GE25 ภูเขาและพิภพพังทลาย
ยามที่ปั่นป่วนโกลาหล ปีศาจที่แท้จริงจะปรากฏ!
เมื่อเห็นทักษะปีศาจ ที่บ่มเพาะเพื่อทำร้ายตนเองของหนิงกู่ อย่าง‘บรรทัดผนึกชีวิต’ หนิงฝานไม่อาจปล่อยไปได้
หนิงฝาน วางข่ายพลังสังหารรอบนิกายเทียนหลีโม่ในรัศมี 100 ลี้ กินพื้นที่ขนาดใหญ่ และยากที่ผู้ใดจะสังเกตุเห็น!
ไม่มีคนของแคว้นเยว่ผู้ใด ที่เคยเห็นข่ายพลังขนาดใหญ่กินพื้นที่กว่า 100 ลี้มาก่อน
หนิงฝานเหยียบย่างนภาพลิ้วไหว เป็นเส้นแสงหิมะข้ามผ่านผืนป่า พลางโยนหยกสวรรค์ลงไปยังข่ายพลังอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
นอกจากนี้ หนิงฝานยังถ่ายสัมผัสเทพ ลงไปยังหยกสวรรค์ เพื่อให้มันเชื่อมต่อกับพื้นดิน เกิดเป็นแรงดึงดูดที่ยิ่งใหญ่
ไม่มีที่ใดในโลก ที่มีภูมิประเทศเหมือนกัน ไม่มีรูปแบบใดที่เหมือนกัน เพื่อให้เกิดแรงดึงดูดขนาดใหญ่ ตาของข่ายพลังที่ต่อใส่หยกสวรรค์ลงไปต้องมีอย่างน้อย 7000 แห่ง
หนิงฝาน คำนวณทั้งหมดอย่างพิถีพิถัน และใช้ความพยายามอย่างที่สุด เมื่อเวลาผ่านไป ใบหน้าของหนิงฝานซีดขาวไร้โรหิต ร่างกายสั่นเทิ้ม
“ร่างกายนี้ยังอ่อนแอเกินไป ข้าต้องกลั่นโอสถหยกหลวง เพื่อล้างไขกระดูก หลังจากข้ากลับเมืองฉีเหม่ย...” หนิงฝานพึมพัม
ยามนี้ ความรู้สึกอันลึกลับพิศวงค่อยๆก่อตัวขึ้นในความคิดของหนิงฝานอย่างช้าๆ เป็นความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับแรงดึงดูดของพิภพและสวรรค์
“ข่ายพลังระดับชูคง... ขุนเขาสายน้ำหวนกลับ” หากข่ายพลังเสร็จสมบูรณ์ มันจะพลิกแรงดึงดูดของโลก เพื่อทำลายนิกายเทียนหลีโม่!
แม้ข่ายพลังขุนเขาสายน้ำหวนกลับ จะอยู่ในระดับชูคง แต่ก็เพียงฟานเหรินชูคง แม้หนิงฝานจะวางข่ายพลังได้เป็นอย่างดีแต่หยกสวรรค์กลับไม่เพียงพอ... ถึงอย่างนั้น อานุภาพที่มันจะสำแดง ย่อมเพียงพอให้ทำลายนิกายเทียนหลีโม่
สิ่งที่หนิงฝานกระทำ นับเป็นเรื่องอันตราย เพราะหากผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ พบว่าหนิงฝานใช้สัมผัสเทพ หนิงฝานอาจไม่รอด
แต่ถึงอย่างนั้น พวกมันกลับมิอาจสัมผัสได้ เพราะพวกมันกำลังสารวนอยู่กับงานประลอง ผู้นำนิกายหวูเสีย ปลีกตัวบ่มเพาะ... เช่นนั้น นี่คือโอกาสที่สวรรค์ประทานให้!
อำนาจแรงโน้มถ่วง ที่ข่ายพลังสำแดง จะเข้าทำลายนิกายเทียนหลีโม่จนสิ้น
นี่เป็นเพียงโอกาสเดียว ที่หนิงฝานจะทำลายอีกฝ่าย ด้วยหยกสวรรค์ในมือ
หนิงฝาน อดทนกับการวางข่ายพลัง หากข่ายพลังขนาดใหญ่นี้แล้วเสร็จ เขาจะกลับไปยังภูเขาของนิกายเทียนหลีโม่ เพื่อทำลายพวกมัน
เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ คล้ายกับครั้งที่หานหยวนจี๋ ทำลายนิกายเหอฮวน และครั้งนี้หนิงฝาน จะทำลายนิกายเทียนหลีโม่!
“ชีวิตของข้า...ไร้ซึ่งบิดาและมารดา ตัวข้า...มีเพียงน้องชายเท่านั้น...” หนิงฝานร่อนลงพื้นด้วยใบหน้าซีดขาวไร้โลหิต เขาไม่อาจเคลื่อนไหวได้ต่อแล้ว
‘ร่างกายนี้ เป็นเพียงร่างกายของผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ ยากนักที่จะวางข่ายพลังระดับชูคง’
‘แม้ร่างกายนี้ผ่านการบ่มเพาะมาบ้าง แต่ยังด้อยเกินไปนัก’
ที่ด้านหลังของหนิงฝาน สาวน้อยนางหนึ่งกำลังหาวอย่างเกียจคร้าน แต่ในทุกครั้งที่นางจ้องมองหนิงฝาน นางจ้องมองด้วยแววตาประหลาดใจ
สาวน้อยนางนี้ มีจุดประสงค์อื่นในการติดตามหนิงฝาน แม้นางจะกล่าวว่าออกมาเล่นสนุกก็ตาม เดิมทีนางไม่เห็นหนิงฝานอยู่ในสายตา ผู้สืบทอดจักรพรรดิสวรรค์ ที่เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ และถูกนิกายเทียนหลีโม่ข่มเหง...ช่างอ่อนแอนัก
แต่ยามนี้..มุมมองที่นางมีต่อหนิงฝานกำลังเปลี่ยนไปช้าๆ
หนิงฝาน ไม่ได้จ้องมองนางด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยราคะเฉกเช่นบุรุษอื่น
หนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่กลับ หาญกล้าวางข่ายพลังระดับชูคง กระทั่งเกือบทำได้สำเร็จ
ยิ่งเมื่อนางเห็นหนิงฝานใช้พลังจนหมดจนแทบลุกไม่ขึ้น นางรู้สึกปวดใจ
โลกใบนี้ ช่างเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ สาวน้อยนางนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากแดนสวรรค์ทั้ง 4 ที่อยู่เหนือพิภพทั้ง 9
ในสถานที่แห่งนั้นมี ‘ขุมทรัพย์แห่งทวยเทพ’ ของเหล่าเทพโบราณ มี ‘พุทธโบราณ’ ‘เทพสวรรค์’ และ ‘จักรพรรดิเซียน’...
สถานที่แห่งนั้น เป็นแหล่งรวมตัวของผู้ที่ทรงพลัง เป็นสถานที่แห่งการแข่งขัน เด็กหนุ่มเช่นหนิงฝานในที่แห่งนั้น ทรงพลังยิ่งกว่าขอบเขตประสานวิญญาณนับร้อยเท่า
ผู้เชี่ยวชาญที่นั่น สามารถคลุมมหาสมุทรได้ด้วยเม็ดทราย ดับตะวันและจันทราได้ด้วยใบไม้ ลมหายใจของพวกเขาสามารถเปลี่ยนวัฏจักรของพิภพและสวรรค์
ยามนี้ นางกลับรู้สึกว่า ในอนาคต หนิงฝานที่อยู่เบื้องหน้า จะทรงพลังยิ่งกว่าทวยเทพเหล่านั้น
“ผู้สืบทอดจักรพรรดิสวรรค์... ข้าควรมอบตำแหน่งในศาลาไร้ธรรมให้เขาหรือไม่? ช่างเถอะ ในอนาคตค่อยขบคิดอีกครั้ง...”
นางส่ายหน้าเพื่อสลัดความคิด มือที่เรียวงามและนุ่มละมุนของนาง สัมผัสแผ่นหลังของหนิงฝาน และถ่ายพลังเข้าไป
หนิงฝานที่ใกล้จะหมดสติเริ่มฟื้นฟู เมื่อได้รับพลังของนาง
หนิงฝานค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆและลุกขึ้นจากพื้น หลังจากถอนหายใจ หนิงฝานจ้องมองสาวน้อยด้วยแววตาซับซ้อนหลากหลาย
“เหตุใดเจ้าช่วยข้า?”
“ฝานฝานน้อย ข้าช่วยเจ้าหรือ?” นางกระพริบตาน่ารักๆให้หนิงฝานอยู่หลายครั้ง
“ขอบคุณแม่นาง... ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้าแล้ว”
“ฮ่าฮ่า... เจ้าอย่าได้ติดหนี้บุญคุณข้าเสียดีกว่า เพราะผู้ที่ติดหนี้บุญคุณข้าล้วนตกตายทั้งหมด”
นางลูบสัมผัสผมดำขลับของตน ทันใดนั้น นางเริ่มรู้สึกว่า การที่นางได้อยู่ร่วมกับหนิงฝานนั้นผ่อนคลายอย่างยิ่ง ‘แม้ระดับพลังของเขายังอ่อนด้อย แต่แววตาของเขากลับไม่หวาดกลัวยามจ้องมองข้า... นั่นสิ ผ่อนคลายอย่างยิ่งหากเทียบกับสายตาที่หวาดกลัวของตาเฒ่าเหล่านั้น’
“เจ้าคือผู้สืบทอด ‘ล่างกู่’ ส่วนข้าคือผู้สืบทอด ‘เฉินชู’ ในแดนสวรรค์ทั้ง 9 เบื้องบนเราจะต้องต่อสู้กัน เช่นนั้นเจ้าอย่าได้เป็นหนี้บุญคุณข้า ข้ารอเจ้าในโลกพิรุณแห่งนี้ มานาน 300 ปี ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัว ยามนี้ข้าต้องไปแล้ว ข้าจะไปรอเจ้าที่โลกอัสนี...”
นางถอนหายใจอย่างโศกเศร้า ความโศกเศร้าที่นางแสดงออกมานั้น คือความโศกเศร้าที่ได้แยกจากหนิงฝาน
“ฝานฝานน้อย... ข้าไปก่อน!”
นางเผยรอยยิ้มราวกับพระจันทร์เสี้ยว ก่อนจะทะยานจากไป แต่ละก้าวของนาง นำพาร่างของนางมุ่งไกลถึงพันจ้าง ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ เงาร่างของนางก็ลับหายไปจากสายตา
ทิ้งไว้เพียงหนิงฝานที่สับสน
“ในโลกใบนี้ มิใช่เพียงข้าที่เป็นผู้สืบทอดจักรพรรดิสวรรค์ จากที่นางกล่าว แดนสวรรค์ทั้ง 9 เบื้องบน สมควรมีคนเช่นข้าอยู่มาก... ข้าคือผู้สืบทอดล่างกู่ ส่วนนางคือผู้สืบทอดเฉินซู...”
หนิงฝานส่ายหน้า พลางสลัดความคิดที่มีกับสาวน้อยนางนั้น ยามนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การวางข่ายพลังให้แล้วเสร็จ
ข่ายพลังขุนเขาสายน้ำหวนกลับสำเร็จไปแล้ว 2 ใน 3 ส่วน หลังจากผ่านไปอีก 1 ชั่วยาม หนิงฝานก็วางข่ายพลังแล้วเสร็จ เขาเหยียบย่างนภา กลับไปยังแผ่นหยกที่ลอยอยู่เหนือนิกายเทียนหลีโม่
หานหยวนจี๋ รอหนิงฝานอยู่นอกประตูนิกายแล้ว เมื่อเห็นหนิงฝานมาชายชราจึงจ้องมองหนิงฝานด้วยสีหน้าโกรธเคือง
“หนิงน้อย! บิดาบอกเจ้าแล้ว ว่าอย่าได้เที่ยวเล่นไปทั่ว! แต่เจ้าก็ยังไป!”
“อืม... ข้าไปทำบางสิ่ง เพื่อเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับนิกายเทียนหลีโม่...”
“ของขวัญ? ของขวัญอันใด? รีบเข้าเถอะ ข้าพบน้องชายของเจ้าอยู่ถนนสายที่ 15... ที่นั่นมีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ 4 คนคอยคุ้มกัน เจ้าไปล่อมันออกมาคนหนึ่ง ส่วนอีก 3 บิดาจะสังหารมันเอง!”
“มิจำเป็นต้องกระทำขนาดนั้น... อาจารย์... ท่านสอนข้ามิใช่หรือ ว่าต้องทำลายทั้งนิกายในครั้งเดียว!? วันนี้ เราจะทำลายนิกายเทียนหลีโม่ที่อยู่ข้างล่างนั่น!”
หนิงฝานที่ยืนอยู่บนแผ่นหยก จ้องมองนิกายเทียนหลีโม่เบื้องล่างด้วยสีหน้าเย็นชา
“ข้าได้วางข่ายพลังขนาดใหญ่เอาไว้ วันนี้...จะเป็นจุดจบของนิกายเทียนหลีโม่!”
“เจ้าวางข่ายพลัง? ข่ายพลังอันใด?”
ชายชรายังมิทันได้รับคำตอบ หนิงฝานก็เริ่มร่ายเคล็ดความ
“ทำลาย!”
หนิงฝาน กระตุ้นตาของข่ายพลังร่วม 7000 แห่งบนพื้นดินพร้อมกัน ทำให้แรงโน้มถ่วงของพื้นโลกพลิกกลับ และพลังที่ทรงอานุภาพก็ปะทุขึ้นที่ภูเขาขิงนิกายเทียนหลีโม่
พริบตานั้น หานหยวนจี๋ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง ชายชราเร่งหันมองหนิงฝานด้วยแววตาตกตะลึงราวกับเห็นผี
“นี่... นี่มัน...ข่ายพลังระดับ ‘ฟานเหรินชูคง’!”
***
ซื่อหวูเสียผู้นำแห่งนิกายเทียนหลีโม่ คนทั่วไปเรียกขานมันว่าผู้นำหวูเสีย มันคือผู้เยาว์ที่สวมใส่ชุดขาวราวกับเซียน มันเก็บตัวบ่มเพาะอยู่ภายในภูเขาของนิกายเทียนหลีโม่เพื่อทะลวงขอบเขตไปยังดวงจิตแรกเริ่ม
ใบหน้าของมันงดงามราวกับสตรี ทำให้ยากจะพิเคราะห์ว่ามันคือบุรุษหรือสตรี ผู้คนทั่วไปที่ไม่รู้ล้วนคิดว่ามันคือสตรี
“หากข้าบรรลุดวงจิตแรกเริ่ม ร่างจำแลงของข้าจะก้าวหน้าและพลางตาจากม่านพลังของโลกเพื่อบ่มเพาะได้...”
ขณะที่มันกล่าวคำ สีหน้าของมันกลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
มันสัมผัสได้ถึงอำนาจแห่งการทำลายล้างของโลกที่กำลังปะทุขึ้นจากภูเขาของนิกายกุ่ยเชว่
“เป็นไปมิได้...” มันอุทานด้วยความแตกตื่น
ภายใน ‘วิหารเมฆา’ สตรีแก่นทองคำนางหนึ่งกำลังร่วมรักกับบุรุษหนุ่มจนเกิดเป็นฉากที่น่ารังเกียจ
นางพลิกมาขึ้นคร่อมบุรุษหนุ่มนั่นไว้แล้วเริ่มร่วมรักต่อ หลังจากผ่านไปไม่กี่รอบ ดวงตาของบุรุษหนุ่มก็กลายเป็นสีขาวและสิ้นใจอย่างน่าอนาถ นางดูดกลืนแก่นหยางของบุรุษหนุ่มผู้นั้นทั้งหมดจนทำให้บุรุษหนุ่มผู้นั้นสิ้นชีพ นางลงมาจากเตียงนอนก่อนกล่าวอย่างเย็นชา “กระถางบ่มเพาะทั่วไปให้ผลลัพธ์ได้เลวร้ายมาก... ฮ่าฮ่า หนิงกู่... อีกไม่นานมันจะบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ เมื่อถึงยามนั้น ข้าจะนำมันมาและมอบความสุขให้มันทันที...”
ก่อนจะสิ้นเสียงหัวเราะของนาง นางสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดที่ทรงพลังของโลกที่กำลังหวนกลับ
“ท้องนภาวันนี้ช่างแปลกนัก...”
***
ภายในวิหารขับไล่เซียนแห่งนิกายเทียนหลีโม่ มีสถานที่แห่งหนึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อต้อนรับแขกเหรื่อ
ภายในนั้นมีรองผู้นำนิกายซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสุดท้าย กำลังต้อนรับผู้อาวุโสของนิกายฝ่ายอธรรมกว่า 10 แห่ง
ได้แก่ ‘นิกายอมตะ’ ‘นิกายชิงศพ’ และ ‘นิกายจี๋หลิน’… นิกายเหล่านี้คือนิกายฝ่ายอธรรมที่อยู่ใกล้กับแคว้นเยว่
“นักปรุงโอสถผู้ทรงเกียรติแห่งเมืองฉีเหม่ย หานหยวนจี๋... มันผู้นี้ยากจะจัดการ ครั้งหนึ่งมันเคยบังคับให้นิกายไท่ชูไพ่ส่งมอบ ‘ปราณหยินลึกลับ’ ซึ่งคือหนึ่งในสิบสอง ‘ปราณเยือกแข็งสวรรค์’ เป็นสิ่งที่ผู้นำหวูเสียต้องการ และยามนี้...ทุกท่านต้องช่วยนิกายของข้ากดดันนิกายกุ่ยเชว่”
“แต่ยามนี้ปราณหยินลึกลับยากที่จะช่วงชิง...”
“มิใช่ปัญหา ผู้นำหวูเสียมีวิธี...”
รองผู้นำนิกายเผยรอยยิ้มอย่างมีนัย
ขณะที่ทุกผู้เจรจาต่อรอง พวกมันพลันสัมผัสได้ถึงความผันผวนของโลก
“แปลกนัก... เกิดอันใดขึ้น?”
บนแผ่นหยกลอยฟ้า งานประลองยังคงดำเนินอย่างเนื่อง ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลรวมตัวที่ถนนสาย 15 เพราะถูกดึงดูดด้วยการสังหารที่เลือดเย็นของหนิงกู่
ชุดคลุมดำของหนิงกู่พลิ้วไหวตามสายลม บรรทัดน้ำแข็งขนาดใหญ่ในมือกวัดแกว่ง ไม่มีผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรที่ 10 คนใดที่รับมือหนิงกู่ได้เกิน 3 กระบวนท่า
แม้หนิงกู่สังหารผู้คนด้วยบรรทัดน้ำแข็งในมือแต่สีหน้ายังคงเรียบเฉย มีเพียงแววตาเท่านั้นที่ปรากฏความโศกเศร้า
หนิงกู่ดูราวกับสูญเสียความทรงจำและจิตวิญญาณ เขาจำมิได้ว่า เหตุใดต้องสังหารผู้คน เขารู้สึกเพียงว่า ตนมีพี่ชายนามว่าหนิงฝาน เพียงแต่ไร้ซึ่งความทรงจำที่มีต่อหนิงฝาน
ความทรงจำของหนิงกู่พร่ามัว...
ทุกครั้งที่สังหารผู้คน แก่นชีวิตของหนิงกู่จะหายไปทีละน้อย หนิงกู่ไม่กลัวตายแต่รู้สึกเสียใจ เขาต้องการจดจำทุกสิ่งเกี่ยวกับพี่ชาย
“หนิงฝานคือผู้ใด...”
คำว่าหนิงฝานปรากฏขึ้นในหัวของหนิงกู่ เขารู้สึกราวกับสมองกำลังจะระเบิดออกจากกัน กระทั่งปล่อยบรรทัดน้ำแข็งในมือร่วงลงพื้น
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำทั้ง 4 กังเกตุเห็นความผิดปกติของหนิงกู่ หนึ่งในพวกมันจึงเร่งเข้าตรวจสอบ แต่ก่อนที่มันจะถึงตัวหนิงกู่ เส้นสายหิมะประกายพาดผ่านท้องฟ้า และหยุดเบื้องหน้าหนิงกู่ เงาร่างของผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวดำปรากฏ
“ฮึ่ม! รวดเร็วยิ่งนัก! เด็กนั่นเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่ความเร็วกลับไม่ด้อยไปกว่าข้า”
ผู้เยาว์คนนั้นคือหนิงฝาน ที่สวมผ้าคลุมอำพรางไว้ที่ใบหน้า หนิงฝานประครองหนิงกู่ด้วยรอยยิ้ม หนิงกู่รู้สึกคุ้นเคยกับ...รอยยิ้มที่ทุกข์ตรมของบุรุษเบื้องหน้า เพียงแต่จดจำมิได้ว่าเคยพบบุรุษผู้นี่ที่ใด
“เจ้าเป็นใคร... ข้ารู้จักเจ้าหรือไม่... ข้าจำมิได้ เหตุใดข้าจำมิได้?” หนิงกู่ปวดหัวเป็นอย่างมาก
“เจ้าไม่จำเป็นต้องคิด...ไม่จำเป็นต้องคิดสิ่งใด จดจำไว้เพียงว่าข้าคือพี่ชายของเจ้า...เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว... เรากลับบ้านกันเถอะ!”
หนิงฝานพยุงหนิงกู่ไว้ โดยไม่สนใจผู้เชี่ยวชาญประสานทองคำทั้ง 4
สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
หนิงกู่ คือกระถางบ่มเพาะที่ผู้อาวุโสซ่งหมายตา พวกมันจะยอมให้ผู้อื่นช่วงชิงไปได้อย่างไร!
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำทั้งสี่แค่นเสียง พลางปลดปล่อยแรงกดดัน แต่ในจังหวะนั้น แรงกดดันที่ทรงพลังยิ่งกว่าได้สะกดแรงกดดันของพวกมันไป
“เด็กนั่นเป็นศิษย์ของบิดา ในเมื่อมันต้องการทำลายนิกายเทียนหลีโม่ของพวกเจ้า พวกเจ้าก็รีบๆไสหัวไปลงนรกได้แล้ว!”
ชายชราที่เหยียบย่างนภา ได้พ่นมังกรเพลิงทมิฬ 8 ตัวออกมาจากปาก ก่อนจะหัวเราะลั่นด้วยฉากการสังหารเบื้องล่าง
ผู้คนจำนวนมากแตกตื่นโกลาหลพลางวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
เมื่อผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำทั้งสี่เห็นเพลิงทมิฬ พวกมันก็จดจำชายชราได้ทันที
“เพลิงปีศาจทมิฬ... หานหยวนจี๋!”
มิน่าเชื่อ! มิน่าเชื่ออย่างแท้จริง! ช่างน่าประหลาดที่นิกายเทียนหลีโม่ไม่เคยยั่วยุชายชรา แต่กลับเป็นชายชราที่มาหาเรื่องถึงที่
แต่อีกไม่นานนัก เรื่องที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าจะเกิดขึ้น
มิเพียงนิกายเทียนหลีโม่ที่ตกตะลึง ทั่วทั้งแคว้นเยว่ และเหล่าผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก จำนวนน้อยนิดที่อยู่ในโลกพิรุณก็จะตกตะลึงเช่นกัน
หนิงฝานเร่งโอบอุ้มหนิงกู่ เหยียบย่างนภาเป็นสายหิมะ ไปยังข้างกายของหานหยวนจี๋!
แววตาที่ดุดันของหนิงฝานจ้องมอง สีหน้าที่เย็นชาราวกับทำให้ผู้คนทั้งหมดหวาดกลัว
“ข้าหนิงฝาน...ผู้นำนิกายปีศาจทมิฬ มาเพื่อล้างแค้นและทำลายนิกายเทียนหลีโม่!”
หนิงฝานกล่าวคำพร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารของจักรพรรดิสวรรค์!
ขณะที่หนิงฝานกล่าว ภูเขาและสายน้ำเริ่มพังทะลาย แรงระเบิดปรากฏขึ้นทั่วทุกหย่อมหญ้าบนพื้นดิน
ขุมเขาและสายน้ำหวนกลับ...อานุภาพของข่ายพลังได้เริ่มแล้ว!
ทุกสรรพสิ่ง ทุกชีวิต ที่อยู่เบื้องล่างมอดม้วย แสงสีแดงเปล่งประกายเจิดจ้า เหนือนิกายเทียนหลีโม่ พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เสียงคำรามด้วยความโกรธแค้น ดังขึ้นทางหลังของภูเขานิกายเทียนหลีโม่
“ข่ายพลังระดับฟานเหรินชูคง! เจ้าคือผู้...? ว่าไงนะ! แมลงตัวน้อยจากนิกายปีศาจทมิฬ!”...