ตอนที่ 20 อาวุธลับอันดับหนึ่งของโรงเรียน
ตอนที่ 20 อาวุธลับอันดับหนึ่งของโรงเรียน
ซุนหรงจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เธอได้รับการคุ้มกันแบบนี้ เมื่อตอนเธออยู่โรงเรียนมัธยมต้นสำหรับขั้นรับรู้ลมปราณ
ในตอนนั้นได้มีกลุ่มโจรเรียกค่าไถ่ขู่จะลักพาตัว
วันรุ่งขึ้นม่านน้ำฮวงโหก็ได้จ้างนักฝึกตนมีฝีมือจำนวนมากเป็นบอดี้การ์ดมาคอยจับตามองคนน่าสงสัยที่อยู่รอบๆโรงเรียน แม้แต่คนแก่ที่แกล้งให้โดนรถชนเพื่อเรียกค่าเสียหายก็โดนเหล่าบอดี้การ์ดหามไปทิ้งนอกเมือง
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นพวกองค์กรใต้ดินก็จับซุนหรงไปใส่ไว้ในรายชื่อบุคคลที่ไม่ควรไปตอแย นับแต่นั้นมาก็ไม่มีใครหน้าไหนกล้าส่งจดหมายขู่ลักพาตัวอีก
แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป
องค์กรเงาสายธารเป็นองค์กรนักฆ่าระดับโลกเหนือชั้นกว่าพวกโจรเรียกค่าไถ่ตามท้องถนน นักฆ่าเหล่านี้ฆ่าคนอย่างเลือดเย็นที่สามารถลอบโจมตีซุนหรงได้ทุกเมื่อเมื่อเธออยู่นอกโรงเรียนไร้การคุ้มกัน ผู้อำนวยการโรงเรียนเช็นได้ปฏิเสธข้อเสนอแนะและวิธิการของทางเบื้องบน
นี่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการป้องกันที่เข้มงวดที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมา ทั้งในและนอกโรงเรียน อาจารย์หรือหน่วยรักษาความปลอดภัยถูกสั่งให้จับตามองสนาม ระเบียงทางเดือนและแม้กระทั่งห้องน้ำ
ห้องพักอาจารย์ที่ซึ่งซุนหรงถูกย้ายมานั้นอยู่ข้างในสุดของชั้น1 ประตูทางออกถูกปิดตาย มีแค่เพียงเธอและอาจารย์คังอยู่ภายในห้องนี้
“เธอดูเครียดนะ เอาขนมไปทานหน่อยไหมเผื่อจะรู้สึกดีขึ้น?” ในขณะที่อาจารย์คังกำลังตรวจการบ้าน เขาก็เปิดที่เก็บของใต้โต๊ะแล้วหยิบขนมออกมา
ซุนหรงเหลือบไปมองใต้โต๊ะอาจารย์แวบนึงมันเต็มไปด้วยขนมซึ่งมากกว่าชั้นวางขนมในร้านสะดวกซื้อเสียอีก
ซุนหรงถอนถอนหายใจและส่ายหน้าสะบัดความคิดไร้สาระออกจากหัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ แต่ครั้งนี้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่การเดตในสวนตระกูลเสี่ยว มันเป็นการเดตที่ค่อนข้างพิลึก ซุนหรงรู้สึกแปลกๆด้วยเหตุผลบางอย่างราวกับว่าเธอลืมเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างไป
ในตอนท้ายเธอถูกช่วยโดยชายนิรนาม แต่ชายนรนามคนนี้เป็นใครกันแน่?
“หวังลิ่งคงเป็นคนโชคดีมากที่เธอเป็นห่วงเขาถึงขนาดนี้”
อาจารย์คังก็เคยผ่านวัยหนุ่มสาวมาก่อน เขาจึงรู้สิ่งที่ซุนหรงกำลังคิด “ถ้าเธออยากจะลดระยะห่างระหว่างเธอและหวังลิ่ง เธอควรจะเรียนรู้สิ่งที่เขาชอบนะ เข้าใจไหม?”
ซุนหรงพลันหน้าแดง “...แต่ว่าหนูไม่รู้ว่าเขาชอบอะไร”
“ถ้าเธอไม่รู้ เธอถามอาจารย์ได้นะ” ด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ อาจารย์คังหยิบขนมออกมาห่อหนึ่งจากใต้โต๊ะ
“หือ...ขนมบะหมี่?”
อาจารย์คังพยักหน้า “ใช่แล้ว หวังลิ่งเข้ามาขอซื้อต่อจากอาจารย์อยู่บ่อยๆ”
ซุนหรงอยู่ในอาการอึ้ง “...อาจารย์คัง นี่อาจารย์ขายขนมจริงๆหรอคะ?”
อาจารย์หวังถอนหายใจ “การศึกษาในตอนนี้ห้ามอาจารย์สอนพิเศษ ดังนั้นอาจารย์จึงทำได้แค่ขายขนมเพื่อเป็นรายได้เสริม ลำพังแค่การสอนอย่างเดียวมันไม่พอจะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอาจารย์”
“...” ซุนหรงหลุดเข้าสู่ห้วงความคิดในขณะที่กำลังจ้องมองขนมบะหมี่บนโต๊ะ
.......
ในขณะที่ซุนหรงนั้นกำลังคิดอะไรต่อมิอะไรในหัว ปฏิบัติการลอบสังหารก็เริ่มต้นขึ้น
ในห้องน้ำชายแห่งหนึ่งในโรงเรียน ยามรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งถูกทำให้สลบโดยลูกดอกยาสลบ
ชายคนนั้นบุกเข้าโรงเรียนผ่านทางช่องลมรัดคอยามรักษาความปลอดภัยอย่างเหี้ยมโหด เพื่อไม่ให้ยามคนนั้นออกไปแจ้งเตือนคนอื่นถ้าหากเขาตื่นขึ้นมาและขโมยชุดโดยไม่เหลือแม้แต่กางเกงชั้นใน
มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักฆ่าที่จะรู้วิธีปลอมตัวซึ่งมันจะทำให้เขาสามารถเดินไปไหนมาไหนก็ได้ภายในโรงเรียน
เขาเป็นพี่คนกลางของ3พี่น้องไร้รัก และเป็นถึงนักฆ่าอันดับที่16ของโลก ชื่อเสียงของชิวเฟงก็ไม่ใช่เล่น
เขายืนเช็คสภาพชุดตัวเองและผูกเนคไทข้างหน้ากระจก และใบหน้าของตัวเองให้กลายเป็นใบหน้าของยามเมื่อสักครู่ตามบัตรประจำตัว และเดินอย่างเนิบๆออกจากห้องน้ำ
เขาไม่รู้สถานการณ์ของพี่ใหญ่ชิวหยิงและน้องเล็กชิวเหยียน แต่เขาเห็นสัญญาณของภารกิจยังคงทำงานอยู่
มันก็แปลว่าพวกเขาทั้ง2ยังไม่เจอกับปัญหา (หรือเปล่า)?
ชิวเฟงไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาก เขาเดินตรงไปยังจุดที่ระบุว่าเป้าหมายอยู่ที่นั่น
มีห้องพักอาจารย์3ห้องที่เป็นไปได้ 2ห้องปิดอยู่ มีเพียงห้องเดียวที่ยังคงมีแสงสว่าง
เป้าหมายอยู่ตรงนั้น!
การป้องกันค่อนข้างแน่นหนาข้างนอกนั่น แต่ทำไมตรงนี้ถึงไม่มีแม้แต่หน่วยรักษาความปลอดภัยที่ทางเดินทั้งๆที่เป้าหมายอยู่
ชิวเฟงหลุดหัวเราะออกมา การที่แอบอยู่ในจุดที่ไม่มีการป้องกันแผนนี้มันไม่ได้ผลกับนักฆ่าจากองค์กรเงาสายธารหรอก ก่อนหน้าที่จะส่งจดหมายขู่เงาสายธารได้แอบติดเครื่องส่งสัญญาณติดตามบนตัวซุนหรงแล้ว ไม่ว่าเป้าหมายจะไปอยู่ที่ไหนก็โดนจับได้
ชิวเฟงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงในขณะที่เขาเดินไปทางประตูของห้องพักอาจารย์ที่เปิดไฟอยู่ และส่งคลื่นพลังวิญญาณเพื่อตรวจจับสัญญาณชีพ
นอกเหนือจากเป้าหมายแล้ว มีแค่อาจารย์คนหนึ่งที่อยู่คุ้มกันซุนหรงและยิ่งไปกว่านั้นเป็นคนอ้วนที่ชอบกินแต่ขนม
ชิวเพงรู้สึกว่าเหมือนองค์กรเงาสายธารโดนดูถูก
นี่หรือการป้องกันของโรงเรียนซึ่งได้รับจดหมายขู่จากองค์กรนักฆ่าระดับโลก
ดี...
ชิวเฟงกำลังยืนอยู่หน้าประตูห้องพักอาจารย์ เขาสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ด้วยศักดิ์ศรีของนักฆ่าชั้นยอดระดับโบว์แดงของเงาสายธาร เขาอยากจะสั่งสอนคนพวกนี้ที่กล้าดูถูกองค์กรเงาสายธาร
เมื่อเขาคิดจบ เขาเปิดประตูเข้าไป
ภายในห้องอาจารย์คังกำลังสอนซุนหรงเรื่องของความรักข้างหน้ากระดานดำ
เมื่อรู้สึกถึงรังสีแห่งการฆ่าฟันของชิวเฟง อาจารย์คังก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง
ต่อมา มีแสงสะท้อนของใบมีดจากบุคคลที่สาม ที่ไม่แม้แต่จะทักทายชิวเฟงได้ปามีดมาทางพวกเขา
“อาจารย์ ระวัง!”
ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ใช้เวลาน้อยกว่าวินาทีสำหรับนักฆ่าที่ดึงมีดออกมาก่อนจะปาออกไป ซุนหรงไม่สามารถตามความเร็วของมีดได้ และเมื่อเธอรู้สึกตัว มีดเล่มนั้นก็โดนคีบโดย2นิ้วของอาจารย์คัง
“แก่นแท้ปราณทองคำขั้นสูงงั้นหรือ เธอดูเหมือนจะเป็นนักฆ่าระดับโบว์แดงจากเงาสายธารสินะ เธอแข็งแกร่งจริงๆ” อาจารย์คังยิ้มในขณะที่ค่อยๆวางมีดบินนั้นลงบนโต๊ะ
ชิวเฟงรู้สึกงุนงง – เขาได้ปามีดนั่นด้วยพลังทั้งหมดตรงไปยังจุดบอด และด้วยความเร็วขนาดนั้นเพียงแค่ช้าฟ้ากระสุนปืนนิดหน่อย และยิ่งไปกว่านั้นใบมีดได้ถูกเสริมแกร่งให้สามารถทะลุร่างของนักฝึกตนระดับแก่นแท้ปราณทองคำง่ายๆ
มันใช้เวลาไม่ถึง3วินาทีด้วยซ้ำที่เขาเข้ามาในห้องและปามีดเล่มนั้นออกไป - ใครจะคิดว่าโรงเรียนธรรมดาเช่นนี้ ที่ไม่แม้แต่จะได้รับการฝึกการต่อสู้ จะสามารถจับมีดบินของเขาได้อย่างแม่นยำ
“ไม่ทราบว่าอาจารย์ท่านนี้ เป็นใครหรือครับ” ชิวเฟงรู้สึกว่าวิชาที่อาจารย์อ้วนคนนี้ได้ใช้มันดูคุ้นๆ
“มันไม่สำคัญหรอกว่าฉันเป็นใคร” อาจารย์คังยิ้มให้
ทางด้านซุนหรง เธอเอามือปิดปากก็ไม่สามารถปิดบังอาการตกใจในสายตาเธอ
อาจารย์คังข้างหน้าเธอก็ยังคงอัธยาศัยดีเหมือนเดิมเขายิ้มโชว์ตาของเขาก็ตี่ลงเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวอาจารย์ แต่คลื่นพลังวิญญาณของเขานั้นต่างออกไปไม่เหมือนปกติอย่างภายในห้องเรียน
สีหน้าของชิวเฟงดูจริงจังขึ้น ถ้าหากอาจารย์คนนี้สามารถคีบมีดบินของเขาได้ก็แปลว่าพลกำลังของอาจารย์คนนี้อาจจะเทียบเท่าเขา ทำไมกัน มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดที่ยอดฝีมือจะมาเป็นอาจารย์ในโรงเรียนมัธยมธรรมดาแบบนี้?
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาห่วงเรื่องนั้น
เขารู้ว่าเขาไม่ควรอยู่ที่นี่นานนัก เมื่อเขาฆ่าซุนหรงได้ภารกิจจะเสร็จสมบูรณ์
มือของเขาสั่นไหวทันใดนั้นปืนกระบอกสีดำพร้อมที่เก็บเสียงก็โผล่ขึ้นมาในมือ แทบจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาเล็งไปที่ซุนหรง และยิงออกไป กระสุนพลังวิญญาณถูกยิงออกไปพร้อมกับคลื่นลมที่รุนแรง
“ตาย!”
ความเร็วของกระสุนพลังวิญญาณเร็วกว่ามีดบินเป็น10เท่า ชิวเฟงไม่เชื่อว่าอาจารย์อ้วนคนนั้นจะสามารถจับกระสุนด้วยมือเปล่าได้
อาจารย์คังเหลือบไปที่ชิวเฟงยังคงไม่ได้ขยับไปไหน เขานั่งนิ่งเหมือนภูเขาหิน และในเวลาเดียวกันใบหน้าของเขาก็ดูสงบนิ่งไม่มีความตื่นตกใจเลยแม้แต่น้อย
หือ...
เขากางนิ้วของเขาออกอย่างเชื่องช้า การเคลื่อนไหวของอาจารย์ช้าถึงขนาดที่ซุนหรงสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เขาคีบกระสุนด้วย2นิ้วของเขาอย่างน่าตกใจอีกครั้ง “ในโลกผู้ฝึกตนมีแต่คนวัดกันเรื่องพละกำลัง แต่ที่จริงแล้วความเร็วนี่แหละคือที่สุดของพละกำลัง”
สิ้นสุดคำพูดของอาจารย์คังไม่มีใครกล้าส่งเสียงอะไรออกมา
“...” ซุนหรงนั้นอยู่ในอาการตกใจเกินกว่าที่จะส่งเสียง
ชิวเฟงนั้นได้แต่คิดในใจว่า [ไออ้วนคนนี้มันเป็นใคร?]
“หลายปีมานี้องค์กรเงาสายธารตกต่ำลงไปมาก พวกลูกน้องก็นับวันยิ่งอ่อนลง” อาจารย์คังแสดงสีหน้าสลดและถอนหายใจเงียบๆ
คำพูดนั้นทำให้ชิวเฟงถึงกับหยุดนิ่ง [คำพูดเหล่านั้นและด้วยความแขงแกร่งขนาดนี้...เขาคิดออกแค่เพียงคนเดียว!]
ชิวเฟงทำได้แค่เพียงหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบออกมา
[... เขาไม่ควรจะยั่วโมโหชายคนนี้]
“รุ่นพี่ กระผมขอโทษที่ล่วงเกิน!”
ชิวเฟงก้มหัวขอโทษ เตรียมจะถอนตัว
“คิดจะไปก็ไปคิดจะมาก็มา...นี่มันไม่ดูถูกฉันมากไปหน่อยหรือ?” อาจารย์คังปากระสุนลงถังขยะแล้วจึงหยิบชอล์กจากกระดานดำ
“ถ้าเธอต้องการจะทำร้ายนักเรียนของฉัน เธอต้องชดใช้...”
ชิวเฟงรู้สึกถึงอันตรายถึงชีวิต “รุ่นพี่คิดจะทำอะไร?”
“ก็ไม่มีอะไรหนิ”
อาจารย์คังยิ้มเล็กน้อย “ฉันกำลังคิดว่า ฉันจะสอนบทเรียนให้เธอสักหน่อย”
*วีด!*
เมื่ออาจารย์คังพูดจบก็เกิดแสงพุ่งออกไปจากปลายนิ้วของอาจารย์คัง เร็วเสียยิ่งกว่ากระสุนวิญญาณทะลุผ่านอากาศไป
ชิวเฟงไม่แม้แต่จะได้ทันตอบโต้เขาตาเบิกกว้างอย่างที่ไม่เคยกว้างมาก่อนในชีวิตเขา
“อัก...”
ด้วยความรวดเร็วจู่ๆเสียงของชิวเฟงก็หยุดลง
เขาก้มลงไปมองที่ตัวของเขา
สิ่งที่เขาเห็นคือชอล์กเจาะทะลุหน้าอกเขา