ตอนที่ 381 ระดับจักรพรรดิ!
เมื่อเห็นมังกรนรกฉกร่างของเฟย หยวนไป แม้หลิง เจี่ยจะมีการศึกษาเขาก็ยังหงุดหงิด“ผู้ควบคุม ไม่คิดว่าการกระทำนั่นมันน่ารังเกียจเกินไป?!”
อีกาม่วงใช้เวลามากกว่าครึ่งเดือนเพื่อเตรียมการขโมยสมองกึ่งเทพ สองกลุ่มถูกเรียกมาเพื่อรับมือกับเรื่องนี้ หนึ่งในกลุ่มจะมีหน้าที่ปล้นสมองกึ่งเทพขณะที่กลุ่มสองจะหยุดหน่วยงานดูแลเมือง
นอกจากระดับเพลิงสวรรค์กว่า80คน พวกเขายังใช้สมาชิกระดับสูงถึงสี่คนรวมถึงระดับจักรพรรดิหนึ่งคนเพื่อควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผู้ควบคุมที่จู่ๆก็ปรากฏตัวและหันเหความสนใจเขากลับทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในแผนการอีกาม่วง
หลิง เจี่ยคือหนึ่งในคนที่แนะนำภารกิจนี้ แน่นอน เขาไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้
“วิธีที่ข้าทำไม่สำคัญ สิ่งที่ข้ากังวลก็คือการรู้สึกพอใจหรือไม่”เสียงของมังกรดำดังขึ้น
แน่นอน หลิน ฮวงคือคนที่กล่าวเช่นนั้น
“คุณไม่กลัวว่าอาหารบางอย่างจะไม่เหมาะกับคุณ?”หลิง เจี่ยหรี่ตา
“เจ้าขู่ข้า?”มังกรดำถามอีกครั้ง
“อีกาม่วงควรจะได้รับสมองกึ่งเทพ คุณอาจสามารถปกปิดตัวตนได้ตอนนี้ แต่ก็ไม่อาจทำได้ตลอดไป การขโมยของจากอีกาม่วง แม้ว่าคุณจะหนีไปเขตหลัก เราก็จะตามล่า มันดีกว่าที่จะส่งมันมาให้เราแทนที่จะตาย เราสามารถแสร้งทำเป็นลืมทุกสิ่งไปได้และสัญญาว่าจะไม่มายุ่มย่ามกับคุณ”หลิง เจี่ยพูดจริง
“มีคนจำนวนมากต้องการให้ข้าตาย ข้าไม่สนใจว่าอีกาม่วงจะทำอะไร”มังกรดำประกาศ“เนื่องจากพวกเจ้าไม่ยอมไป งั้นก็จงอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!”
หลังจากที่มังกรดำพูดจบ มันก็เปิดปากกว้างและพ่นเพลิงมังกรทองออกจากปากอีกครั้ง
ราวกับมีชั้นนำมันเทลงบนอากาศ เปลวเพลิงลุกไหม้คล้ายกับคลื่นที่ถาโถมผ่านท้องฟ้าและกลืนกินทั้งคู่
มังกรดำใช้ทักษะนี้เพราะมันรู้ว่าชายที่ใช้วิชาเนตรไม่มีพลังพอจะปิดผนึกเพลิงมังกรมันอีก
สำหรับนักดาบ แม้ทักษะดาบเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีจากโซ่ได้ เขาก็ไม่มีทางป้องกันการโจมตีเช่นนี้ได้
เมื่อเห็นเพลิงมังกรกำลังมุ่งมาทางพวกเขา หยาง หยางก็ถามหลิง เจี่ย“นายสามารถผนึกมันได้ไหม?”
“ฉันไม่เหลือพลังพอแม้จะวิ่งหนี....”หลิง เจี่ยส่ายหัว เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น เดิมทีเขาไม่ต้องการยั่วยุมังกรดำรวมถึงผู้ควบคุม เขาตั้งใจจะหนีไปหลังจากที่ฆ่าสองผู้คุ้มกันขององค์กรลี้ลับ โดยไม่คาดฝัน สองผู้คุ้มกันถูกฆ่าแต่พวกเขากลับไม่ได้รับอะไรเลย
เมื่อได้ยินคำตอบ หยาง หยางก็ไม่ลังเล เขาคว้าไหล่หลิง เจี่ยและถอยหนีทันที
“หากเราไม่สามารถทำอะไรได้อีก เราก็ควรจะขอให้ท่านปา หยานช่วย”หยาง หยางแนะนำขณะที่ถอยหนี“ตราบเท่าที่เขาสามารถฆ่ามังกรดำได้ เราก็จะสามารถเอาศพกลับไปได้!เมื่อเราผ่าศพมังกรดำ เราก็จะมีศพของชายสวมเกราะรวมถึงแหวนหัวใจจักรพรรดิ อย่างน้อย เราก็จะมีโอกาสได้รับสมองกึ่งเทพ50% เราจะไม่กลับไปมือเปล่า หากท่านปา หยานรู้ว่าผู้ควบคุมอยู่ไหน นั่นก็จะดี เราจะฆ่ามันกัน!”
“มียอดคนระดับจักรพรรดิที่มีเกรดAอยู่ ดังนั้น มีเพียงโอกาสเดียวสำหรับท่านปา หยานที่จะฆ่ามัน ทันทีที่เขาโจมตี ยอดคนทั้งหมดในเมืองไห่เทียนก็จะลงมือ หากการต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิเกิดขึ้น โดยไม่คำนึงถึงความเต็มใจ เราก็ต้องยุติภารกิจเรา มันจะดีหากเราสามารถเอาสมองกึ่งเทพในแหวนมาได้ หากเราไม่สามารถ มันก็จะถือเป็นภารกิจล้มเหลว”หลิง เจี่ยไม่เต็มใจยอมรับข้อเสนอของหยาง หยาง
“ตามสถานการณ์ปัจจุบัน ยังไงภารกิจเราก็ล้มเหลวอยู่ดี ทำไมเราไม่ลองเสี่ยงกันละ?อย่างน้อยก็มีโอกาส50% หากไม่ทำเช่นนั้น โอกาสล้มเหลวก็จะเป็น100% นายรู้ว่าเราเหลือเวลาไม่มาก นายไม่อาจต่อสู้ด้วยสภาพเช่นนี้ได้ โดยทั่วไป ฉันไม่อาจฆ่ามังกรดำได้เพียงลำพัง หน่วยงานดูแลเมืองอาจมาได้ทุกเมื่อ และเมื่อถึงตอนนั้น เราก็จะไม่มีที่ให้หนีอีก”หยาง หยางแสดงความคิดเห็น
หลังจากที่ฟังความคิดเห็น หลิง เจี่ยก็ลังเลอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้า“เอาละ อันที่จริง เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”
ทันทีที่พูดจบ หลิง เจี่ยก็ยกแขนขึ้นและเปิดใช้งานรอยสักอีกาม่วงบนหลังมือเขา
“ท่านปา หยาน...”
“ฉันเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น เธอแน่ใจนะว่าอยากให้ฉันช่วย?”เสียงทุ้มลึกดังขึ้นจากอีกฝั่งของรอยสัก“ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของระดับจักรพรรดิสามคนที่เมืองไห่เทียน ทั้งสามกำลังจับตามองฉัน เมื่อฉันโจมตี พวกเขาจะลงมือทันที ดังนั้น ฉันจะสามารถลงมือได้เพียงครั้งเดียว”
“ผมเข้าใจ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตอนนี้....”หลิง เจี่ยรู้ดี
“บอกแผนมา”ปา หยานเทียนเงียบไปสักพักก่อนจะถาม
“เราหวังว่าท่านจะช่วยเราฆ่ามังกรดำ ตราบเท่าที่มันตาย เราก็จะนำศพมันไปกับเราและจากไป ซึ่งหมายความว่าเราจะได้รับแหวนมาหนึ่งวง”จากนั้นหลิง เจี่ยก็บอกถึงแผน“หากท่านรู้ว่าผู้ควบคุมนั่นอยู่ไหน ท่านก็อาจจะฆ่าเขาและจับเขามาด้วยเช่นกัน มันเป็นไปไม่ได้มากว่าเขาจะมีแหวนหัวใจจักรพรรดิอีกวงอยู่กับตัว”
“ฉันได้มองผ่านหอประมูลอยู่หลายครั้งด้วยวิญญาณ แต่ทว่า ฉันก็ไม่พบผู้ควบคุมระดับนิรันดร์คนใด หากเขาอยู่ที่นี่ ก็มีเพียงสถานที่เดียวที่สามารถซ่อนตัวได้ซึ่งก็คือห้องVIP นั่นเป็นสถานที่เดียวที่ฉันไม่อาจตรวจจับได้ปา หยานเทียนบอกพวกเขาถึงผลการสืบสวน
“แม้กระทั่งท่านปา หยานก็ยังหาเขาไม่พบ?”หลิง เจี่ยตกใจ
“ใช่ ห้องนั้นถูกเสริมพลังโดยกึ่งเทพ มันสามารถป้องกันการตรวจจับจากทุกสิ่งมีชีวิตที่ต่ำกว่ากึ่งเทพได้ เมื่อพิจารณาถึงเบื้องหลังขององค์กรลี้ลับ มันก็ไม่แปลกหากพวกเขาจะสามารถขอความช่วยเหลือจากกึ่งเทพได้ โชคดี มันเพียงเสริมการป้องกันการตรวจจับแต่ตัวห้องไม่ได้แข็งแกร่ง แม้กระทั่งระดับนิรันดร์ก็ยังสามารถทำลายมันได้ เมื่อฉันโจมตี ฉันจะลองดูและหาว่าผู้ควบคุมอยู่ไหน”ปา หยานเทียนแนะนำ
“หลังจากที่โจมตี พวกเธอทั้งคู่ควรจะออกไปโดยเร็วที่สุดหลังจากที่เอาศพมังกรดำมา แม้พวกจักรพรรดิจะไม่ฆ่าเธอ แต่ก็ควรจะรู้ว่าผู้คนคิดยังไงกับอีกาม่วง มันยังเป็นไปได้ที่ทั้งสามอาจจะอยากฆ่าพวกเธอ”ปา หยานเทียนเตือน
“ขอบคุณที่เตือนเรา”เหตุผลที่ว่าทำไมหลิง เจี่ยจึงติดต่อกับเขาเพราะเขาต้องการสู้จนจบ แน่นอน เขาจะไม่อยู่หลังจากที่ปา หยานเทียนลงมือช่วยพวกเขา
หลังจากที่คุยจบ รอยสักบนหลังมือหลิง เจี่ยก็หายไป รอยสักถูกมอบไว้โดยปา หยานเทียนและมันสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว
“ท่านปา หยานสัญญาจะช่วยเรา?”เมื่อเห็นรอยสักหายไป หยาง หยางก็รู้ว่าการสนทนาจบลงแล้ว
“ใช่ เขาจะลงมือในไม่ช้า เราควรจะรอที่นี่และคอยเก็บศพทีหลัง เราต้องออกไปทันทีที่เขาลงมือ”
ในอากาศ ทั้งคู่ยังคงหลบการโจมตีจากเพลิงมังกรและโซ่พันธนาการต่อ
ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็มืดลง จากนั้นทุกคนก็เงยหน้าขึ้น มองท้องฟ้าที่จู่ๆก็เปลี่ยนแปลงไป
ทั้งหมดตื่นกลัว มือขนาดมหึมาปรากฏขึ้นระหว่างชั้นเมฆ มือใหญ่ปกคลุมเกือบครึ่งท้องฟ้า กดทับพื้นด้วยพลังอำนาจไร้สิ้นสุด มันเล็งไปที่เป้าหมายมัน ซึ่งก็คือมังกรนรก...