ตอนที่แล้วGE26 อาวุธเทพโบราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE28 ขอบเขตประสานวิญญาณขั้นกลาง

GE27 กระบี่เพลิงธูปหอม


 

ในหัวของหนิงฝาน ได้ติดต่อกับสร้อยหยินหยางตลอดเวลา

 

หนิงฝานรู้ดีว่า ด้วยระดับพลังของตนยามนี้ ต่อให้ฝืนยังไง ก็ไม่อาจเอาชนะซื่อหวูเสียได้ ที่สำคัญ หนิงฝานต้องไม่รอดจากการจู่โจมของมันแน่

 

กฏของโลกแห่งการฝึกตนคือกฏแห่งป่า หนิงฝานเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณที่ยังอ่อนแอ

 

“ท่านตื่นหรือยัง?” หนิงฝานกล่าวถามสร้อยหยินหยาง

 

“อืม... จิตใจของเจ้าสับสนปั่นป่วน ทำให้เกิดห่าฝนในสร้อยหยินหยาง แบบนี้ข้าจะไปหลับได้ยังไง...” สตรีลึกลับที่อยู่ในสร้อยหยินหยางบ่นตำหนิ

 

“ขอข้ายืนพลังท่าน... ได้โปรด! แล้วข้าหนิงฝานจะเป็นหนี้บุญคุณท่าน”

 

“พลังของข้า ถูกสร้อยหยินหยางผนึกไว้... แต่ข้ามีวิธีช่วยเหลือเจ้า”

 

“ท่านต้องการอะไรตอบแทน?”

 

“ช่วยข้าออกไปจากที่นี่ในสักวัน”

 

“ข้าสัญญา”

 

ทันทีที่รับปากสัญญา กลิ่นอายของพลังที่รุนแรง ค่อยๆปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ

 

พลังประหลาด ที่นุ่มนวลราวกับสายน้ำ อาบชโลมกระบี่แยกสวรรค์ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเพลิงทมิฬ

 

หนิงฝาน ยังคงเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ และยามนี้เขาได้หยิบยืมพลังจากสตรีผู้ลึกลับเป็นครั้งแรก

 

หนิงฝานไม่สนว่า ซื่อหวูเสียจะมีที่มาอย่างไรในยามนี้ ภายในใจหนิงฝาน ปรากฏเพียงคำว่า..

 

แค้นนี้ต้องชำระ!

 

“นี่คือ ‘เพลิงธูปหอม’ ของข้า แม้มันจะเหลืออยู่เพียงนิด แต่ย่อมเพียงพอให้เข้าจู่โจมได้หนึ่งกระบี่”

 

“ขอบคุณ...”

 

กระบี่นี้คือกระบี่เพลิง ที่ได้รับพลังมาจากสร้อยหยินหยาง อัดแน่นอยู่ในกระบี่แยกสวรรค์ ทั้งยังแฝงด้วยจิตสังหารที่สั่งสมมาทั้งชีวิตของจักรพรรดิสวรรค์

 

หนิงฝานหลับตาลงอย่างสงบ

 

หนิงฝานไม่เคยคิดว่าตน จะได้ครอบครองกระบี่ที่งดงามเช่นนี้

 

สีหน้าของซื่อหวูเสียมืดมน มันรู้ว่าหนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่กลับสามารถเพิ่มพลังให้กระบี่จนทำให้มันหวาดกลัวได้

 

“นั่น...” ซื่อหวูเสียหวาดกลัว มันจะไม่ยอมให้หนิงฝานลงกระบี่นั่นได้เด็ดขาด

 

มันสะบัดชายแขนอาภรณ์ที่ยาว ส่งลำแสงสายรุ้งที่แฝงด้วยพลัง ที่มากพอจะฉีกกระชากหนิงฝานเข้าจู่โจม

 

ซื่อหวูเสีย คือผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งของแคว้นเยว่ ด้วยระดับพลังของหนิงฝานแล้ว ย่อมไม่สามารถรับการจู่โจมของมันได้สักกระบวนท่า แต่เมื่อการจู่โจมของอีกฝ่ายเคลื่อนเข้าหา หานหยวนจี๋ก็เข้ามาปัดป้องไว้

 

ชายชราเฝ้ามองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับหนิงฝานอยู่ข้างกาย แม้ชายชราไม่กระจ่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ชายชรายังเดาได้ว่าหนิงฝานจะสังหารซื่อหวูเสียในกระบี่เดียว หากเป็นหนิงฝานลำพัง ย่อมไม่อาจเปล่งอานุภาพของกระบี่เช่นนี้ได้ ในเมื่อชายชราเป็นอาจารย์ของหนิงฝาน ชายชราจะเฝ้ามองอย่างนิ่งเฉย ได้อย่างไร?

 

เมื่อศิษย์กำลังตกยาก ผู้เป็นอาจารย์ควรทำเช่นไร? ย่อมต้องช่วยเหลืออย่างไม่ต้องสงสัย! ดังนั้นชายชราจะหนุนหนิงฝาน ด้วยกระถางโอสถ หนึ่งกระถาง หนึ่งกระบี่ ช่วยสังหารซื่อหวูเสีย

 

‘ต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง อย่างยุติธรรม? ล้อเล่นหรือเปล่า? หนิงฝานห่างชั้นกับซื่อหวูเสียถึง 2 ขอบเขต เหตุใดยังต้องลงมืออย่างยุติธรรม?’

 

เดิมทีชายชราไม่ต้องการตัดสินเป็นตายกับซื่อหวูเสีย แต่หากให้เลือก ระหว่างหนิงฝานกับมัน ชายชราต้องเลือกหนิงฝานอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะสายสัมพันธ์ของศิษย์อาจารย์แห่งนิกายปีศาจทมิฬ นั้นล้ำค่าอย่างที่สุด+

 

“หานหยวนจี๋ นี่เจ้ายังจะขัดขวางข้าอยู่รึ?” ซื่อหวูเสียกล่าวขึ้นด้วยโทสะ

 

“แน่นอน!” ชายชราหัวเราะลั่น

 

ในเมื่อเป็นผู้ฝึกตนฝ่ายอธรรม ยังมีอะไรที่ต้องยุติธรรมอีก? หากกล่าวเรื่องความยุติธรรม ผู้ที่มีกำปั้นใหญ่กว่า ย่อมยุติธรรมที่สุด! ดังนั้นคำว่ายุติธรรม จึงไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของชายชรา!

 

“หานหยวนจี๋ เจ้ามันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของ ‘4 นักบวช’ เจ้ามั่นใจแล้วหรือว่าจะยั่วยุผู้ที่สูงชั้นกว่า!?”

 

“ฮ่าฮ่า เจ้าคนผิดเพศ เลิกกล่าวไร้สาระได้แล้ว รับกระถางข้าซะ!”

 

กระถางปรุงโอสถทุ่มเข้าใส่ซื่อหวูเสีย ใบหน้าที่งดงามของมันซีดขาวไร้โลหิต มันทำได้เพียงขบฟันต้านรับ พลางตะโกนขึ้นด้วยโทสะ “พวกเจ้าจะยืนบื้ออยู่ทำไม? ไปหยุดไม่ให้เจ้าเด็กนั่นรวบรวมพลังกระบี่เร็วเข้า!”

 

คำกล่าวเมื่อครู่หมายถึงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำทั้ง 4

 

ผู้อาวุโสของนิกายเทียนหลีโม่ ล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกมันจึงเร่งหนีไปยังสถานที่ห่างไกล จากการต่อสู้ที่รุนแรง

 

และยามนี้ พวกมันได้ยินคำสั่ง พวกมันเร่งทะยานเข้าใส่หนิงฝานทันที

 

แต่ในขณะนั้น หนิงฝานชำเลืองมองพวกมัน กระบี่ในมือเคลื่อนไหวเล็กน้อย ทำให้ผู้อาวุโสของนิกายเทียนหลีโม่ ไม่กล้าเข้าใกล้

 

พวกมันรับรู้ได้ว่า พวกมันต้องตายหากเข้าไปใกล้กระบี่นั่น

 

“นั่นมันเพลิงธูปหอม...”

 

ยามนี้หนิงฝานรวบรวมพลังของกระบี่เสร็จสิ้น และได้ลงกระบี่ในที่สุด!

 

ผู้อาวุโสนิกายเทียนหลีโม่ ที่อยู่ใกล้ที่สุด ถูกกระบี่ตัดผ่าตายในทันที

 

ปราณกระบี่ของหนิงฝาน เผยให้เห็นถึงอานุภาพที่ทรงพลัง แม้ระดับของหนิงฝาน จะอยู่เพียงขอบเขตประสานวิญญาณ แต่อานุภาพที่กระบี่สำแดง กลับอยู่ในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสุดท้าย!

 

หนิงฝานใช้พลังทั้งหมดที่มี เพราะต้องการทำลายนิกายเทียนหลีโม่ให้สิ้นซาก

 

นั่นคือความคิดของหนิงฝาน...

 

“อาจารย์! ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า!”

 

ทั่วร่างของหนิงฝานแปรเปลี่ยน คล้ายผสานรวมเป็นหนึ่งกับปราณกระบี่ ที่พุ่งเข้าใส่ซื่อหวูเสีย

 

“แย่แล้ว!” ใบหน้าที่งดงามของซื่อหวูเสียแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันสัมผัสกระเป๋าเก็บของ เพื่อนำกระบี่บินระดับสูง พุ่งเข้าใส่หน้าอกของหนิงฝาน

 

แต่เมื่อกระบี่ของซื่อหวูเสียสัมผัสร่างหนิงฝาน มันสั่นสะเทือนก่อนระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ!

 

กระบี่บินล้ำค่า ที่เคยสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำของแคว้นเยว่ กลับถูกทำลายในพริบตา!

 

นี่เป็นครั้งแรก ที่ซื่อหวูเสียหวาดกลัวแววตาอันบ้าคลั่งของหนิงฝาน

 

บุรุษผู้ชั่วช้า แววตาที่บ้าคลั่ง หนึ่งกระบี่ ที่ไม่สนใจสิ่งใด... นับเป็นกระบี่คลั่งอย่างแท้จริง!

 

ซื่อหวูเสีย นำเครื่องประดับหยกออกมา ด้วยสีหน้าหวาดกลัว ราวกับกำลังจะร่ายเคล็ดความบางอย่าง

 

หากมันร่ายเคล็ดความได้ มันก็จะหยิบยืมพลังจากร่างจริงของมัน เพื่อต้านรับกระบี่ของหนิงฝานได้!

 

เครื่องประดับของมัน มีนามว่า ‘หยกพันธะ’ เป็นสมบัติที่ล้ำค่า และหาได้ยาก อย่างที่สุด!

 

“ทำลาย!” แต่ในช่วงจังหวะนั้น มันกลับได้ยินคำกล่าวที่เย็นชา จากปากของหนิงฝาน

 

หยกพันธะถูกปราณกระบี่ทะลวงแตกเป็นชิ้นๆ

 

และเคลื่อนเข้าใกล้ร่างของซื่อหวูเสียอย่างรวดเร็ว!

 

ร่างของซื่อหวูเสีย ถูกปกคลุมด้วยปราณกระบี่ ทำให้มันรู้สึกราวกับว่าถูกเข็มนับล้านทิ่มแทงทั้งร่างกาย และเส้นลมปราณ ทำให้มันเริ่มหมดสติ

 

แต่ก่อนที่มันจะหมดสติ สายตาของมันได้จ้องมองหนิงฝาน มันคาดไม่ถึงว่า ตัวตนอันเล็กจ้อยเช่นนั้น จะสามารถหยิบยืมเพลิงธูปหอม มาทำร้ายมัน ทั้งหานหยวนจี๋ยังร่วมมือทำร้ายมันด้วย

 

เกลียด... เกลียดชังอย่างที่สุด!

 

“อ้า... อย่าฆ่าข้า ข้าเป็นเพียงร่างจำแลงเท่านั้น... ต่อให้สังหารข้าไป ร่างจริงของข้าก็ยังคงปลอดภัย และร่างจริงของข้า จะรู้ถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นที่นี่ ดังนั้นมันย่อมต้องหาทางลงมาที่นี่ อย่างแน่นอน... เจ้าช่างเหนือล้ำ ที่หยิบยืมเพลิงธูปหอมได้ แต่เจ้าไม่รู้ว่าอาจารย์ของเจ้า มีศัตรูอยู่ในแดนสวรรค์ทั้ง 4 มากมายขนาดไหน หากเจ้าสังหารข้า ร่างจริงของข้าจะนำศัตรูของอาจารย์เจ้า มาทำลายพวกเจ้าที่นี่!”

 

เมื่อได้ยินคำกล่าว แววตาของหนิงฝานกลับสั่นเครือ ทั้งยังเผยความคิด ที่จะไว้ชีวิตของซื่อหวูเสีย

 

‘ซื่อหวูเสียกลับเป็นเพียงร่างจำแลง? เป็นไปได้อย่างไร...มันเป็นผู้เชี่ยวชาญในแดนสวรรค์ทั้ง 4 เหตุใดมันถึงสร้างร่างจำแลงที่นี่ได้?’

 

ผู้ที่สร้างร่างจำแลงได้นั้น สมควรมีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก เช่นนั้นร่างจริงของซื่อหวูเสีย อย่างน้อยสมควรเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจสูงชั้นกว่านั้น

 

มิแปลก ที่มีคำกล่าวว่านิกายเทียนหลีโม่ เหมือนสายน้ำที่ไหลลึก ที่แท้มีเหตุผลเช่นนี้...

 

สังหารร่างจำแลง อาจนำพาศัตรูของชายชรามายังโลกพิรุณ ทั้งยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญของแคว้นเยว่ หมายลงมือกับชายชรา

 

‘ปีศาจเฒ่าช่วยข้า ช่วยเหลือหนิงกู่ แต่ข้ากลับจะเป็นฝ่ายทำร้ายเขา...’

 

‘สังหารมันไม่ได้...’

 

หนิงฝานระงับความโกรธในใจ และถอนปราณกระบี่ทันที

 

เมื่อปราณกระบี่หายไป เพลิงธูปหอมก็หายไป นั่นทำให้หนิงฝาน ราวกับสูญเสียพลังทั้งหมด หนิงฝานต้องเผชิญกับความเจ็บปวดมหาศาล แต่เขายังคงกุมไหล่ของซื่อหวูเสียไว้แน่น

 

ใบหน้าที่งดงามของสื่อหวูเสียแปรเปลี่ยน มันไม่อยากเชื่อว่า เพียงคำกล่าวเล็กน้อยของมัน จะข่มขู่หนิงฝานได้

 

ชายชราสังเกตเห็นว่าหนิงฝานพยายามต่อสู้กับจิตใจของตนยามที่ถอนมือ

 

นั่นทำให้ชายชรารู้ว่า หนิงฝานเกลียดนิกายเทียนหลี่โม่มาก จึงได้ขอให้ชายชรานำพาตนมาที่นี่

 

ภารกิจที่สำคัญที่สุดของศิษย์ และอาจารย์คู่นี้คือการช่วยเหลือหนิงกู่!

 

ชายชรา คาดไม่ถึงว่า หนิงฝานจะยอมละทิ้งความแค้นเพื่อตน

 

‘รับเด็กผู้นี้เป็นศิษย์ นับว่าถูกต้อง...’

 

“เหตุใดไม่ฆ่าข้า?” เส้นชีพจรเซียน ของซื่อหวูเสียถูกทำลาย พลังที่สั่งสมมาหายสิ้น จนกลายเป็นคนไร้ความสามารถ

 

“ไม่... ข้าจะไม่สังหารเจ้า แต่ข้ามีวิธีจัดการกับเจ้า! เจ้าเฝ้ารอได้เลย!” หนิงฝานพยายามข่มจิตสังหารภายในใจอย่างบ้าคลั่ง เขาสังหารซื่อหวูเสียไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากทำร้ายอาจารย์... แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยซื่อหวูเสียไว้เช่นกัน!

 

หนิงฝาน ใช้ปลายกระบี่แทงเข้าไปยังหน้าอกของซื่อหวูเสียเล็กน้อย จากนั้นจึงแทงซ้ำไปยังหน้าท้องของมัน เพื่อทำลายแก่นทองคำ และทำลายโอกาสที่มันจะฟื้นฟูเส้นชีพจรเซียน จากนั้นจึงเก็บกระบี่ไป

 

หนิงฝานใช่มือซ้ายประครองหนิงกู่ที่หมดสติ ส่วนมือขวาชกไปยังหน้าอกของซื่อหวูเสีย จนทำให้มันหมดสติ

 

หมัดเมื่อครู่ ทำให้ซื่อหวูเสียกระอักโลหิตอย่างรุนแรง ร่างกระแทกปลิวไปไกล แต่หนิงฝานก็ตามไปแบกมันขึ้นไหล่ขวา

 

หน้าอกของซื่อหวูเสียนุ่มกว่า และใหญ่กว่าของจื่อเฮ่อ บุรุษก็มิใช่ สตรีก็มิเชิง อย่างมันช่างแปลกประหลาด

 

หนิงฝานกวาดตามองไปยังเหล่าผู้อาวุโสของนิกายเทียนหลีโม่อย่างเย้ยหยัน

 

“ซื่อหวูเสียถูกจับ นิกายเทียนหลีโม่ถูกทำลาย พวกเจ้าทุกคนก็อย่าได้ฝันว่าจะมีชีวิตรอด!”

 

ในรอบรัศมี 100 ลี้ นิกายเทียนหลีโม่ และทิวทัศน์แวดล้อมถูกทำลายหมดสิ้น

 

ใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโส ที่เหลือรอดซีดขาวไร้โลหิต เมื่อเผชิญกับสายตาของหนิงฝาน

 

เพียงไม่นานนัก นิกายเทียนหลีโม่ได้ถูกข่ายพลังทำลาย ทั้งกระบี่เพลิงธูปหอมยังเอาชนะซื่อหวูเสียได้

 

ผู้อาวุโสทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บสาหัส จนระดับพลังลดไปหนึ่งขอบเขต ยิ่งสภาพยามนี้ พวกมันยิ่งไม่อาจหนีได้พ้น เดิมทีพวกมันหวังพึ่งคำข่มขู่ของซื่อหวูเสีย ที่จะทำให้หนิงฝานและหานหยวนจี๋ยอมจากไป ดังนั้นเรื่องที่ซื่อหวูเสียจะพ่ายหนิงฝานนั้น พวกมันไม่เคยคิด

 

“ผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งของแคว้นเยว่... ร่างจริงของมัน เป็นถึงตัวตนอันยิ่งใหญ่ในแดนสวรรค์ทั้ง 4 แต่ยามนี้ร่างจำแลงกลับถูกคร่ากุมโดยเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง... เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร!”

 

ผู้อาวุโสที่เหลือรอด ตั้งใจจะหลบหนี เพียงแต่ช้าเกินไป

 

พวกมันถูกข่ายพลังของหนิงฝานจู่โจม กระทั่งแก่นทองคำถูกทำลาย ส่วนผู้ที่บาดเจ็บหนักยิ่งกว่า ไม่จำเป็นต้องคิดหลบหนี

 

จิตสังหารของหานหยวนจี๋เพิ่มพูน ก่อนซัดฝ่ามือเข้าสังหารผู้อาวุโสที่เหลือ ส่วนหนิงฝาน ที่แม้แขนทั้งสองข้างจะอุ้มร่างของคนสองคนไว้ เขายังคงใช้สัมผัสเทพ ควบคุมกระบี่แยกสวรรค์เข้าสังหารอย่างรวดเร็ว ไม่แพ้หานหยวนจี๋

 

กระบี่แยกสวรรค์... กระบี่แยกสวรรค์... กระบี่เล่มนี้ ชื่อกระบี่แยกสวรรค์ หากไม่สังหารคนของนิกานเทียนหลีโม่ มันย่อมกลายเป็นไร้ค่า

 

ในหมู่ผู้อาวุโสของนิกายเทียนหลีโม่ทั้ง 15 ชายชราสังหารไป 9 ส่วนหนิงฝานสังหารไป 6 ทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์ สังหารทั้งยังปลดเอาอุปกรณ์ของผู้ที่ถูกสังหารไปด้วย

 

หนิงฝานตกตะลึงกับการสังหารผู้อาวุโสกลุ่มนั้น เพราะหนิงฝานเก็บเกี่ยวจากการสังหารพวกมัน ได้มากมายมหาศาล

 

หลังจากสังหารพวกมันทั้งหมด ร่างกาย โลหิต และพลังที่แตกซ่านของพวกมัน ได้ผสานเข้าด้วยกัน ถือกำเนิดเป็นผลไม้สีเหลือง มีเส้นสายลึกล้ำ สลักไว้ภายนอก ทั้งยังมีกลิ่นหอมโชยออกมา

 

ผลไม้แห่งเต๋า... สังหารผู้เชี่ยวชาญ ของนิกายเทียนหลีโม่ กลับได้ผลไม้แห่งเต๋า

 

ก่อนพวกมันตาย พวกมันล้วนมีระดับพลังอยู่ในขอบเขตแก่นทองคำ นั่นทำให้พวกมันมีโอกาสให้กำเนิดผลไม้แห่งเต๋าในยามที่ตาย

 

หนิงฝานใช้สัมผัสเทพ นำผลไม้แห่งเต๋าขึ้นมา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย... จากข่าวลือ โอกาสที่จะได้ผลไม้แห่งเต๋า คือ 1 ใน 100 ยามนี้หนิงฝานนับว่าโชคดี ที่ได้ผลไม้แห่งเต๋ามากถึง 6 ลูก

 

หนิงฝาน เก็บผลไม้แห่งเต๋าทั้งหมดเข้ากระเป๋า ขณะที่ใบหน้าของชายชราแปรเปลี่ยนเขียวคล้ำ ชายชราคิดว่ามันไม่ยุติธรรม เหตุใดมันจึงไม่ยุติธรรมขนาดนี้?

 

“หนิงน้อย เจ้าจะงกไปถึงไหน บิดาสังหารไป 9 แต่กลับไม่ได้อะไรติดมือ! ส่วนเจ้าสังหารไปแค่ 6 แต่กลับได้ผลไม้แห่งเต๋า...”

 

ชายชรากวาดตามองนิกายเทียนหลีโม่ ที่ถูกทำลายพินาศ นั่นทำให้ชายชราคิดว่าไม่ยุติธรรมมากกว่าเดิม

 

แม้ว่านิกายเทียนหลีโม่จะถูกทำลาย แต่แน่นอนว่า ต้องมีของดีซ่อนอยู่ภายในนั้น หลังจากสังหารผู้คนกว่าครึ่งวัน ชายชราได้กระเป๋าของ เพียงไม่กี่ใบเท่านั้น ส่วนหนิงฝาน นอกจากได้กระบี่แยกสวรรค์ ได้ผลไม้แห่งเต๋า และยังได้ผู้ที่ครึ่งก้าวจะบรรลุดวงจิตแรกเริ่มมาเป็นสัตว์เลี้ยง อา... สิ่งที่ได้ช่างแตกต่างกันนัก

 

“ข้าจะลงไปหาสมบัติข้างล่าง...” ชายชราชี้ ไปยังเศษซากสิ่งก่อสร้างเบื้องล่าง ทั้งยังขดปากราวกับเด็กน้อย

 

“ไปเถอะ ข้าไม่ห้ามท่านหรอก... เพราะหากท่านไม่ไป ข้าจะไปเอง! สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ท่านระวังพวกปีศาจเฒ่าไร้แบ่งแยก มาตรวจสอบด้วย หากมันพบท่าน...มันจะอ่านจิตวิญญาณของท่าน และช่วงชิงความทรงจำของท่าน...” หนิงฝานส่ายหน้า เขาคร้านจะใส่ใจชายชรา... หลังจากได้แก้แค้น หนิงฝานก็รู้สึกปลอดโปร่ง เงาร่างของเขา กลายเป็นลำแสงนำพาหนิงกู่ และซื่อหวูเสียมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองฉีเหม่ย

 

ชายชรายังคงยืนอยู่ที่เดิม พลางขบคิดบางสิ่ง

 

ลงมืออย่างยากลำบาก แต่หนิงฝานกลับเอาของดีไปทั้งหมด... ไม่ยุติธรรม เห้อ... ช่างไม่ยุติธรรม...

 

แท้จริงแล้ว ในโลกแห่งการฝึกตนนี้ ไม่มีสิ่งใดที่ยุติธรรม หมัดใครใหญ่กว่า ผู้นั้นก็คือความยุติธรรม... คำกล่าวนี้เป็นชายชรา ที่กล่าวไว้เอง!

 

พื้นที่รัศมี 100 ลี้จากนิกายเทียนหลีโม่ ถูกทำลายพินาศ ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าผู้ใดย่อมไม่อยากเชื่อกับสิ่งเกิดขึ้น ชายชราเองก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่... หากปีศาจเฒ่าไร้แย่งแยกมาจริงๆ... มันอาจสังหารข้าในหนึ่งฝ่ามือ และค้นความทรงจำของข้า...

 

“เอาเถอะ... บิดาจะกลับไปปรุงโอสถครั้งที่ 54 ที่เมืองฉีเหม่ย... เมื่อถึงยามนั้น บิดาจะปรุงโอสถผันแปรที่ 4 สำเร็จอย่างแน่นอน”

 

เงาร่างชายชราแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงสีดำพุ่งหายไปด้วยสีหน้าซับซ้อน

 

สิ่งที่ทำให้ความรู้สึกของชายชราซับซ้อนมากที่สุดคือหนิงฝาน ในช่วงจังหวะนั้น หนิงฝานเลือกที่จะไม่สังหารซื่อหวูเสีย

 

จิตใจของชายชราสั่นไหวเล็กน้อย

 

ชายชรามีศัตรูมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งยังไม่เคยขาดแคลนศิษย์ แต่ศิษย์เหล่านั้นล้วนสิ้นชีพไปแล้ว... ศิษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงผู้เดียวในยามนี้คือหนิงฝาน

 

หนิงฝานเป็นศิษย์ที่ดี

 

***

 

3 วันให้หลัง ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจำนวนหนึ่ง ตรวจทราบเรื่องที่นิกายเทียนหลีโม่ถูกทำลาย

 

ในแคว้นเยว่ การที่นิกายแห่งหนึ่งถูกทำลาย ไม่ใช่เรื่องเล็ก! ที่สำคัญ นิกายที่ถูกทำลายในครั้งนี้ ยังเป็นถึงนิกายฝ่ายอธรรมอันดับ 1 ของแคว้นเยว่!

 

แม้ให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญจาก ‘วังพิรุณ’ มาตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อคนเหล่านั้นตรวจพบกลิ่นอายของหานหยวนจี๋ พวกมันทั้งหมดจะเก็บเงียบทันที

 

ดังนั้น แม้จะมีคลื่นยักษ์พัดพานิกายเทียนหลีโม่ไปจากแคว้นเยว่ แต่วังพิรุณเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

 

ช่างแปลกนัก ที่วังพิรุณไม่ตรวจสอบ หาผู้ที่ทำลายนิกายเทียนหลีโม่ให้ถี่ถ้วน... หรือวังพิรุณหวาดกลัวผู้ทำลาย

 

ลำดับนิกายฝ่ายอธรรมของแคว้นเยว่ได้เปลี่ยนไป

 

หลังจากการประชันขันแข่งของนิกายฝ่ายปีศาจมากมาย ผู้ที่ได้รับสืบทอดตำแหน่งนิกายฝ่ายอธรรมอันดับหนึ่ง คือนิกายกุ่ยเชว่

 

แม้เรื่องการทำลายนิกายเทียนหลีโม่จะโด่งดัง แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญเลือกที่จะปิดปากเงียบ ไม่กล่าวถึง เพราะพวกมันหวาดกลัวตัวตนที่ทรงพลัง ผู้ที่สามารถทำลายนิกายเทียนหลีโม่ จนราบเป็นหน้ากลอง

 

แต่สิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้ คือตัวตนที่วังพิรุณหวาดกลัวนั้น เป็นเพียงชายชราคนหนึ่ง

 

ชายชราผู้นั้น อาศัยอยู่ในแคว้นเยว่อย่างสงบ เพียงแต่วันนั้น ชายชราต้องการหาของขวัญให้ศิษย์ตน แต่สุดท้ายวันนั้นกลับกลายเป็นวันล่มสลายของนิกายเทียนหลีโม่

 

ชายชราต้องการให้หนิงฝานรู้จักความแตกต่างระหว่างทรงพลังและอ่อนแอ ซึ่งชายชราได้พยายามทำดีที่สุด ทำในสิ่งที่ผู้เป็นอาจารย์พึงกระทำ

 

ไม่นานนัก เรื่องที่นิกายเทียนหลีโม่ถูกทำลายก็ถูกลืมเลือน หานหยวนจี๋เริ่มปรุงโอสถครั้งที่ 54 แต่ท้ายที่สุดก็ประสบกับความล้มเหลว

 

ชายชราทราบดีว่า ต่อให้กินโอสถที่พยายามปรุงเข้าไป ก็อาจไม่ช่วยฟื้นฟูระดับพลังดั้งเดิมของตน

 

“เจ้าศิษย์บ้านั่น... ข้าหล่ะสงสัยจริงๆ ว่ามันจะกลับมาหรือไม่...” ขณะที่ชายชรากำลังขบคิด เพลิงในกระถางปรุงโอสถ ก็เริ่มปั่นป่วนจนเกือบทำลายโอสถที่กำลังปรุง

 

***

 

หลังจากกลับมาถึงเมืองฉีเหม่ย หนิงฝานก็เก็บตัวอยู่หลายวัน เพื่อปรุงโอสถรักษาหนิงกู่

 

เมื่อปรุงโอสถสำเร็จ หนิงฝานได้จากเมืองฉีเหม่ย ไปยังหมู่บ้านเล็กๆที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง

 

เขานำหนิงกู่ไปส่ง เพราะนั่นคือความต้องการของหนิงกู่เอง

 

หนิงกู่ปรารถนาจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ หลีกหนีการเข่นฆ่า หลีกหนีจากคมกระบี่ และโลหิต เขาหวังเพียงได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบโดยไร้ผู้คนรบกวน

 

แต่นั่นเป็นเพียงเหตุผลรอง เหตุผลหลักที่หนิงกู่เลือกอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ก็เพราะหวาดกลัวที่จะพบหนิงฝาน

 

หนิงกู่จดจำพี่ชายของตนไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นหน้า หนิงกู่จะปวดหัวราวกับหัวแทบระเบิด นั่นยิ่งทำให้หนิงฝานที่เห็นรู้สึกผิดและกล่าวโทษตนเอง

 

ก่อนที่ความทรงจำทั้งหมดจะกลับมา หนิงกู่จะไม่ยอมรับว่าหนิงฝานคือพี่ชาย แต่ต่อให้ความทรงจำทั้งหมดกลับมา หนิงกู่จะไม่ฝึกตนอีก

 

แต่ละผู้ ย่อมมีวิถีทางเป็นของตน... หนิงฝานและหนิงกู่... ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งสองยังคงแตกต่างกัน

 

“หากวันใดข้าจำท่านได้... ข้าจะไปตามหาท่าน” หนิงกู่ยืนอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน และจ้องมองหนิงฝาน

 

“วันนั้นย่อมมาถึง... ไม่ว่าเจ้าจะต้องการใช้ชีวิตในแบบใด ข้าสัญญา ว่าจะตามใจเจ้า หากเจ้าต้องการอยู่อย่างสงบ ข้าจะมอบผืนป่าที่เขียวชอุ่ม และสายน้ำให้ หากเจ้าต้องการเป็นผู้มั่งคั่ง ข้าจะมอบเมืองให้เจ้า และแต่งตั้งเจ้าเป็นราชา แต่หากเจ้าต้องการพลัง...ข้าจะมอบทักษะ และโอสถที่ทำให้เจ้าได้กลายเป็นเซียน... ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด ข้าจะหาให้เจ้าทุกสิ่ง...” หนิงฝานยิ้มอย่างอ่อนโยน หนิงฝานไม่ได้มีความสุขในยามนี้ เขารู้สึกผิด ที่ปล่อยให้หนิงกู่ ประสบชะตากรรมที่เลวร้าย

 

พี่น้องไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน ไม่จำเป็นต้องมีสถานะทัดเทียม ไม่จำเป็นต้องมีความคิดเหมือนกัน บางที...เส้นความต่างของชีวิตอาจนำพาทั้งสองแยกจากกัน

 

แต่ตราบใดที่รู้ว่า อีกฝ่ายยังมีชีวิต แววตาของทั้งสองจะบรรจบกันที่สุดขอบฟ้า สายใยของทั้งสองจะไม่มีวันจางหายไป

 

ไม่มีผู้ใดกลายเป็นเซียนอย่างง่ายดาย ไม่มีไก่ตัวใดกลายเป็นสุนัขเห่าหอนสวรรค์

 

ด้วยสายใยพี่น้องที่มี ไม่ว่าหนิงฝานจะสังหารผู้คนไปมากมายเท่าใด จะมีผู้เกลียดชังตัวเขามากเท่าใด จะมีผู้อิจฉาเขามากเท่าใด เขาก็จะไม่ลืมว่าตนเองเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ปีศาจ!

 

“ข้าสาบานว่าจะทำลายนิกายเทียนหลีโม่... ยามนี้ข้าทำสำเร็จแล้ว แต่ข้ายังคงอ่อนแอเกินไป เส้นทางแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ ข้าเป็นเพียงตัวตนที่เล็กจ้อย ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง แต่เมื่อข้าได้ก้าวเดินในเส้นทางนี้แล้ว...จะไม่มีวันหวนกลับ ตัวเลือกของข้าคือต้องก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น...”

 

ยอดเขาสูง สายลมพัดโชย หนิงฝานยืนอยู่ท่ามกลางเมฆหมอก และเฝ้ามองหนิงกู่ที่อยู่ในหมู่บ้าน

 

โซ่ตรวนที่ผนึกพันจิตใจได้ถูกทำลาย หนิงฝานแหงนหน้ามองท้องนภา และยอมรับถึงความกว้างใหญ่ของโลก

 

“สวรรค์เป็นภรรยา... พิภพเป็นสนม... บางทีล่างกู่ในยามนั้น อาจรู้สึกเช่นเดียวกับข้า ล่างกู่...หากไม่มีท่าน ย่อมไม่มีข้าในวันนี้ หากมีโอกาส ข้าจะทำให้ชื่อของท่านโด่งดังไปทั่วดาราจักร และไต่เต้าไปจนถึงระดับพลังที่สูงที่สุดของทุกสรรพสิ่ง!”

 

นี่คือหัวใจของเต๋าอันยิ่งใหญ่!

 

‘ครั้งหน้า...ข้าจะไม่หยิบยืมเพลิงธูปหอม

 

‘ครั้งหน้า...ข้าจะพึ่งพาตัวเองเท่านั้น!’...

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด