ตอนที่ 76 อันดับหนึ่ง!
จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ ตอนที่ 76 อันดับหนึ่ง!
ฉีฮวงเย่เต็มไปด้วยความตะลึง ในตอนแรก มันคิดว่ามันจะสามารถเมินเฉยต่ออัจฉริยะของการประลองต้าหยวนครั้งนี้ได้ ถึงแม้มันจะไม่ใช้พลังทั้งหมด มันก็คงจะได้อันดับหนึ่งมาอย่างง่ายๆ ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามแผนที่มันคิดไว้ จนกระทั่งมันได้พบเข้ากับม้ามืดที่ชื่อหลิงฮัน
แข็งแกร่ง!
ตอนนี้มันได้ใช้พลังออกไปทั้งหมด แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะได้เปรียบอีกฝ่าย แล้วจะไม่ให้มันตกตะลึงได้อย่างไร?
หลิงฮันมีพลังบ่มเพาะเพียงระดับรวมธาตุขั้นสี่ แต่กลับแข็งแกร่งถึงขนาดนี้... หากเขาบรรลุถึงขั้นที่เจ็ดและก้าวเข้าสู้รวมธาตุขั้นปลาย เขาจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขนาดไหนกัน?!
เขาไม่ใช่อัจฉริยะแล้ว! เขาคือสัตว์ประหลาด!
‘ขนาดเฟิงหยางเมื่อสามปีก่อนยังไม่แข็งแกร่งขนาดนี้เลยไม่ใช่รึไง?’ ฉีฮวงเย่คิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ในหมู่รุ่นเยาว์ของเมืองต้าหยวน ฉีฮวงเย่ไม่ใช้คนที่มีพรสวรรค์สูงที่สุด! แต่ชื่อเสียงนั่นเป็นของเฟงิหยาง! เมื่อสามปีก่อน เฟิงหยางที่มีพลังบ่มเพาะระดับรวมธาตุขั้นเก้า ได้ที่หนึ่งในการประลองโดยที่มีพลังอยู่เหนือฉีฮวงเย่โดยสมบูรณ์!
และในการประลองก่อหน้านั้น เฟิงที่มีพลังบ่มเพาะระดับรวมธาตุขั้นสี่สามารถโค่นคู่ต่อสู้ระดับรวมธาตุขั้นเก้าลงได้หลายคนและได้รับอันดับหนึ่งไป
แม้จะหลังจากเข้าร่วมกับสำนักฮูหยางที่มีเหล่าอัจฉริยะหลากหลายมารวมตัวกัน ความโดดเด่นของเฟิงหยางก็ไม่ลดลงไปแม้แต่น้อย เมื่อปีที่แล้ว มันได้ทะลวงผ่านระดับก่อเกิดธาตุและติดสิบอันดับแรกของศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนัก ฉีฮวงเย่ทำได้เพียงแหงนมองและชื่นชมความสำเร็จนั่น
ตอนนี้ ในที่สุดฉีฮวงเย่ก็ได้พบกับสัตว์ประหลาดที่ทัดเทียมกับเฟิงหยางหรืออาจจะมีพรสวรรค์มากกว่าเฟิงหยางด้วยซ้ำ!
ในขณะที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ฉีฮวงเย่คิดขึ้นมาว่าในเมื่อหลิงฮันมีพรสวรรค์ราวกับสัตว์ประหลาด มันก็จะช่วยให้หลิงฮันได้รับเกียรติที่ยิ่งใหญ่ และช่วยให้เขาเข้าร่วมกับสำนักฮูหยางโดยที่มีชื่อเสียงที่ไม่แพ้เฟิงหยาง
เมื่อถึงตอนนั้น เฟิงหยางจะต้องรู้สึกกดดันอย่างแน่นอน?
ก็ได้ งั้นข้าจะไว้หน้าหลิงฮันและทำให้เขาพึงพอใจ! ฉีฮวงเย่จะไม่
...แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เพราะหลิงฮันมีความแข็งแกร่งพอ ฉีฮวงเย่จะไม่ยอมยอมทำเช่นนี้แน่นอน แต่ในเมื่อตอนนี้หลิงฮันแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีพลังที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับตัวมัน มันจึงยินดีที่จะสร้างความพึงพอใจให้หลิงฮัน
อย่างไรก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าสัตว์ประหลาดตนนี้ในอนาคตจะบรรลุไปถึงขนาดไหน แถมเขายังมีนักปรุงยาระดับดำคอยสนุบสนุนอยู่ด้วย ดังนั้นการที่เขาจะก้าวข้ามเฟิงหยางไปได้ก็ไม่ได้ความฝันที่ไกลเกินเอื้อม
นี่คือตัวตนที่เหมาะสมให้เขา ‘ลงทุน’
การพนันครั้งนี้มันพร้อมที่จะเสี่ยง!
“ฮ่าๆ น้องชายหลิงช่างโดดเด่นยิ่งนัก การต่อสู้นี้ ข้ายอมแพ้!” ฉีฮวงเย่ยอมแพ้ด้วยความตั้งใจของตนเอง
หลิงฮันหัวเราะเบาๆและพูด “การต่อสู้นี้สามารถตัดสินว่าเสมอ” จุดอ่อนของเขาคือความจริงที่ว่าเมล็ดก่อเกิดห้าธาตุเผาผลาญปราณก่อเกิดของเขาเร็วเกินไป
ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเขาจะสามารถโค่นฉีฮวงเย่ลงได้ เพราะงั้นแล้วการตัดสินว่าเสมอจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด
ฉีฮวงเย่ส่ายหัวและพูด “เจ้ามีพลังเพียงระดับรวมธาตุขั้นสี่ แต่กลับสามารถสู้ข้าได้อย่างสูสี! ถ้าข้ายังคงยืนกรานที่จะพูดว่าการต่อสู้ครั้งนี้เสมอ หน้าของข้าก็คงจะหน้าเกินไปแล้ว!” เมื่อพูดจบ มันได้กระโดดไปยังลานประลองที่สอง
หลิงฮันอยู่บนอันดับสูงสุดแล้ว!
เสียงอุทานเพราะความประหลาดใจดังขึ้นมาจากนอกลานประลอง
ถึงแม้ผลลัพธ์เช่นนี้จะถูกคาดการณ์ไว้แล้ว แต่เมื่อพวกมันได้ยินองค์ชายสี่ขอยอมแพ้ด้วยตัวเอง มีผู้ชมบางคนที่รู้สึกว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริง
เมื่อหกปีก่อน อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของเมืองต้าหยวนได้ฝ่าฟันความยากลำบากและได้อันดับหนึ่งไปในขณะที่มีพลังบ่มเพาะเพียงระดับรวมธาตุขั้นสี่ และหกปีต่อมานี้ ม้ามืดเช่นเดียวกับตอนนั้นได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
วิธีวรยุทธของเมืองต้าหยวนกำลังจะถึงเวลาที่จะรุ่งโรจน์แล้วสินะ?
หลิงฮันไม่ได้ถ่อมตัวหรือปฏิเสธกลับไป เพราะเขาต้องการรางวัลจากการได้อันดับที่หนึ่งของการประลองครั้งนี้จริงๆ เพราะงั้นเขาจึงประสานมือคารวะไปทางฉีฮวงเย่ เพื่อบ่งบอกว่าเขาจะจดจำบุญคุณครั้งนี้เอาไว้ ซึ่งในอนาคตเขาจะต้องตอบแทนกลับเป็นสิบเท่าแน่นอน
เมื่อถึงตอนนี้ มีเวลาเหลือเพียงครึ่งชั่วโมงก่อนที่ตะวันจะตกดิน และมีเพียงลานประลองเดียวเท่านั้นที่กำลังต่อสู้กันอยู่ ถ้าเจ้าลองลานชนะ การประลองต้าหยวนครั้งนี้ก็จะได้ปิดม่านลงเสียที แต่ถ้าเจ้าของลานไม่ชนะ พวกเขาก็คงต้องรออีกสักจึงจะปิดม่านการประลองได้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดสิบอันดับแรกได้ถูกตัดสิน
อันดับหนึ่งคือหลิงฮัน!
“เขาได้อันดับหนึ่งจริงๆ!” หลิงตงซิงบ่นพึมพำ บนใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
บุตรของมันที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่าขยะ กลับสามารถมีวันหนึ่งที่ได้เป็นผู้ชนะของการประลองต้าหยวนจริงๆ!
ในที่สุดมันก็ปลดปล่อยเสียงหัวเราะและความดีใจออกมาอย่างไม่อาจอดกลั้นไว้ได้
จอมยุทธทั้งสิบคนลงจากลานประลองกันมาตามลำดับ หลังจากนี้จะมีงานเลี้ยงที่จัดขึ้นโดยราชาต้าหยวนเพื่อฉลองให้กับผู้เข้าประลองห้าสิบอันดับแรก
“ยินดีด้วยน้องชายหลิง!”
“ยินดีด้วย!”
ฉีฮวงเย่และคนอื่นๆเข้ามาล้อมรอบหลิงฮันและแสดงความยินดี
“ขอบคุณมาก! ขอบคุณมาก!” หลิงฮันประสานมือตอบอย่างสุภาพ
“ฮ่าๆ ไว้หลังจากนี้พวกเราไปดื่มกันเถอะ!”
“แน่นอน!”
มีเพียงผู้เข้าร่วมประลองห้าสิบอันดับแรกเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงได้ สหายของพวกเขาหรือครอบครัวไม่สามารถเข้าร่วมกับพวกเขาได้ ดังนั้นไม่ว่าจะหลิงตงซิงหรือหลิวอู๋ตงก็ไม่สามารถไปร่วมงานกับหลิงฮันได้
ในไม่ช้า หลิงฮันและคนอื่นๆได้มาถึงที่พักของราชาต้าหยวน ที่พักนี้ใหญ่โตกว่าที่พักขององค์ชายสี่อย่างน้อยสิบเท่า การประดับและตกแต่งดูฟุ่มเฟือยและหรูหราเป็นอย่างมาก ทำให้รุ่นเยาว์บางคนที่มาจากเมืองเล็กๆอ้าปากค้างมองไปรอบๆ ราวกับว่าพวกมันเป็นเด็กหนุ่มชาวบ้านที่เข้ามายังปราสาท
ผู้จัดงานเลี้ยงคือราชาต้าหยวน และหลังจากนั้นมันได้มอบรางวัลให้กับสิบอันดับแรกตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ราชาต้าหยวนไม่ได้อยู่ในงานเลี้ยงนานนัก มันเป็นจอมยุทธในระดับห้วงจิตวิญญาณ สิ่งที่มันทำมีเพียงการนั่งอยู่กับที่และปลดปล่อยออร่าที่ทรงพลังออกมา ซึ่งได้ทำให้คนในงานรู้สึกถึงความกดดัน
หลังจากที่ราชาต้าหยวนกลับไป ในที่สุดบรรยากาศก็กลับมาครึกครื้น ทุกคนล้วนแต่เป็นคนหนุ่มสาว พวกมันจึงมีเรื่องที่อยากคุยคล้ายๆกัน และอีกไม่นานพวกมันทุกคนจะต้องมุ่งหน้าไปยังสำนักฮูหยาง เพราะงั้นจึงเป็นธรรมดาที่พวกมันจะอยากสร้างมิตรสหายเอาไว้ หากทำเช่นนี้ พวกมันจะสามารถไปมาหาสู่กันได้ภายในสำนัก
อย่างไรก็ตาม หลิงฮังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขากำลังรอให้ถึงเวลามอบของรางวัลหญ้าแสงจันทราอย่างใจร้อน สมบัติที่แม้แต่จอมยุทธในระดับสวรรค์ยังต้องอิจฉา ถ้าหากมันไม่เข้ามาอยู่ในกระเป๋าของเขา เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จิตใจเขาจะสงบลง
หลังจากรอมานานถึงสองชั่วโมง ในที่สุดงานเลี้ยงก็จบลง และของรางวัลสำหรับสิบอันดับแรกได้ถูกใส่ไว้ในกล่องเล็กและมอบให้เหล่าผู้ชนะ หลิงฮันเปิดกล่องและมองเข้าไป ข้างในมีสมุนไพรขนาดหนึ่งฟุตวางอยู่ ใบแต่ละใบโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยว สีของมันคล้ายคลึงกับแสงของดวงจันทร์
เป็นหญ้าแสงจันทราจริงๆ!
หลิงฮันถอนหายใจโล่งใจออกมา เขากำลังจะเดินทางกลับแต่ฉีฮวงเย่และคนอื่นๆเข้ามาชวนคุยเรื่องเล็กๆน้อยๆกับเขา เขาจึงยังไม่สามารถกลับได้ เมื่อใกล้จะเที่ยงคืน ในที่สุดแขกแต่ละคนก็เริ่มเดินทางกลับ และในที่สุดหลิงฮันก็สามารถกลับไปยังตำหนักโอสถสวรรค์ได้เสียที
สิ่งแรกที่เขาทำคือเริ่มเตรียมการสำหรับหลอมเม็ดยา
ถึงแม้เม็ดยาเสริมมิติจะเป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธระดับสวรรค์ยังต้องอิจฉา มันก็ยังสามารถใช้กับจอมยุทธในระดับรวมธาตุได้ หรือจะให้พูดอย่างถูกต้อง มันเป็นเพียงเม็ดยาระดับเหลืองขั้นกลางเท่านั้น แน่นอนว่าหลิงฮันในตอนนี้สามารถหลอมมันขึ้นมาได้
เขาได้เตรียมวัตถุดิบที่สำคัญอื่นๆเอาไว้นานแล้ว สิ่งที่ขาดอยู่อย่างเดียวคือวัตถุดิบหลัก หญ้าแสงจันทรา และในเมื่อทุกๆอย่างพร้อมแล้ว เขาจึงเริ่มหลอมยาขึ้นมาทันที
ตอนนี้เขาอยู่ในระดับรวมธาตุ การจะหลอมเม็ดยาระดับเหลืองขั้นกลางขึ้นมานับว่าเป็นเรื่องง่ายๆ หลังจากเวลาผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมง เขาสามารถหลอมเม็ดยาเสริมมิติขึ้นได้สำเร็จ
โชคร้ายที่มันมีเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น
ไม่ต้องรีรอ เขากลืนเม็ดยาเสริมมิติเข้าไปทันที เขานั่งลงอย่างรวดเร็วและรอให้เม็ดยาออกฤทธิ์อยู่อย่างเงียบๆ
“ตูม”ในไม่ช้า ภายในร่างกายของเขาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มันราวกับว่าตันเถียนของเขากลายเป็นมหาสมุทรที่มีคลื่นอันรุนแรง ทุกๆครั้งที่เกิดคลื่นกระทบกัน พื้นที่ภายในตันเถียนของเขาจะขยายขึ้นที่ละน้อย
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*