ตอนที่ 84 การมาถึงอย่างต่อเนื่องของเหล่าผู้ช่วย
ตอนที่ 84 การมาถึงอย่างต่อเนื่องของเหล่าผู้ช่วย
ตัวของไป๋ลี่เถิงหยุนไม่ได้ทำให้ผู้คนสนใจอะไรมากนัก แต่กลุ่มคนที่แข็งแกร่งข้างหลังของมันทำให้ผู้ที่เห็นตกอยู่ในอาการตะลึง
นั่นเพราะ สัญลักษณ์ที่ปักไว้บนหน้าของของทุกคนเขียนเอาไว้ว่า ‘ไป๋ลี่’
ภายใต้การควบคุมของเมืองต้าหยวน มีเพียงกลุ่มอำนาจเดียวที่กล้าจะใช้คำว่าไป๋ลี่เป็นสัญลักษณ์ นั่นคือนิกายไป๋ลี่!
นอกจากราชวงศ์ต้าหยวนแล้ว มันคือหนึ่งในสี่ขุมอำนาจในพื้นที่บริเวณนี้!
“อึก!”
มีคนไม่น้อยสำลักออกมาเพราะความตกตะลึง ถึงแม้พวกมันจะไม่รู้จักไป๋ลี่เถิงหยุน แต่ในเมื่อชายหนุ่มคนนี้มีความสามารถที่จะสั่งการกองกำลังขนาดใหญ่ของนิกายไป๋ลี่ได้ สถานะของมันต้องไม่ต่ำแน่นอน ยิ่งกว่านั้นมันยังเรียกหลิงฮันว่าน้องชายอย่างสนิทคุ้นเคย นี่หมายความยังไงน่ะรึ?
มันหมายถึงหลิงฮันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนิกายไป๋ลี่!
สีหน้าของเชิงจือเยว่เปลี่ยนไปอีกครั้ง ไม่ว่ามันจะมีความมั่นใจขนาดไหน มันก็ไม่มีทางคิดเด็ดขาดว่ามันมีความสามารถพอที่จะต่อต้านนิกายไป๋ลี่ เพราะนิกายไป๋ลี่มีจอมยุทธในระดับก่อเกิดธาตุขั้นเก้าคอยดูแลอยู่ แม้จะเป็นตัวมันร้อยคนก็ไม่มีทางเด็ดขาดที่จะไปต่อต้านอำนาจเช่นนั้นได้
ความหวังของมันในตอนนี้คือเด็กหนุ่มที่นำกองกำลังมาจะไม่มีสถานะที่สูงในนิกายไป๋ลี่
เมื่อคลื่นลูกเก่าลดหายไปคลื่นลูกใหม่ก็ซัดขึ้นมา จากระยะที่ห่างไกล ดินและฝุ่นได้ฟุ้งกระจายอีกครั้ง และกองกำลังอีกกลุ่มได้มุ่งหน้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“ฮ่าๆ กลายเป็นว่าน้องชายไป๋ลี่มาถึงเป็นคนแรกเสียได้!” ชายหนุ่มกระโดดลงมาจากม้า มันคือจิงหวู่จื้อ มันยกมือประสานไปทางหลิงฮันและพูด “น้องชายหลิง ข้าได้นำคนบางกลุ่มจากตระกูลอันต่ำต้อยของข้ามาช่วยเจ้าแล้ว บังอาจมาทำให้ท่านลุงหลิงได้รับบาดเจ็บ ขอข้าดูหน่อยเถอะว่าใครกันที่มีความกล้าขนาดนั้น!”
มันได้ขจัดความบาดหมางระหว่างตัวมันกับหลิงฮันไปแล้ว ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อนข้างนับว่าดี
เชิงจือเยว่เค้นเสียงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “แล้วเจ้าเป็นใครกันถึงได้กล้าพูดจาใหญ่โตแบบนั้น!”
“บังอาจนัก!” หนึ่งในทหารของตระกูลจิงก้าวออกมา “ดวงตาสุนัขของเจ้าบอดรึอย่างไร นี่คือนายน้อยสามของตระกูลเรา จิงหวู่จื้อ!”
“พรวด!”
ชาวเมืองที่เพิ่งจะเริ่มสงบสติลงได้ตกตะลึงขึ้นมาอีกครั้ง! ใครคือจิงหวู่จื้อ? เขาคือนายน้อยสามของตระกูลจิง และเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในหมู่รุ่นเยาว์ของตระกูลจิง! เขามีโอกาสสูงมากที่จะได้รับสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลจิงในอนาคต!
ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง... หรือว่า’น้องชายไป๋ลี่’ที่จิงหวู่จื้อพูดเมื่อสักครู่จะหมายถึงไป๋ลี่เถิงหยุน? เพราะอย่างไรผู้นำนิกายไป๋ลี่นั้นมีบุตรชายเพียงคนเดียว และอายุของเขาน่าจะประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี
อะไรกัน ขุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองต้าหยวนมาถึงที่นี่ถึงสองกลุ่ม และผู้นำของทั้งสองกลุ่มเองก็ไม่ใช่ตัวตนที่กระจ้อยร่อยเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือนายน้อยของนิกายไป๋หลี ส่วนอีกคนเป็นผู้นำตระกูลจิงในอนาคต และทั้งสองคนปฏิบัติกับหลิงฮันราวกับเป็นพี่น้อง!
พวกนั้นเป็นตัวปลอมรึ?
จะเป็นไปได้อย่างไร? ในเมืองต้าหยวนนี้ ใครจะไปกล้าแสร้งทำว่าตัวเองเป็นบุคคลที่ว่าทั้งสองคนนั่น? พวกมันเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วรึไง?
เชิงจือเยว่แสดงสีหน้าที่ลำบากอย่างถึงที่สุดออกมา ตอนนี้หลิงฮันมีการคุ้มกันจากสองอำนาจที่แข็งแกร่ง ถึงแม้มันจะสามารถทะลวงฝ่าสองอำนาจทั้งสองนี้ไปและสังหารหลิงฮันลงได้ แต่หลังจากนั้นมันจะต้องถูกตามล่าโดยขุมอำนาจทั้งสองแน่นอน
ในเวลาไม่นาน มันกลับตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มันจะแก้แค้นรึไม่? หรือจะยอมแพ้?
มันรู้สึกได้ว่าเรื่องในวันนี้จะไม่จบลงเพียงเพราะมันพูดออกมาว่า ‘ข้ายอมแพ้’ แน่นอน ตั้งแต่ตอนที่มันลงมือกับตระกูลหลิง ชะตาชีวิตของมันถูกตัดสินเอาไว้แล้ว และนั่นคือความตาย!
“ตุบ ตุบ ตุบ...” จากบริเวณที่ห่างออกไป มีกองกำลังพุ่งเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วอีกครั้ง
ชาวเมืองได้ตกอยู่ในอาการตกตะลึงจนกู่ไม่กลับแล้ว พวกมันคิดในใจว่าครั้งนี้จะเป็นกองกำลังของหนึ่งในขุมอำนาจที่ทรงพลังอีกแล้วรึ?
“ฮ่าๆๆ พี่ชายจิง น้องชายไป๋ลี่ พวกเจ้าทั้งสองมาถึงเร็วจริงๆ!” ภายใต้เสียงหัวเราะที่ดังลั่น หลีตงเย่ได้กระโดดลงมาจากหลังม้า และเดินไปทางหลิงฮัน “น้องชายหลิง ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากนิกายหมาป่าหินผา ขอเพียงเจ้าพูดออกมา!”
“อึก” เมื่อพวกมันได้ยินคำพูดนั้น พวกมันทุกคนได้ตกอยู่ในความตะลึงอย่างสิ้นเชิง
ถึงแม้ตระกูลจิงและนิกายไป๋หลีจะแข็งแกร่ง แต่พวกมันก็ตั้งถิ่นฐานอยู่ห่างไกลจากที่นี่ แต่สำหรับนิกายหมาป่าหินผานั้นเป็นผู้ปกครองสำหรับพวกชาวเมืองหมอกเมฆาอย่างแท้จริง! เมื่อตอนที่หม่าหลางมาที่นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกมันรู้สึกกลัวไปถึงกระดูก และคนคนนี้ที่สามารถปฏิบัติกับจิงหวู่จื้อและไป๋ลี่เถิงหยุนได้ราวกับเป็นพี่น้อง เพราะงั้นสถานะของเขาจะต้องสูงกว่าหม่าหลางแน่นอน
เชิงเหวิงควินเริ่มรู้สึกอยากจะร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่ ทำไมขุมอำนาจที่ทรงพลังถึงได้ปรากฎตัวขึ้นมามากมายเช่นนี้ และทำไมพวกมันทั้งหมดถึงอยู่ฝ่ายหลิงฮัน? ตระกูลจิง นิกายไป๋หลี นิกายหมาป่าหินผา... ไม่ว่าจะขุมอำนาจใดก็สามารถลบล้างตระกูลเชิงได้นับสิบครั้งเพียงแค่การขยับนิ้ว!
“ขอบคุณทุกคนมาก รอให้ข้าสังหารศัตรูให้สิ้นซากเสียก่อน และพวกเราจะไปกินดื่มด้วยกัน!” หลิงฮันพูดและประสานมือคารวะ “พวกเจ้าช่วยข้ากำจัดตระกูลเชิง ส่วนเจ้าผู้ร้ายสองคนนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า!”
“น้องชายหลิงไว้ใจพวกเราได้เลย!” จิงหวู่จื้อและอีกสองคนตอบรับในทันที ไม่ต้องพูดถึงการที่กองทัพของทั้งสามร่วมมือกัน เพียงแค่หนึ่งในพวกมันกองทัพเดียวก็มากพอแล้วที่จะลบตระกูลเชิงออกไปอย่างง่ายดาย
“ไม่! ไม่! ไม่!” เชิงเหวิงควินพูดพร้อมกับตัวสั่น “เจ้าทำเช่นนั้นไม่ได้! เจ้าทำเช่นนั้นไม่ได้!”
“ตอนที่เจ้าทำลายตระกูลหลิงของข้า ทำไมเจ้าถึงได้ไร้ความเมตตาต่อพวกเขาล่ะ?” หลิงฮันพูดอย่างโหดเหี้ยม “ข้าเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ถ้ามีคนเคารพข้า ข้าก็จะทำเช่นเดียวกัน แต่ถ้าใครกล้าที่จะแตะต้องแม้เพียงเส้นผมของคนในตระกูลข้า ข้าจะคืนหนี้แค้นนั่นกลับไปเป็นร้อยเท่า!”
จิงหวู่จื้อและอีกสองคนสะบัดมือนำกลุ่มของตนบุกไปในเมือง การที่ไม่มีจอมยุทธที่แข็งแกร่งอย่างเชิงจือเยว่คอยคุ้มกัน ตระกูลเชิงจะนับเป็นอันใดได้?
“หยุดอยู่ตรงนั้น!” เชิงจือเยว่ตะโกนขึ้นมา แน่นอนว่ามันจะไม่ยอมยืนอยู่เฉยๆและดูตระกูลของมันถูกลบล้างหายไป แต่ในขณะที่มันกำลังจะกระโจนออกไป มันเห็นจูเฮอซินและจางเหวยชางกระโดดมาล้อมตัวมันเอาไว้ คนหนึ่งอยู่ด้านหน้า ส่วนอีกคนอยู่ด้านหลัง
“ตุบ ตุบ ตุบ” ในตอนนั้นเอง มีคนได้มุ่งหน้ามาทางนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่ของพวกมัน มีทั้งตระกูลเล็กๆจากเมืองต้าหยวนและกลุ่มอำนาจจากเมืองอื่น บางกลุ่มถึงขนาดมีจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุอยู่ด้วย พวกมันมุ่งหน้ามาถึงอย่างไม่หยุดหย่อน และด้วยจำนวนของพวกมัน ทำให้เกือบจะล้อมรอบเมืองหมอกเอาไว้
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว ตอนนี้ นอกจากราชวงศ์ของราชาต้าหยวน ทุกๆกลุ่มอำนาจที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะมากหรือน้อยได้มาถึงเมืองหมอกเมฆาเรียบร้อยแล้ว
และคนเหล่านี้ พวกมันทุกคนมาเพราะหลิงฮัน
เมื่อใดกันที่นายน้อยขยะคนนี้กลายเป็นคนที่สุดยอดขนาดนี้?
สีหน้าของเชิงเหวิงควินกลายเป็นซีดเผือด ดูเหมือนว่าวันนี้ตระกูลเชิงจะไม่สามารถหลบหนีภัยพิบัติที่จะต้องล่มสลายไปได้! มันเต็มไปด้วยความเสียใจ ทำไมมันไม่รีบสังหารหลิงตงซิงกัน? อย่างน้อยมันก็จะสามารถนำศัตรูคู่อาฆาตของมันตายไปกับมันด้วย มันจะไม่ต้องเดินทางไปยังโลกหลังความตายเพียงคนเดียว
“ปัก!”
หลิงฮันกระทืบเท้าอย่างรุนแรงใส่หน้าของเชิงเหวิงควิน “สุนัขเฒ่า แม้แต่ตอนนี้เจ้าก็ยังกล้ามีความคิดชั่วร้าย!”
“ฮ่าๆๆ ข้าตายแล้วจะยังไงล่ะ? อย่างไรคนของตระกูลหลิงก็ตายไปด้วยกันกับข้า!” เชิงเหวิงควินรู้ดีว่ามันไม่สามารถรอดชีวิตไปได้ ดังนั้นมันจึงตัดสินใจทิ้งทุกอย่างไปและจ้องไปที่หลิงฮันอย่างดุร้าย
"ปัก!"
หลิงฮันเหยียบเท้าลงไปอีกรอบและทำลายฟันทั้งหมดของเชิงเหวิงควินทิ้ง ความเจ็บปวดทำให้มันดิ้นทุรนทุรายไปมา แต่หลิงฮันก็ยังคงกระทืบต่อไปไม่หยุด มันจึงทำได้เพียงกลิ้งไปมาอยู่ที่พื้น
“น้องชายหลิง!” ชายหนุ่มร่างสูงเดินออกมาจากกลุ่มคน ออร่าของชายหนุ่มคนนี้ทำให้เกิดคลื่นระลอกที่ทรงพลัง มันคือฉีฮวงเย่
“คารวะ องค์ชายสี่!” คนอื่นๆจากเมืองต้าหยวนก้มโค้งคำนับ
อง... องค์ชายสี่?
ผู้คนของเมืองหมอกเมฆาชะงักไปเป็นเวลานาน จนในที่สุดก็ได้สติกลับคืนมาสู่ความเป็นจริง และเริ่มโค้งคำนับตามคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว ในใจของพวกมันเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ตอนนี้ ทุกๆขุมอำนาจของเมืองต้าหยวนได้มากันครบแล้ว และพวกมันทุกคนมีเหตุผลเดียวที่มาคือ ‘หลิงฮัน’
นี่เขามีมนต์ดําแบบไหนกัน?
ในตอนนี้เอง เชิงเหวิงควินได้ตกอยู่ในความสิ้นหวังอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ราชวงศ์ต้าหยวนยังมาเพราะหลิงฮัน ตระกูลเชิงยังจะมีความหวังใดเหลืออีก?
“เจ้าจะบังคับให้ข้าจนตรอกจนต้องใช้ทุกวิถีทางสินะ?” เชิงจือเยว่คำรามขึ้นมา ดวงตาของมันเปิดกว้างด้วยความเกรี้ยวกราด จากที่ดูแล้ว ตระกูลเชิงคงจะต้องถูกลบออกไปในวันนี้แน่นอน ดังนั้น มันจะต้องหนีออกไปและมีชีวิตรอดให้ได้ จากนั้นมันจะหาโอกาสที่จะสังหารหลิงฮันในอนาคต
ไม่ใช่แค่หลิงฮัน แต่มันจะสังหารคนที่เหลือรอดทุกคนของตระกูลหลิง!
“หนทางของเจ้ามีเพียงความตาย!” จูเฮอซินพูดอย่างเย็นชา เชิงจือเยว่บังอาจมาทำร้ายบิดาของคนที่มันนับถือเป็นอาจารย์ ในตอนนี้จูเฮอซินกำลังโกรธอย่างแท้จริง
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*