SGS บทที่ 59 – ความเข้าใจเกี่ยวกับโรงประมูลของโลลิน้อยล่ะ!
เมื่อวู่หยานเดินออกมา ภาพที่เขาเห็นคือ ฮินางิคุกับมิโคโตะที่ยังคงโดนลิลินลากไปดูนู่นนี้ทำยังกับว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ พวกเธอวิ่งไปทั่วร้านค้าใหญ่ๆแห่งนี้ดูราวกับเป็นภูติที่โผบินไปมาดูสวยงามและเพลินตาดีนัก
ที่นี่ไม่ได้มีเสื้อผ้าสวยๆหรือเครื่องประดับเล้อค่าอะไร แต่เต็มไปด้วยคริสตัลที่ดูเปล่งประกายงดงามเหมือนอัญมณีและพืชหญ้าสมุนไพรที่ดูมีอายุ ดังนั้นทั้งสามคนจึงสนุกสนานกันมาก จมจ่อไปกับความรู้สึกนี้โดยไม่หักห้ามใจเลย
แต่แน่นอนว่าพวกเธอไม่รู้ว่าตอนนี้ กำลังถูกวู่หยานมองด้วยใบหน้ายิ้มๆอยู่
“เอาล่ะพอแล้ว เราไปกันเถอะ!” ถึงเขาจะไม่อยากขัดพวกเธอที่กำลังสนุกกันเต็มประดา แต่ ณ ตอนนี้เขาตระหนักดีว่าผู้หญิงจะมีพลังงานไม่จำกัด ถ้าเขาไม่เอ่ยปากห้าม บางทีคงอยู่เล่นกันที่นี่ยันมืดค่ำ ดังนั้นวู่หยานเลยตัดสินใจหยุดพวกเธอซะ
“หืม?อ้าวหยาน มีอะไรรึเปล่า? ไม่ไปจัดการขายพวกวัตถุดิบนั้นแล้วเหรอ?” ได้ยินเสียงวู่หยาน ฮินางิคุกับมิโคโตะสองคนก็จูงมือลิลินเดินมาหาวู่หยาน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่ายังรู้สึกเล่นไม่หนำใจ
“อืม จัดการเสร็จแล้วหมดแล้ว!” เขาย่อตัวลงเอามือลูบหน้าผากลิลินที่มีเหงื่อออกเล็กน้อย
“งั้น เราจะไปไหนกันต่อ?” ปากพูดไปแต่สายตามิโคโตะก็ยังจ้องไปที่ตู้กระจกอย่างออกนอกหน้า โดยไม่คิดเก็บความตั้งใจเลย
เห็นสีหน้ามิโคโตะ วู่หยานยิ้มอย่างขมขื่นแบมือทั้งสองข้าง และพูดว่า “ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าเธอต้องการเดินสำรวจให้ทั่วทุกที่ แต่ฉันคงต้องพูดว่าขอโทษด้วย ตอนนี้เราต้องไปจองห้องที่โรงแรมกันก่อน(@เอาแล้วครับ!โรงแรมมาแล้ว!) ไม่งั้นคืนนี้คงต้องนอนกันกลางถนนแล้วล่ะ พวกเธอต้องรู้ก่อนว่าเมืองนี้ตอนกลางคืนไม่มีห้องว่างเลย!”
“ห้องเต็มทุกที่เลย?” ฮินางิคุยกนิ้วที่ขาวนวลจับคางตัวเอง มองวู่หยานด้วยแววตาสงสัย
ทั้งสี่คนมาถึงเมืองนี้ได้หลายชั่วโมงแล้ว ถึงแม้ตามทางจะมีผู้คนเยอะก็จริง แต่เธอมองออกว่าส่วนใหญ่เป็นคนประจำเมืองนี้ เพราะงั้นมันน่าจะมีบ้านอยู่เป็นของตัวเองสิ
คนในเมืองก็ควรมีบ้านเป็นของตัวเองใช่มั้ยล่ะ? พวกเค้าคงไม่ยกกันไปนอนที่โรงแรงกันหมดหรอกเนอะ?
ถ้างั้นแล้วเพราะอะไรทำไมมันถึงได้เต็มหมดแบบนี้?
บางทีอาจจะเป็นเพราะยังอยากเดินเที่ยวต่อ ดังนั้นจึงหาข้อสงสัย ท่านประธานสั่นจมูกน้อยๆของตัวเอง มองวู่หยานด้วยเครื่องหมายคำถามบนหัว
ได้ยินคำพูดฮินางิคุ มิโคโตะก็สงสัยเหมือนกัน กับลิลินด้วยกันสองคนแล้วก็ท่านประธานอีกคน ดวงตาสามคู่จ้องเขม็งมาที่วู่หยาน ราวกับว่าถ้าเขาไม่มีคำอธิบายดีๆ พวกเธอก็จะไม่ยอมแพ้แน่
นี่ทำให้วู่หยานพูดไม่ออกเลย และยังทำให้เขาเกิดความรู้สึกปลงจิตแบบสุดๆด้วย....
ไอ้นิสัยรักการช้อปปิ้ง มันแทบจะฝังอยู่ในสายเลือดของผู้หญิงทุกคน แม้แต่สองสาวทอมบอยก็ไม่มีข้อยกเว้น
ผู้หญิงนี่ช่าง....
“เอ่อ..นี่เป็นเพราะพวกเธอยังไม่เข้าใจกัน” ยกมือขยี้ผมบนหัวของลิลิน เขาทำเป็นเมินสีหน้าไม่พอใจปนชอบใจของเธอไป และเอ่ยว่า
“เวลากลางวันของเมืองนี้ ส่วนใหญ่จะมีแต่คนท้องที่เดินกันไปมา แต่ว่านะเมืองท่าแห่งนี้นั้นอยู่ติดกับป่าสัตว์อสูร ที่เป็นเมืองเดียวในโลกซิลวาเรียที่มีสัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนให้ล่า แล้วมันจะไปมีแค่คนธรรมดาได้ยังไงกันล่ะ จริงมั้ย?”
ได้ยินคำพูดวู่หยาน ทำให้ฮินางิคุกับมิโคโตะทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก สายตาเป็นประกายทันที
สองสาวเป็นคนฉลาดอยู่แล้ว พวกเธอเข้าใจได้ทันทีถึงสาเหตุที่ว่าทำไมโรงแรมถึงเต็มทุกห้อง เห็นสีหน้าสองสาว วู่หยานก็ยิ้มขึ้น และพูดต่อว่า “ใช่แล้ว เวลากลางวัน พวกนักรบไม่ก็นักเวทย์ที่พอจะมีพลังนิดหน่อยจะเข้าไปล่าในป่าสัตว์อสูรไงล่ะ!”
“แต่ทว่าเวลากลางคืน ผู้คนที่เก็บเกี่ยวกันได้แล้วย่อมต้องกลับมาหาที่พัก และเพราะเมืองนี้อยู่ใกล้ที่สุด ทำให้พวกเค้าต้องมาพักที่นี่ เพราะคงไม่มีใครอยากนอนในป่าหรอกนะ ด้วยเหตุนี้โรงแรมถึงได้เต็มตลอดเลยไงล่ะ!”
“ฉันเข้าใจแล้ว....” ฮินางิคุพยักหน้า แล้วสงยิ้มให้วู่หยาน ด้วยใบหน้าอันทรงเสน่ย์ที่เวลานี้ยิ่งงดงามกว่าเดิม ทำให้เขาอดใจเต้นไม่ได้
วู่หยานข่มกลั้นอารมณ์ไม่ให้ที่อยากเอามือไปจับแก้มท่านประธาน เชาสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อสงบสติ แล้วฉีกยิ้มอย่างเสแสร้ง “แหม ตอนแรกฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิมของฉัน เราไปหาโรงแรมกันเถอะ!”
อย่าคิดว่าวู่หนานพูดโกหก ช่วงแรกๆที่เขาทำภารกิจทหารรับจ้าง เป็นเพราะเขายุ่งมากๆในการฟาร์ม เลยมีหลายครั้งที่เขาต้องอยู่จนดึกดื่น และพอเขากลับเข้าเมืองมาก็ไม่มีโรงแรมไหนว่างสักห้องเลย สุดท้ายเขาก็ต้องจำใจไปนอนดูดาวกลางถนน.....
ถึงแม้การที่ต้องนอนบนถนนกับท่านประธานและพี่สาวเรลกันดูจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว บางทีอาจจะเกิดอีเว้นท์18+ก็ได้ แต่พอนึกถึงผลลัพธ์หลังจากอาบน้ำให้พวกเธอสองคนตอนนั้น เขาก็สันหลังเย็นวาบทันที รีบส่ายหน้าไล่ความคิดชั่วๆออกไปทันที
“งั้นเหรอ....” มิโคโตะถอนสายตากลับมาด้วยท่าทางผิดหวังเล็กน้อย
ท่าทางผิดหวังของมิโคโตะ วู่หยานก็มองอยู่ กระพริบตาปริบๆ แล้วพูดยิ้มๆว่า “อย่าหน้าเหมือนลูกหมาโดนทิ้งงั้นสิ หลังจากจองห้องได้แล้ว อีกไม่นานตอนกลางคืนก็จะมีเรื่องสนุกๆด้วยนะ!”
“เรื่องสนุกๆ?” มิโคโตะ ฮินางิค และ ลิลิน ได้ยินก็ตกใจ ลิลินจับมือวู่หยานแล้วมองหน้าเขาด้วยสายตาคาดหวัง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหวานๆ “โอนี่จัง เรื่องสนุกอะไรงั้นเหรอคะ? ช่วยบอกหนูหน่อยสิ....”
เมื่อได้ยินว่าจะมีเรื่องสนุกลิลินก็เกาะติดตัวเขาทันที และพอเขามองไปที่สองสาว ในแววตาพวกเธอก็เปล่งประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็นและคาดหวังด้วย วู่หยานกรอกตาพูดว่า “เหอะๆ ดูเหมือนว่าสำหรับพวกเธอเรื่อวสนุกๆดูจะสำคัญกว่าเรื่องที่เราจะไปซุกหัวนอนกันที่ไหนนะ...”
สามสาวเกาแก้มอย่างกระอักกระอ่วน แล้วส่งรอยยิ้มให้วู่หยาน บอกเป็นนัยๆว่าตนเองรู้แล้วว่าทำผิด จากนั้นก็ส่งสายตาที่มีหยาดน้ำปริ่มๆให้วู่หยาน ทำให้เขามองบน
“คืนนี้ เราจะเข้าร่วมการประมูลไงล่ะ!” วู่หยานพูน้ำเสียงเหนื่อยใจ
“ประมูล!” ลิลินได้ยินปุปก็กระโดดขึ้นๆลงๆอย่างตื่นเต้นทันที แล้วพูดกับวู่หยานด้วยน้ำเสียงมีความสุข “อ่า ประมูล! ที่โอนี่จังว่า ใช่แบบที่ลุงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงกลางเวทีแล้วมือข้างหนึ่งก็ถือค้อนไม้ ขณะที่ตะโกนนับเลขไปด้วย เป็นแบบนั้นใช่มั้ยโอนี่จัง?”
“.......” วู่หยานอึ้งไปชั่วขณะ เขามองโลลิที่กำลังกระโดดดึ๋งๆด้วยสีเหยเก เขาโดนเธอแย่งบทไปซะแล้ว.... ส่วนสองสาวได้ยินก็เบิกตากว้างไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างอ่อนหวานและด้วยความสุข
“มีอะไร? หรือที่ลิลินพูดมันไม่ถูกต้องงั้นเหรอ?” สองสาวหัวเราะหนักมากจนถึงขนาดต้องเอามือมากุมท้องกันแล้ว ทำให้วู่หยานไปไม่เป็นเลย ขณะเดียวกันลิลินก็โคลงหัวน้อยๆไปมาด้วยเครื่องหมายคำถามบนหัว และแลบลิ้นออกมาอย่างน่ารัก
ฮินางิคุกระแอ่มไอออกมาสองครั้ง เดินมาตรงหน้าลิลิน แล้วย่อตัวลงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสุข เธอยกมือวางบนหัวลิลิน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลิลิน การประมูลน่ะนะ คือการที่คนหลายคนไปซื้อสิ่งของกัน แล้วก็คนที่ยืนบนเวทีไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคุณลุงเสมอไปหรอกนะ บางทีอาจจะเป็นพี่สาวสวยๆก็ได้ และอีกอย่างคนดำเนินการประมูลก็ต้องตะโกนก่อนสามครั้งถึงจะจบการประมูลด้วยค้อนไม้ในมือนะ ไม่ใช่ครั้งเดียวหรอกลิลิน....”
“โอ้?” ไม่รู้ว่าเข้าใจรึเปล่า ลิลินน้อยหยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วพูดด้วยยิ้มกว้างว่า “งั้นคืนนี้ ที่เราไปที่นั่นก็เพื่อซื้อสิ่งของใช่มั้ยคะ?”
“ไม่จำเป็นต้องไปซื้อของหรอกนะ” มิโคโตะหยุดหัวเราและมองหน้าลิลิน “แต่ที่นั่นมันจะตื่นเต้นสุดๆเลยล่ะ!”
“ตื่นเต้น!” ลิลินอ้าปากน้อยๆ ก่อนจะหันไปหาวู่หยานด้วยความตื่นเต้นแบบสุดๆ เธอตะโกนว่า “โอนี่จัง โอนี่จัง หนูจะไปด้วย หนูจะต้องไปโณงประมูลที่น่าตื่นเต้น!”
“ได้ๆ พี่รู้แล้ว!” วู่หยานไว้อาลัยคุณลุงผู้โชคร้ายในใจสามวิ ก่อนจะจูงมือลิลินเดินไปที่ทางออก
“ไปกัน อย่างแรกเราต้องไปหาโรงแรมก่อน!”
ทั้งสี่คน เดินออกจากร้านค้า มุ่งตรงไปที่โรงแรม.....
ห้องสมุดคนรักนิยายแปล กลุ่มลับถึงตอน81