ตอนที่ 17 มันก็แค่เด็กนักเรียนธรรมดา
ตอนที่ 17 มันก็แค่เด็กนักเรียนธรรมดา
แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ปัญหาจริงๆก็คือ มันอยู่มานานแค่ไหนแล้วมันได้ยินอะไรไปบ้าง?
เขาผู้ซึ่งอยู่ระดับแก่นแท้ปราณทองคำ แต่เขากลับไม่สามารถรับรู้คลื่นพลังวิญญาณของเด็กระดับแรกเริ่มลมปราณที่อยู่ข้างๆเขา? ชิวหยิงรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผล
“เธออยู่มานานแค่ไหนแล้ว?” หยดเหงื่อไม่กี่หยดเริ่มไหล่รินภายใต้หน้ากาก
หวังลิ่งกระโดดลงมาจากจุดที่เขาเคยอยู่ เขาปัดฝุ่นออกจากกางเกง และจ้องไปที่ชิวหยิง “ตั้งแต่ประโยค หัวหน้า วันนี้ลมช่างรุนแรง”
เสียงเรียบๆของหวังลิ่งดังขึนภายในหัวของชิวหยิงทำให้เขาตกใจอีกครั้ง [นักเรียนระดับแรกเริ่มลมปราณใช้วิชาโทรจิตได้?]
“...” เขาคิดว่าเขาค่อยมาหาคำตอบทีหลังหลังจากเขาฆ่าไอเด็กคนนี้แล้ว
เขาเพ่งสายตาไปที่หวังลิ่ง – ไอเด็กคนนี้มันก็ดูเหมือนแค่เด็กนักเรียนทั่วไป แต่ไม่รู้ทำไมเขาจึงได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง
เมื่อคนเกิดอาการตื่นเต้น พวกเขาจะหลั่งอดรีนาลีน (adrenaline)* สำหรับผู้ฝึกตนพวกเขาสามารถปล่อยแรงกดดันวิญญาณออกมาเพื่อข่มขู่ศัตรูและในขณะที่แรงกดดันวิญญาณเกิดการปะทะกันจะทำให้พวกเขาประเมิณพลกำลังของอีกฝ่ายได้
นี่เป็นแค่โรงเรียนสำหรับเด็กระดับแรกเริ่มลมปราณ ไม่มีทางที่พวกเขาจะยืนหยัดต้านแรงกดดันวิญญาณนี้ได้
ชิวยิงพูดปลอบใจตัวเอง
*ฮึด!* เขาปลดปล่อยคลื่นพลังวิญญาณไปหาหวังลิ่ง
จงหวาดกลัวซะเด็กน้อย!
คุกเข่าและยอมแพ้ซะ!
…
…
1นาทีผ่านไป
“...” หวังลิ่งเหลือบตาไปมองทางเขาอย่างเฉยเมย
ชิวหยิงตกใจอย่างมาก นั่นมันพลังวิญญาณของเขาทั้งหมดที่ปล่อยออกไป ทำไมมันถึงทำอะไรไม่ได้เลย!
ช่างหัวพลังกดดันวิญญาณมัน
เขาสามารถสร้างภูเขาจากกองกระดูกของเหยื่อที่เขาฆ่ามา เขาไม่คิดว่าศัตรูคนแรกที่ทำให้เขาพบเจอความยากลำบากนี้จะเป็นแค่เด็กนักเรียนมัธยม
เขาแค่เพียงจ้องไปที่หวังลิ่งทำให้เขาถึงกับเหงื่อไหล
นั่นก็แค่เด็กมัธยมธรรมดาทำไมถึงทำให้เขาตื่นกลัวเช่นนี้
ทันใดนั้นเอง ชิวหยิงเคลื่อนตัวเข้าประชิดและปล่อยหมัดไปยังหวังลิ่ง
การต่อสู้จริงก็ยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทดสอบพลกำลังฝ่ายตรงข้าม!
บางทีไอเด็กคนนี้อาจจะแค่เกิดมาพร้อมความบกพร่องในการรับรู้แรงกดดันวิญญาณ... แต่หมัดของเขานี่สิของจริง - ผู้ฝึกตนระดับแรกเริ่มลมปราณสามารถถูกฆ่าได้ด้วยเพียงหมดเดียว ไม่ต้องพูดถึงนักเรียนชั้นมัธยมที่ยังไม่เคยฝึกการต่อสู้จริง เพราะการต่อสู้จริงเป็นวิชาที่สอนสำหรับคนที่สำเร็จขั้นแก่นแท้ปราณทองคำในระดับมหาวิทยาลัย
ชิวหยิงรู้สึกสงสารหวังลิ่ง เขายังเป็นแค่นักเรียนระดับมัธยมปลาย และเป็นอนาคตของชาติ เขายังไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าเลย ยังไม่ได้เห็นภูเขาและแม่น้ำที่สวยงาม ยังไม่ได้ตกหลุมรักใคร... เพียงเพราะเขาไปบังเอิญยุ่งเรื่องชาวบ้าน
“ซาโยนาระ...” นักฆ่าชิวหยิงถอนหายใจ เล็งหมัดไปที่หน้าอกของหวังลิ่ง
“...”
หวังลิ่งไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาแม้แต่นิดเดียว เอาจริงๆ เขาต่างหากที่ต้องรู้สึกเสียใจต่อชิวหยิง ผู้ฝึกตนที่ยังไม่ถึงระดับแก่นแท้วิญญาณ เขายังไม่ได้รับชื่นชมกับกับการฝึกสำเร็จระดับวิญญาณก่อกำเนิด ยังไม่ได้รับรู้ประสบการณ์ที่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างแก่นแท้วิญญาณ ยังไม่ได้ค้นพบความจริงของหยินหยางในระดับวิญญาณผันแปร และความสุขที่ได้ก้าวผ่านสู่ความเป็นอมตะในระดับข้ามผ่านขีดจำกัด... เพียงเพราะว่าเขาต่อยหวังลิ่ง เขากำลังจะกลายเป็นคนพิการ”
*เป๊ง!*
หมัดที่ต่อยเข้าไปที่หน้าอกของหวังลิ่งส่งเสียงเหมือนตีระฆังขนาดยักษ์ สะเทือนไปถึงพื้นของดาดฟ้าจนทำให้เกิดรอยแตกบนพื้น
แต่ถึงกระนั้นหวังลิ่งก็ยังคงยืนดั่งก้อนหินไร้อารมณ์ความรู้สึก
เมื่อสิ้นเสียงร่างชิวหยิงกระเด็นกลับไปเลือดไหลออกจากปากดั่งน้ำพุ
เขามีเลือดออกจากทวารทั้ง7และล้มลงบนพื้น ใบหน้าบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดทั้งภายในและภายนอกร่างกาย กระดูกทุกชิ้นของเขาแตกละเอียด
[มะ...มันเกิดอะไรขึ้น?]
ชิวหยิงรู้สึกเหมือนเขาต่อยโดนเหล็กวิเศษ เหมือนกับปาไข่ใส่ก้อนหิน -ในตอนที่หมัดของเขากระทบหน้าอกหวังลิ่ง กระดูกของหมัดเขาแตกละเอียดในทันที
[นั่นมันแค่เด็กมัธยม... ทำไมมันถึงมีร่างกายแข็งแกร่งขนาดนี้?! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันวะ!]
เป็นความคิดเฮือกสุดท้ายของหัวหน้านักฆ่าคนนั้นก่อนที่เขาจะสลบไป
...................
นักฆ่าระดับโบว์แดงขององค์กรเงาสายธารที่มีชื่อเสียง และเป็นหนึ่งในนักฆ่าที่มีชื่อเสียงในกลุ่ม 3พี่น้องไร้รัก
3พี่น้องไร้รัก พี่คนโตคือ ชิวหยิง คนกลางคือ ชิวเฟง และคนเล็กคือ ชิวเหยียน
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ 3พี่น้องได้เข่าขวัญของคนทั้งโลกและวงการนักฆ่า ไม่มีใครเลยที่จะไม่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของพวกเขา
แต่ก็ไม่มีใครนึกถึง ว่าพี่ใหญ่ของ3พี่น้องไร้รักจะตายก่อนที่จะทันได้เริ่มงานของเขา...
.....................
ขณะนี้เป็นตอนกลางวัน เวลาพักทานอาหารกลางวันของโรงเรียน ซึ่งปกติจะต้องเกิดสงครามความวุ่นวายย่อมๆภายในโรงอาหาร
แต่เนื่องจากการระบบรักษาความปลอดภัยเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ทุกคนต้องอยู่ภายในห้องเรียน โดยที่อาหารจะถูกส่งมาถึงหน้าห้องเรียนแทบที่จะไม่ต้องทำอะไร เป็นผลให้เหล่านักเรียนบ่นออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “เบื่อจะตายอยู่แล้ว”
อาจารย์ป่านกำลังนั่งตรวจการบ้านของนักเรียนด้วยความรวดเร็วในวิชายันต์เต๋าของเธอ
เพราะจดหมายขู่ขององค์กรเงาสายธารจึงทำให้คลาสเรียนวิชาพละถูกยกเลิก ทำให้เธอสามารถสอนวิชายันต์เต๋าได้เยอะ
เช็นเฉานั่งหมุนปากกาเล่นด้วยความเบื่อ กัวหาวกำลังเล่นกับนกแก้วของเขา ทั้งคู่ดูราวกับว่ากำลังจะตาย – เพราะพวกเขาใช้เวลาทั้งช่วงเช้าในการเขียนยันต์! มันโคตรจะน่าเบื่อ! ทำไมพวกเขาจึงเขียนมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุดไม่หย่อนสักที? มันจะช่วยให้พวกเขาได้เกรดSSSในการสอบวิชานี้หรือ?
ไม่ใช่เพียงแต่เช็นเฉาที่คิดแบบนั้น นักเรียนชายต่างคิดเหมือนกับเขา เพราะวิชาพละมีแค่ไม่กี่คาบในหนึ่งสัปดาห์ และมันก็หายไปเสียอย่างนั้น... ในมุมมองของเช็นเขา เขาคิดว่ามันโคตรเสียเวลาชีวิต!
เมื่อเขามองไปรอบๆ เขาก็เห็นเหล่านักเรียนหัวกะทิประจำห้องรวมไปถึงพวกแปลกๆ ต่างก็อยู่ในอาการเงียบขรึม
ดั่งเช่น หลินเสี่ยวหยู ผู้ซึ่งปกติจะไม่ค่อยสนใจอะไร แต่ตอนนี้กำลังตั้งใจเรียน เธอแบบฝึกหัดวิชายันต์เต๋าได้คะแนนเต็ม
ทางด้านลี้ฉวนจิงที่เป็นคนเงียบเสมอต้นเสมอปลาย ก็กำลังตั้งใจก้มหน้าก้มตาเขียนหนังสือ เช็นเฉาคิดว่าการที่เขาเข้าห้องพิเศษได้ก็เพราะความขยันของเขาล้วนๆ
และคนที่3 หวังลิ่ง เขาเป็นคนที่ฉลาดไปเสียทุกเรื่อง จากการสอบสัมภาษณ์จนถึงหวังลิ่งสามารถอัญเชิญปีศาจระดับราชาปีศาจมาได้ รวมไปถึงที่เขาทำคะแนนอยู่ในเกณฑ์ปานกลางตลอดในทุกๆการสอบและการบ้าน นั่นทำให้เขารู้สึกว่าหวังลิ่งไม่ธรรมดาอย่างที่เขากำลังแสดง
เช็นเฉาเชื่อในเรื่องบังเอิญแต่เมื่อเรื่องบังเอิญมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับคนเดิม มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้เขาเริ่มสงสัยในตัวหวังลิ่ง
เขาสงสัยว่าใครกันที่เป็นคนที่แข็งแกร่งคนนั้น ผู้ซึ่งได้กำจัดนักฆ่าจากเงาสายธารทั้ง2คนและปกป้องซุนหรงเอาไว้ได้ เขาคิดว่าคงเป็นตัวหวังลิ่งเองนั่นแหละ แต่นี่ก็เป็นแค่เพียงข้อสันนิษฐานที่ยังไม่มีหลักฐานอะไรมารองรับ
อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าใครก็ตามที่ทำให้ซุนหรงสนใจคนคนนั้นคงไม่ธรรมดา...
เขาไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวหวังลิ่งมากนักรวมไปถึงครอบครัวของเขา แต่เขาแค่มีความรู้สึกว่าเบื้องหลังของหวังลิ่งอาจจะมีอะไรซับซ้อนกว่านั้น