ตอนที่ 233 ดาบชื่อว่า 'ไร้ร่องรอย' (FREE)
มีคำพูดที่เก่าแก่ประโยคนึงที่ว่า คนๆหนึ่งอาจจะเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์จากสะพาน แต่คนที่จะเพลิดเพลินกับมันได้คงมีแต่เพียงผู้ที่อยู่บนหอคอยสูง
ในตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกแบบนั้น ก่อนหน้านี้เขาเป็นเพียงผู้ชม
แม้จะมีการเปลี่ยนคน แต่ผลลัพธ์นั้นคงเหมือนเดิม
"ออกมาเดี๋ยวนี้ ข้าขอสั่ง!" ฟาง เจิ้งจือ จับด้ามดาบแน่น จากนั้นเขาก็ดึงมันขึ้นด้วยมือทั้ง 2 ข้าง
อีกครั้ง!
อีกครั้ง ...
...
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจ้องมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขาไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังเล่นอะไรอยู่ แต่ดาบไม่ขัยบแม้แต่น้อย
"เขาเล่นอะไรอยู่น่ะ?" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามอย่างสงสัย
"เป็นไปได้ไหม...เขาอาจจะดึงดาบไม่ออก?" เจ้าหน้าที่อีกคนกล่าวพูด
"มันจะเป็นไปได้ยังไง? ดาบถูกเสียบลงไปในพื้นดินด้วยฝีมือของเขา เขาจะทำไม่ได้ได้ยังไงกัน? ดาบได้เลือกเขาแล้ว! "
"เขากล้าท้าทายคำสั่งขององค์จักรพรรดิจริงๆหรือนี่?"
เจ้าหน้าที่ต่างถกเถียงกัน
ความเป็นไปได้มีเพียงสองอย่างเท่านั้น ข้อแรก ฟาง เจิ้งจือ ปฏิเสธคำสั่งของจักรพรรดิ และข้อสอง ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถดึงดาบออกมาได้
ท้าทายคำสั่ง?
นั่นเป็นไปไม่ได้เลย แม้ ฟาง เจิ้งจือ จะมีความกล้าแต่เขาจะทำไปเพื่ออะไร...
"เป็นไปได้มั้ย ...ที่เขาไม่ใช่เจ้าของ?! "
เมื่อเจ้าหน้าที่คนนี้พูดขึ้นทุกคนเริ่มมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
ก่อนหน้านี้ หวัง ฉง และแม่ทัพจินเองก็ได้พยายามที่จะดึงดาบออก
เหยียน ซิว ซิง ฉิงซุย และคนอื่นๆเองก็เริ่มรู้สึกกังวล เมื่อเห็นว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถดึงดาบออกมาได้ ทำไมนานขนาดนี้?
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ราชาต้วนเริ่มแสดงท่าทางออกมาอย่างเคร่งขรึม พวกเขาได้โอกาสแล้ว เพราะว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถดึงดาบออกมาได้
ท่าทางของราชาหลี่ฉินยังเหมือนเดิม ความรู้สึกที่มาจากแววตาของเขามันต่างออกไปจากแววตาของ ฉือกูเหยียน ดวงตาของนางส่องประกายเหมือนดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน ในทางกลับกันแววตาของเขากลับแข็งทื่อราวกับรูปปั้น
ทุกคนมองที่ ฟาง เจิ้งจือ
รวมถึง ฉือ กูเหยียน แววตาของนางส่องประกาย นางมั่นใจได้เลยว่า ฟาง เจิ้งจือ พยายามมอย่างมากที่จะดึงดาบออก แต่ผลดันไม่เป็นไปตามที่คาด
"มีคนทำอะไรบางอย่างกับมัน?" ฉือ กูเหยียน เลิกคิดเรื่องนี้โดยทันที ไม่มีใครสามารถทำเรื่องแบบนั้นต่อหน้าราชาหลี่ฉินและองค์จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ ได้แน่
ดังนั้น...
เขาไม่สามารถดึงมันออกได้?
ฟาง เจิ้งจือ ยังคงพยายามดึงดาบออก เขาพยายามอีกครั้ง ...อีกครั้ง แต่ดาบไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย สายลมที่หนาวเย็นพัดผ่านใบหน้าของเขา
หลังจากเวลาผ่านไปความรู้สึกของจักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ เริ่มเปลี่ยนไป ในฐานะจักรพรรดิเขาไม่สามารถรีบเร่ง ฟาง เจิ้งจือ ได้ ทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้คือการมองไปทางรัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ยู่ ยี่ปิง
ยู่ ยี่ปิง เข้าใจทันทีว่าจักรพรรดิต้องการอะไร เขาก้าวออกมาว่า "ฟาง เจิ้งจือ ราชาหลี่ฉินมีอายุที่มากแล้ว อย่าปล่อยให้เขาต้องรอนาน "
"รีบดึงดาบออกมาได้แล้ว!"
"ฟาง เจิ้งจือ เจ้ากล้าขัดคำสั่งองค์จักรพรรดิหรือ?"
เจ้าหน้าที่บางคนเริ่มโห่ร้อง
ฟาง เจิ้งจือ เริ่มเหงื่อตก เขาต้องการที่จะดึงดาบออกมาโดยเร็ว แต่มันไม่ขยับเลย
เขาควรทำยังไงดี?
"เร็วเข้า เลิกเล่นได้แล้ว "
"ถ้าเจ้ายอมออกมา ข้าจะพาไปดูทิวทัศน์ที่สวยงาม! โลกนี้แสนกว้างใหญ่ มันคงน่าเบื่อไม่น้อยเลยที่เจ้าต้องอยู่ที่นี่คนเดียว "
ฟาง เจิ้งจือ ยังคงพูดกับดาบอย่างไร้เหตุผล
การแสดงออกของใบหน้าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อได้ยินคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ เขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร?
"เราผ่านอะไรด้วยกันมามาก คิดถึงตอนที่ข้าพาเจ้าออกมาจากโลกแห่งเซียนสิ นั้นหมายความว่าเราจะอยู่ด้วยกัน เคียงข้างกัน ไม่ใช่ความคิดที่ดีรึ? " ฟาง เจิ้งจือ ยังคงมองข้าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ
ทุกคนรู้สึกท้อแท้เมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ เขากำลังพูดกับดาบอยู่? แม้ว่าดาบจะมีจิตวิญญาน แต่สามารถเข้าใจภาษามนุษย์ได้ด้วยรึ?
เจ้าหน้าที่ทุกคนหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตาม ปิง หยาง เหยียน ซิว และคนอื่นๆต่างไม่ได้คิดเช่นนั้น
พวกเขาได้เห็น ฟาง เจิ้งจือ ทำเรื่อง 'ไร้สาระ' แบบนี้มาแล้ว เพื่อที่จะเรียกดาบออกมา ฟาง เจิ้งจือ ได้ทำแบบเดิม
"เจ้าไม่อยากจะออกมางั้นรึ? เจ้าอยากฟังเรื่องราวของข้าอีกสักเรื่องไหม เอาเป็นเรื่อง หวู่ ซ่ง?" ฟาง เจิ้งจือ มองอย่างหวาดระแวง
"ฮึ่ม!" ดาบไร้ร่องรอย ฮัมเสียงบางอย่าง
เชี่ยเอ้ย... ฟาง เจิ้งจือ พูดไม่ออก ที่นี่คือโถงบัลลังก์นะ! มีดาบที่หยิ่งจองหองแบบนี้ด้วยรึ จงใจใช่ไหม?
แย่ที่สุด...
ฟาง เจิ้งจือ เริ่มเล่านิทานต่างๆ
"ฟาง เจิ้งจือ เจ้าคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่? เจ้าจะขัดคำสั่งใช่ไหม? " ยู่ ยี่ปิง เริ่มต่อว่าในขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะสนุกสนาน
ฟาง เจิ้งจือ กำมือแน่น แต่เขาไม่มีทางเลือก
"ฝ่าบาท สามัญชนของท่านผู้นี้จำเป็นต้องเตรียมการบางอย่าง"
"เตรียมการรึ?" จักรพรรดิ หลิน มู่ไป รู้สึกสับสนในคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ
"ใช่แล้ว เหมือนกับที่ต้องอิ่มท้องก่อนออกรบ ข้าจำเป็นต้องเตรียมการก่อนที่จะดึงดาบออก" ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
"หืม ...เชิญทำ" องค์จักรพรรดิ พยักหน้า
เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้พูดอะไร เตรียมการอะไรกัน?
ฟาง เจิ้งจือ เริ่มเล่าต่อโดยไม่ลังเล
"หลังจากที่ หวู่ ซ้ง ฆ่าเสือลงได้เขาก็ได้กลายเป็นตำรวจของจังหวัด ...กลายเป็นตระกูลที่มีอำนาจของจังหวัด มีสาวรับใช้ชื่อ ป่าน จินเหลียง นางอายุ 20 ต้นๆ ผู้นำตระกูลต้องการให้นางกลายมาเป็นนายหญิงของเขา แต่นางไม่ต้องการเช่นนั้น นางไปรายงานเรื่องนี้กับภรรยาของผู้นำ ผู้นำโกรธจัดมาก ... "
ฟาง เจิ้งจือ เล่าเรื่องราวต่อไป
เจ้าหน้าที่ทุกคนเริ่มรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม เรื่องราวนี้คืออะไร? ทำไมเราต้องมาฟังเรื่องนี้?
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เล่าไปถึงตอนที่ ป่าน จินเหลียง ถูก ซีเมิ่ง ฉิง ล่อลวง
ปิง หยาง โกรธเลือดขึ้นหน้า, "ผู้ชายคนนี้ไร้ยางอายได้อย่างไม่น่าเชื่อ!"
ฉือ กูเหยียน เองก็ไม่อยากเชื่อหูของนาง
นางรู้ดีว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนไร้ยางอาย แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเล่าเรื่องแบบนี้กลางโถงบัลลังก์ เขายังมีหน้ามาเรียกเรื่องนี้ว่าการเตรียมการอีก?!
มันไม่น่าเชื่อ
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็โกรธเพราะสิ่งที่ได้ยิน เขานี้เป็นผู้ชนะของการทดสอบด้านปัญญาได้ยังไงกัน?
"ข้าไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนี้!"
"คนๆนี้เป็นความอัปยศของนักปราชญ์ทุกคน!"
"นี่เป็นการดูถูกวัฒนธรรมประเพณีของเรา!"
เจ้าหน้าที่ทุกคนโกรธมาก ถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดิทรงให้เขาเล่าต่อล่ะก็ ...
จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ ยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่เขาได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ เล่าเรื่องราวต่อไป
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจพวกเขาทั้งหมด นี้เป็นเรื่องราวสุดคลาสสิกในโลกก่อนหน้าของเขา มันไม่เห็นน่าอายตรงไหน?
ฟาง เจิ้งจือ เล่าต่อ
จักรพรรดิและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ถูกบังคับให้ฟังอยู่ข้างๆ
ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็เล่ามาถึงตอนที่ หวู่ ซ้ง ได้ฆ่า ซีเมิ่ง ฉิง ในบ้าน และได้ทิ้งร่องรอย คราบเลือดเอาไว้มากมาย ทุกคนเริ่มหลงในเสน่ห์ของเรื่องราวนี้และเริ่มแอบชื่นชมมัน
ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายกับเรื่องเล่าของ ฟาง เจิ้งจือ อย่างไม่น่าเชื่อ
ตอนนั้นเอง จู่ๆกมีเสียงคร่ำครวญเบาๆดังขึ้น แสงส่องประกายลงมาจากท้องฟ้า สาดส่องไปที่มือของ ฟาง เจิ้งจือ มันคือดาบไร้ร่องรอย
"ออกมาแล้ว!"
"เกิดอะไรขึ้น?"
"เรื่องนี้มัน ...ไม่น่าเชื่อ!"
"นี่เป็นเรื่องราวสำหรับทุกเพศทุกวัย!"
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นดาบไร้ร่องรอย ในมือของ ฟาง เจิ้งจือ ทำไมดาบถึงหลุดออกมาหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวนั้นกัน?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ข้องใจที่จะอธิบายเรื่องนี้ เขาค่อยๆถือดาบและเดินไปทางประตูของโถงบัลลังก์ จากนั้นก็วางดาบไว้บนมือของราชาหลี่ฉิง
"ท่านราชา ดาบเล่มนี้มีชื่อว่า ' ไร้ร่องรอย ' !"
"ไร้ร่องรอย?!"
"เขามองไม่เห็นรอยแผลเป็นสีม่วงนั้นหรือไงกัน?"
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเห็นรอยแปลกๆ สีม่วงบนตัวดาบ พวกเขาทั้งหมดสับสน ใครเป็นคนตั้งชื่อดาบกัน?
ราชาหลี่ฉิง มองดาบที่อยู่ในมือ เขากวาดสายตาไปตั้งแต่ด้ามดาบไปจนถึงรอยแผลสีม่วงที่ส่วนปลาย ในที่สุด แววตาของเขาก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา
"ข้ารู้แล้ว!"
คำพูดของราชาหลี่ฉิน ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับดาบในมือ แต่ ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าราชาฉี่หลินนั้นต้องการอะไร
เขาจำภาพหลอนที่เคยเห็นหลังจากถือดาบเล่มนี้ได้ ทั้งพลังและคำสาป...
"ข้ารักชีวิตของข้า และข้าก็รักความยุติธรรมเช่นกัน อย่างไรก็ตามถ้าข้าไม่ได้รับมันทั้งคู่ ข้าก็เต็มใจที่สละชีวิตเพื่อความยุติธรรม" นี่คือสิ่งที่ถูกกล่าวโดยนักปราชญ์จีนโบราณ ฟาง เจิ้งจือ ใช้คำพูดนี้เพื่ออธิบายว่า เมิ่ง เทียน ยอมทิ้งดาบเล่มนี้เพื่อความชอบธรรม
"หืม?" ดวงตาของราชาฆลี่ฉิน เปล่งประกายเมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ พูด จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา "ข้าคิดว่าองค์จักรพรรดิแค่ได้รับดาบที่ดี ข้าไม่เคยคิดว่าเขาจะได้คนที่มีความรู้มาด้วย! ..."
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็งงงวยกับบทสนทนาระหว่าง ฟาง เจิ้งจือ และ ราชาหลี่ฉิน
ฟาง เจิ้งจือ เอาดาบให้ ราชาหลี่ฉิน แต่เขากลับไม่ได้วิจารณ์มันและพูดเพียงว่า 'ข้ารู้แล้ว' จากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็พูดอะไรบางอย่าง เลยได้รับการสรรญเสริญ
โลกนี้เกิดอะไรขึ้น?
ราชาหลี่ฉิน เป็นเสาหลักแห่งความสำเร็จของจักรพรรดิองค์ก่อน เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับทางการเมือง การปรากฎตัวของเขาเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด ยิ่งการกล่าวชม ฟาง เจิ้งจือ
ทุกคนต่างงงวยกับสิ่งที่เห็น
หลังจากนั้นเรื่องน่าตกใจก็เกิดขึ้น, ราชาหลี่ฉิน
จากไป!
จากไปพร้อมกับ ฉือ กูเหยียน
เขาไม่ได้เอาดาบมาจาก ฟาง เจิ้งจือ รวมทั้งไม่ได้มองมันแม้แต่น้อย แต่เขากลับจากไปด้วยความพอใจ
เขาไม่ได้พูดว่าตัวเองชอบดาบงั้นรึ?
แล้วทำไม ฉือ กูเหยียน จึงจากไปด้วย? อะไรคือแรงจูงใจของนางในการมาที่ประชุมครั้งนี้? นางไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย
ราวกับเป็นผู้ชม
อย่างไรก็ตาม วันนี้นางสวมชุดเจ้าหน้าที่ไม่มีทางที่นางจะมาเป็นผู้ชม
แต่นางกลับออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ...
เจ้าหน้าที่มองหน้ากันไปมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามมีบางคนที่ดวงตาเป็นประกาย รวมถึงยู่ ยี่ปิง
"ผู้ที่บนจุดสูงสุดบนทำเนียบมังกรช่างชาญฉลาดจริงๆ!" ยู่ ยี่ปิง ยิ้มกว้าง "นางทำตามความปรารถนาขององค์จักรพรรรดิ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำนางจะอยู่ฝั่งใครในศึกชิงบัลลังก์ครั้งนี้? "
ยู่ ยี่ปิง ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาสังเกตุเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปขององค์จักรพรรดิ
แม้ว่าราชาหลี่ฉิน จะพูดคลุมเคลือ แต่ก็ค่อนข้างชัดเจน ดาบที่ดี และคนที่ยอดเยี่ยม
รวมถึง ฉือ กูเหยียน ต่อให้นางไม่พูดอะไรออกมา ท่าทีของนางก็เห็นได้ชัดเจน
ฟาง เจิ้งจือ เจ้าทำได้ดีมากในการแสดงดาบให้พวกเราดู นอกจากนี้ยังฆ่าปีศาจ หยิง ซาน ในระหว่างการทดสอบ, ปกป้อง องค์หญิง ปิง หยาง รวมถึงชนชั้นสูงคนอื่นๆเจ้าหน้าที่หลายคนต้องการมอบรางวัลให้เจ้า ในฐานะองค์จักรพรรดิ ข้าขอตอบแทนเจ้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นเจ้าจะถูกแต่งตั้งเป็น "ฑูตแห่งดาบ" ของอาณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่ รวมถึงจะได้รับทองแท่ง 1000 แท่ง! "
เสียงขององค์จักรพรรดิดังก้องไปทั่ว ยู่ ยี่ปิง ได้คาดการณ์เรื่องทั้งหมดไว้ แต่เขาไม่ได้คาดการว่าองค์จักรพรรดิจะแต่งตั้ง ฟาง เจิ้งจือ เป็น ฑูตแห่งดาบ
เพจหลัก : Double gate TH