บทที่ 57 - ฉันแบกเอง (5) [อ่านฟรีวันที่ 09/10/61]
บทที่ 57 - ฉันแบกเอง (5)
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ 7,777,867]
[สกิลพลังเหนือมนุษย์ได้กลายเป็นเลเวล 16]
[สกิลทำอาหารได้กลายเป็นเลเวล 21]
ยูอิลฮานได้ตะโกนออกมาในทันทีที่นกสายฟ้ายักษ์ได้จบชีวิตลงต่อหน้าเขา
"มันจบแล้ว!"
[ใช่ มันจบแล้ว ในตอนนี้มันไม่มีบอสมอนสเตอร์ตัวอื่นแล้ว] (ลิต้า)
ลิต้าได้พูดออกมาด้วยเสียงที่ตกใจมาก มันใช้เวลาถึงสามชั่วโมงที่ยูอิลฮานได้ใช้ในการฆ่านกสายฟ้ายักษ์ไป 3 ตัว พวกมันได้ปรากฏตัวขึ้นมาในตอนที่เขาได้ฆ่าตัวแรกไปดังนั้นในตอนนี้เขาก็เลยดูจะเหนื่อยกับมัน
เหตุผลที่การต่อสู้มันใช้เวลานานเพราะว่าในตอนที่เขาสู้กับตัวแรกเขาสามารถจะจัดการมันได้อย่างรวดเร็วเพราะว่าเขาสามารถเริ่มการโจมตีในทีเผลอได้ แต่ว่าเมื่ออีก 3 ตัวที่มาใหม่ได้รู้ถึงตัวตนของเขาแล้วทำให้เขาทำการโจมตีแบบนั้นไม่ได้ เจ้าสามตัวใหม่นี้กระทั่งแข็งแกร่งกว่าตัวที่เขาฆ่าไปซะอีก และเนื่องจากว่าเขาสู้กับมันถึงสามตัวพร้อมๆกันทำให้มันไม่มีทางเลยที่เขาจะจบการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว
ในการต่อสู้นี่ยูอิลฮานได้เผยพลังของที่ขว้างหอกที่เขาทำเอาไว้ออกมา การไปต่อสู้กับนกยักษ์ทั้งสามัวในระยะประชิดมันเป็นเรื่องที่ง่มาก ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปรอบๆในขณะที่ขว้างหอกและระเบิดออกไป ถ้าหากว่าเขาไม่ได้เตรียมอาวุธระยะไกลเอาไว้ เขาก็จะต้องหนีออกไปจากดันเจี้ยนนี้เพราะเจ้านกบ้าสามตัวนี้แน่
แต่แน่นอนด้วยวิธีนี้ที่ยูอิลฮานใช้ฆ่านกทั้งหมดทำให้มันเต็มไปด้วยบาดแผลที่ผิดหนัง ยูอิลฮานจะต้องลำบากในการหาส่วนไหนมาใช้อย่างมาก
"ฉันอยากจะตายจริงๆเลย"
[มันก็สักพักแล้วนะ เสียงของคุณดูอ่อนแอมาก] (เอิลต้า)
[คุณืได้ดีแล้ว สำหรับวันนี้ก็กลับบ้านไปพักเถอะ] (ลิต้า)
ความจริงที่ว่าเขาทนเผชิญหน้ากับมอนสเตอรืคลาส 3 ได้ก็ต้องขอบคุณในการปกปิดตัวตนของเขาทำให้เขาสามารถจะลดศัตรูที่จะสังเกตุผลตัวตนของเขาได้และมีเวลาให้เขาดื่มบลัดดริ้ง
เขาไม่ได้รู้สึกดีเลยเนื่องจากว่าเขาได้ดื่มมันลงไป 3 ลิตรแล้ว แต่ว่าเมื่อคิดจากการที่มันช่วยชีวิตเขาเอาไว้สิ่งที่แลกไปมันน้อยมาก
นอกไปจากนี้ในตอนนี้เขาก็ได้มีประสบการณ์การต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่ไม่ใช่ระยะประชิดแล้วด้วย สิ่งที่เขาได้มาจากการต่อสู้นี้มันมากมาย
ยังไงก็ตาม
"pile bunker!!!!!"
pile bunker ของเขาในตอนนี้มันได้ถูกพัดไปมาด้วยวังวนสายฟ้าจนกระทั่งการต่อสู้ได้จบลง ตอนนี้มันได้เต็มไปด้วยประกายสายฟ้าซึ่งต่างไปจากของเดิมที่เขาทำมัน
ไม่สิ มันยังไม่ได้ถูกทำลายไปใช่ไหม?
"ถ้าฉันมีถุงมือสายฟ้าฉนจะสัมผัสมันได้แน่ น่าอายจริงๆ"
[ช่วยแยกแยะในมังงะกับความเป็นจริงด้วย] (ลิต้า)
ไม่นานนักประกายสายฟ้าก็ได้เริ่มหายไป แต่ว่าเขาก็ยังลังเลอยู่เนื่องจากว่า pile bunker ที่เดิมทีมีสีเงินได้กลายเป็นไปสีทอง ไม่นานนักเขาก็หยิบมันขึ้นมา
ยังไงก็ตามแค่ในตอนที่เขากำลังถอนหายใจนั้นเองก็ได้มีข้อความปรากฏขึ้นมาให้เขาต้องตกใจ
[pile bunker โลหะแห่งการทำลายที่น่าสะพรึงได้เปลื่ยนแปงไป]
"อ๋าาาาา!!!"
[ใจเย็นๆมันยังไม่ได้ถูกทำลายไป] (เอิลต้า)
[เปลื่ยนแปลงไป? อืมม นี่มันไม่ใช่เรื่องดีหรอ?] (ลิต้า)
คำพูดของเอิลต้ากับลิต้าได้หยุดยูอิลฮานที่กำลังเศร้าเอาไว้ ก่อนอื่นเขาได้เริ่มตรวจสอบในข้อมูลที่เปลื่ยนไปก่อนเลย
[pile bunker สายฟ้าแห่งการทำร้ายที่น่าสะพรึง]
[ระดับ - ตำนาน]
[พลังโจมตี -
ขั้นที่ 1: 2,200
ขั้นที่ 2: 3,400
ขั้นที่ 3: 4,600
ขั้นที่ 4: 6,200]
[ออฟชั่น - พลังทำลายและพลังในการทะลวงเพิ่มขึ้น 40%
พลังสายฟ้าจะถูกบรรจุลงไปในกระสุนแต่ว่าความทนทานสูงสุดจะลดลง 200 เมื่อโหลดไปถึงขั้น 4]
[ความทนทาน - 1,293/1,955]
[อาวุธที่ได้พัฒนาตัวเองขึ้นมาจากการได้รับมานาที่เกี่ยวข้องกับสายฟ้าอย่างต่อเนื่อง ยังไงก็ตามความแข็งแกร่งของมันก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน]
"ว้าว"
มันได้ถูกพายุสายฟ้าจนวิวัฒนาการไปสู่ระดับใหม่ ในตอนที่ยูอิลฮานหมดคำพูดไปนี่เอง เอิลต้าที่รู้ถึงสิ่งนี้ก็ได้เปิดปากออกมา
[การพัฒนาด้วยการดูดวับบันทึกมันไม่ได้จำกัดแค่สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญากับมอนสเตอร์เท่านั้นนะ อาร์ติแฟคและโดยเฉพาะเจ้าสิ่งที่ช่างผู้เชี่ยวชาญแบบคุณทำขึ้นมามันก็เป็นไปไม่ได้จะพัฒนาขึ้นมาจากปัยจัยภายนอก] (เอิลต้า)
"แม้ว่าการเสียความทนทานสูงสุด 200 มันจะแค่นิด..."
นี่มันหมายความว่าเขาจะสามารถใช้มันได้ในขั้นสี่แค่ 10 ครั้งเท่านั้น ในตอนนี้มันมีชีวิตที่จำกัดแล้ว
[การที่จะได้ธาตุที่ติดมากับอาวุธมันยากมาก แต่แม้ว่าถ้าเป็นคุณมันก็คงไม่ยาก] (ลิต้า)
"เธอไม่ควรจะพูดส่วนหลังออกมานะ"
[มันโชคดีแล้วที่ไม่ได้ถูกทำลายลงไป]
ถึงแม้ว่าจะมีลิต้ากับเอิลต้าที่ปลอบโยนอยู่แต่ยูอิลฮานก็ไม่อาจจะทนต่อความโกรธของเขาได้
"บ้าเอ้ย ฉันจะต้องแยกกระดูกกับเนื้อของพวกมัน"
[คุณก็แค่พูดว่าจะชำแหละมันก็ได้นี่...] (ลิต้า)
ยูอิลฮานได้จัดการแยกกระดูกและเนื้อของมอนสเตอร์ระดับบอสที่นอนอยู่บนพื้นตามที่ประกาศเอาไว้
มอนสเตอร์ตัวอื่นๆก็ยังได้ผ่านพื้นที่ที่มีการสู้รบเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง แต่ว่าพวกมันก็วิ่งหนีไปอย่างเชื่องๆหลังจากได้รู้สึกถึงออร่าของยูอิลฮาน พวกมันรู้สึกเหมือนกับกระดูกและเนื้อของพวกมันจะถูกแยกออกหากแค่มองดู
ความน่าจะเกิดหินพลังเวทย์ออกมาจากมอนสเตอร์ที่ตายคือ 20% ถึงแม้จะมีการพูดกันว่าค่ามันจะเพิ่มขึ้นอีกตามระดับของมอนสเตอร์ระดับสูง แต่ว่าความเป็นไปได้มันก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย
ยังไงก็ตามน่าจะเนื่องจากความโกรธของยูอิลฮานทำให้สวรรค์รู้สึกได้ทำให้เขาได้รับหินพลังเวทย์ถึงสองอันจากนกทั้ง 4 ตัว
หินพลังเวทย์ของมอนสเตอร์คลาส 3 นี่ได้เต็มไปด้วยมานาสายฟ้า! นี้มันคือหินพลังเวทย์ที่เขาจะนำไปใช้ในการสร้างคทาให้กับคังมิเรย์
เพราะแบบนี้เขาก็ได้เสร็จธุระในดันเจี้ยนนี้แล้ว เขาได้มีวัตถุดิบมากยิ่งกว่าพอแล้ว ในตอนนี้เขาจะต้องไปจุดหมายต่อไป
ยังไงก็ตามยูอิลฮานที่มักจะชอบทำงานอยู่ตลอดเวลาในตอนนี้เขาได้รู้สึกไม่อยากจะขยับอีกต่อไปแล้ว
ไม่ว่าเขาจะมีพละกำลังและได้รับพลังการพักผ่อนจากบลัดดริ้งมากยังไงแต่การต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เลเวลมากกว่า 120 ต่อเนื่องกันมันหนักเกินไปสำหรับเขาแล้ว
"ฉันอยากจะกลับบ้านไปนอน"
[ใช่แล้ว พวกเราควรจะกลับไปด้วยกัน?] (ลิต้า)
[เธอนี่ไม่เบื่อเลยจริงๆ...] (เอิลต้า)
[เอิลต้า เธอเคยมีประสบการณ์ที่พลาดปลาตัวที่จะจับได้หรือป่าว? ถ้าไม่ก็ไม่ต้องมาคุยกัน] (ลิต้า)
[ฉันไม่เคยพลาดปลาที่ฉันเล็งเอาไว้ ดังนั้นฉันเลยไม่มั่นใจ]
ไม่ว่าเอิลต้ากับลิต้าจะทำสงครามจิตวิทยากันยังไงยูอิลฮานก็ไม่ได้สนสักนิดเลย เขาได้ออกไปจากดันเจี้ยนและตรงกลับบ้านทันที เขาถึงกระทั่งไม่อยากจะขยับแล้วดังนั้นจึงนั่งรถบัสกลับบ้านไป
หากว่าไม่คำนึงถึงเรื่องของเด็กสาวคนนึงที่ไม่ได้สังเกตุเห็นว่าเขานั่งอยู่และกำลังจะมานั่งทับเขาก็ไม่มีเรื่องอะไรพิเศษเกิดขึ้นอีก
"มันไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับดันเจี้ยนที่อยู่ประเทศจีนใช่ไหม? ฉันน่าจะต้องได้รับอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น"
[หยุดทายอนาคตได้แล้ว!] (เอิลต้า)
ในขณะที่ยูอิลฮานได้กลับไปพักสบายที่บ้าน การทำงานของดันเจี้ยนที่อยู่ในจีนก็ได้ดำเนินไปอย่างรื่นไหล
ดันเจี้ยนที่ถูกติดตั้งบนโลก มันเป็นส่วนหนึ่งของโลก แต่ในเวลาเดียวกันมันก็แปลกแยก มันเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกการเฝ้าระวังจากทูตสวรรค์ เพราะแบบนี้เองจึงมีสิ่งลับๆเกิดขึ้นในดันเจี้ยน
นั่นมันก็คือการเชื่อมต่อกับโลกอื่นตรงๆ นี่มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหากมีแค่มนุษย์คนหนึ่ง มันเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ต้องมีจอมเวทย์คลาส 4 กองทัพจอมเวทย์ เงินจำนวนมหาศาลและในท้ายที่สุดก็คือการสนับสนุนจากทูตสววรค์ สิ่งมีชีวิตขั้นสูง
[เริ่มจากตอนนี้ฉันได้โอนย้ายแอปเปิ้ลผ่านประตู... เยี่ยม มันไม่มีการแทรกแซงใดๆจากโลกที่ถูกทอดทิ้ง]
"...นี่ไง มันสำเร็จแล้ว! การเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว!"
[เห]
เสียงได้ดังออกมาจากอาร์ติแฟคของจอมเวทย์คลาส 4 และชายผู้บ้าอำนาจที่ชื่นชมในเส้นทางของตัวเอง
พวกเขาไม่สามารถจะเห็นหน้ากันได้แต่ว่าพวกเขาก็ได้ยิ้มออกมาเหมือนๆกัน พวกเขาทั้งคู่มีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวเหมือนกับมาจากพวกวายร้ายที่ปรากฏออกมาตามอนิเมะ
ในส่วนกลางของดันเจี้ยนได้มีประตูที่ใหย่พอจะให้คนผ่านเข้าไปได้ถูกสร้างขึ้นผ่านการใช้พลังเวทย์จากกับดักแห่งการทำลายและที่เบื้องหน้าประตูมีสิ่งที่ดูเหมือนวังวนสีน้ำเงินอยู่ แอปเปิ้ลที่มาจากโลกได้อยู่ตรงนั่น
[ฟู่ การที่ในที่สุดมันสำเร็จง่ายๆแบบนี้นี่มัน พื้นฐานของงมนุษย์นี่ยอดเยี่ยมจริงๆ] (ทูตสวรรค์)
"ฮ่า ถ้ามันเป็นงานที่นายสำหรับคุณ งั้นอย่างน้อยคุณก็น่าจะพยายามช่วยหน่อยนะ"
การต่อสู้ด้วยวาทะระหว่างมนุษย์และทูตสวรรค์ก็ได้เกิดขึ้นมาอย่างเคย ยังไงก็ตามเนื่องจจากว่าทุกๆคนกำลังเพลิดเพลินไปกับความสำเร็จการแขวะกันจึงไม่มากนัก
[นี่มันพึ่งแค่เริ่ม พวกเราจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนประตูและส่งกองทัพไปยังโลกในขณะที่หลีกเลี่ยงการแทรกแซงจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงและแม้แต่เจ้าพระเจ้าเวรด้วย นายทำมันได้สำเร็จใช่ไหม?]
"แน่นอน"
เมื่อยืนยันว่าประตูได้เชื่อมกับอีกโลกสำเร็จจริงๆแล้ว ชายทั้งสองคนได้กำหมัดแน่น ในตอนนี้พวกเรารู้สึกเหมือนกับสามารถจะจัดการได้ในทุกๆสิ่งต่อให้มีมังกรออกมาก็ตาม
ยังไงก็ตาม
"มันยากสำหรับผมที่จะรับมือทุกๆอย่างอย่างแนบเนียนได้ด้วยตัวเอง ช่วย..."
[เอ๋ แน่นอนสิฉันรู้ในขีดจำกัดพลังของนายดี]
อาวุธสุดท้ายที่แม้แต่การมีอยู่ก็ยังเป็นความลัย จอมเวทย์คลาส 4 ดากี้ วอน อิลลาสต้าได้หัวเราะออกมาอย่างมั่นใจ
[ฉันกำลังคิดที่จะไปที่นั่นด้วยตัวฉันเลย]
"จริงหรอ?"
ชายคนนั่นได้ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ยังไงก็ตามเสียงของเขามันไม่เหมือนกับเสียงที่ดีใจ เสียงของเขามันเหมือนกับเรื่องที่จะตาย ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าจอมเวทย์ที่เป็นแกนหลักของพลังและมีพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในที่สุดแล้วจะมาที่โลกในอีกไม่นาน เขาคนนั้นเป็นคนใจร้อน!
เขาได้ทุกทรมานมามากในต่างโลก แต่ในตอนนี้มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเป็นแบบนั่นอีกแล้ว คนๆนี้ได้หลงผิดคิดว่าเขาจะได้สั่งงานกองทัพจอมเวทย์ที่ผ่านประตูมาด้วยตัวเองได้แอบกัดฟันแน่นลับๆเพราะความกลัวว่าจอมเวทย์จะได้ยินเข้า
"มันเป็นเกียรติของผม ผมจะทำให้ดีที่สุด"
[หืม ใช่แล้ว พรุ่งนี้ก็เตรียมผู้หญิงดีๆให้ฉันสักคนสองคนด้วย ถ้าฉันไปที่ตัวเองแล้วกฏที่ไม่ให้ฉันทำร้ายชาวโลกก็จะไม่หยุดฉันได้อีกต่อไป]
"ผะ ผู้หญิง? ท่านก็รู้ว่าผมไม่มีพลังใน..."
[ฉันบอกให้เตรียม]
"...เข้าใจแล้ว"
ไอ้หมาโรคจิตนี่ - ชายคนนี่ได้พึมพัมอยู่ภายในใจของเขา ในตอนนี้มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกไปจากการลักพาตัวต่อให้มันอันตรายก็ตาม
จีนกว้างใหญ่แล้วก็มีคนอยู่มากมาย มันไม่น่าจะมีเรื่องใหญ่หากมีคนสองคนหายตัวไป
คนปกติจะไม่คิดเช่นนี้ต่อให้พวกเขาได้รับคำสั่ง แต่ว่าชายคนนี้ได้ตัดสินใจลักพาตัวโดยไม่สนอะไรแล้ว
[ฉันจะไปในวันพรุ่งนี้ ถ้านายทำตามคำสั่งง่ายๆไม่ได้งั้นการใช้งานของฉันมันจะสิ้นสุดลง]
"ได้โปรดพักเถอะครับ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง"
[ฟู่ คุณนี่มันไม่ต่างไปจากไอ้โง่จริงๆเลย] (ทูตสวรรค์)
หลังจากได้ฟังบทคุยกันนี้ทูตสวรรค์ได้ล้อเลียนออกมา แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ได้ตระหนักเลยว่ามีไอโง่อีกคนหนึ่งที่อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา
และชายคนนั้นคือคนที่จะ 'จัดการ' พวกเขาทั้งหมดอย่าง 'เป็นธรรม' กำลังหลับสบายอยู่ที่บ้าน