ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ตอนที่ 55-56 : คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (5-6)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 59-60 : คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (9-10)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 57-58 : คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (7-8)


ตอนที่ 57 – คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (7)

เธอยังเด็กมากในเวลานั้น.. จึงยังไม่คิดอะไรซับซ้อนเหมือนในตอนนี้ เธอไม่ได้สนใจเลยว่า.. ขณะที่เธอกำลังต่อรองกับอันธพาลพวกนั้น ถังหยวนไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

และเมื่อเธอบอกถังหยวนให้วิ่ง.. ถังหยวนกลับถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วก็หยุดนิ่ง เธอไม่แสดงทีท่าอะไร.. จริงๆแล้วในใจของถังหยวนนั้นเธอคิดถึงตัวเองก่อน เธอยินทีที่ซ่งจิงเฉินเสนอตัวเข้ามาปกป้องเธอ และเธอก็ภาวนาให้ซ่งจิงเฉินทำมากกว่านั้น ดังนั้นเมื่อเธอได้ยินซ่งจิงเฉินบอกเธอให้วิ่ง..

ถังหยวนกัดฟันและรีบวิ่งออกไป..

ซ่งจิงเฉินถอนหายใจเมื่อเห็นถังหยวนหนีไปได้อย่างปลอดภัย อย่างน้อยหนึ่งในพวกเธอก็ปลอดภัย และเธอเชื่อว่าถังหยวนจะต้องกลับมาช่วยเธอ

แต่กลับเป็นซูซินเหยินที่มาทันเวลาพอดี.. ช่วงนั้น.. เธอรู้จักกับซูซินเหยินมาสักพักแล้ว และคุ้นเคยกับนิสัยที่ตรงไปตรงมาของเขาเป็นอย่างดีดี และยังรู้อีกว่าคนที่โรงเรียนต่างก็เกรงกลัวเขา เธอแปลกใจมากเพราะในช่วงเวลานั้นซูซินเหยินไม่เคยทำอะไรให้เธอรู้สึกว่าเขาน่ากลัวเลย จนกระทั่งคืนนั้น.. ความคิดของเธอจึงเปลี่ยนไป เธอเข้าใจแล้วว่าเหตุใดผู้คนต่างพากันเกรงกลัวเขา

แม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี.. เมื่อเธอหลับตาลง ภาพความบ้าคลั่งของซูซินเหยินในคืนนั้นยังคงชัดเจน เขาเหมือนคนขาดสติ เขาคว้าทุกอย่างที่อยู่ใกล้มือ และปาใส่กลุ่มอันธพาล

ปกติแล้วกลุ่มอันธพาลพวกนี้ไม่ใช่คนที่จะไปล้อเล่นด้วยได้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พวกอันธพาลนั่นกลับหงอและไม่กล้าต่อกรกับซูซินเหยินที่จู่โจมอย่างไม่หยุดยั้ง เหตุการณ์ในคืนนั้นสร้างความสนใจให้กับตำรวจเป็นอย่างมาก -เขาหักขาคนถึงสองคน ส่วนคนอื่นๆนั้นได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง-

ซ่งเม็งวาต้องใช้เส้นสายหลายคน และเงินอีกจำนวนมากเพื่อช่วยให้ซูซินเหยินไม่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคุก และผลจากการแอบหนีไปเที่ยวบาร์ของซ่งจิงเฉินในครั้งนี้ ทำให้พ่อของเธอต้องอบรมและทำโทษเธออย่างจริงจัง เธอถูกกักบริเวณอยู่ในห้องหนึ่งวันเต็มๆ

จนถึงวันนี้.. เธอก็ยังเข้าใจว่าถังหยวนเป็นคนไปเรียกซูซินเหยินมาช่วย และเมื่อเธอถามซูซินเหยิน เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ

แม้เธอจะช่วยถังหยวนให้ปลอดภัยในคืนนั้น.. แต่หลังจากนั้นถังหยวนก็ทำตัวห่างเหินจากเธอโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างเธอกับถังหยวนนั้นเริ่มขึ้นอย่างจริงจังหลังการสอบเลื่อนชั้น เธอมีความต้องการที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับจินยี่หนาน และตั้งใจไว้ว่าจะสารภาพความรู้สึกที่เธอมีให้กับจินยี่หนาน แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำตามความปรารถนา จินยี่หนานกลับมาสารภาพกับเธอว่าเขากำลังตกหลุมรักสาวน้อยคนหนึ่งอยู่..

และเธอคนนั้นก็คือถังหยวน..

แน่นอน.. เธอรู้สึกอิจฉา แต่เธอก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลถึงขนาดต้องเกลียดถังหยวนเพียงเพราะจินยี่หนานชอบเธอ

แต่ที่เธอเกลียดถังหยวน.. เพราะถังหยวนบอกกับเธอว่า ถึงแม้เธอจะไม่ได้ชอบจินยี่หนาน แต่เธอก็จะไม่ปฏิเสธเขา เธอจะเก็บเขาไว้เป็นตัวสำรอง และเธอจะทำให้ซ่งจิงเฉินเห็นว่าจินยี่หนานเป็นแค่ลูกไก่ในกำมือของเธอ

ตั้งแต่นั้นมา.. เธอจึงได้รู้ว่าถังหยวนเกลียดเธอมานานแล้ว และความเกลียดชังนั้นก็ได้กัดลึกเข้าไปในหัวใจของเธอ

ในวันนั้น.. ถังหยวนก็ได้พูดกับเธอด้วยประโยคเดียวกันกับที่พูดกับเธอในเช้าวันนี้ “เธอรู้สึกยังไงบ้าง ที่ของของเธอถูกขโมยของไป?”

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา.. พวกเธอทั้งคู่ก็เปรียบเหมือนเจ้ากรรมนายเวรของกันและกัน เพราะไม่ว่าจะพบกันที่ใหนเมื่อไหร่ พวกเธอเป็นต้องโต้เถียงปะทะคารมกันเสมอ

แม่ของซ่งจิงเฉินเป็นผู้ประกาศข่าว ความปรารถนาในวัยเด็กของเธอคือการได้เป็นผู้ประกาศข่าวที่สวยและสง่างามเหมือนกับแม่

เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ถังหยวนมีความฝันแบบเดียวกับเธอหรือไม่.. อาจจะมีก็ได้ แต่ถึงอย่างไร.. ความสัมพันธ์ที่เลวร้ายระหว่างเธอกับถังหยวนตั้งแต่สมัยเรียน ก็ยังคงดำเนินมาจนถึงวันนี้ วันที่พวกเธอทั้งคู่ได้ทำงานในบริษัทเดียวกัน

 

ตอนที่ 58 – คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (8)

ตั้งแต่ที่พี่ยี่หนานคนที่เธอวิ่งตามตั้งแต่เริ่มหัดพูด ได้บอกกับเธอว่าเขาหลงรักถังหยวนนั้น เธอก็เก็บความรักของเธอไว้เป็นความลับอยู่แต่ในใจเพียงผู้เดียว

เธอยังจำได้เสมอว่า.. วันนั้นเธอเศร้าเพียงใดเมื่อหนุ่มน้อยที่เธอหลงรักมาหลายปี มาสารภาพกับเธอว่าเขามีคนที่แอบรักแต่คนคนนั้นกลับไม่ใช่เธอ

ดวงตาของซ่งจิงเฉินเริ่มแดงและมีน้ำตา เธอหยิบขวดไวน์ที่เตรียมมาเพื่อฉลองกับจินยี่หนาน เธอเปิดจุกออกและรินไวน์ให้กับตัวเองหนึ่งแก้วเต็มๆ

หลังจากพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่ยี่หนาน.. ในที่สุดเธอก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับเขาได้ แต่นั่นกลับกลายเป็นเหมือนนรกบนดินสำหรับเธอ เพราะเธอต้องพบเจอกับภาพที่จินยี่หนานเดินตามถังหยวนอยู่ทุกฝีก้าว

เธอรู้ดีว่านี่เป็นความต้องการของถังหยวนที่จะทำให้เธอรู้สึกแย่ ย้อนกลับไปในเวลานั้น.. นับครั้งไม่ถ้วนที่เธอแอบไปร้องไห้อยู่ตามมุมตึก และหลายครั้งที่เธอรู้สึกว่าเธอไม่อยากเรียนที่มหาวิทยาลัยนั่นอีกแล้ว แต่เมื่อเธอเตรียมตัวจะยื่นจดหมายให้กับทางมหาวิทยาลัย จินยี่หนานก็ถูกเรียกเข้ากรมเสียก่อน

หลังจากที่จินยี่หนานเข้ากรมไปหนึ่งปี.. เธอก็ได้ข่าวจากเพื่อนๆของเธอว่าเขาอกหักจากถังหยวนแล้ว ความหวังที่ได้ตายจากหัวใจของเธอไปแล้วได้ฟื้นกลับคืนมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เธอรอคอยเขากลับปักกิ่งด้วยความอดทน รอคอยเขากลับมาบ้าน.. และในที่สุดเขาก็กลับมา แต่ฝันร้ายก็เกิดขึ้นกับเธออีกครั้ง

ซ่งจิงเฉินกระดกแก้วไวน์แดงราวกับน้ำเปล่า.. แต่ยิ่งเธอเมามากเท่าไหร่ เธอกลับยิ่งรู้สึกเศร้ามากขึ้นเท่านั้น เธอไม่เพียงเสียใจที่จินยี่หนานทอดทิ้งเธอ แต่ยังเจ็บใจที่แหล่งข่าวที่เธอสร้างมากับมือกว่าสองปี ถูกถังหยวนขโมยไปจนหมดสิ้น พี่ชายที่จะคอยออกโรงปกป้องเธอเสมอในยามที่เธอถูกรังแกก็ฆ่าตัวตายไปแล้ว และเธอยังขายตัวเองให้กับผู้ชายที่เธอไม่ได้รักเพื่อรักษาซ่งเอ็มไพร์...

ซ่งจิงเฉินปาแก้วทิ้งไป.. และกระดกขวดไวน์ขึ้นดื่มแทน ไวน์ในขวดไหลผ่านลำคอเธอไปอย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็สำลักและไอจนตัวงอ..

หกโมงเย็นแล้ว.. เวลาอาหารเย็นใกล้จะเริ่มขึ้น เมื่อยังไม่เห็นซ่งจิงเฉินออกจากห้อง พนักงานเสริฟก็เปิดประตูเข้าไปดูอีกครั้ง เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า.. พนักงานเสริฟจึงรีบเข้าไปช่วยลูบหลังของซ่งจิงเฉินเพื่อให้อาการไอทุเลาลง

เมื่ออาการดีขึ้น.. ซ่งจิงเฉินจึงค่อยๆลุกขึ้นยืน และผลักพนักงานเสริฟเบาๆไม่ให้ยืนขวางทางเธอ เธอคว้าขวดไวน์ขึ้นมากระดกรวดเดียวจนหมด แต่ไวน์ในขวดก็เหลือเพียงหยดสองหยด.. เธอหันไปทางพนักงานเสริฟและสั่งพร้อมกับหัวเราะคิกคัก.. “ช่วยเอาไวน์มาเพิ่มให้ฉันอีกขวดสิ”

ซ่งจิงเฉินจำไม่ได้ว่าคืนนั้นเธอดื่มไปทั้งหมดกี่ขวด อาจจะสามหรือสี่.. หลังจากดื่มไปขนาดนั้น โลกของเธอก็หมุน ทุกอย่างก็กลับข้างไปหมด – ทิศเหนือเป็นทิศตะวันออก ทิศตะวันตกเป็นทิศใต้ และเขย่าโคมไฟผนังที่ห้องอย่างแรง เพราะเข้าใจว่ามันคือพนักเสริฟ แล้วตะโกนสั่งอย่างดังว่า “ไปเอาไวน์มาอีกขวด!”

พนักงานเสริฟรีบวิ่งเข้ามาในห้องเมื่อได้ยินเสียงโวยวาย.. เมื่อเขาเห็นสภาพของเธอ เขาก็ไม่กล้าให้เธอดื่มอีก พนักงานเสริฟบอกกับเธออย่างใจเย็น “คุณผู้หญิงครับ.. คุณเมามากแล้ว จะให้เราโทรเรียกเพื่อนของคุณมารับไม๊ครับ?”

ซ่งจิงเฉินไม่สนใจพนักงานเสริฟ.. เธอพึมพำซ้ำไปซ้ำมา “ไวน์.. ไวน์.. ไปเอาไวน์มา..”

ขณะที่พนักงานเสริฟเริ่มจะหมดความอดทน โทรศัพท์ของซ่งจิงเฉินที่วางอยู่ก็ดังขึ้น..

ซ่งจิงเฉินที่เมาปลิ้นอยู่นั้น.. ใช้มือควานหาโทรศัพท์บนโต๊ะแต่ก็หาไม่เจอ และท้ายที่สุดพนักงานเสริฟก็หยิบโทรศัพท์มาวางไว้ในมือให้เธอ ซ่งจิงเฉินจ้องหน้าจอโทรศัพท์ และก็นึกขึ้นได้ว่ามันเสียงนาฬิกาปลุก เธอหันกลับไปมองพนักงานเสริฟพร้อมพูดตะกุกตะกัก “เกือบทุ่มตรงแล้วสินะ ได้เวลากลับไปลงนรกแล้ว...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด