ประกาศิตรัก : ตอนที่ 61-62 : ที่รักของเธอ หนามที่ทิ่มแทงเขา (1-2)
ตอนที่ 61 – ที่รักของเธอ หนามที่ทิ่มแทงเขา (1)
ซูซินเหยินหยุดพูด และนิ่งฟัง..
เสียงที่ไม่คุ้นเคยนั้นพูดต่อว่า “เจ้าของโทรศัพท์เมามาก และก็อยู่ที่โรงแรมคนเดียว..”
คิ้วของซูซินเหยินขมวดเข้าหากันจนเป็นล่องลึก.. ก่อนที่เสียงปลายสายจะทันพูดจบ เขาก็รีบวิ่งไปคว้าเสื้อโค้ตที่แขวนไว้และพุ่งออกจากห้องทำงานไปทันที
“...คุณจะมารับเธอได้ไม๊ครับ หรือไม่ก็ช่วยติดต่อเพื่อนของเธอคนอื่นให้มารับจะได้ไม๊ครับ?”
ซูซินเหยินที่ตอนนี้ไปยืนอยู่หน้าลิฟท์แล้ว รีบถามขึ้นเมื่อปลายสายพูดจบ “โรงแรมอะไร?”
แม้จะกำลังรีบเร่งอย่างมาก แต่น้ำเสียงของเขาก็แฝงไปด้วยความหงุดหงิดรำคาญ
“โรงแรมปักกิ่ง..” และก่อนที่ปลายสายจะพูดจบเขาก็วางสายทันที แล้วเขาก็เหลือบไปเห็นเช็งจิงฉงที่ยืนอยู่หน้าลิฟท์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาบอกเธอให้จัดการยกเลิกนัดทานอาหารเย็น ในขณะที่นิ้วของเขาก็กดรัวๆอยู่ที่ปุ่ม ‘ปิด’
.....
เมื่อซูซินเหยินมาถึงโรงแรมปักกิ่ง ยังไม่ทันที่เขาจะเข้าไปในห้อง เขาก็ได้ยินเสียงร้องเพลงเหมือนแมวจมน้ำของซ่งจิงเฉินดังออกมาจากข้างใน
“ฉันไม่อาจอ้าปากบอกเธอได้ ฉันทำได้เพียงปกป้องเธอและสร้างเสียงหัวเราะให้เธอ เพราะเธอนั้นสำคัญกับฉันมาก ฉันเสียใจที่ไม่อาจบอกให้เธอรู้...”
เมื่อซูซินเหยินผลักประตูเข้าไป คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันและมือที่จับอยู่ที่ประตูก็หยุดชะงัก สิ่งที่เขาเห็นคือภาพของซ่งจิงเฉินที่นอนผมยุ่งทุลักทุเลอยู่บนพื้น ในมือถือรองเท้าส้นสูงข้างหนึ่งเป็นไมโครโฟน เธอหลับตาปล่อยร่างกายและจิตวิญญาณให้จมดิ่งอยู่ในการแสดง “ฉันไม่อาจอ้าปากบอกเธอให้รู้ คำพูดที่พูดง่าย กลับกลายเป็นยากที่จะเอื้อนเอ่ย...”
ซูซินเหยินแทบอยากจะหันหลังและเดินจากไป.. เขายืนพิงประตู สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่จะเดินเข้าไป.. ระหว่างทางเดินเข้า เขาก็เหยียบเข้ากับอะไรแข็งๆบางอย่าง เขาก้มดูและถอยหลับกลับไปหนึ่งก้าว มันคือแท่งลิปสติก.. แล้วเขาก็พบว่าสิ่งของต่างๆในกระเป๋าของซ่งจิงเฉินกระจัดกระจายออกมาเต็มพื้นห้อง รองเท้าส้นสูงอีกข้างก็แขวนอยู่ข้างหน้าต่าง กระเป๋าถูกโยนไปที่มุมห้อง.. แม้แต่ห่อผ้าอนามัยก็กระเด็นไปอยู่ข้างโต๊ะ..
ซูซินเหยินใช้เท้าเขี่ยลิปสติกออกไป ก่อนจะเดินตรงไปที่ดึงซ่งจิงเฉินให้ลุกขึ้นจากพื้น
สายตาที่พร่ามัวจากแอลกอฮอล์ของซ่งจิงเฉินจ้องมองซูซินเหยินอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหยุดร้องเพลงและฉีกยิ้มกว้างให้กับซูซินเหยิน
เมื่ออยู่ใกล้กับซ่งจิงเฉิน.. จมูกของเขาก็ได้กลิ่นเหม็นของแอลกอฮอล์อย่างแรง ซูซินเหยินขมวดคิ้วและหันไปหาพนักงานเสริฟถามด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “เธอดื่มเข้าไปมากแค่ใหน?”
พนักงานเสริฟรีบก้าวถอยออกมาเมื่อเห็นท่าทางเอาเรื่องของซูซินเหยิน ก่อนที่จะชี้ไปที่โต๊ะอาหารด้วยมือที่สั่นเทา..
ขณะที่ซูซินเหยินหันไปมองที่โต๊ะ ซ่งจิงเฉินก็โน้มตัวมาด้านหน้าและเอามือโอบรอบคอของซูซินเหยินไว้ ร่างกายของซูซินเหยินเกร็ง และก่อนที่เขาจะทันได้ผลักเธอออก เขาก็ได้ยินเธอพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวนในแบบเด็กผู้หญิงว่า.. “พี่ยี่หนานคะ.. ในที่สุดพี่ก็มา พี่รู้ไม๊ว่าฉันรอพี่มาตลอดบ่ายเลยนะ..”
ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์.. ทำให้เธอเข้าใจผิดว่าเขาเป็นจินยี่หนาน..
หน้าของซูซินเหยินแดงกร่ำด้วยความโกรธ.. เขากระชากมือซ่งจิงเฉินออกจากคอของเขาทันที แม้เขาจะก้มหน้าแต่ก็สังเกตุเห็นขวดไวน์ราวเจ็ดหรือแปดขวดเรียงรายอยู่บนโต๊ะ เขาคำรามด้วยความโกรธใส่พนักงานเสริฟ “ทำไมถึงให้เธอดื่มมากขนาดนี้!”
พนักงานเสริฟได้แต่ยืนก้มหน้าเงียบ.. แต่ในใจของเขากลับคิดว่า –ลูกค้าถูกเสมอ ก็เธอต้องการ แล้วเขาจะปฏิเสธเธอได้ยังไง-
ตอนที่ 62 – ที่รักของเธอ หนามที่ทิ่มแทงเขา (2)
ด้วยความเมา.. ซ่งจิงเฉินโอบมือไปรอบคอของซูซินเหยินอีกครั้ง แล้วแนบศรีษะลงบนหน้าอกของเขาพร้อมพูดอย่างมีความสุขว่า “พี่ยี่หนานคะ..”
มือของซูซินเหยินที่โอบรอบเอวของซ่งจิงเฉินอยู่นั้นรัดแน่นยิ่งขึ้น เขาอยากจะตบหน้าหญิงสาวเพื่อให้เธอมีสติจะได้รู้ว่าเขาคือใครกันแน่.. แต่เมื่อดูจากอาการเมาอย่างไร้สติของหญิงสาว เขาขมวดคิ้วแต่ก็กอดเธอแนบไว้กับหน้าอกแน่นขึ้น เขาเหลือบไปมองพนักงานเสริฟด้วยสายตาน่ากลัวอีกครั้ง ก่อนที่จะค่อยๆขยับตัวพร้อมโอบเธอไว้ในอ้อมแขน ไปเก็บของที่หกเรียราดอยู่บนพื้นห้อง
ก่อนที่ซูซินเหยินที่กำลังโอบซ่งจิงเฉินไว้ในอ้อมแขนจะออกจากห้องไป เขายังคงเหลือบมองพนักงานเสริฟด้วยความโกรธ พนักงานเสริฟกลัวจนเสื้อด้านหลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ.. เมื่อเห็นซูซินเหยินกำลังจะออกไป เขาหายใจเข้าลึกก่อนที่จะเรียกซูซินเหยินไว้ด้วยความระมัดระวัง “ท่านครับ...”
ซูซินเหยินหันมามองพนักงานเสริฟด้วยสายตาเย็นยะเยือก “มีอะไรอีก?”
พนักงานเสริฟหลับตาและพูดพึมพำเสียงเบาเหมือนยุงว่า “คุณผู้หญิงยังไม่ได้ชำระค่าอาหารครับท่าน..”
.....
เมื่อซูซินเหยินจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้กับทางโรงแรมแล้ว เขาก็ผลักซ่งจิงเฉินขึ้นรถไปด้วยสีหน้านิ่งเฉย ทันทีที่เข้านั่งประจำที่เขาก็เหยียบคันเร่งสุดแรง.. ซ่งจิงเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆเขาทำตัววุ่นวายไปหมด; เธอขยับตัวไปมาอยู่แบบนั้นตลอด และยังพยายามเอื้อมมือมาจับพวงมาลัยรถอีกด้วย
ซูซินเหยินหยุดรถและหันมาจับซ่งจิงเฉินคาดเข็มขัดนิรภัย เธอเอื้อมมือมาหาเขา ซูซินเหยินปลดเนคไทที่คอออกมารัดข้อมือของซ่งจิงเฉินไว้แน่น..
เมื่อซ่งจิงเฉินถูกมัด.. เธอก็เริ่มสงบลง แต่ก็เริ่มพึมพำ.. “ฉันนั่งคิดกังวลแต่เรื่องของพี่ คิดว่าวันนี้พี่กำลังทำอะไรอยู่นะ ในใจของฉันมีแต่พี่คนเดียว ทุกครั้งที่ฉันคิดเรื่องของพี่ฉันไม่เคยนอนหลับเลย ความสุขของฉันคือพี่เท่านั้น ทุกครั้งที่คิดเรื่องของพี่ ฉันจะมีรอยยิ้มทุกครั้ง เมื่อไม่มีพี่อยู่ด้วยฉันก็แทบจะทนไม่ได้”
ซูซินเหยินบังคับพวงมาลัยรถด้วยมือข้างเดียว ในขณะที่มืออีกข้างของเขานวดอยู่ที่ขมับที่เริ่มปวด..
“พี่สำคัญกับฉันมาก ฉันเสียใจที่ไม่ได้บอกให้พี่รู้.. ฉันทำได้แค่มองพี่อยู่ห่างๆ ฉันสามารถทำทุกอย่างเพื่อพี่ได้ แต่คนคนนั้นกลับไม่ใช่ฉัน..”
“พี่ยี่หนานคะ.. ฉัน..”
ราวกับว่าซูซินเหยินจะรู้ว่าซ่งจิงเฉินกำลังจะพูดอะไร.. เขารีบเอื้อมมือไปหยิบหมากฝรั่งสองชิ้นที่อยู่ในช่องเก็บ แล้วยัดเข้าไปในปากของซ่งจิงเฉินทันที
ในรถเริ่มกลับสู่ความเงียบ.. มีเพียงเสียงเคี้ยวหมากฝรั่งของซ่งจิงเฉิน
ซูซินเหยินเหยียบคันเร่งมิด.. ด้วยสีหน้าที่ไร้รอยยิ้ม..
เมื่อทั้งคู่มาถึงบ้านพัก ซูซินเหยินก็โอบซ่งจิงเฉินแลพยุงเธอออกมาจากรถ เขาโอบซ่งจิงเฉินแนบหัวใจของเขาด้วยมือข้างเดียว และใช้มืออีกข้างกดรหัสประตู เขากดตัวเลขได้เพียงสามตัว ซ่งจิงเฉินก็เริ่มไออย่างแรงจนตัวสั่น..
แล้วซ่งจิงเฉินก็อาเจียนใส่เขา.. เต็มไปทั่วร่างกาย..
นิ้วของซูซินเหยินชะงักอยู่ที่คีย์บอร์ด ก่อนจะเหลือบมองเธอด้วยหางตา ซ่งจิงเฉินที่ไร้สติซุกหน้าของเธอไปมาอยู่บนหน้าอกของเขาที่ตอนนี้เต็มไปด้วยอ้วกของเธอ แล้วหัวเราะคิกคัก หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที.. ใบหน้าและเส้นผมของซ่งจิงเฉินก็เปื้อนไปด้วยอ้วก
ซูซินเหยินที่รักความสะอาดอย่างมาก.. แทบจะอาเจียนออกมาด้วย เขาเลื่อนมือที่มาโอบเอวมาโอบที่ไหล่ของซ่งจิงเฉินแทน และรีบๆใส่รหัสประตู.. เมื่อประตูเปิดออก.. เขาลากซ่งจิงเฉินไปข้างบนอย่างหมดความอดทน ก่อนจะผลักเธอเข้าไปที่ฝักบัว
ซูซินเหยินเปิดก๊อกทำความสะอาดนิ้วมือของเขา ที่ใช้เช็ดผมและทำความสะอาดใบหน้าที่สกปรกของเธอ หลังจากที่ทำความสะอาดมือและนิ้วจนเรียบร้อยแล้ว เขาก็เหลือบมองเสื้อเชิ้ตที่เปื้อนอ้วก..