ตอนที่ 87 อู่โปว
ตอนที่ 87 อู่โปว
ชายหนุ่มคนนี้... อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุ!
แววตาของหลิงฮันหรี่ลง ชายหนุ่มคนนี้ดูมีอายุประมาณยี่สิบสามหรือยี่สิบสี่ปีเท่านั้น แต่กลับก้าวเข้าไปยังระดับก่อเกิดธาตุแล้ว แถมยังอยู่ในขั้นหนึ่งระดับสูงสุดด้วย ในแคว้นพิรุณ บุคคลเช่นนี้เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง
หรือหมอนี่คือเฟิงหยาง?
ในอาณาเขตที่เมืองต้าหยวนเป็นผู้ปกครอง เขาจะถามถึงศัตรูที่เขามี ก็คงจะมีเฟิงหลัวแค่คนเดียว หรือว่ามันจะขอให้พี่ชายกลับมาช่วย?
ไม่... จากข่าวลือ เฟิงหยางได้บรรลุถึงระดับก่อเกิดธาตุขั้นสามแล้ว! อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มคนนี้ก็ช่างอวดดีเสียจริงที่บุกเข้ามาที่นี่อย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ และเมื่อมีคนเข้ามาขัดขวาง มันกลับกล้าลงมือทุบตีคนเหล่านั้น
“นายน้อยฮัน คนคนนี้บอกว่าเขาอยากจะพบกับแม่นางหลิวและใช้กำลังบุกเข้ามาที่นี่ พวกของเราบางคนที่พยายามจะหยุดเอาไว้ได้ถูกเขาสังหาร!” หนึ่งในคนรับใช้ที่เดินตามชายหนุ่มคนนี้มาได้กล่าวกับหลิงฮันในทันที ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ
หลิงฮันรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่การบุกรุกเข้ามาก็อวดดีพอแล้ว แต่มันยังกล้าจะสังหารคนอื่น? เพียงแค่เพราะมันอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุก็ถึงกับหยิ่งยโสเช่นนี้เลยรึ?
“ข้าขอสั่งให้เจ้าไปเรียกอู๋ตงมาที่นี่!” ชายหนุ่มพูดกับหลิงฮันราวกับกำลังออกคำสั่งคนรับใช้
หลิงฮันมองไปที่มันและพูดด้วยเสียงดุร้าย “เจ้าสังหารคนของข้า!”
“แล้วยังไง? พวกมันเป็นเพียงสุนัขชั้นต่ำ ถ้าหากพวกมันตายไปซักพันคนหรือหมื่นคนจะมีปัญหาอะไร?” ชายหนุ่มพูดอย่างไม่แยแส ทำให้คนอื่นๆเกิดความไม่พอใจขึ้นมาในทันที พวกมันอยากจะใช้สายตาสังหารชายหนุ่มคนนี้นับร้อยครั้ง
หลิงฮันเค้นเสียงอและพูด “ในสายตาข้า เจ้ามันต่ำยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก!”
ชายหนุ่มชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่จะหัวเราะดังขึ้นมา “เป็นเพียงจอมยุทธในระดับรวมธาตุขั้นห้าแต่กลับกล้าสบประมาทข้า? ฮ่าๆๆ เจ้าคงยังไม่รู้ว่าข้า อู่โปวคือใครสินะ?”
“ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร!” หลิงฮันกระโดดไปข้างหน้าและชักดาบออกจากฟัก พร้อมกับฟันออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“ช่างกล้านัก!” ชายหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าอู่โปวมีท่าทีเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที มือขวาของมันแบออก และปราณก่อเกิดได้ควบแน่นจนกลายเป็นฝ่ามือสีทอง มันคิดจะใช้ฝ่ามือนั่นคว้าไปที่ดาบของหลิงฮัน
มือขวาของหลิงฮันสั่นไหวและปราณดาบห้ามเล่มได้ปรากฏขึ้นมาพร้อมกัน
“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ” ดาบทั้งหกฟันออกไปราวกับเป็นหนึ่งเดียว จนมือขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากปราณก่อเกิดได้ถูกฟันออกเป็นส่วนๆ หลิงฮันเคลื่อนไหวไปข้างหน้า และเล็งดาบไปที่คอของอู่โปว
“ปราณดาบห้าเล่ม?” อู่โปวอ้าปากค้างเพราะความตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้ มันปล่อยฝ่ามือไปข้างหน้าอีกครั้ง และฝ่ามือยักษ์อีกอันหนึ่งได้พุ่งออกไปเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของหลิงฮัน
มุมปากของมันยิ้มขึ้นมาอย่างเยือกเย็นและพูด “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าสถานที่เล็กๆอย่างเมืองหมอกเมฆาจะสามารถสร้างอัจฉริยะที่สร้างปราณดาบขึ้นมาห้าเล่มได้ ยิ่งกว่านั้นพลังบ่มเพาะของเจ้าที่ยังอยู่เพียงระดับรวมธาตุขั้นห้ากลับมีพลังต่อสู้ที่เทียบได้กับระดับรวมธาตุขั้นเก้า พลังต่อสู้ของเจ้าคงอยู่ที่ประมาณสิบสามดาวสินะ?”
‘ดาวแห่งพลังต่อสู้?’ เหล่าคนที่เดินตามมาตกอยู่ในความมึนงง พวกมันได้เคยได้ยินคำพูดแบบนี้มาก่อน
“หึ แต่ต่อหน้าข้า ไม่ว่าดาวแห่งการต่อสู้ของเจ้าจะสูงขนาดไหนก็ไร้ความหมาย!” อู่โปวส่ายหัว “ความต่างของพลังบ่มเพาะมีมากเกินไป ถ้าข้าสู้ด้วยพลังทั้งหมด ข้าจะสามารถสังหารเจ้าได้ภายในหนึ่งกระบวนท่า!” มันหยุดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ “ข้าชอบคนมีพรสวรรค์ ตราบใดที่เจ้ามาเป็นลูกน้องของข้า ข้าจะให้โอกาสเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ รวมถึงสามารถมอบสุดยอดทักษะให้กับเจ้าด้วย!”
ถ้าหลิวอู๋ตงได้ยินคำพูดนี้ นางจะต้องหัวเราะจนหัวแทบหลุดแน่นอน!
หลิงฮันคือใครกัน?
เขาเป็นคนที่สามารถมอบทักษะระดับสวรรค์ให้กับนางได้อย่างไม่แยแส! แล้วทักษะที่เจ้าคิดจะให้เขามันคู่ควรที่จะเรียกว่าสุดยอดทักษะรึไง?
“คุกเข่าและยอมรับความตายซะ ถ้าทำเช่นนั้นข้าจะให้โอกาสเจ้าได้ตายเร็ว!” หลิงฮันตอบกลับไป
อู่โปวโมโหเป็นอย่างมาก “เจ้าหนู ทำตัวอวดดีเพียงเพราะมีพรสวรรค์แค่เล็กน้อยมันไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ! ในเมื่อเจ้าแส่หาความตาย ข้าก็จะช่วยเอง!” ครั้งนี้มันเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน มือของมันขยับและปล่อยคลื่นกระแทกที่รุนแรงออกไป พลังโจมของมันเพิ่มขึ้นไปอีกระดับเมื่อเทียบกับการโจมตีก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม พลังต่อสู้ของมันก็เพิ่มมาแค่ดาวเดียวเท่านั้น! แน่นอนว่าพลังแค่นี้อยู่เพียงในระดับพอใช้สำหรับจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุ
หลิงฮันไม่รู้สึกเกรงกลัว พลังต่อสู้ของเขาอาจจะยังไม่ถึงระดับก่อเกิดธาตุ แต่พลังป้องกันของเขานั้นไร้พ่าย กายาต้นไม้มรณะช่วยทำให้เขาสามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงได้โดยไม่บาดเจ็บใดๆ และคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์สามารถช่วยให้เขาฟื้นฟูบาดแผลทุกอย่างได้ในทันที มันเพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาชนะการต่อสู้นี้
จอมยุทธทั้งสองเริ่มห้ําหั่นกัน ปราณดาบทะยานไปสู่สุดขอบสวรรค์ พลังปราณก่อเกิดกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่
“ไม่น่าเชื่อ นายน้อยฮันแข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ? แม้คู่ต่อสู้จะอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุเขาก็ยังสู้ได้สู้สี!”
“นี่จะนับเป็นอันใดได้ เมื่อไม่กี่วันก่อนนายน้อยฮันก็สังหารไปคนหนึ่งแล้วไม่ใช่รึไง?”
“แต่เจ้าเฒ่านั่นเพิ่งจะทะลวงผ่านระดับมาได้ เพราะงั้นคงไม่แข็งแกร่งเท่ากับคนคนนี้แน่”
เริ่มมีเสียงพูดคุยกับในหมู่คนที่มามุงดู พวกมันล้วนแต่ตกตะลึงในพลังของหลิงฮัน เขาอยู่ในระดับรวมธาตุขั้นห้าไม่ผิดแน่นอน แต่กลับสามารถสู้กับคนที่อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุได้อย่างสูสี นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ระดับก่อเกิดธาตุก็ยังเป็นระดับก่อเกิดธาตุ หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่าไปได้สักพัก เลือดไม่ได้ไหลอยู่ที่มุมปากของหลิงฮันเพียงที่เดียว แต่ผิวหนังทั่วร่างของเขาเกิดรอยแผล และมีเลือดไหลออกมา นี่เป็นเพราะเขาเรียนรู้กายาต้นไม้มรณะถึงได้รับบาดแผลเพียงเท่านี้ ไม่เช่นนี้นั้น จากการโจมตีที่รุนแรงของอีกฝ่าย แม้จะเป็นกระดูกของเขาก็คงแหลกสลายไปนานแล้ว
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ทุกคนทำได้เพียงรู้สึกนับถือและเคารพ ความห่างที่มีถึงหนึ่งระดับ แต่หลิงฮันก็ยังสามารถสู้ได้จนถึงขนาดนี้ ถ้าทั้งสองมีพลังบ่มเพาะเท่ากัน พลังฮันจะสามาถสังหารอีกฝ่ายได้ภายในกระบวนท่าเดียวแน่นอน
สภาพของหลิงฮันไม่ได้ย่ำแย่เหมือนกับที่คนอื่นเห็น ด้วยการโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ บาดแผลที่เขาได้รับถูกฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว พลังต่อสู้ของเขาไม่เพียงไม่อ่อนแอลง แต่ยังแข็งแกร่งขึ้นด้วยทักษะโลหิตหมาป่าเดียวดาย
หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนาน เขาสามารถมองการโจมตีอีกฝ่ายออก ทุกๆการเคลื่อนไหวของอู่โปวถูกเขามองออกทั้งหมด
“ฟึบ” ดาบของเขาพุ่งตรงไปข้างหน้าพร้อมกับปราณดาบทั้งห้าที่เคลื่อนไหวอย่างไม่อาจคาดเดาได้ และมุ่งเป้าตรงไปที่หน้าอกของอู่โปว
อู่โปวตกตะลึงเป็นอย่างมาก ถึงแม้ทุกการเคลื่อนไหวของเขาจะมีจุดอ่อน แต่พวกมันจะถูกจอมยุทธในระดับรวมธาตุมองออกได้อย่างไร? แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง การโจมตีของหลิงฮันได้เพ่งเล็งตรงมายังจุดอ่อนของมัน!
ในขณะที่กำลังจนมุม มันทำได้เพียงยกมือขึ้นมาป้องกันตรงหน้าอก
“ฉัวะ!”
เลือดสาดกระจาย มือขวาของมันปรากฏบาดแผลและมีเลือดไหลออกมา
ทั้งสองสู้กันมาเป็นเวลานาน และในที่สุดหลิงฮันก็สามารถโจมตีโดนอีกฝ่ายได้!
“โอ้!”
ผู้คนรอบๆอุทานออกมาอย่างตกตะลึง และเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ถึงแม้อู่โปวจะได้รับบาดแผลเพียงครั้งเดียว และบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่จุดที่สำคัญก็คือตัวมันที่อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุถูกจอมยุทธที่อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุทำให้บาดเจ็บ ไม่ว่าจะยังไง มันก็เป็นเรื่องที่สุดยอดอยู่ดี!
ใบหน้าของอู๋โปวบิดเบี้ยวอย่างดุร้าย การฟันเมื่อครู่ไม่ได้ทำให้มันบาดเจ็บเท่าไหร่ เลือดมันไหลออกมาเพียงเล็กน้อย โดยไม่ได้เป็นบาดแผลที่สาหัสอะไร แต่ความโกรธที่มันมีต่อหลิงฮันได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เป็นเพียงแค่คนธรรมจากสถานที่ที่อันกระจ้อยร่อย แต่กลับกล้าทำร้ายมันที่เป็นสมาชิกของหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่แห่งเมืองจักรพรรดิ มันคือนายน้องเจ็ดของตระกูลอู่! ถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไป มันจะสามารถมองหน้าสหายของมันได้อย่างไร?
ยิ่งกว่านั้น ไม่ใช่ว่าพรสวรรค์ของเจ้าเด็กนี่น่ากลัวเกินไปรึยังไง? ถ้าเขาเติบโตขึ้นจนกลายเป็นจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุ เขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
มันไม่สามารถปล่อยให้หลิงฮันมีชีวิตต่อไปได้!
อู่โปวคิดจะสังหารหลิงฮันอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้ ถึงแม้มันจะคิดสังหารหลิงฮัน แต่ก็เป็นเหมือนกับการที่มนุษย์ฆ่าแมลงทิ้งอย่างไม่แยแส มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดอะไรมากนัก แต่ตอนนี้มันคิดจะสังหารหลิงฮันด้วยพลังทั้งหมดที่มี!
มันชักดาบออกมาอย่างช้าๆและพูด “เจ้าพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ก็มาได้แค่นี้เท่านั้น!”
เพราะมันอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุ มันจึงสามารถใช้ทักษะยุทธระดับดำได้!
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*