DND.35 - การมาของเหล่าองค์ชาย
หลังจากบ่นพึมพำกับตัวเอง ดยุคก็ยิ่งหงุดหงิด
“พวกดยุคนั่นต่างแอบหนุนหลังองค์ชายที่มีผลประโยชน์ ข้าไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น...แต่คงอีกไม่นานสินะ”
ดยุควิตกกังวล
ตั้งแต่ครั้งโบราณ ด้วยอำนาจของราชวงศ์ทำให้หลายคนจบไม่สวย ดยุคเซี่ยนหยูไม่ได้หลงระเริงในอำนาจ แต่เขตเซี่ยนหยูนั้นติดกับเมืองหลวง กองกำลังทหารจะมาถึงที่นี่ได้ใน 10 วัน
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งเช่นนี้ เหล่าองค์ชายจะไม่มองว่าเป็นเสี้ยนหนามได้อย่างไร?
ไม่นานนี้ สุขภาพขององค์จักรพรรดิเริ่มทรุดลง ทำให้สงครามการชิงอำนาจขององค์ชายทั้งสามรุนแรงขึ้น ไม่กี่เดือนก่อน ดยุคจือฉวนที่หนุนหลังองค์ชายลำดับสามได้ถูกประหารในข้อหากบฏและถูกยึดครองสินทรัพย์ทั้งหมด
ซึ่งในความจริงนั้นเป็นองค์ชายลำดับที่หนึ่งและสองที่ร่วมมือกันลดอำนาจองค์ชายลำดับสาม ในบรรดาพวกเขาองค์ชายลำดับสามนั้นเป็นที่เคารพนับถือในความสามารถและเป็นที่นิยมมาก ทั้งมันสมองเฉียบคมเหนือกว่าพี่น้อง แต่เขาเป็นบุตรของนางสนมที่ไม่มีพื้นเพ มันจึงเป็นเหตุให้องค์ชายทั้งสองร่วมมือกันต่อต้านเขา
ดยุคเซี่ยนหยูรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายโลหิตแห่งความวุ่นวาย มันยากที่จะเลี่ยงเรื่องพวกนี้ในฐานะดยุค เขาหวังเพียงแค่มันจะไม่กระทบกับเซี่ยนเอ๋อและซือหยู
ในตอนนั้นชายแก่ได้เดินเข้ามา เขาสวมหมวกกันฝน เขาคือผู้อาวุโสฉินที่แอบปกป้ององค์หญิงอย่างลับๆในครั้งที่อยู่เทือกเขารัตติกาล
“กลับมาแล้วหรือผู้อาวุโส?”
ดยุคยืนขึ้นทันที
“การสืบสวนเป็นเช่นใดบ้าง?”
“ที่ท่านดยุคคิดไว้ค่อยข้างจริงทีเดียว มีข้ารับใช้และองครักษ์เคลื่อนไหวทั่วทั้งเซี่ยนหยู อดีตขององค์หญิงอาจจะถูกเปิดเผยไปแล้วก็ได้ ข้าอยากให้ท่านดยุคเร่งมือสักหน่อย”
ดยุคสีหน้าหม่นหมองและเงียบไปชั่วครู่
“ข้ารู้ดี!”
ผู้อาวุโสฉินพยักหน้าและถอยกลับไปยังเงามืดราวกับภูติผี
ซือหยูที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวบนลานประลอง เขาใช้วิชาดัชนีตามภาพเขียนชายแก่ เขาเข้าใจวิชาสายฟ้าดาราม่วงบ้างแล้ว เขารู้แจ้งมันมากขึ้นไปอีก เหล่าอักษรที่ซับซ้อนในตำราได้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
“หรือว่าตั้งแต่ที่ข้าใช้ฎีกาสวรรค์ เรื่องราวซับซ้อนลึกลับจะชัดแจ้งขึ้น?”
ซือหยูรู้สึกขอบคุณภาพเขียนชายแก่
10 วันผ่านไป…..
ซือหยูลืมตาขึ้นและปล่อยหมัดออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
เกิดแสงสีม่วงอ่อนๆขึ้นอย่างคาดไม่ถึงจากหมัดของเขา มันมอดไหม้อากาศราวกับสายฟ้า!
หลังจากสิบวันสิบคืนในการบ่มเพาะพลัง เขาได้สำเร็จวิชาขั้นแรก! แม้จะเป็นขั้นต้น แต่หลังจากใช้ร่วมกับฎีกาสวรรค์เขาก็สร้างสายฟ้าขึ้นมาได้! สายฟ้าคือพลังจากธรรมชาติ การที่สร้างสายฟ้ามาได้นั้นน่ากลัวมาก
วิชาสายฟ้าดาราม่วง ไม่ว่าจะมีกี่ระดับก็ตามมันก็น่ากลัวยิ่ง แม้จะเป็นขั้นแรก!
ซือหยูยังบ่มเพาะวายุกระหน่ำจนถึงระดับสามขั้นต้น ขาของเขาสามารถสร้างพายุหิมะได้แล้ว มันเป็นพลังที่เหนือกว่าแต่ก่อนมาก!
และด้วยต้นไม้โอสถของดยุค ห้องบ่มเพาะพลังชั้นดีและคำชี้แนะเป็นการส่วนตัว ทำให้พลังของเขาก้าวข้ามไปถึงระดับสี่ขั้นกลางโดยไม่รู้ตัว! ตลอด 10 วันที่ผ่านมาทำให้เขาทะลุขอบเขตอย่างมาก!
ตอนนี้แม้เขาจะไม่ใช้เนตรอสูรเขาก็จัดการเจียงซื่อฉีที่มีพลังระดับสี่ขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย แน่นอนว่ารวมถึงเฉาลี่ที่เป็นหนึ่งในสิบอสูรด้วย
“หยูเอ๋อ มีแขกจากเมืองหลวง เจ้ากับเซี่ยนเอ๋อจะต้องออกไปต้อนรับพวกเขา”
ดยุคเข้ามาอย่างยิ้มแย้ม เขาตรวจสอบซือหยูอย่างรวดเร็วและพบว่าพลังปราณของเขาเปลี่ยนไปแล้ว นั่นทำให้เขาพอใจมาก
ซือหยูรู้สึกอบอุ่นเมื่อถูกเรียกว่าหยูเอ๋อ ดยุคเซี่ยนหยูคิดว่าเขาเป็นลูกชายจริงๆ ใน 10 วันที่พวกเขาได้แบ่งปันประสบการณ์ ให้คำชี้แนะและให้ทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังนั้นได้ถูกมอบให้ราวกับซือหยูคือลูกจริงๆของเขา ดยุคเซี่ยนหยูไม่เคยมีลูกชายมาก่อนเลย และเห็นซือหยูเป็นผู้ที่มาเยียวยาความเศร้าโศกของเขา
ซือหยูในอดีตที่อยู่ในแวดวงธุรกิจอันโหดร้ายมาตลอด เมื่อได้มาเจอกับผู้ใหญ่เช่นดยุคเซี่ยนหยูในโลกใบนี้ที่ทั้งโดดเดี่ยวและอ้างว้าง ไร้ครอบครัวและมิตรสหาร ดยุคเซี่ยนหยูคือผู้ที่ทำให้เขารู้สึกถึงคำว่าครอบครัว
“ได้ครับ ท่านพ่อตา”
ซือหยูตอบอย่างตื่นเต้น
เมื่อถูกเรียกว่า ‘พ่อตา’ ก็ทำให้ดยุคมีความสุขและพอใจ เขามองซือหยูอยู่ห่างๆ
“หยูเอ๋อ เจ้ากับเซี่ยนเอ๋อจะต้องไปกันได้ดี...”
เมื่อมาถึงโถงก็พบองค์หญิงสวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ใบหน้าน่ารักของนางช่างน่าหลงใหล
“เฮ้! เจ้าคนชั่ว!”
องค์หญิงพูดจมูกชี้
“เจ้าพ่อบ้าให้ข้าแต่งานกับเจ้า! ข้าอยากจะหนีไปให้ไกลซะจริง!”
นางช่างงดงามอ้อนแอ้น นางสูงเพียงอกซือหยูเท่านั้น ซือหยูย่อตัวลงให้เท่าระดับสายตาขององค์หญิงและยิ้มอย่างอ่อนโยน
นี่คือการพบหน้ากันตรงๆครั้งแรกของพวกเขา ซือหยูยิ้ม
“องค์หญิง ขอบคุณในความใจดีที่เมตตาขอร้องเพื่อข้าในวันนั้น”
องค์หญิงลืมตากว้าง..เมตตาขอร้องอะไรกัน?
ซือหยูพูดด้วยรอยยิ่ม
“องค์หญิงถูกปกป้องโดยผู้คนนับพัน คนแปลกหน้าเช่นข้าจะสร้างมลทินได้อย่างไร? หากเป็นองค์หญิงคนอื่น หากจับข้าได้พวกเขาคงจะจัดการข้าทันทีเพื่อรักษาชื่อเสียงเอาไว้ แต่เจ้ากลับขอร้องดยุคเพื่อข้าถึงสองครั้ง ข้า..ซือหยู...จดจำมันได้จากใจ”
ซือหยูที่เกือบจะตายในวันนั้นถูกองค์หญิงขอร้องให้ไว้ชีวิตถึงสองครา แม้ว่านางจะหยาบคายไปบ้างแต่นางทั้งดีงามและบริสุทธิ์โดยอัธยาศัย หากเป็นองค์หญิงคนอื่นที่เติบโตมาด้วยอำนาจคงจะไม่แยแสกับชีวิตคนแปลกหน้า
ซือหยูรู้ดีว่าหากเขาช่วยองค์หญิงคนอื่นในวันนั้น พวกเขาก็คงจะสังหารซือหยูอย่างไร้ปราณี มีเพียงเซี่ยนเอ๋อเท่านั้นที่ไม่ทำเช่นนั้น
หลังจากได้ยินซือหยู องค์หญิงก็แอบพูดกับตัวเอง
“อย่างน้อยเขาก็เอาใจใส่ดี! ข้าคือฉินเซี่ยนเอ๋อ คนอื่นจะมาเทียบกับข้าได้ยังไง?”
นางใช้มือขาวบริสุทธิ์ราวกับหยกไพล่หลังและเงยหน้าราวกับไก่ตัวน้อย
“ถือแก่ดาราแห่งโชคของเจ้า! องค์หญิงใจกว้างเช่นข้าจะไม่ถือโทษ! ไปกันเถอะ เราต้องไปรับองค์ชายทั้งสาม”
ซือหยูรู้สึกถึงความอ่อนโยนของนาง นางราวกับเด็กที่มีความสุขเมื่อถูกชมเชย
องค์ชายทั้งสาม? แคว้นใหญ่เช่นเฟิงหลินนี้มีองค์ชายสามคนที่มีพลังอำนาจตัดสินชะตาคนนับล้าน!
เขายืนครุ่นคิด เสื้อผ้าสะบัดตามแรงลม
เซี่ยนเอ๋อนำทาง นางเดินบ่นตลอดทางและหันกลับไปหาซือหยูตลอดเวลา
“อย่าทำข้าขายหน้าล่ะ”
นางเตือนและกำหมัด ซือหยูยิ้มและเดินไปอยู่ข้างนาง
ซือหยูรู้สึกอบอุ่นเมื่อเห็นความมีชีวิตชีวาของเซี่ยนเอ๋อ เขานึกถึงความใจกว้างของดยุค บางทีนี่อาจจะเป็นบ้านของเขาในโลกใบนี้ก็ได้
ไม่นานซือหยูกับเซี่ยนเอ๋อก็ออกมาที่นอกโถง
“องค๋ชายหนึ่ง! องค์ชายสอง! องค์ชายสาม!”
ข้ารับใช้ข้างนอกประตูประกาศเสียงดังเมื่อแขกมาถึง
องค์ชายผู้มีอำนาจทั้งสามได้มาถึงตำหนักเซี่ยนหยูแล้ว
องค์ชายลำดับหนึ่งสีหน้าไร้อารมณ์ เขาดูเหมือนคนราชวงศ์ที่สุด ดวงตาเฉียบคมทำให้หลายคนไม่กล้ามองเขาตรงๆ
องค์ชายลำดับสองตาเรียวเล็ก ริมฝีปากบาง เขายิ้มแย้มราวกับพวกขุนนาง
และแม้ว่าจะดูธรรมดา องค์ชายลำดับสามได้รับการขัดเกลามารยาทมาอย่างดี เขายิ้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาเต็มไปด้วยความปราดเปรื่อง
“พวกท่านมาถึงแล้วเหรอ! เซี่ยนเอ๋อคิดถึงพวกพี่จริงๆ!”
เซี่ยนเอ๋อวิ่งไปหาพวกเขาอย่างอ่อนหวาน
องค์ชายลำดับหนึ่งยิ้ม เขาส่งสัญญาณให้องครักษ์เข้ามาใกล้
“องค์หญิง นี่คือชุดที่ข้าเตรียมให้ ปกป้องได้ทั้งวารีและเปลวเพลิง คุณค่าประเมินมิได้”
องครักษ์ยื่นให้ทั้งสองมือ เซี่ยนเอ๋อยิ้มและรับไว้
องค์ชายลำดับสองหยิบปิ่นปักผมออกมาจากอกและยิ้มกว้าง
“ปิ่นปักผมนี้เป็นของราชวงศ์ ข้าเตรียมมันเป็นพิเศษเพื่อเจ้า ถ้าเจ้าสวมมันจะเพิ่มกำลังภายในและพลังบ่มเพาะให้เจ้า”
เซี่ยนเอ๋อยื่นมืองดงามราวหยกไปรับ
ซือหยูขมวดคิ้ว เขาพบคนมาทุกรูปแบบ เขาอ่านใจคนได้จากสายตา มันมีสายตาเจ้าชู้จากองค์ชายลำดับสอง! ดูเหมือนเขาจะคิดมิดีมิร้ายกับองค์หญิง! ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าทำเช่นนั้นแน่! ซือหยูจดจำเขาเอาไว้
องค์ชายลำดับสามยิ้ม
“เซี่ยนเอ๋อ อย่างที่เจ้ารู้ ข้าไม่มีสมบัติอะไรให้เจ้าได้ ข้าเลยเอานี่มาให้”
องค์ชายลำดับสามยื่นหนังสือนิยายและสร้อยคอลูกปัดให้ นางรับมันอย่างดีใจทันที นางเก็บมันไว้อย่างดี
ซือหยูประเมินนิสัยของเหล่าองค์ชายจากสิ่งของที่มอบให้เซี่ยนเอ๋อ องค์ชายลำดับหนึ่งนั้นชอบครอบครอง ฟุ่มเฟือย และของขวัญที่มอบให้คือของที่แพงที่สุด องค์ชายลำดับสองนั้นเจ้าเล่ห์ เขารู้ว่าเซี่ยนเอ่อรักสนุกและไม่ชอบบ่มเพาะพลัง เขาจึงให้ของขวัญที่จะขัดเกลาพลังได้เมื่อสวมใส่ ส่วนองค์ชายลำดับสามคือคนที่ซือหยูนับถือที่สุด แต่ก็ต้องระวังที่สุดเช่นกัน! เทียบกับองค์ชายคนอื่นเขา เขาคือคนที่หลักแหลมและละเอียดที่สุด
ของขวัญทั้งสามที่เซี่ยนเอ๋อได้รับ สองชิ้นแรกทำให้นางตอบสนองตามปกติ แต่ของขวัญธรรมดาชิ้นสุดท้ายกลับเป็นสิ่งที่นางชอบที่สุด เห็นได้ชัดว่าองค์ชายลำดับสามนั้นคว้าหัวใจผู้คนได้เก่งกว่าสองคนที่เหลืออยู่มาก
องค์ชายลำดับสองมองซือหยูที่สวมชุดสีม่วงดูดี เขามีผมสีดำ ใบหน้าได้รับการขัดเกลาอย่างดี รูปลักษณ์งดงามหมดจด ความสง่างามและสุขุมออกมาจากภายใน เขาสามารถรับมือองค์ชายทั้งสามอย่างง่ายดาย
“เจ้าคือบุตรเขยของดยุค คู่หมั้นของเซี่ยนเอ๋อสินะ?”
องค์ชายลำดับสองพูดอย่างราบเรียบ แต่กลับรู้สึกถึงความไม่เป็นมิตร