ตอนที่แล้วGolden Time - ตอนที่ 32
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGolden Time - ตอนที่ 34

Golden Time - ตอนที่ 33


ตอนที่ 33

ซูฮยอคหัวเราะอย่างงุ่มง่าม พลางเอามือเกาหัวไป

เขารู้ว่าต้องมีบ้างที่พวกเขาจะจำหน้าเขาได้จากข้างนอกนั่น แต่เขาก็พบว่าตัวเองรู้สึกงุ่มง่ามอยู่ตลอดในสถานการณ์เช่นนั้น

“อะไรคือแรงจูงใจที่อยากจะเข้าโรงเรียนแพทย์ท่ามกลางผู้สมัครจำนวนมากเช่นนี้?” ศาสตราจารย์ถาม

ซูฮยอคตอบกลับ “ผมพูดตามตรงว่า ผมสมัครโรงเรียนอื่นอีก 2 แห่ง”

ศาสตราจารย์ที่เข้าร่วมการสัมภาษณ์ยิ้มออกมาอย่างประหลาดใจ

มันจะผิดปกติสำหรับผู้สมัครหรือเปล่า?ที่จะพูดว่า ‘ไม่ผ่าน’ แม้ว่าเขาจะสมัครโรงเรียนอื่น

ในการสอบสัมภาษณ์ ผู้สมัครต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน : ฉันต้องการที่จะเข้าโรงเรียนนี้จริงๆ ถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันอยากจะกลับมาที่เดิมอีกครั้งในความพยายามใหม่ในครั้งหน้า’ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสมัครไว้หลายโรงเรียนก็ตาม

“ถ้าในกรณีนั้น มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรถ้าหากคุณพลาดในเทอมนี้ใช่มั้ย? ด้วยคะแนนของคุณ คุณสามารถสอบติดที่โรงเรียนอื่นได้อย่างง่ายดาย” ศาสตราจารย์ผู้หญิงท่านหนึ่งพูด

ซูฮยอคยิ้มเล็กน้อยและตอบว่า “ครับ”

จากโรงเรียนแพทย์หลายแห่งในเกาหลี โรงเรียนแพทย์แดฮันได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุด

ถ้าต้อให้เลือก มันจะดีกว่าสำหรับเขาที่จะได้รับเข้าเรียนที่โรงเรียนแพทย์แดฮัน

“ลี ซูฮยอค” ศาสตราจารย์ท่านหนึงที่อยู่ด้านท้ายถามเขา

“ถ้าเธอพบผู้ป่วยฉุกเฉินอยู่ตรงหน้า เธอจะลงมือโดยไม่ลังเลเลยมั้ย? และยังไม่มีใบอนุญาตทางการแพทย์ด้วย?”

สายตาของเขาเป็นประกายเมื่อได้มองไปที่ซูฮยอค

“ครับ” ซูฮยอคพูดก่อนที่เขาจะรู้

ศาสตราจารย์ที่เป็นคนถามคำถามก็เอ่ยปากขึ้นและพยักหน้า “สุดยอด!”

มันหมายความว่ายังไงกัน?

“นักเรียนคนต่อไป!”

การสอบสัมภาษณ์ของซูฮยอคจบลงแค่นั้น

เมื่อเขาออกมาจากห้อง เขาถอนหายใจออกมาสั้นๆ

น้ำเสียงที่ดูกระฉับกระเฉงมากเกินไปของศาสตราจารย์ และระยะเวลาสัมภาษณ์ที่ค่อนข้างจะสั้นเมื่อเทียบกับนักเรียนคนอื่นๆ ‘สุดยอด…’ เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

……………...……………...……………...……………...……………...……………...…

ในวันอาทิตย์นับไม่กี่วันจากวันที่สอบสัมภาษณ์

คิม มยองฮีกกำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมมื้อกลางวัน เธอสวมรอยยิ้มบนใบหน้า ลูกชายของเธอสอบติดโรงเรียนแพทย์ 2 ใน 3 แห่งจากที่สมัครไป และทั้ง 2 โรงเรียนก็เป็นที่ยอมรับจากทุกๆคนว่าเป็นโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ

“ซูอยอคอยู่ที่ไหน?” พ่อของเขาถาม หลังเดินออกมาจากห้อง เอนกายลงบนโซฟาและเปิดทีวี

“ฉันให้เขาไปทำธุระให้”

“แล้วทำไมไม่ไปทำเองล่ะ?”

“ที่รัก คุณไม่รู้นิสัยลูกหรอ? เขายืนกรานที่จะไปทำธุระให้แทน แล้วจะให้ฉันห้ามเขายังไงล่ะคะ? คุณก็รู้ว่าลูกเราดื้อแค่ไหน!”

เขาพยักหน้ากับคำพูดของเธอ

ลูกชายของเขาเป็นเด็กประเภทที่นวดไหล่ได้เรื่อยๆจนกว่าจะบอกหยุด ทั้งเขายังซื้อของขวัญให้พ่อแม่แทน เมื่อพวกเขาให้เงินเพื่อใว้ใช้ไปซื้อของกินหรือเสื้อผ้า เขาช่างเป็นเด็กที่หัวแข็ง

ด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ เขาพึมพำอย่างรวดเร็ว “ก็ลูกใครล่ะ...ฮ่าๆ”

ในตอนนั้นเขาก็หันหน้าไปตามเสียงเรียกเข้า

มันมาจากโทรศัพท์ของซูฮยอค

เขาคงเหม่อลอยมากแน่ๆถึงลืมโทรศัพท์ไว้ เมื่อต้องออกไปทำธุระให้แม่

“นี่มันโทรศัพท์ของลูกชายเรา...”

“สวัสดี โทรจากโรงเรียนแพทย์แดฮัน”

สายตาเขาเริ่มเป็นประกาย

“อะไรนะ เขาสอบติดหรอครับ?”

“ใช่ครับ เขาสอบติด ปกติทางเราจะไม่ได้โทรเพื่อแจ้งว่านักเรียนได้สอบติด ณ โรงเรียนของเรา แต่ตอนนี้ที่เรากำลังทำอยู่ก็เพื่อวิงวอนให้เขาเลือกโรงเรียนของเราด้วยทุกวิถีทางครับ”

ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้น หลังจากได้รับความรู้สึกประหลาดใจนี้

“ทุนการศึกษาเต็มจำนวน!”

“ใช่ครับ เพราะในฐานะที่เขาสอบติดด้วยคะแนนสูงสุด...”

แล้วตอนนี้ ซูฮยอคก็เข้ามาทางประตูหน้าบ้าน

เขาแสดงอาการอยากรู้อยากเห็นเพราะพวกเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าและจ้องมองมาที่เขา

“ทำไมลูกถึง...”

แม่ของก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “ลูก บอกแม่ซิว่าอยากกินอะไร?”

และพ่อของเขาก็พูดขึ้น “ไปกินข้าวนอกบ้านกัน!”

……………...……………...……………...……………...……………...……………...…

เบียร์เฮ้าส์ที่ครึกครื้นไปด้วยการต้อนรับนักเรียนหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามา

พวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟรชชี่ของโรงเรียนแพทย์แดฮัน

“อ้าว เติมให้เต็มแก้วไปเลย!”

จากเสียงตะโกนของรุ่นพี่ เหล่าเฟรชชี่ต่างชูแก้วของตัวเองขึ้นมา

“พวกเธอทุกคนต่างรู้กันดีว่าต้องเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้ ฉันไม่อยากจะพูดอะไรให้มากความ ยินดีต้อนรับสู้นรกบนดิน เชียร์!”

กว่าจะสำเร็จการศึกษาต้องใช้เวลาถึง 6 ปี มันช่างห่างไกลความสบายเหลือเกิน

ช่วงระยะเวลาของการผลัดเปลี่ยนจากปี 2 ไปเป็นปี 3 ของโรงเรียนแพทย์ แค่ช่วงนี้เท่านั้นที่คุณจะสามารถดื่มด่ำกับชีวิตนักศึกษาภายในรั้วโรงเรียน หลังจากนั้นคุณจะลงเรือลำหนึ่งไปตามเส้นทางในฐานะนักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง คุณแทบจะมีเวลาไม่พอที่จะเรียน ต่อให้คุณตั้งใจอย่างมากจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งคืนก็ตาม มันช่างคล้ายกับการที่คุณก้าวไปทีละก้าวไปยังประตู่สู่ขุมนรก

“เชียร์!”

ทุกคนต่างดื่มแอลกอฮอล์หมดภายในอึกเดียว

ท่ามกลางหมู่เฟรชชี่ ซูฮยอควางแก้วลง เขาเกาหัวพร้อมด้วยรอยยิ้มที่งุ่มง่าม

เฟรชชี่ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันต่างเบนความสนใจไปยังซูฮยอค

เขาออกทีวีและในโลกอินเทอร์เน็ตอยู่ช่วงหนึ่ง ชื่อของเขาคือ ลี ซูฮยอค

พวกเขามองซูฮยอคราวกับคิดว่าเขาเป็นตัวตลก

“นายช่วยชีวิตคนไปกี่คนแล้ว?”

“นายได้ผ่าเปิดเนื้อเยื่อไครโคไทรอยด์ด้วยรึเปล่า?”

“นายได้ผ่าจริงๆใช่มั้ย?”

นั่นเป็นทักษะที่ต้องใช้ความแม่นยำเป็นอย่างมากในการผ่าระหว่างกระดูกอ่อนไครคอยด์กับกระดูกอ่อนไครโคไทรอยด์ที่อยู่ข้างใต้กล่องเสียงลงมา โดยไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆเลย ถ้าคมมีดผ่าคลาดเคลื่อนไปเพียง 1 ซ.ม. หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำจะได้รับความเสียหายทันที มันดูเหมือนกับว่าการผ่าตัดของเขาซึ่งรวมการที่เขาผ่าคอด้วย มันเหมือนจะเห็นได้ในหนัง และการช่วยเหลือที่เขาเคยทำในห้องเรียนวันนั้น มันดูจะเหมาะสมกว่าที่จะอธิบายถึงการกระทำของเขาในฐานะการผ่าตัด

ซูฮยอคพยักหน้าอย่างขวยเขิน

และเพื่อนใหม่ของเขาส่ายหน้าเพื่อเป็นการบอกว่าการกระทำของเขามันช่างเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

แต่พวกเขากลับรู้สึกไม่ไว้วางใจซูฮยอค มันทำให้พวกเขาตื่นกลัวซูฮยอคเล็กน้อยเมื่อต้องคิดถึงเรื่องการมีส่วนร่วมชั้นเรียนในวิชากายวิภาคศาสตร์

เพื่อนใหม่ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานั้นสร้างผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบโดยการใช้มีดผ่าคอของคนทั้งๆที่ยังเป็นๆอยู่ เขาเป็นปีศาจชัดๆ เสี้ยนหนามผู้นี้จะต้องกลายมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวคนหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน ดวงตาของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไป พวกเขาแค่รู้สึกเหมือนไร้ความหวังเมื่อคิดถึงเรื่องที่ต้องมีซูฮยอคเป็นคู่แข่งตัวฉกาจ

“พวกเรามาเล่นเกมกันมั้ย?”

ทุกคนต้องตอบสนองข้อเสนอของนักศึกษาหญิงที่สวมแว่นตากรอบหนาในเชิงบวก ไม่มีอะไรมากแค่เกมที่จะทำให้แต่ละคนสนิทกันมากขึ้น

“แล้วถ้าเป็นต่อคำศัพท์ล่ะ?”

“โอเค!!”

“เริ่มสักคำถามที่เกี่ยวกับซีรีบรัมแล้วกันให้สมกับที่เป็นนักศึกษาแพทย์” คนหนึ่งพูดขึ้นมา

ทุกคนต่างถ่ายทอดสีหน้าและแววตาที่ดูมั่นใจออกมา

ดังที่ทุกคนฝันไว้ว่าอยากจะเป็นหมอ พวกเขามีเงื่อนไขทางด้านการแพทย์ที่มากที่สุดเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส

“โอเค งั้นมาเริ่มกัน เรื่องของซีรีบรัมมันมี Central sulcus, Callosal sulcus…” ตอนนี้ถึงตาของซูฮยอค เขาเอ่ยปากขึ้นทันที

“ถ้านายมองไปที่ซีรีบรัม จะพบกับ Central sulcus, Callosal sulcus, Pontine bridge, Hypoplasia, Hypothalamus, Navel…”

พวกเขาต่างแสดงสีหน้าที่ว่างเปล่าออกมาเมื่อได้ฟังซูฮยอคตอบคำถาม มันดูเหมือนเขากำลังพูดทุกคำศัพท์ด้านการแพทย์ในส่วนของซีรีบรัมทั้งหมดออกมา ที่เขาพูดมามันถูกหมดมั้ย? เขาพูดถึงศัพท์หลายคำที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่คุ้นเลย

“เธอไม่เล่นต่อแล้วหรอ?”

ซูฮยอคทำสีหน้าที่ดูไร้เดียงสาออกมาขณะที่พูดกับนักศึกษาหญิงที่นั่งอยู่ข้างเขา

เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อเพราะว่าเขาได้ไปหมดทุกอย่างที่เธอคิดไว้เพื่อเตรียมจะตอบ

“เฮ้ นี่มันไม่ใช่เกมแล้ว นายเล่นตอบศัพท์มาซะหมด ทั้งหมดที่นายต้องทำก็คือตอบมาแค่คำเดียวหลังจากที่คนก่อนหน้านายตอบเสร็จ”

เมื่อเธอพูดจบซูฮยอคจึงเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร

“โอ้ ฉันขอโทษนะ ฉันไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน”

เหล่านักศึกษาที่อยู่รอบๆตัวเขานั้นต่างสายหน้าพร้อมๆกัน

“นายมันปีศาจชัดๆ ปีศาจ”

บรรยากาศของการต้อนรับเฟรชชี่หน้าใหม่ยิ่งทวีคูณขึ้น

ขณะที่เหล่านักศึกษากำลังสนุกอยู่กับการดื่มอยู่นั้น ซูฮยอคก็เดินไปเข้าห้องน้ำ

“เห้อ...” ซูฮยอคมองตัวเองในกระจกแล้วพูดว่า “ตอนนี้มันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตอนนี้”

มีอีกกี่อย่างที่เขาจะต้องเรียนรู้? หรือเขาเข้าใจทุกเรื่องหมดแล้ว?

ความรู้สึกแปลกๆของความตื่นเต้นทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง

ฉันจะไม่พลาดแม้กระทั่งความรู้ด้านการแพทย์เล็กๆน้อยๆ เพื่อที่จะรักษาขาของพ่อฮาน่า ฉันจะเก็บเกี่ยวข้อมูลด้านการแพทย์ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ฉันจะสามารถบันทึกไว้ในหัวได้ ไปลุยกัน ลี ซูฮยอค!’

หลังจากผลักดันตัวเองเพื่อยืนยันความตั้งใจอีกครั้ง เขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ

“อ๊า!” หญิงคนหนึ่งครางออกมาเล็กน้อย

รนรานที่จะหาห้องน้ำ เธอวิ่งตรงมาที่เขา

“เธอโอเครึเปล่า?” ซูฮยอคถาม

เธอเอามือข้างหนึ่งยันกำแพงไว้และใช้มืออีกข้างเสยผมที่ตรงยาว หน้าตาของเธอสวยมาก

“หื้อ?” เธอชี้นิ้วไปทางซูฮยอค

จากนั้นเธอก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจปนความสงสัย “ลี ซูฮยอค!”

ซูฮยอครีบเข้ามาคว้าตัวเธอที่กำลังจะล้มลงไว้ทันที

“สวัสดี ฉันเดาว่าเธอคงดื่มมากไปนะ คุณผู้หญิง”

“ไม่ให้เกียรติกันเลย ฉันก็เป็นเฟรชชี่เหมือนนายนะ ใช้แค่คำพูดธรรมดากับฉันก็พอ ฉันคิดว่าฉันคงจะได้พบนายถ้าฉันมาเรียนที่แดฮัน แล้วก็ใช่! ฉันคิดว่าฉันคงได้เห็นนายเจอนายเมื่อฉันมาที่โรงเรียนแพทย์แห่งนี้”

ขณะที่นึกถึงข่าวเกี่ยวกับซูฮยอค เธอหัวเราะคิกคักออกมา แต่ซูฮยอคไม่ทันได้สังเกต

“เธอรออยู่นี่นะ ให้ฉันใช้ห้องน้ำก่อน อย่าไปไหนนะโอเค๊?”

เธอยกนิ้วขึ้นมาและขี้ไปที่เขา

เมื่อซูฮยอคพยักหน้า เธอก็เดินไปเข้าห้องน้ำ

ผ่านไป 10 นาทีได้แล้วมั้ง?

เธอเข้าไปหลับรึเปล่าเนี่ย?’

ก็อาจจะ เพราะเธอดื่มไปมากจริงๆ

ซูฮยอคเลิกที่จะรอและหันหลังกลับเพื่อที่จะไปบอกนักศึกษาผู้หญิงคนอื่นๆ

“ฉันบอกว่าให้นายรอไง แต่นี่กำลังจะไป...” เธอพูดหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ จดจ้องสายตากับเขาด้วยดวงตาที่สะลึมสะลือ

“ฉันยังไม่ได้ออกไปหนิ” ซูฮยอคพูด

เธอหัวเราะ แก้มทั้ง 2 ข้างของเธอหลายเป็นสีแดงด้วยความมึนเมา นั่นยิ่งทำให้ความสวยของเธอยิ่งทวีคูณ

“ไปดื่มกันต่อเถอะ!” เธอพูดพร้อมลากเขาไปด้วย

“ที่นั่งของเธออยู่ตรงไหน?” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งหยุดเธอไว้

เขาเป็นนักศึกษาปี 2 รุ่นพี่เธอ 1 ปี

“ฉันแค่ต้องการจะแลกเปลี่ยนบทสนทนากับเพื่อนของฉันตรงนี้…” เธอพูดด้วยความสุภาพที่สุด เพราะต้องควบคุมลิ้นที่เปลี้ยของเธอ

“ไว้ค่อยทำทีหลังก็ได้ เธอยังมีเวลาอีกเยอะ แค่มาต่อกับเกมที่พวกเธอเพิ่งเล่นกันจบไป”

เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอต้องการพูดคุยและสร้างความสนิทสนมกับเพื่อนเฟรชชี่คนอื่นๆ แต่เขาไม่ยอมให้เธอทำเช่นนั้น ความดิ้นรนของชเว ซูรยอนอยู่ไม่นาน เขาคือรุ่นพี่ที่เธอต้องให้ความเคารพ

“รับทราบค่ะ!” เธอมอบรอยยิ้มที่สดใสให้แล้วก็กลับไปที่โต๊ะ

อย่างไรก็ตาม เธอถูกบังคับให้ดื่มต่อ

“เวลานี้ มาเล่นเกมคำศัพท์ระบบประสาทกันเถอะ” เฟรชชี่คนหนึ่งพูดขึ้น

ซูฮยอคสวมใบหน้าที่ดูมั่นใจขึ้นมาทันทีกับคำชวนนั่น

“เฮ้ แต่นายน่ะห้ามตอบหมดเหมือนตาก่อนหน้านี้นะโอเคมั้ย?”

“ฮ่าๆๆ เขาไม่รู้ได้ยังไงว่าเกมต่อคำเขาเล่นกันแบบนี้?”

หลังจากนั้นซูฮยอคไม่แม้แต่จะแตะเบียร์ เพราะเขาไม่เคยแพ้เกมเลย

“ซูฮยอค ดื่มเป็นเพื่อนพวกเราหน่อยสิ มันจะไม่สนุกเอานะถ้านายไม่ได้เมาอยู่คนเดียวแบบนี้”

เช่นที่เขาพูด ใบหน้าของเหล่าเฟรชชี่กลายเป็นสีแดงเพราะความมึนเมา เว้นก็แต่ซูฮยอค

สายตาที่ดูจริงจังของพวกเขาจดจ้องมาที่ซูฮยอค

“โอเค”

ซูฮยอครู้สึกว่าเขาคงจะไม่สนุกถ้าเขายังคงอยู่โดยไม่ดื่มเช่นนี้

ไม่นานจากที่เขาพูดจบแก้วของเขาก็ถูกรินด้วยโซจูจนเต็มแก้ว

“นี่มันเยอะเกินนะ...” ซูฮยอคพูดพร้อมยกแก้วขึ้นกระดก

ในขณะนั้นเอง “เฮ้! ชเว ซูรยอน! ยังรู้สึกตัวอยู่มั้ย?”

มีเสียงดังมาจากด้านหลังเขา

“อะไรเนี่ย? ฉันคิดว่าเธอกำลังหลับนะ”

“ตื่นๆ!”

สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ชเวและโต๊ะที่รุ่นพี่นั่งอยู่

ซูฮยอคที่วางแก้วลง ก็มองไปที่เธอ

“เฮ้! ชเว ซูรยอน!”

รุ่นพี่คนหนึ่งเขย่าตัวเธอ

ซูฮยอคที่เพ่งความสนใจไปที่เธอ จากนั้นก็เริ่มขมวดคิ้ว

0 0 โหวต
Article Rating
23 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด