ตอนที่แล้วDND.31 - ตำนานไร้พ่าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.33 - เข่นฆ่าด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์

DND.32 - เวลาแห่งการก้าวข้าม


“ก็ได้!”

เขาตอบอย่างเย็นชา ฟางฉิงโจวลอยไปที่ลานประลองและกระซิบข้างหูพ่อของเขา

ฟางหยุนยังคงสีหน้ามืดหม่น เขามองซือหยูอย่างลังเล

หลังจากตัดสินใจได้แล้วเขาก็เปล่งออกมาอย่างเย็นชา

“เป็นหน้าที่ของสำนักฝึกยุทธในการค้นหาผู้มีพรสวรรค์ แต่ตัวตนที่น่าสงสัยจะต้องไม่มีที่อยู่ที่นี่!”

“ข้าในฐานะของผู้ประเมิน ขอประกาศว่าซือหยูถูกขับออกจากสำนัก! นับแต่นี้ไปเขาไม่เป็นศิษย์สำนักเขตเซี่ยนหยูอีกต่อไป!”

ไล่ออก?

นี่เป็นบทลงโทษที่ร้ายแรงที่สุดในสำนัก  มันเท่ากับการทำลายอนาคตของซือหยู เป็นไปไม่ได้แน่ที่เขาจะกลับมา

สำนักฝึกยุทธถูกสร้างโดยแคว้นและเต็มไปด้วยผู้มีพลังบ่มเพาะอันเปี่ยมพรสวรรค์ มันไม่มีเส้นทางอื่นที่เทียบเคียงกันได้

เซี่ยหลินฉวนคัดค้าน

“คิดใหม่เถิดท่านฟาง เขาเหนือกว่าราชาทองคำ! คุณค่าเขาช่างประเมินมิได้!”

ฟางหยุนพูดอย่างใจเย็น

“พรสวรรค์อาจเป็นสิ่งสำคัญ แต่สำนักเรามิอาจรับคนที่ทำความผิดร้ายแรงได้หรอก!”

ดยุคเซี่ยนหยูตกใจและมองซือหยู เขาชนะราชาทองคำได้ตอนอายุ 14 เชียวหรือ?

ฟางหยุนเห็นเซี่ยหลินฉวนยังคงยืนกรานและอยากจะคัดค้านต่อไปจึงต้องปราม

“ฮื่ม! เจ้ากล้าขัดข้างั้นรึ?”

เซี่ยหลินฉวนโกรธมาก แต่เขาทำอะไรไม่ได้เลย เขาทำได้เพียงทำตามบัญชาแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ เขาถอนหายใจเพราะรู้สึกเสียดายอัจฉริยะเช่นนี้ไป

ทั้งโถงประลองเงียบกริบ

ดวงตาเซี่ยจิงหยูเต็มไปด้วยความชิงชัง  นางจ้องฟางฉิงโจวที่ยิ้มเยาะ นางรู้ว่าคำขอของนางถูกทำตรงกันข้ามเสียแล้ว นางเปิดปากเพราะอยากจะขอร้องดยุคเซี่ยนหยู

ตอนนั้นเองที่ซือหยูรู้สึกยินดีมาก เขาหัวเราะ

“นางฟ้าเอ๋ย ชีวิตข้ามิได้มีค่าเช่นนั้น ไม่ต้องปกป้องข้าแล้วล่ะ”

เซี่ยจิงหยูตัวสั่น นางนับถือซือหยูจากภายใน เขาใจกว้างพอจะช่วงชีวิตองค์หญิง ทำไมโชคชะตาถึงกลั่นแกล้งเขาเช่นนี้?

เขาสร้างชื่อมาอย่างยากลำบาก เพียงเพราะต้องถูกจองจำอยู่ในคุกงั้นหรือ?

‘แต่เจ้า...“

ซือหยูโบกมือเบาๆ เขามองไปยังขอบฟ้า เขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ถอนหายใจอย่างไม่พอใจและพอใจ

“ลืมซะเถอะ ชีวิตข้ามิคู่ควรกับสิ่งใดทั้งนั้น ตอนนี้ข้าได้รับเกียรติมามากพอแล้ว ข้าควรจะตายไปตั้งแต่สามเดือนก่อนแล้ว ที่อยู่ได้จนถึงตอนนี้นับว่าเป็นปาฏิหาริย์”

ซือหยูหัวเราะ

“ชีวิตข้าทั้งเปลี่ยวเปล่า อ่อนแอ ยาจก ถูกทิ้งโดยคนรัก แต่ในจุดต่ำสุดของข้า เจ้าก็ได้ให้ธนู ข้าไม่มีวันลืมความเอื้อเฟื้อนั้น โชคดีที่ข้าได้ตอบแทนเจ้าแล้วในเขารัตติกาล ความเศร้าเพียงอย่างเดียวของข้าคือการที่ไม่รู้นามของเจ้า”

เซี่ยจิงหยูตัวสั่น ธนูที่นางให้ซือหยูในวันนั้นได้รับการตอบแทนอย่างงาม ทำไมคนเช่นซือหยูจะต้องพบกับจุดตบตั้งแต่อายุน้อยเช่นนี้?

นางร้องไห้

“จิงหยู...เซี่ยจิงหยู”

“เซี่ยจิงหยู...พิรุณยามคิมหันต์...”

ซือหยูยิ้ม

“ใบหน้างดงามพร้อมดวงตาอันงดงาม นามอันงดงามกับตัวตนอันงดงาม...ข้าไม่มีสิ่งใดติดค้างอีกแล้ว ข้าไม่มีอะไรให้เสียใจอีก”

เซี่ยจิงหยูทรุดไหล่อย่างโศกเศร้า นางชิงชังความไร้ซึ่งพลัง นางชิงชังโลกอันไร้ความยุติธรรม เหตุใดโชคชะตาจึงเล่นตลกกับซือหยูเช่นนี้?

หลายต่อหลายคนรู้สึกเช่นเดียวกับนาง ซือหยูต้องอำลาโลกใบนี้แล้วเช่นนั้นหรือ?

เจียงซื่อฉิงเสียใจอยู่ในอก ซือหยูในตอนนี้มีเพียงเซี่ยจิงหยูในใจ ไม่มีนางอยู่ในความคิดของเขาแม้แต่น้อย

พวกเขาร่วมชีวิตมานับ 10 ปี แต่ใจเขาตอนนี้ นางเทียบไม่ได้กับธนูแม้เพียงคันเดียว

เขาลืมนางไปอย่างหมดจด...ความผิดหวังและอ้างว้างหยั่งรากลึกในใจนาง

ซือหยูที่นางทิ้งไปไม่ได้อยู่ไกลกับนางเลย แต่เขาเลือกที่จะลืมนาง นั่นทำให้เกิดความโศกเศร้าหยั่งลึก

“ท่านดยุคแห่งเซี่ยนหยู!”

ซือหยูหันไปหาดยุคด้วยใบหน้าสงบและไม่โกรธแค้น

“ท่านจะเลือกเนรคุณต่อผู้ช่วยชีวิตลูกสาวท่านก็ย่อมได้ แต่ท่านจับตัวข้าไม่ได้ง่ายๆแน่!”

ดยุคเซี่ยนหยูหม่นหมองและไม่พูดอะไร

องค์หญิงขบกัดริมฝีปาก นางดึงเสื้อท่านพ่อ

“ท่านพ่อ...เลิกเถอะ...นี่จะทำให้ข้าดูเป็นคนเลวซะเปล่า...”

ดยุคเซี่ยนหยูยังคงยืนยัน เขามองเซี่ยหลินฉวน

“เจ้าควรจะรับผิดชอบเพราะนั่นเป็นศิษย์สำนักเจ้า จ้บตัวเขาแล้วข้าจะลงโทษเขาเอง”

“เจ้าคนตระกูลซือ! เจ้าคือคนในเขารัตติกาล!”

ฟางฉิงโจวโกรธแค้น

ฉินเฟิงกระโดดขึ้นลานประลองกับฟางฉิงโจว พวกเขาโจมตีใส่ซือหยูทันที!

ราชาทองคำทั้งสองรุ่นช่วยกันจัดการราชาระดับเงิน! ซือหยูกลับพูดด้วยความใจเย็น

“ฮ่าๆๆ เข้ามาเลย!”

“คุกเข่าซะ!”

ทั้งฟางฉิงโจวและฉินเฟิงพุ่งเข้ามา

“ดัชนีแปดทิศ!”

ฟางฉิงโจววาดนิ้วเร็วปานสายฟ้า

“ฝ่ามืออรหันต์!”

ฝ่ามือของฉินเฟิงพุ่งเข้ามาอย่างรุนแรง

ดวงตาของซือหยูเปล่งประกาย

“อสูรทะลวง!”

ซือหยูปล่อยพลังไร้ลักษณ์ทะลุสมองฟางฉิงโจว

อ๊ากกก--

ฟางฉิงโจวจับศีรษะและกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เขาถูกหมัดลุ่นๆชกใส่ใบหน้าโดยตรง เขากลิ้งหลายตลบจนฟันหลายซี่หลุดออกจากปาก

พลังหมัดเข้มข้นมาก ฟางฉิงโจวตกจากลานประลองและหมดสติจากแผลใหญ่ ฉินเฟิงใช้โอกาสนี้โจมตีเข้ามา

เขาแน่ใจว่าจะต้องโจมตีซือหยูได้ เขาเคยประลองกับซือหยูมา 100 กระบวนท่าก่อนหน้านี้

“วายุกระหน่ำ!”

ซือหยูปล่อยพลังปราณออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้พลังปราณร่วมกับวิชาบ่มเพาะพลัง!

ฉินเฟิงมือหักทันที พลังอันรุนแรงปะทะเข้ากับอวัยวะภายใน เขากระอักเลือกกระเด็นออกไปและหมดสติทันทีเพราะบาดเจ็บรุนแรง เพียงอึดใจเดียวราชาทองคำทั้งสองคนก็พ่ายแพ้!

เซี่ยหลินฉวน เย่ฉวน ฟางหยุนและแม้แต่ดยุคเซี่ยนหยูต่างตกตะลึง

“ราชาระดับเงินจัดการราชาทองคำทั้งสองรุ่นได้เร็วขนาดนี้เชียวหรือ...ซือหยูแกร่งแค่ไหนกัน?”

“งั้นนี่ก็คือพลังที่แท้จริงของเขาน่ะสิ! เขาไม่ได้ใช้ทุกอย่างชนะฉินเฟิงในการประลองที่แล้วด้วยซ้ำ”

พลังอะไรกัน!

ฟางหยุนใบหน้าหม่นหมองลงทันที

“เจ้ารออะไรอยู่เจียงซื่อฉี? จับมัน!”

เจียงซือฉีหยุดนิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเต็มไปด้วยความกลัว ซือหยูเก่งเกินไป เขาอาจจะสู้ไม่ได้

“ยอมรับซะ! โทษของเจ้าจะหนักขึ้นหากเจ้าขัดขืนไปมากกว่านี้!”

เจียงซื่อฉีปลดปล่อยความโกรธ รังสีพลังของระดับสี่ขั้นสูงแผ่ไปทั่วลานประลอง

นี่ไม่ต่างจากตอนประเมินศิษย์ระดับเงินเลย เป็นพลังเดียวกัน เป็นความไร้จิตใจมนุษย์เช่นเดียวกัน ความต่างเดียวในตอนนี้คือซือหยูไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว

“หลบไปซะ...ตาแก่!”

“แสงอสูร!”

แสงสีทมิฬถูกยิงออกไปทันที

อ๊าก--

เจียงซื่อฉีตอบสนองไม่ทันและถูกโจมตีใส่ในระยะใกล้

แสงอสูรเป็นวิชาอันตรายที่โจมตีดวงวิญญาณโดยตรง หากโชคดีที่สุด ดวงวิญญาณจะบาดเจ็บ หากโชคร้าย...ถึงตาย

ในการต่อสู้จริง ซือหยูไม่ลังเลที่จะใช้วิชานี้เลย

เสียงโหยหวนอันทรมานดังออกมาจากเจียงซื่อฉี

“วายุกระหน่ำ!”

ซือหยูฟาดลูกเตะใส่ใบหน้าชายแก่ทันที

เจียงซือฉีกระเด็นออกจากลานประลอง ไม่รู้เป็นตายร้ายดี

ฝูงชนฮือฮา!

เจียงซื่อฉี ผู้ตัดสินที่มีพลังระดับสี่ขั้นสูงถูกจัดการในกระบวนท่าเดียว หลังจากที่เขาจัดการราชาทองคำสองคนไปแล้ว เขายังเอาชนะเจียงซื่อฉีที่แข็งแกร่งได้อีก!

ทุกคนตกอยู่ในภวังค์ ราชาระดับเงินในตอนนี้กำลังท้าทายโชคชะตาอันสิ้นหวังของตน

เฉินเทียนหนานหน้าซีด

“แสงอสูร? จะเป็นไปได้ยังไง? ข้าฝึกมันตั้งสามปี เขาฝึกมานานแค่ไหนกัน? วิชาเขายังแกร่งกว่าข้าสามเท่า!”

ฟางหยุน เซี่ยหลินฉวนและดยุคเซี่ยนหยูยังคงไม่เชื่อสายตาที่พบว่าเขายังฝึกเนตรอสูรได้จนถึงระดับสองแล้ว!

หากเป็นเช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขามีพลังวิญญาณที่กล้าแกร่งหรอกหรือ? วิชาวิญญาณเป็นสิ่งลึกลับที่สุดและน่ากลัวที่สุดในบรรดาวิชาบ่มเพาะ มันใช้สังหารได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย มีอัจฉริยะมากมายที่กัดฟันต่อสู้เพื่อฝึกฝนมัน

แต่คนที่ฝึกจะต้องเกิดมามีพลังวิญญาณอันแข็งแกร่ง มิเช่นนั้นจะฝึกไม่ได้ ทำให้มันเป็นวิชาที่หายากมาก

เซี่ยหลินฉวนมองอย่างตกใจไปที่ฟางหยุน ศิษย์อันยอดเยี่ยมเช่นนี้กำลังจะถูกขับออกจากสำนัก! สำนักจะต้องกลายเป็นตัวตลกแก่สายตาโลกภายนอกแน่!

ดยุคเซี่ยนหยูตาเป็นประกาย เซี่ยจิงหยูมองอย่างตกใจพร้อมกับองค์หญิง เจียงซื่อฉิงอ้าปากค้าง ซือหยูแข็งแกร่งเกินไปแล้ว! ฟางหยุนหน้ามืดตามัว...เพราะเป็นเขาเองที่ประกาศไล่ซือหยูออกจากสำนัก!

แต่ท้ายสุด พรสวรรค์ของซือหยูก็ทำให้เขาเสียหน้า เขาต้องรีบจับตัวซือหยูให้เร็วที่สุด

แต่เมื่อเขากำลังจะพูดนั้นเอง

“ขยะระดับเงินกล้าอวดดีเช่นนี้ได้อย่างไร?”

ชายหนุ่มผมเงินกระโจนขึ้นลานประลอง

เซี่ยจิงหยูตกใจพร้อมกับชายหนุ่มคิ้วหนา

“เจ้าทำอะไรน่ะ เฉาลี่!”

ชายผมเงินยืนมือไพล่หลัง เขามองอย่างเย็นชา

“ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมขยะเช่นเจ้าจึงกล้าหยาบคายต่อหน้าข้าเช่นนี้ ช่างเป็นพิษต่อสายตานัก”

ผู้คนเริ่มวุ่นวาย

“ชายผมเงินคือเฉาลี่ อันดับสี่ในสิบศิษย์อสูร เขาน่ากลัวมาก!”

“หยาบคายนัก น่าชิงชังเสียจริง”

แม้ศิษย์อสูรยังต้องเคลื่อนไหว นี่คือสิ่งยืนยันในพลังของซือหยู

เซี่ยจิงหยูยืนขึ้นเพราะคิดจะบินไปห้าม แต่ก็ถูกชายคิ้วหนาขวางเอาไว้ เขายิ้ม

“เขาเคยบอกว่าซือหยูเป็นขยะ แต่ตอนนี้ซือหยูแข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว การชนะซือหยูเท่านั้นที่จะทำให้เขารักษาหน้าไว้ได้ ไม่ต้องไปหยุดเขาหรอก ซือหยูไม่แพ้ง่ายๆแน่”

Banshee

ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด