ประกาศิตรัก : ตอนที่ 51-52 : คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (1-2)
ตอนที่ 51 – คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (1)
ใบหน้าของซูซินเหยินแสดงความโกรธเกรี้ยวอย่างชัดเจน.. เขาจ้องซ่งจิงเฉินแล้วถามว่า “ซ่งจิงเฉิน.. คุณรู้ไม๊ว่าทำไมผมถึง.. นอนกับคุณเมื่อห้าปีที่แล้ว?”
ซ่งจิงเฉินหน้าซีดเผือด เมื่อซูซินเหยินรื้อฟื้นเรื่องเมื่อห้าปีที่แล้วขึ้นมา เธอมองเขานิ่ง ริมฝีปากของเธอขยับเบาๆแต่ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากเธอ
“คืนนั้น.. ถ้าไม่ใช่เพราะผมเมาจนขาดสติล่ะก็ ผมไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นกับคนอย่างคุณแน่!”
ซูซินเหยินโน้มตัวเข้าไปใกล้ใบหน้าที่ถูกเขาบีบคางไว้จนแน่น ลมหายใจร้อนผ่าวของเขากระทบเข้าที่ใบหูของซ่งจิงเฉินทำให้เธอสั่นไปทั้งร่าง เขากระซิบข้างหูเธอเบาๆ .. “ถ้าคืนนั้นผมไม่ได้เมาจนขาดสติล่ะก็ ผมไม่มีทางจะแตะต้องตัวคุณแม้แต่ปลายนิ้ว!”
ซ่งจิงเฉินกระพริบตาถี่ ร่างทั้งร่างสั่มเทิ้ม ใบหน้าแดงกร่ำ และดวงตาสีดำก็เริ่มพร่ามัวด้วยม่านน้ำตา เพราะคำพูดดูถูกเหยียดหยามของซูซินเหยิน
“เหมือนกับคืนนี้.. ถ้าไม่ใช่เพราะคุณล้มลงมาใส่อ้อมแขนผม คุณคิดว่าผมจะต้องการคุณอย่างงั้นหรือ?” ซูซินเหยินย้ำชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง แล้วเขาก็เห็นน้ำตาที่เอ่ออยู่ในดวงตาของหญิงสาว แต่เธอกลั้นไว้ไม่ให้มันไหลออกมา
นัยน์ตาของซูซินเหยินลดความกร้าวลงเล็กน้อย แต่ในหัวใจกลับรู้สึกปั่นป่วนมากอย่างบอกไม่ถูก เขากัดริมฝีปาก.. จ้องมองซ่งจิงเฉิน แล้วจู่ๆก็ผลักเธอออกจากอ้อมแขนของเขา เขายืนขึ้นด้วยสีหน้าเยือกเย็นก่อนจะพุ่งขึ้นบันไดไปด้วยความโกรธราวกับพายุ
.......
ซ่งจิงเฉินนั่งนิ่งอยู่ด้านล่างสักพักใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นทำความสะอาดห้องและเดินขึ้นข้างบนไป
เมื่อกลับเข้าไปในห้องนอน.. เธอยังไม่ได้เข้าไปอาบน้ำในทันที แต่กลับเดินไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแทน เธอยื่นมือไปหยิบปากกามาขีดลงไปบนวันที่ในปฏิทินพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดกับตัวเองว่า “เหลืออีก 97 วัน.. ฉันถึงจะออกไปจากบ้านหลังนี้ได้ อย่าเศร้าไปเลยซ่งจิงเฉิน.. ถึงแม้เธอจะต้องโดนเขาดูถูก โดนเขาตะคอกใส่ทุกครั้งที่พบกัน แต่อย่างน้อยมันก็อีกแค่ 97 วันเท่านั้น...”
ทันใดนั้น.. เธอก็ได้ยินเสียงประตูห้องข้างๆเปิดออกอย่างแรง เธอสั่นไปด้วยความกลัว สายตาของเธอจ้องไปที่ประตูห้องนอนของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากร่าง แต่ประตูก็ยังคงไม่ถูกเปิด แล้วเธอก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถยนต์ดังขึ้น..
เธอลุกขึ้นเดินไปตรงไปที่หน้าต่าง.. และเธอก็เห็นรถของซูซินเหยินพุ่งออกจากบ้านด้วยความเร็วสูง..
......
หลังจากนั้นสองสามวันติดกัน.. ซูซินเหยินก็ไม่ได้นอนที่บ้านพัก ทั้งเธอและเขาต่างเหมือนเรือที่แล่นในสวนกันไปมาในยามดึก..
ความโกรธของซูซินเหยินทำให้ซ่งจิงเฉินรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย กังวลว่าเขาจะยกเลิกสัญญา..
แต่ความกังวลของเธอก็มลายหายไปในเวลาต่อมา.. เมื่อได้ข่าวจากฟางลู่ว่าซูซินเหยินไปที่ซ่งเอ็มไพร์ และหลังจากเดินชมรอบบริษัทราวสามสิบนาที เขาก็ยื่นรายชื่อพนักงานให้กับผู้จัดการฝ่ายบุคคลและพูดว่า “ไล่คนพวกนี้ออกให้หมด.. รวมทั้งตัวคุณด้วย” แล้วก็ออกจากบริษัทไป
แต่ละคนในรายชื่อของซูซินเหยินนั้น ล้วนเป็นระดับหัวหน้างานในบริษัททั้งสิ้น พวกเขาไม่พอใจ.. จึงได้พากันเข้าพบซ่งเม็งวาและซ่งจิงเฉินเพื่อขอร้องให้ทั้งคู่ช่วยเหลือ..
แต่ในเมื่อพวกเขาตัดสินใจให้ซูซินเหยินเข้าบริหารซ่งเอ็มไพร์แล้ว.. ซ่งจิงเฉินจึงเลือกที่จะเคารพการตัดสินใจและการอนุมัติในเรื่องต่างๆของเขา
ซ่งเม็งวาที่เกิดอาการช็อคจากการฆ่าตัวตายของซ่งเช็งจนต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนซ่งจิงเฉินก็ต้องลาพักร้อนถึงสามเดือนเพื่อมาดูแลเขา
ตอนที่ 52 – คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (2)
วันสุดท้ายในการลาพักร้อนของเธอคือวันที่ 8 ธันวาคมซึ่งตรงกับวันเกิดของเธอพอดี.. ซ่งจิงเฉินทำงานเป็นนักข่าว การทำงานของเธอส่วนใหญ่คือหาข่าวอยู่นอกสถานที่มากกว่า และไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่สถานีทุกวัน...
สำหรับการเริ่มงานวันแรกหลังจากหยุดไปเป็นเวลานาน.. ซ่งจิงเฉินก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว และไปถึงสถานีให้ตรงเวลา
เมื่อครั้งที่เกิดโศกนาฎกรรมกับครองครัวซ่ง ซ่งจิงเฉินไม่มีเวลาที่จะคิดกังวลถึงเรื่องงานของเธอ แต่เมื่อกลับมาทำงานแล้ว.. สิ่งแรกที่เธอทำเมื่อมาถึงสถานีคือ.. เรียกผู้ช่วยของเธอเข้ามาสอบถามข่าวคราวต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างสามเดือนที่เธอหยุดไป
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมในเดือนแรกที่เธอหยุดไป แต่หนึ่งเดือนหลังจากนั้น.. ก็ปรากฏชื่อของผู้ทำข่าวพาดหัวคนใหม่ถี่ขึ้น.. เธอชื่อว่า ถังหยวน..
ซ่งจิงเฉินขมวดคิ้วขณะคิดคำนวณในใจ.. เมื่อเดือนที่แล้วข่าวที่ถังหยวนทำ ได้ขึ้นหน้าหนึ่งถึงแปดฉบับติดต่อกัน..
แปดฉบับติดต่อกันอย่างงั้นหรือ.. ตัวเธอเองเคยทำสถิติได้สูงสุดก็แค่เจ็ดฉบับติดต่อกันเท่านั้นเอง ความภูมิใจของเธอถูกทำลายในเวลาเพียงสามเดือนที่เธอหยุดไป
ใบหน้าที่ดูมีความสุขอิ่มอกอิ่มใจของถังหยวนลอยเข้ามาในหัวของซ่งจิงเฉิน เธอได้แต่ยกมือขึ้นนวดขมับศรีษะเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร เธอเอามือเท้าคางและจ้องมองไปนอกหน้าต่าง หลังจากใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เชื่อมต่อโทรศัพท์ของเธอเข้ากับระบบสื่อสารของสถานี ไม่ว่าจะยังไง.. เธอจะไม่ยอมให้ตำแหน่งนักข่าวหญิงยอดเยี่ยมของสถานีทีดับบลิว (TW) ต้องหลุดไปโดยไม่สู้!
เพราะตำแหน่งนักข่าวหญิงยอดเยี่ยมนี้ จะเป็นบันไดที่ทำให้เธอก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้ประกาศข่าวหญิงของสถานี TW ได้ในอนาคต!
เธอสาบานกับตัวเองว่า.. เธอจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้บทความที่ดีที่สุดเพื่อทำลายสถิติที่ถังหยวนทำไว้ อย่างน้อยถ้าข่าวของเธอสามารถขึ้นหน้าหนึ่งได้ เธอก็จะสามารถชะลอเส้นทางสู่ชัยชนะของถังหยวนได้
เมื่อวางสายไป.. ผู้ช่วยของเธอก็รีบร้อนเข้ามาในห้องทำงาน ซ่งจิงเฉินส่งนามบัตรให้กับเธอใบหนึ่งพร้อมสั่งว่า “โทรนัดให้ด้วย.. บอกว่าพี่ต้องการสัมภาษณ์พวกเขา”
“ได้ค่ะพี่ซ่ง..” ผู้ช่วยของเธอพยักหน้าและรีบไปโทรศัพท์ หลังจากพูดคุยอยู่ครู่หนึ่งเธอก็วางสาย แล้วหันมามองซ่งจิงเฉินและพูดอย่างระมัดระวังว่า “พี่ซ่งคะ.. CEO หยางบอกว่าได้นัดกับนักข่าวท่านอื่นไว้แล้ว...”
“นักข่าวคนอื่นเหรอ?” ซ่งจิงเฉินขมวดคิ้ว เธอกับคุณหยางรู้จักกันมาสองปี และเขามักจะคอยส่งข่าวให้กับเธอเสมอ ซ่งจิงเฉินถามย้ำ “นักข่าวคนนั้นเป็นใครกัน?”
ผู้ช่วยของเธอตอบเสียงเบาว่า “ถังหยวนค่ะ..”
ซ่งจิงเฉินกัดฟัน และส่งนามบัตรใบใหม่ให้กับผู้ช่วย “ลองโทรไปที่นี่ซิ..”
ผู้ช่วยของเธอโทรไปและพูดคุยเพียงไม่กี่คำก่อนจะวางสายไป เธอหันกลับมากหาซ่งจิงเฉินพร้อมพูดเสียงเบาๆว่า “คุณเซียงได้ให้สัมภาษณ์กับถังหยวนไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ”
ครั้งนี้ซงจิงเฉินไม่พูดอะไร แต่ส่งนามบัตรใบใหม่ให้กับผู้ช่วยของเธออีก และผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม –พวกเขาได้ให้สัมภาษณ์กับถังหยวนไปแล้ว- ซ่งจิงเฉินส่งนามบัตรใบใหม่ให้ผู้ช่วยครั้งแล้วครั้งเล่าจนใบสุดท้าย.. ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
ผู้ช่วยของเธอยืนก้มหน้านิ่ง..
ซ่งจิงเฉินมองหน้าเธอและถามว่า “ถังหยวนอีกแล้วใช่ไม๊?”
ผู้ช่วยของเธอพยักหน้าหงึกๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมา..