DND.36 - หมัดสวนองค์ชาย
องค์ชายลำดับหนึ่งและสามประเมินซือหยูอย่างลับๆ พวกเขาอยากรู้ว่าลูกเขยที่ดยุคเซี่ยนหยูเลือกนั้นเป็นเช่นไร
ซือหยูหัวเราะและยิ้ม
“องค์ชายทั้งสามมาแล้ว ข้าชื่อซือหยู คู่หมั้นของเซี่ยนเอ๋อ ขออภัยที่ต้อนรับไม่ดีนัก”
เขาไม่ประหม่าจากการถูกองค์ชายลำดับสองข่มขู่ เขายังคงสง่างามเช่นเดิม
องค์ชายทั้งสามมองหน้ากันไปมา ทุกคนอยากจะรู้ไปมากกว่านี้ ดยุคเซี่ยนหยูหายอดคนเช่นนี้มาจากไหนกัน? เขาไม่มีร่องรอยของสามัญชนเลย
องค์ชายลำดับสองถอนหายใจ
“เซี่ยนเอ๋อกับข้าเติบโตมาด้วยกัน ข้ากังวลเหลือเกินว่านางจะถูกรังแกเมื่อแต่งงานแล้ว”
ซือหยูรู้ดีกว่าองค์ชายลำดับสองหมายถึงอะไร และเขาก็ไม่ได้ถูกสมบัติที่เขาทั้งสามมอบให้เซี่ยนเอ๋อทำให้ไขว้เขว
ซือหยูหัวเราะและเดินไปหาเซี่ยนเอ๋อ นางกำลังง่วนอยู่กับสร้อยที่องค์ชายลำดับสามมอบให้
“เซี่ยนเอ๋อ…อ้าปากสิ”
ซือหยูแตะหน้าผากนาง
“เพื่ออะไรกัน? อย่ากวนข้าน่า”
เซี่ยนเอ๋อไม่พอใจนัก แต่ก็อ้าปากเล็กๆอยู่ดี
ซือหยูดีดของเหลวสีแดงใส่ปากนาง
เซี่ยนเอ๋อชิม มันทั้งอบอุ่นและหวาน เมื่อมันไหลลงคอทั่วทั้งร่างก็ผ่อนคลายอย่างหาคำเปรียบมิได้
นางตากระตุกและวางสร้อยคอลง นางเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“นั่นอะไรกัน? มันอร่อยมากเลย! ข้าอยากกินอีก”
เซี่ยนเอ๋อที่โยนสร้อยคอให้ข้ารับใช้หันมาดึงชายเสื้อซือหยู นางมองซือหยูอย่างร้อนรน
ราวกับแมวน้อยหิวโหยที่ดมหากลิ่นอาหารจากเจ้านาย
“อ้าปากสิ”
ซือหยูยิ้ม
เซี่ยนเอ๋ออ้าปากกว้างทันที ซือหยูดีดนิ้วอีกครั้งให้หยดของเหลวสีเพลิงเข้าปากเซี่ยนหยู นางชิมมันและรู้สึกผ่อนคลายอีกครั้ง
“ข้าอยากกินอีก! ข้าอยากกินอีก!”
เซี่ยนเอ๋อติดมันมาก นางดึงแขนซือหยูและเขย่าราวกับเด็กที่ถูกตามใจ
ซือหยูไม่มีทางเลือก เขาดีดมันไปอีกสามหยด
หลังจากที่เซี่ยนเอ๋อดื่มมันนางก็หลับตาอย่างพอใจ นางเงียบเชียบทันที
ในตอนนั้นเองคลื่นวิญญาณเล็กๆก็ปกคลุมร่างของนาง
“นี่เป็นสัญญาณคนที่กำลังจะสำเร็จระดับสาม!”
องค์ชายลำดับสองตกตะลึง
องค์ชายลำดับแรกและสามมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ เขามองอย่างไม่เชื่อสายตา พวกเขาหันมามองซือหยูอย่างนับถือ
“หรือว่าท่านซือจะมีไอหยกเพลิงด้วย!”
องค์ชายลำดับสามยิ้ม
องค์ชายลำดับหนึ่งพยักหน้าเบาๆ ไอหยกเพลิงเป็นสิ่งที่แม้ตระกูลราชวงศ์ยังไม่มี และมันไม่มีปรากฏออกมาเป็นร้อยปีแล้ว
องค์หญิงรู้สึกตัวอีกครั้งและพบว่านางสำเร็จระดับสามแล้ว นางตะโกนด้วยความประหลาดใจ
“ฮ่าๆๆ ข้าเลื่อนขั้นแล้ว! ซือหยู เจ้ามีอีกไหม? ข้าอยากกินอีก ข้าอยากจะสำเร็จระดับเก้าและไปหาท่านพ่อ! ข้าจะให้บทเรียนกับเขาที่ดูแคลนข้า”
ซือหยูลูบหน้าผากนางและส่ายหัว
“อย่ารีบร้อนไปหน่อยเลย การฝึกต้องเป็นไปตามขั้นตอน เจ้าต้องหัดเดินก่อนจะวิ่งนะ”
องค์หญิงไม่ปัดมือซือหยูที่ลูบหน้าผาก นางกลับรู้สึกสบายใจที่ถูกลูบ นางหลับตาและสวมกอดซือหยู นางให้เขาพาเดินราวกับแมวน้อยที่อยู่กับเจ้าของ
ซือหยูรับรู้ถึงไอหยกเพลิงจากสัมผัสองค์หญิง มันทำให้นางและเขาที่ใกล้ชิดนางอบอุ่น
เมื่อเห็นความใกล้ชิดของทั้งสองก็ทำให้องค์ชายลำดับสองหน้าแดงด้วยความอิจฉา
“ฮ่าๆๆ ดยุคเซี่ยนหยูเป็นที่นับหน้าถือตาในแว่นแคว้น ข้าว่าลูกเขยของเขาน่าจะมีวิชาบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมนะ ท่านซือ ท่านอยากจะสอนสั่งข้าหรือไม่?”
องค์ชายลำดับสองยิ้ม
องค์ชายลำดับสองมีพลังระดับสี่ขั้นสูง เขามองซือหยูและพบว่าเขามีพลังระดับสี่ขั้นกลางที่น้อยกว่าเขา เขาจะต้องไม่แพ้แน่
องค์ชายลำดับหนึ่งและสามสงสัย ในโลกนี้ทั้งอำนาจและสถานะไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญนัก หากแต่เป็นพลังยุทธ
ดยุคเซี่ยนหยูที่มีตำแหน่งสูงส่งและคุณธรรมจะต้องมีลูกเขยที่สมน้ำสมเนื้อ
ซือหยูหันไปมองและส่ายหัว
“ท่านก็ดีนะ แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก”
องค์หายลำดับสองหัวเราะอย่างโกรธแค้นที่ถูกคนที่มีพลังน้อยกว่าดูถูก
เขาเป็นราชวงศ์ที่ถูกฝึกโดยเหล่าอาจารย์ชื่อดัง เขาได้รับการอบรมอย่างดีที่สุดและมีพลังห่างไกลจากคนทั่วไปมาก
ซือหยูสังเวช
“ข้าสงสัยกว่าเดิมอีกจากความมั่นใจของเจ้า ลูกเขยที่ดยุคเซี่ยนหยูเลือกจะเป็นเช่นใดกัน!”
“ฝ่ามือใบไม้ร่วง!”
องค์ชายลำดับสองแสดงความเป็นปกปักษ์ มือทั้งสองของเขาราวกับใบไม้ร่วงโรยที่หลอกสายตา ความร้อนปกคลุมมือของเขาทำให้เจ็บปวดเมื่อสัมผัส
มันคล้ายกับวายุกระหน่ำเพราะเป็นวิชาขั้นกลางเหมือนกัน เมื่อฝึกถึงระดับสูงแล้วจะมีอำนาจควบคุมสิ่งรอบข้าง
ซือหยูปล่อยเซี่ยนเอ๋อและรีบไปด้านหน้า
“วายุกระหน่ำ!”
สายลมเย็นก่อตัวขึ้นที่ขาทำให้เกิดน้ำแข็งและหิมะออกมา ราวกับขาของซือหยูคือประตูเปิดโลกแห่งอาณาจักรหิมะ ความเย็นอันยากจะทานทนและหิมะหนาวเหน็บถูกปล่อยออกมาอย่างเข้มข้น
ฝ่ามือและลูกเตะปะทะกัน องค์ชายสำดับสองต้านพลังของซือหยูไม่ได้เลยและถูกเตะเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง ใบหน้าเขามีแผ่นน้ำแข็งก่อตัวขึ้นทำให้เจ็บปวดอย่างมาก
“อ๊ากก! กล้าดียังไงมาทำร้ายข้า! จับมัน!”
องค์ชายลำดับสองโกรธแค้น การที่ผู้สูงศักดิ์เช่นเขาถูกเตะใส่ใบหน้านั่นหมายถึงความอัปยศ และเขายังพ่ายแพ้ต่อหน้าเซี่ยนเอ๋ออีกด้วย
องครักษ์รับใช้องค์ชายลำดับสองสวมชุดเขียวมีพลังระดับห้า เขาทำตามคำสั่งและโจมตีซือหยูทันที
“ลูกเตะทลายคลื่น!”
แสงสีเหลืองอ่อนปกคลุมขาของเขา แรงกดดันมหาศาลถูกปล่อยออกมาจากวิชาบ่มเพาะพลัง
ซือหยูรู้สึกถึงแรงกดดันที่กำลังเข้ามา พลังของชายคนนี้เหนือกว่าเฉาลี่เล็กน้อย
ซือหยูโต้กลับ
“วายุกระหน่ำ!”
ครืน--
พวกเขาทั้งสองถอยหลังสามก้าว องค์ชายลำดับหนึ่งและสามหรี่ตามอง ระดับสี่ขั้นกลางสูสีกับระดับห้าขั้นต้น องค์ชายลำดับสองสมควรแล้วที่จะแพ้!
องค์ชายลำดับสองที่ยังมีแผ่นน้ำแข็งบนใบหน้าตะโกน
“ไม่ต้องออมมือ!”
องครักษ์ชุดเขียวมองซือหยูอย่างเย็นชา
“ข้าใช้พลังเพียงครึ่งเดียว ยอมแพ้ซะ ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
พลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปทั่วร่าง นั่นจะทำให้วิชาของเขาเพิ่มพลังขึ้นสองเท่า ซือหยูอาจจะแพ้ในด้านพลังปราณ แต่ซือหยูก็ยังมีไพ่ซ่อนอยู่
องครักษ์ชุดเขียวโจมตีด้วยพลังสูงสุด
“ลูกเตะทลายคลื่น!”
อากาศรอบๆแตกสลายด้วยแรงดันมหาศาลจากวิชานั้น นี่คือพลังสองเท่าของลูกเตะก่อนหน้านี้จริงๆหรือ?
ซือหยูยังคงใจเย็น เขาไม่ได้ล่าถอยแม้แต่น้อย
“สายฟ้าดาราม่วง!”
มือของเขามีสายฟ้าสีม่วงปะทุออกมา เกิดกลิ่นไหม้คละคลุ้งไปทั่ว เขาต่อยด้วยหมัดทั้งสองข้างราวกับเป็นมังกรม่วงสองตัวพุ่งออกไป เกิดพลังหมุนเป็นเกลียวที่ส่งเสียงอันน่ากลัว
อากาศรอบๆสั่นสะเทือน คลื่นอากาศหมุนวนรอบซือหยู รังสีพลังของเขาทำให้เกิดพายุวนเล็กๆ
หัวใจขององค์ชายทั้งสามและองค์หญิงเต้นอย่างรุนแรง ภาพที่ได้เห็นช่างน่าขนลุก
“วิชาระดับใดกัน? ขั้นสูงงั้นรึ?”
องค์ชายลำดับสองสีหน้าหม่นหมองและสงสัยไปพร้อมๆกัน
องค์ชายลำดับหนึ่งเหมือนจะรู้อะไร เขารู้สึกขนลุกซู่ไปทั้วตัว องค์ชายลำดับสามตัวสั่น
“อะไรกัน...นั่นมันวิชาระดับอะไร?”
พวกเขาเป็นองค์ชายของแคว้น เคยเห็นคนแข็งแกร่งมานักต่อนัก เคยพบวิชาหลายต่อหลายแบบ แต่พวกเขาไม่เคยเจอวิชาเช่นนี้เลย
ในด้านพลังนั้นเหนือกว่าวิชาระดับกลางมากนัก ซึ่งจริงๆแล้วมันยังแกร่งกว่าวิชาระดับสูงที่หายากที่สุดซะอีก
หรือจะเป็นวิชาสวรรค์ในตำนาน? ว่ากันว่าวิชาสวรรค์ต้องใช้ระดับสติปัญญาอันร้ายกาจ! ตระกูลราชวงศ์ได้เก็บรักษาตำราวิชาสวรรค์เอาไว้แต่องค์ชายทั้งสามก็บ่มเพาะมันไม่ได้ พวกเขาไม่เข้าใจว่าในตำราเขียนอะไรด้วยซ้ำ!
ถึงจะเป็นวิชาระดับสูงพวกเขาก็มีปัญหา ไม่ต้องพูดถึงวิชาสวรรค์เลย! ไม่คิดว่าลูกเขยดยุคเซี่ยนหยูจะเป็นอัจฉริยะราวอสูรเช่นนี้!
องค์ชายทั้งสามหน้าถอดสี พวกเขาเดาว่าลูกเขยของดยุคน่าจะมีพลังที่ยอดเยี่ยม แต่พวกเขาไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าเขาจะเข้าใจวิชาสวรรค์ด้วย!
ตรงที่สู้กัน ลูกเตะและหมัดปะทะกันอย่างแรง องครักษ์ชุดเขียวที่มีพลังระดับห้ากระเด็นไปไกลด้วยการโจมตีอันรุนแรงของซือหยู
เขาขาหักและเสื้อผ้าบริเวณที่ถูกปะทะก็กลายเป็นเถ้าถ่ายด้วยสายฟ้าสีม่วง เขาร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เขาตกแอ่งน้ำในสวนและหมดสติจากการบาดเจ็บรุนแรงทันทีหลังจากกระอักเลือด
ข้ารับใช้ขององค์ชายทั้งสามอ้าปากค้าง วิชาระดับสวรรค์น่ากลัวมาก ระดับสี่ขั้นกลางทำให้ระดับห้าบาดเจ็บรุนแรงได้เพียงแค่โจมตีครั้งเดียว บุตรเขยดยุคเซี่ยนหยูช่างมีพลังที่น่ากลัว
“ฮ่าๆๆ ซือหยูของข้าแกร่งที่สุด”
องค์หญิงปรบมือและหัวเราะใส่องค์ชายที่โชคร้าย นางไม่หยุดหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าขององค์ชายลำดับสอง
องค์ชายลำดับสองทั้งตกใจและโกรธเกรี้ยว เขารู้สึกกลัวอยู่ในก้นบึ้งของจิตใจ อัจฉริยะที่เข้าใจวิชาระดับสวรรค์! พวกเขาจะให้มันเติบโตไปกว่านี้ไม่ได้!
“ท่านพี่ ยืมองครักษ์ของท่านหน่อย จับตัวมัน!”
ข้างหลังองค์ชายลำดับหนึ่งคือองครักษ์ชุดเขียวท่าทางถ่อมตัว เขาดูธรรมดาราวกับคนทั่วไปแต่พลังของเขาน่ากลัวมาก เขามีพลังระดับหกแล้ว
องค์หญิงไม่พอใจ นางกำหมัด
“ฮื่ม! เจ้าคิดจะรังแกเขาหรือ องค์ชายลำดับสอง?”
องค์ชายลำดับหนึ่งมองไปที่องค์ชายลำดับสอง เจ้าโง่!
เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นอาจจะขอผ่อนปรนได้ แต่ถ้าดยุครู้ว่าพวกเขาส่งคนระดับหกไปสู้จะเป็นยังไง?
ทันใดนั้นผู้ที่มีรูปร่างอันสง่างามก็เดินมาจากสวน ใบหน้าชวนมองของเขาแข็งทื่อและมองอย่างเย็นชา เขาคือดยุคเซี่ยนหยู!
เขามององค์ชายทั้งสามด้วยความสุขุม
“องค์ชายทั้งสามเป็นแขกที่เดินทางมาไกล แต่ต้องการจะจับตัวคู่หมั้นลูกสาวข้า มันหมายความว่าอย่างไรกัน?”
ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา