DND.42 - อาดูรสูญเสีย
องค์ชายลำดับหนึ่งตัวสั่น
“เจ้ากล้าดียังไง! นี่เป็นเรื่องของตระกูลราชวงศ์ ลองอีกครั้งสิ! เจ้าหนีออกไปจากแคว้นเฟิงหลินอันกว้างใหญ่นี้ไม่ได้หรอก!”
แม้ว่าพลังระดับเจ็ดจะแข็งแกร่ง เขาก็ยังไงห่างไกลเกินกว่าจะต่อสู้กับทั้งแคว้น แม้ว่าเซี่ยหลินฉวนจะมีพลังระดับเจ็ดเช่นกันก็ยังกลัวที่จะแทรกแทรงเรื่องนี้
ชายแก่หัวเราะเยาะเย้ย
“ถึงข้าจะไม่ใช่คนเฟิงหลิน แล้วองค์ชายอย่างเจ้าจะไปทำอะไรได้?”
พูดจบชายแก่ก็คว้าตัวซือหยูและเซี่ยนเอ๋อและจ้องไป่ชี่เซียงอย่างเย็นชา
“ยังไม่หลบไปให้พ้นตาข้าอีกรึ?”
เพียงแค่มอง ไป่ชี่เซียงก็หน้าซีด ใจเขาหล่นไปอยู่ตาตุ่มและหยุดโจมตี
ดยุคเซี่ยนหยูถอยออกมา
“ขอบคุณผู้อาวุโสฉินที่มาช่วยพวกเรา”
ชายแก่คือผู้อาวุโสฉิน!
ผู้อาวุโสฉินมองไปรอบๆ พลังระดับเจ็ดของเขาทำให้คนรอบๆสั่นกลัวถึงกระดูก ไม่มีกล้าแม้จะกระดิกตัว!
“ดยุค หนีไปกันเถอะ แคว้นเฟิงหลินนี้ไม่ใช่ที่ของท่านอีกแล้ว”
ผู้อาวุโสฉินถอนหายใจ
ดยุคเซี่ยนหยูเสียใจมาก เขาอยู่ในเขตเซี่ยนหยูมาหลายปี มันกลายเป็นบ้านเกิดของเขา แต่ตอนนี้เขาถูกจัดฉากให้เป็นผู้ร้ายจึงไม่มีทางเลือกจำต้องลาจากที่นี่ไป
นึกถึงความผูกพันของเขตเซี่ยนหยูนี้แล้วดยุคเซี่ยนหยูก็จากไปพร้อมกับผู้อาวุโสฉิน
เมื่อเห็นดยุคเซี่ยนหยูกำลังจะออกไปกับผู้อาวุโสฉิน องค์ชายลำดับหนึ่งก็ส่งแววตาอาฆาต ขณะที่กำลังอดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลในร่างกาย
“จะหนีไปไหน!”
ปั้ง---
องค์ชายลำดับหนึ่งทุบสร้อยที่ซ่อนไว้ในคอจนแตกเป็นเสียงๆด้วยฝ่ามือ
บรรยากาศน่ากลัวโอบล้อมตำหนักจากทั่วทิศทาง เงาเพลิงปรากฏที่ด้านหลังองค์ชายทันที เงานั้นสร้างจากพลังปราณอันเข้มข้นและมีพลังมหาศาล
ผู้อาวุโสฉินหน้าถอดสี
“พลังระดับแปด! ไม่ดีแล้ว! เราต้องรีบหนี!”
เงานั้นเป็นของผู้มีพลังระดับแปดที่มีพลังปราณเข้มข้นสูง และเขากำลังเตรียมการโจมตีหมายเอาชีวิตในครั้งเดียว!
แม้จะเป็นผู้อาวุโสฉินที่มีพลังระดับเจ็ด หากโดนการโจมตีนั้นไปก็จะตายทันที สร้อยขององค์ชายนั้นคือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ใช้ป้องกันตัว มันมีค่าสูงสุดและใช้ได้ครั้งเดียว
“เจ้าอยากจะหนีงั้นเหรอ? สายไปแล้ว! โจมตี!”
องค์ชายลำดับหนึ่งเค้นเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
เงาเพลิงเคลื่อวไหวด้วยพลังอันน่ากลัวพุ่งเข้าโจมตี พลังที่ปลิดชีพมาแล้วหลายต่อหลายคนปกคลุมไปทั่วตำหนัก! คนรอบๆต่างนอนราบไปกับพื้นไม่ขยับตัวด้วยความหวาดกลัว
ผู้อาวุโสฉินใบหน้าหม่นหมอง เขาพยายามหนีจากตำหนักแต่เขาจะหลบการโจมตีจากระดับแปดพ้นได้อย่างไร?
ตู้ม--
มีดยาวร้อยศอกรายล้อมด้วยเปลวเพลิงปรากฏจากเงาเพลิง อากาศรอบๆถูกแผดเผา เกิดเสียงไหม้ดังไปทั่ว
คลื่นลมไหลเวียนไปทื่เปลวเพลิงทำให้คนรอบๆรู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ!
ผู้อาวุโสฉินกระอักเลือดออกมาก่อนที่มีดเพลิงจะโจมตีโดนเขาซะอีก เขาเกิดแผลฉกรรจ์จากมีดเพลิงนั่น
ผู้อาวุโสฉินฝืนยิ้ม เขาคิดว่าเขากำลังจะตาย! แต่ในตอนนั้นก็มีเงามาข้างหลังผู้อาวุโสฉินและใช้ร่างป้องกันมีดเพลิง!
“ผู้อาวุโสฉิน! ข้าฝากเซี่ยนเอ๋อกับหยูเอ๋อด้วย!”
ใบหน้าดยุคเซี่ยนหยูเต็มไปด้วยความเสียใจเขาหันไปมองผู้อาวุโสอย่างสุดซึ้ง...เขาทำได้เพียงเท่านี้
“ดยุค!”
ผู้อาวุโสฉินตะโกนด้วยความตกใจ
“ไปซะ! หากเซี่ยนเอ๋อกับหยูเอ๋อยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีอะไรให้ข้าเสียใจอีกแล้ว!”
ดยุคเซี่ยนหยูหัวเราะแห้งๆ
ผู้อาวุโสทนเห็นดยุคเซี่ยนหยูสละชีวิตไม่ได้จึงได้แต่กัดฟันแน่นและพาเด็กน้อยทั้งสองหนีไป
ซือหยูแทบจะไม่มีสติหลงเหลือ เมื่อเห็นดยุคเซี่ยนหยูเอาตัวเองเข้าปกป้องการโจมตีถึงฆาตนั้นเพื่อให้พวกเขาหนีไปได้อย่างปลอดภัยก็ทำให้ดวงใจเขาเศร้าโศก น้ำตาที่กลั่นจากหัวใจไหลรินออกมา
ทำไม...เหตุใดมันจึงเป็นเช่นนี้?
“ซือหยู! ดูแลเซี่ยนเอ๋อแทนส่วนของข้าด้วย...”
ดยุคเซี่ยนหยูยิ้มอย่างอ่อนโยนด้วยน้ำตานองหน้า
รอยยิ้มนี้คือการจากลาของเขา! ก่อนที่เขาจะถูกเปลวเพลิงโหมกระหน่ำสังหาร
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ซือหยูได้พบดยุคเซี่ยนหยู ผู้ที่ซือหยูติดหนี้ทั้งชีวิต ดยุคเซี่ยนหยูราวกับเป็นพ่อของเขาจริงๆ เขาสละชีวิตตนเองเพื่อให้เขาและเซี่ยนเอ๋อหนีรอดปลอดภัย!
“ไม่!!!!!!!!”
ซือหยูตะโกนด้วยแรงที่เหลืออยู่น้อยนิด!
ความชิงชังมิเคยได้กลืนกินหัวใจของซือหยูมาก่อน แต่ความชิงชังนี้ฝังแน่นไปในกายทนแทบจะระเบิดออกมาราวกับมันจะทลายทุกสรรพสิ่งทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์!
“องค์ชายหนึ่ง!”
ซือหยูตะโกนเสียงดังด้วยความชิงชังและจิตสังหารที่ฉีกท้องนภาให้เป็นชิ้นๆได้
“หากข้าไม่ฆ่าเจ้า ถือว่าข้ามิใช่คน!”
แม้ว่าดยุคเซี่ยนหยูจะรับความเสียหายจำนวนมากจากเปลวเพลิง แต่ก็ยังมีส่วนที่เล็ดลอดออกมาโดนผู้อาวุโสฉิน ผู้อาวุโสฉินกระอักเลือดออกมาจากการบาดเจ็บรุนแรง
แต่เขาก็ใช้แรงของเปลวเพลิงที่ระเบิดมาโดยแแผ่นหลังหนีออกไปจากตำหนักได้ เขาหนีออกจากเขตเซี่ยนหยูด้วยความเร็วปานสายฟ้า
คำสาบานของซือหยูดังก้องสะท้อนในตำหนักดยุคเซี่ยนหยูซ้ำไปซ้ำมา ความชิงชังของเขาเจาะทะลุชั้นสวรรค์แผดเผาแม่น้ำ ภูเขาและพื้นโลก ราวกับว่าเขาคือผู้นำพาจุดจบของโลก!
คนที่ได้ยินคำสาบานของซือหยูตกตะลึงและหนาวสั่นไปถึงกระดูก คำสาบานนั้งดังก้องอย่างน่ากลัว!
องค์ชายลำดับหนึ่งใจเต้นเร็วและแรงด้วยความไม่สบายใจ องค์ชายที่มีอำนาจเช่นเขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้ง่ายๆ
แขกกระจัดกระจาย เงาเพลิงเริ่มหายไปแล้วทิ้งไว้เพียงรอยเผาไหม้ยาวร้อยศอก! ที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือชายวัยกลางคน
มือขวาของเขากลายเป็นเถ้าถ่านและมีโลหิตกระจาย พลังภายในของเขาเหือดแห้งเบาบางราวเส้นไหมที่กำลังจะขาดออกจากกัน
ดยุคเซี่ยนหยูยังไม่ตาย! เขาโชคดีที่รอดจากการโจมตีนั้นที่หมายสังหารผู้อาวุโสฉิน!
“น้องสาม! นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
องค์ชายลำดับหนึ่งจ้ององค์ชายลำดับสามด้วยแววตามุ่งร้าย
ในช่วงเวลายุ่งเหยิง องค์ชายลำดับสามใช้สร้อยของตนปกป้องดยุคเซี่ยนหยู มิเช่นนั้นแล้วเขาคงจะไม่ได้เสียแค่แขนขวา เขาคงจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านทั้งตัว
องค์ชายลำดับสามยังคงมีใบหน้าเฉยเมย เขาหัวเราะและพูดอย่างอบอุ่น
“พี่ใหญ่ เรามาเพื่อพาดยุคเซี่ยนหยูกลับเมืองหลวงมิใช่รึ ถ้าเราสังหารเขาซะตรงนี้เราจะตอบคำถามฟ้าดินได้อย่างไร? หรือท่านอยากจะให้มันเป็นท่านเองที่สังหารดยุคเซี่ยนหยูตามอำเภอใจอย่างไร้ปรานี? หากเรื่องนี้รู้ถึงหูดยุคเขตอื่นเข้าจะทำให้แคว้นยุ่งเหยิง พี่ใหญ่จะตอบคำถามฟ้าดินอย่างไร?”
“เจ้า!”
แม้องค์ชายลำดับหนึ่งจะโกรธ แต่ลึกๆเขาก็รู้ว่าองค์ชายลำดับสามมีเหตุผล
“เราจะแบ่งทหารสองกลุ่ม กลุ่มแรกจะพาดยุคเซี่ยนหยูกลับเมืองหลวง อีกกลุ่มจะไล่ตามจับองค์หญิงเขตเซี่ยนหยู!”
…
เรื่องคลี่คลายลง
ดยุคที่แขนขวากลายเป็นเถ้าถ่านกลายเป็นผู้พิการและถูกจองจำในคุก นับจากนั้นชื่อเขตเซี่ยนหยูก็ถูกลบออกไป
แต่องค์ชายลำดับหนึ่งสูญเสียมหาศาล! องค์ชายลำดับสองตาย! ตาขวาของเขาบาดเจ็บรุนแรงและใบหน้านั้นน่าเกลียดมาก! เขาต้องจ่ายสูงมากในการกำจัดเขตเซี่ยนหยู!
ที่มากกว่านั้นคือคำสัตย์ของลูกเขยดยุคเซี่ยนหยูก่อนที่มันจะหนีไป นั่นเป็นเสี้ยนหนามในใจองค์ชายลำดับหนึ่งและทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจตลอดมา หากย้อนเวลากลับไปได้เขาจะไม่มีทางแตะต้องเขตเซี่ยนหยูเลย!
ตระกูลราชวงศ์จากไป แต่ก่อนที่องค์ชายลำดับสามจะออกจากตำหนักเซี่ยนหยูก็ถอนหายใจ
“ดยุคแห่งยุคสมัยที่ภักดีมิควรพบจุดจบเช่นนี้ ข้าช่วยอะไรไม่ได้มาก”
เมื่อคนอื่นจากไปดยุคฉินและผู้มีอำนาจหลายคนก็ตามองค์ชายลำดับหนึ่ง ผู้มีอำนาจต่างสนับสนุนองค์ชายลำดับหนึ่งให้ครองบัลลังก์ เป็นธรรมดาที่พวกเขาต้องกลับเมืองหลวงกับองค์ชาย
เมื่อถึงครึ่งทางองค์ชายลำดับหนึ่งได้เชิญดยุคฉินมาพูดคุย
“ข้าได้ยินว่ามีเรื่องระหว่างซือหยูกับลูกชายเจ้า...เช่นนั้นรึ?”
ใบหน้าด้านขวาขององค์ชายถูกพันด้วยผ้าพันแผล ตาขวาบาดเจ็บรุนแรง เสียงของเขาเย็นชา
ซือหยูคือผู้ที่จะทำให้โลกลุกเป็นไฟ องค์ชายจึงอยากจะได้ข้อมูลของตัวเขา ซึ่งสำหรับองค์ชายแล้วการหาข้อมูลซือหยูไม่ใช่เรื่องยาก
ดยุคฉินมิกล้าปกปิดความจริง
“พวกเขาทะเลาะกันเพื่อแย่งสตรี”
เขาพูดไปเรื่อยๆด้วยความเสียใจ หากเขารู้ว่าซือหยูเก็บซ่อนพลังที่น่ากลัวไว้เช่นนี้ ทั้งพลังวิญญาณและฎีกาสวรรค์ เขาคงจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดลูกชายเขาไม่ให้มีเรื่องกับซือหยูเพราะสตรี
แต่มันก็สายไปแล้ว…
“งั้น...ข้าจะทิ้งหน้าที่สำคัญในการกำจัดซือหยูให้เจ้า!”
องค์ชายลำดับหนึ่งกล่าวอย่างหยาบกร้าน
ดยุคฉินหน้าซีดตัวสั่น
“เมตตาข้าด้วยเถอะองค์ชาย! ซือหยูมีเหรียญศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง หากมีคนรู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะตำหนักฉิน ทั้งตระกูลของข้า ทั้งผู้อาวุโส ทั้งเหล่าเด็กน้อยจะถูกประหารกันหมด!”
ดยุคฉินเข้าใจดีใตองค์ชายลำดับหนึ่งไม่อยากจะทำด้วยตัวเองเพราะจะถูกประหารโดยราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นถ้าให้ตระกูลฉินทำแทนและเรื่องแดงขึ้นมา ตระกูลฉินก็จะต้องรับผิดชอบแทนเพราะพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับองค์ชาย
องค์ชายคำรามอย่างเย็นชา
“เจ้าคิดว่าต่อไปซือหยูจะปล่อยเจ้าไปงั้นรึ? ข้าไม่เชื่อว่าซือหยูนั่นจะลืมความชิงชังที่ลูกเจ้าไปแย่งผู้หญิงของเขามาหรอก...แล้วเขาก็จะฆ่าพ่อของมันด้วย ซึ่งก็คือเจ้า! หากเจ้าไม่กำจัดมันตอนนี้ที่มันยังไม่สยายปีก ตระกูลเจ้าก็จะล่มสลายเช่นกัน!”
ดยุคฉินเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาจะไม่เข้าใจเรื่องนี้ได้ยังไงกัน?
“แผนคือแอบลอบสังหารมัน! ตำหนักฉินบ่มเพาะมือสังหารไว้บ้าง เวลานี้คือเวลาที่ข้าให้งานสำคัญแก่เจ้า หากงานนี้เสร็จโดยไม่มีปัญหา ข้าได้ครองบัลลังก์เมื่อไหร่จะตอบแทนเจ้าอย่างงาม!”
การที่ได้เห็นพลังอันน่ากลัวของซือหยูทำให้องค์ชายลำดับหนึ่งหวาดกลัวมาก
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
ดยุคฉินทำใจยอมรับ
“แล้ว...ข้าจะทำยังไงกับเซี่ยนเอ๋อ? ฆ่านาง...หรือ...”
“อย่าฆ่านาง พานางมาให้ครบสามสิบสอง นางอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต”
ดยุคฉินเข้าใจดีว่าเขาฆ่านางหรือสัมผัสนางไม่ได้ เขาถอนหายใจ งานวิวาห์ของเจียงซื่อฉิงกับลูกชายเขาคงต้องเลื่อนออกไปจนกว่าซือหยูจะตาย…
ลึกเข้าไปในเทือกเขารัตติกาล…
ผู้อาวุโสฉินวางเด็กสองคนลงด้วยใบหน้าซีดเผือด เซี่ยนเอ๋อบาดเจ็บรุนแรงและหมดสติไปนานแล้ว
ซือหยูที่ร่างกายแข็งแรงขึ้นเพราะไอหยกเพลิงได้รับการฟื้นฟูด้วยผลของเหรียญบัญชาศักดิ์สิทธิ์ แผลฉกรรจ์ของเขาเริ่มฟื้นฟูและโลหิตจากแผลใหญ่บริเวณท้องก็หยุดไหลแล้ว
“ผลของบัญชาศักดิ์สิทธิ์ดีกจริง แต่ร่างกายเจ้าก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ถึงจะเจ็บหนักเช่นนี้บาดแผลก็เริ่มรักษาตัวเองแล้ว”
ผู้อาวุโสประหลาดใจ
ซือหยูเฉยเมยและไม่คิดจะพูดอะไร ภาพดยุคฉินก่อนตายนั้นยังคงฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขาไม่จากไปไหน
“เฮ้อ...”
ผู้อาวุโสมองซือหยูที่จิตใจเจ็บปวดอย่างผิดหวัง
“พวกเจ้าสองคนพักไปก่อน ข้าจะไปหาวัตถุดิบทำโอสถรักษาแผลพวกเจ้า ที่นี่ปลอดภัยไร้สัตว์อสูร”
เมื่อผู้อาวุโสออกไปในถ้ำก็เงียบลง ไม่นานเซี่ยนเอ๋อก็ฟื้น
“ไม่นะ! ท่านพอ!”
นางตื่นขึ้นมาและพบภาพพ่อนางก่อนตายจนกรีดร้องออกมา
นางที่มักจะหัวเราะและทำเพลงอยู่เสมอด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาในตอนนี้เต็มไปด้วยความอาดูร ซือหยูลูบหลังนางด้วยมืออันอบอุ่น
ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา