไม่นาน นางก็กินพวกมันเข้าไปหมดแล้ว ความอยากอาหารของนางนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ
“เจ้าไม่สนใจว่ามือจะเปื้อนเลยรึไงกัน!” หลิงฮันส่ายหัว เขาได้สอนนางไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว แต่เด็กสาวก็ยังขัดขืนที่จะใช้ตะเกียบเพราะมันใช้ลำบากเกินไป
ฮูหนิวหัวเราะใส่หลิงฮันก่อนที่จะกินอาหารที่วางไว้ข้างหน้านางต่อไป
เทียบกับนางแล้ว หลิงจือซ่วนมีมารยาทมากกว่า นางกัดอาหารคำไม่ใหญ่ และเวลานางยิ้ม จะไม่มีฟันโผล่ออกมาให้เห็น นางเรียนรู้มารยาทพื้นฐานของการเป็นคนจากตระกูลใหญ่มาแล้ว
“เป็นเด็กสาวที่น่ารักอะไรเช่นนี้” เสียงชายสูงวัยดังขึ้นมา ทำให้หลิงฮันกับหลิวอู๋ตงต้องหันไปมองคนที่พูด
มันเป็นชายชราที่ดูจะอายุหกสิบปี มันใส่เสื้อคลุมหรูหราอย่างดี และที่นิ้วมือทั้งสิบของมัน มีแหวนใส่อยู่ถึงแปดวง มันต้องเป็นคนที่ร่ำรวยมากแน่นอน สายตาของมันจ้องมองไปยังฮูหนิวและหลิงจือซ่วน
“เจ้าทั้งสองเป็นพ่อแม่ของเด็กสาวทั้งสองนี่รึ?” ชายชราเอ่ยถามและเดินใกล้เข้ามา พร้อมกับแนะนำตัวต่อในทันที “ข้าคือเฉินหยุนเซียง เป็นเจ้าของร้าน ‘ร้านสี่มหาสมุทร’ ซึ่งตัวข้าพอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง”
หลิวอู๋ตงส่ายหัว ในขณะที่หลิงฮันจ้องไปยังเฉินหยุนเซียงชั่วขณะและพูดออกไป “พวกเราไม่ใช่พ่อแม้ของพวกนาง เป็นเพียงแค่ญาติเท่านั้น”
หลิงจือซ่วนยิ้มอย่างว่าง่ายไปทางชายชราและเรียกอีกฝ่ายว่าคุณปู่ ส่วนฮูหนิวนั้นคิดแต่เรื่องการกินเท่านั้น ในสายตาของนาง ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการกินเนื้อ
เฉินหยุนเซียงดูเหมือนจะชอบเด็กสาวทั้งสองเป็นอย่างมาก มันพูกเรื่อยเปื่อยไม่หยุดจนทำให้หลิงจือซ่วนหัวเราะออกมา แนขณะที่ฮูหนิวทำตัวราวกับว่าไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูดแม้แต่น้อย
ในตอนแรก หลิงฮันเพียงคิดว่าชายชราคนนี้เป็นคนเอ็นดูเด็กเท่านั้น เลยไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่สายตาของชราชราได้กลายเป็นแปลกขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมันเป็นหมาป่าที่กำลังต้องมองลูกแกะสองตัว ดวงตาของมันจ้องมองจนเกือบจะส่องประกายออกมา หลิงฮันจึงรู้ในที่สุดว่าพวกเขาได้เจอเข้ากับตาแก่บ้ากามเข้าเสียแล้ว และเป้าหมายที่ตาแก่บ้ากามคนนี้โปรดปรานก็คือ เด็กสาว
“มานี่สิ ใช่ปู่คนนี้ดูลายมือให้เจ้าหน่อย!” เฉินหยุนเซียงอดใจไม่ได้ที่จะยื่นมือของมันออกไปจับมือน้อยๆของหลิงจือซ่วน มันเปิดเผยนิสัยชอบลวนลามที่แท้จริงของมันออกมา
“หมับ!”
หลิงฮันยื่นมือออกไปจับที่ข้อมือของชายชรา ดวงตาของเขาแสดงถึงความดุร้ายและพูด “ตาแก่ อายุเจ้าก็ปูนนี้แล้ว แต่ยังทำตัวแบบนี้อีกรึ?”
เฉินหยุนเซียงไม่ใช่จอมยุทธ เมื่อมันถูกจับโดยมือของหลิงฮัน มันร้องคร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที หลิงฮันเหวี่ยงมันออกไป ทำให้สะดุดล้มและร่วงไปที่พื้น มันกยมือขึ้นมาดูและต้องตกตะลึงกับรอยนิ้วที่อยู่บนข้อมือมัน ข้อมือของมันปรากฏรอยนิ้วสีเขียวที่อีกไม่นานจะต้องเปลี่ยนเป็นรอยช้ำสีม่วงแน่นอน
สีหน้าของมันกลายเป็นมืดมน และเริม่รู้สึกหวาดกลัวหลิงฮันอยู่ในใจ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้เรื่องเด็กสาวที่น่ารักทั้งสองไปง่ายๆ มันจึงพูดขึ้นมา “ยังไงพวกนางก็ไม่ลูกของเจ้าอยู่แล้ว ทำไมไม่เสนอราคามาล่ะ?”
สีหน้าของหลิงฮันปรากฏจิตสังหารขึ้นมา “ตาแก่ลามก ถ้าเจ้ากล้าพูดอะไรมากกว่านี้ ข้าจะสังหารเจ้าซะ!”
เฉินหยุนเซียงกำลังจะบอกข้อเสนอเพิ่มเพื่อจูงใจหลิงฮัน แต่เมื่อมันเห็นจิตสังหารที่ปรากฏอยู่บนหน้าหลิงฮัน หัวใจมันเกิดการสั่นกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ มันไม่กล้าจะพูดเรื่องนี้อีกต่อไป และรีบหันหน้าวิ่งหนีไปยังอีกทางหนึ่งทันที
อย่างไรก็ตาม มันไม่มีทางยอมแพ้ง่ายและคิดขึ้นมาในใจ “ฮึ่ม เจ้าไม่รู้ซะแล้วว่าอะไรดีต่อตัวเจ้าเอง งั้นข้าจะไปขอให้คนจากสมาคมวารีล้างปฐพีช่วยขโมยเด็กสาวทั้งสองมาจากเจ้า!”
ชายชราเดินโซเซจากไป ทำให้ลูกค้าคนอื่นๆในร้านระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที
“น้องชาย ชายชราคนนั้นคือจอมโรคจิตที่โดงดัง เป้าหมายหลักของมันคือเด็กสาว ถ้าไม่ใช่เพราะที่ผ่านมามันใช้เงินเพื่อให้ได้สิ่งที่มันต้องการ มันคงจะถูกทุบทีจนตายไปหลายรอบแล้ว” หนึ่งในลูกค้าที่รู้จักตาแก่ลามกนั่นพูดพร้อมกับส่ายหัว
หลิงฮันไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิดจริงจัง เพราะอย่างไรตาแก่นั่นก็ไม่ใช่จอมยุทธ อำนาจของมันจึงถูกจำกัดเอาไว้ ดังนั้นเส้นสายของมันสมควรมีเพียงคนธรรมดาด้วยกันเท่านั้น ถ้าเฉินหยุนเซียงยังตามตื้อพวกเขาต่อ หลิงฮันจะไม่เมตตาแน่นอน
ฮูหนิวกินเนื้ออย่างรวดเร็ว ราวกับว่านางกลัวจะมีใครมาแย่ง ในตอนที่หลิงฮันกับคนอื่นๆกินอิ่มแล้ว นางก็ยังคงกินต่อไปโดยที่ความเร็วไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ลูกค้าในร้านตกตะลึงกันเป็นแถบ พวกมันไม่สามารถทำความเข้าใจได้เลยว่าท้องเล็กๆของเด็กสาวสามารถเก็บสะสมอาหารมากมายขนาดนั้นไว้ได้อย่างไร
ในที่สุดเมื่อถึงเวลาบ่ายสองนิดๆ เด็กสาวก็ตบท้องสองสามทีอย่างพึงพอใจ นางเขยิบเข้าไปดิ้นในอ้อมแขนหลิงฮัน และเริ่มส่งเสียงกรน
ความสามารถในการกินและนอนของนางนั้นมีมากเกินบรรยาย
หลิงฮันยืนขึ้นและจ่ายค่าอาหาร มากกว่าพนึ่งพันเหรียญทองถูกใช้ไปกับอาหารมื้อเดียว อย่างน้อยเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของเงินที่จ่ายไปได้เข้าไปอยู่ในท้องของฮูหนิว เป็นการยืนยันได้ว่าเด็กสาวคนนี้ฟุ่มเฟือยขนาดไหน โชคดีที่หลิงฮันสังหารฮังฉาน หม่าหลางและคนอื่นๆไปก่อนหน้านี้ ทำให้ในกระเป่าเขาไม่ขาดเงิน
ทั้งสี่คนออกจากร้านอาหารและเดินทางต่อไปยังสำนักฮูหยาง
“มีคนสองคนกำลังแอบตามพวกเราอยู่” หลิวอู๋ตงพูดกับหลิงฮันหลังจากที่เดินมาได้สักพัก
หลิงฮันพยักหน้าและพูด “ข้ารู้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเป้าหมายของพวกมันคือเงิน... หรือว่าพวกเรา!”
ถ้าเป้าหมายของพวกมันคือพวกเขาล่ะก็... แววตาของหลิงฮันเกิดประกายอันโหดเหี้ยม นี่ต้องเป็นการลงมือของตาแก่ลามก เฉินหยุนเซียงนั่นอย่างไม่ต้องสงสัย... ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่ามาโทษว่าเขาไม่ปรานีล่ะ
“พวกมันกำลังมา!” หลิวอู๋ตงกระซิบบอก และทั้งสองคนได้เดินเข้าไปตรอกซอยเล็กๆ โดยที่ไม่มีผู้คนอยู่รอบๆ นี่คือการกระทำที่หลิงฮันจงใจทำเพื่อล่อพวกมันออกมา
ชายรูปร่างกำยำสองคนเดินตามพวกเขามา เพื่อพวกมันมาถึงตัวหลิงฮัน หนึ่งในพวกมันพยายามจะอุ้มหลิงจือซ่วนไป ในขณะที่อีกคนพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน โดยคิดที่จะขโมยฮูหนิวที่กำลังหลับอยู่บนแขนของเขา
ชายรูปร่างกำยำสองคนนี้ไม่ใช่จอมยุทธ พวกมันแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาเพียงเล็กน้อย เพราะอย่างไร ในทุกๆสิบคน จะมีเพียงคนเดียวที่ครอบครองรากฐานวิญญาณ ดังนั้นจอมยุทธจึงไม่ได้มีเยอะอะไรขนาดนั้น
หลิงฮันยิ้ม ไม่เพียงแค่เขาไม่ป้องกัน แต่เขายังอ้าแขนปล่อยให้ชายคนนั้นคว้าตัวฮูหนิวไปอย่างง่ายดาย
ชายคนนั้นชะงักไปชั่วขณะ การกระทำของหลิงฮันเป็นสิ่งที่มันไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดขึ้น
ในตอนนั้นเอง จากการที่ถูกขยับตัว ทำให้ฮูหนิวตื่นขึ้นมา นางเป็นดั่งสัตว์ร้ายที่มีสัตว์ญาณเตือนภัยอันตราย เมื่อนางพบว่านางถูกอุ้มอยู่โดยชายแปลก ประกายแห่งความโหดเหี้ยมได้ปรากฏขึ้นที่ดวงตาของนางทันที
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*