SGS บทที่ 57 – จัดการกับคริสตัลเวทมนตร์ และ ซากสัตว์อสูรล่ะ!
ถึงจะพูดว่า ‘ออกเดินทางกันเถอะ’ ก็เถอะมันก็ไม่ใช่ว่าป่านี้จะปลอดภัยซะเมื่อไหร่ มันเต็มไปด้วย ‘แขกประสงค์ร้าย’ อยู่ทั่วทุกที่
ตลอดทาง วู่หยาน ฮินางิคุแล้วก็มิโคโตะ กับลิลินที่มีความอยากรู้อยากเห็นต่กทุกสิ่ง เธอเอ่ยปากถามนู่นคืออะไร นี่คืออะไรอยู่ไม่หยุด เมื่อเจอสัตว์อสูรระหว่างทาง ถึงแม้พวกมันจะเลเวลต่ำ แต่มันก็ทำเงินได้
เพราะพวกมันอ่อนแอเกินจนเขาไม่คิดขายมันให้ระบบ วู่หยานเปลี่ยนพวกมันเป็นวัตถุดิบโดยการใช้ดาบแยกร่างมันเป็นชิ้นๆ โดยกะจะเอามันไปขายแลกเหรียญทอง
ถึงแม้เงินจะไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ถ้าไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น จริงๆเขาก็มีเงินเยอะจากภารกิจทหารรับจ้าง แต่ใครจะบ่นล่ะถ้าจะได้เงินมากกว่าเดิมจริงไหม?
อย่าลืมคริสตัลเวทจากสุนัขเขี้ยวอสูร20ชิ้น ถ้าเขาขายมันหมด อย่างน้อยๆการเดินทางต่อจากนี้ก็ไม่ต้องกังวลเลย
ส่วนร่างกายมันนะเหรอ? ถ้าใครอยากได้ก็เอาไปเลย....ถ้ากล้าจับอ่ะนะ.....
พวกเขากำลังเดินอยู่แถวป่ารอบนอก และยังเป็นส่วนที่เขาคุ้นเคยด้วย ดังนั้นถึงแม้เขาจะค่อนข้างหลงทิศไปบ้าง แต่2เดือนกับการเป็นทหารรับจ้าง มันก็สอนเขาอะไรหลายๆอย่าง อย่างเช่น เส้นทางกลับเมือง...
4-5ชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็มาถึง เมืองท่าขนาดเล็ก
ถ้าในเมืองนี้มีคนรู้จักของวู่หยานอยู่ ในสายตาเขาวู่หยานก็คงแค่หายไป3-4วัน แต่จริงๆแล้วกลับหายไปเป็นเดือน แถมไม่ได้อยู่ในโลกนี้ด้วย
ถนนคนเดิน เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากป่าสัตว์อสูรที่แทบไม่มีอะไรเลย ที่นี่ทั้งสะดวกสบายกว่า ปลอดภัยกว่า จุดนี่จะเห็นได้จากสีหน้าท่าทางของสามสาวที่ร่าเริงกว่าตอนอยู่ในป่ามาก
ถึงแม้จะต่างโลกกัน แถมยังงมีปราณและเวทมนตร์อีก แต่ทว่าทางด้านเสื้อผ้ากลับแทบไม่แตกต่างจากศตวรรษที่ 21 ที่นี่มีทั้งเสื้อยืด เสื้อแขนยาว กระโปรง โค้ท แทบไม่แตกต่างจริงๆ ดังนั้นพวกวู่หยานจึงตัดสินใจใส่ชุดเดิม ถึงแม้จะแปลกตาไปบ้างแต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากคนแถวนี่มากนัก
แน่นอนว่าย่อมมีสายตาตื่นตะลึงมองมาที่กลุ่มวู่หยาน ถ้าจะพูดให้ตรงหน่อยก็คือมองมาที่สามสาว ยังไงซะพวกเธอก็ถือว่าเป็นสาวน้อยที่น่ารัก จึงไม่แปลกที่จะเป็นจุดสนใจ
ส่วนวู่หยานนั่นได้สายตา อิจฉา ริษยา โกรธ เกลียดแทน.....
ผู้คนรอบๆจะมองยังไง พวกเธอก็ไม่สนใจ ยังเดินตามถนนอย่างสบายใจ
มันแน่นอนอยู่แล้ว!
คนหนึ่งก็เป็นถึงประธานนักเรียนโรงเรียนฮาคุโอที่เด่นดังที่สุด อีกคนก็เป็นถึงเลเวล5ที่มีเพียง7คนแห่งเมืองการศึกษาซึ่งมีประชากรถึงสองล้านสามแสนคน ในชีวิตประจำวันของพวกเธอการเป็นจุดสนใจถือเรื่องธรรมดา ดังนั้นพวกเธอสองคนจึงชินชาไปแล้ว
ส่วนเด็กน้อยลิลิน ควรพูดว่าเป็นคนไม่สนใจโลก เธอทำราวกับว่าผู้คนรอบๆตัวเป็นอากาศธาตุ....
ส่วนวู่หยาน แม้จะยังคงมีใบหน้าใจเย็นเดินตามหลังสามสาว แต่ถ้าสังเกตดูดีๆจะเห็นว่าคิ้วเขากระตุกเป็นช่วงๆ เห็นได้
ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงที่วู่หยานทีหนังหน้าหนากว่ากำแพงเมืองจีน แต่ภายใต้สายตาแผดเผาของฝูงชนรอบๆไม่หยุด ทำให้เขากลัวเล็กน้อย ใครใช้ให้เขามีชีวิตของผู้ชนะล่ะ? เล่นมีสามสาวงามต่างวัยอยู่ข้างๆตัวแบบนี้....
ภายใต้สายตาร้อนแรงของผู้คน พวกวู่หยานก็เดินมาถึงร้านค้าที่ค่อนข้างใหญ่โต แน่นอนว่ามาที่แบบนี้ เขาย่อมมาขายคริสตัลเวทและชิ้นส่วนสัตว์อสูร
ร้านนี้มีข้าวของเกือบทุกประเภทเลย ไม่ว่าจะอาวุธ คริสตัลเวทสำหรับปรุงยา มาที่นี่สามารถหาได้หมด แต่แน่นอนว่าสินค้าพวกนี้เป็นแค่ของเบสิคธรรมดาจากสัตว์อสูรเลเวล20 ส่วนพวกเลเวล30ค่อนข้างหายาก แต่สำหรับ ยุทธภัณฑ์ นั่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีขาย
“หือ นี่เป็นครั้งแรกของฉันเลยนะเนี่ยที่เห็นของแปลกๆขายในร้านค้า” มิโคโตะมองตู้กระจกใกล้ๆที่มีชิ้นส่วนสัตว์อสูรวางไว้อยู่ ก่อนจะมองสำรวจรอบๆแล้วพูดออกมา
“มันแปลกขนาดนั่นเลยเหรอคะ?” ลิลินขบกัดนิ้วจิ้มลิ้มของตัวเอง อีกมือก็กุมมือฮินางิคุไว้ มองสีหน้ามิโคโตะอย่างงุนงง
ร้านค้าที่ขายชิ้นส่วนสัตว์อสูรและคริสตัลเวทมนตร์สามารถพูดได้ว่ามีมากที่สุดในโลกนี้ ทุกๆเมืองต้องมี ลิลินน้อยเคยเห็นร้านแบบนี้มาหลายครั้งก็ไม่เห็นว่าจะแปลกตรงไหน ด้วยหัวเล็กๆของเธอย่อมคิดไม่ออก
มิโคโตะฉีกยิ้มให้ลิลิน จะให้เธอบอกไปว่าปกติร้านค้ามันต้องขายเสื้อผ้าไม่ก็เครื่องประดับสิ บอกแบบนี้ไป จะไม่ทำให้ลิลินมึนงงหนักกว่าเดิมเหรอ?
ฮินางิคุเข้าใจความหายของมิโคโตะ แต่เธอก็ไม่พูดอะไร เป็นเพราะเธอเองก็รู้สึกแปลกมากๆเหมือนกัน
“แหม ก็ที่นี่มันต้องรบร่าฆ่าฟันกันตลอดนี่นา ก็ต้องมีของเกี่ยวกับการต่อสู้อยู่แล้วสิ!” วู่หยานก้าวเท้าเดินไปที่เคาน์เตอร์ ขณะที่ปากก็พูดว่า “เศษซากสัตว์อสูรมันสามารถเอามาทำเป็นอาวุธหรือแม้แต่ยุทธภัณฑ์ก็ทำได้ ส่วนพวกสมุนไพรก็เอามาทำยาหรือเม็ดยาได้หลาดหลายชนิด ยิ่งคริสตัลเวทยิ่งนำไปใช้ได้อีกตั้งหลายอย่าง ดังนั้นจะมีขายในร้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลก!”
“พี่สาวมิโคโตะ นี่เป็นครั้งแรกของพี่ที่มาร้านค้าเหรอคะ?” ลิลินเอื่อมมือไปดึงกระโปรงมิโคโตะเบาๆ แล้วเอ่ยปากถาม
“ใช่แล้ว!” เธอไม่คิดปกปิด สายตาก็ยังกวาดมองรอบๆ “ก่อนหน้านี้พี่ไม่มีโอกาสน่ะ....”
ลิลินกรอกตาไปมา ก่อนจะฉีกยิ้มอย่างสดใส พูดว่า “ถ้างั้นพี่มิโคโตะ ลิลินจะเป็นคนนำทางให้พี่เอง!” คว้ามือมิโคโตะได้ เธอก็วิ่งปรู๊ดทันที
“เดียว!” ฮินางิคุรีบตะโกน แล้วเหลือบตามองวู่หยานแวบหนึ่ง ก่อนจะวิ่งตามไป
ดูเหมือนว่าร้านค้าจะเป็นของคู่กันกับผู้หญิงจริงๆแฮะ.....
วู่หยานรู้สึกเหนื่อยใจมองสาวสาววิ่งไปทั่ว ก่อนจะเดินมาถึงเคาน์เตอร์ที่ซึ่งมีผู้ชายท่าทางฉลาดๆยืนอยู่
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการอะไรครับ?” เห็นวู่หยานเดินมาตรงหน้าตัวเอง เขาก็ยิ้มรับแล้วถามออกไป
วู่หยานหยักหน้า “ฉันต้องการขายคริสตัลเวทกับชิ้นส่วนสัตว์อสูร!”
ขายคริสตัลเวทกับชิ้นส่วนสัตว์อสูรไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มีคนมาขายแบบนี้ทุกวัน ดังนั้นเขารีบพูดขึ้นทันที “งั้นคุณลูกค้ากรุณาเอาออกมาให้ผมดูหน่อย”
“ที่นี่เหรอ?” วู่หยานมองไปรอบๆ ถึงแม้เขาจะไม่กลัวถูกคนอื่นเห็นก็เถอะ แต่เป็นเพราะตรงนี้มันเล็กเกินต่างหาก เขาไม่สามารถเอาของมาวางได้หมด ต้องรู้ก่อนว่าของที่เขาจะเอามาขายมันเยอะมาก
ทางด้านชายท่าทางฉลาดก็คิดว่าลูกค้าต้องการซ่อนของที่ขาย ดังนั้นตนจึงพูดยิ้มๆว่า “ขออภัยที่เสียมารยาทครับ คุณลูกค้ากรุณาตามผมเข้ามาข้างในห้องด้วย”
วู่หยานพยักหน้า แล้วหันไปตะโกนบอกสาวๆ “พวกเธอดูของที่นี่เล่นรอฉันก่อนนะ ฉันขอตัวไปจัดการธุระแปปนึง”
“รู้แล้ว!”
“จะไปก็ไปสิ!”
“รีบๆกลับมานะ โอนี่จัง!”
“ไปกัน...” วู่หยานหันไปพูดกับชายที่เคาน์เตอร์ เขาพยักหน้าก่อนจะหันไปเรียกคนอื่นมายืนแทนที่ตนเอง จากนั่นเดินนำวู่หยานเข้าไปข้างในห้อง
ผายมือให้วู่หยานนั่งเก้า แล้วเปิดปากถาม “คุณลูกค้าผมขอดูสินค้าได้แล้วใช่มั้ยครับ?”
วู่หยานเอามือเคาะโต๊ะ และกวาดสายตามองรอบๆ แล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อืม ถ้าเป็นที่นี่ฉันก็สามารถเอาออกมาได้ล่ะนะ”
ภายใต้สายตาสงสัยของพนักงาน วู่หยานไม่พูดปากโบกมือ พร้อมๆกันนั้นก็มีชิ้นส่วนสัตว์อสูรปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า แล้วกองพะเนินเต็มห้อง
“นี่...นี่...” พนักงานมองรอบๆห้อง ก่อนจะหันมามองวู่หยานด้วยสายตาช็อคๆ แล้วพูดเสียงสั่นๆ “แหวนมิติ!”
ใช่แล้ว ที่เขาช็อคไม่ใช่จำนวนของชิ้นส่วนสัตว์อสูร ถึงแม้มันจะเยอะก็จริง แต่เลเวลก็ไม่ได้สูงมากอะไร ชิ้นส่วนที่ล้ำค่ามากกว่านี้เขาก็เคยเห็นมาแล้ว
ที่เขาช็อคเป็นเพราะแหวนมิติที่สามารถเก็บของวางของอะไรก็ได้ มันเป็นไอเท็มที่พิเศษมาก
สายตาของพนักงาน ทำให้วู่หยานรู้สึกสนุกเล็กน้อย ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้มาสามเดือน วู่หยานย่อมต้องรู้ว่าไอเท็มประเภทมิติมันล้ำค่า แต่นั่นมันก็สำหรับคนธรรมดาล่ะนะ
ในโลกซิลวาเรีย ถึงแม้ไอเท็มมิติมันล้ำค่ามากก็จริง แต่มันก็ไม่ได้สร้างยากมากสักเท่าไหร่ ตราบใดที่เป็นนายช่างระดับยอดฝีมือ ย่อมสร้างได้โดยไม่ยากเย็นนัก
เหตุผลที่แหวนมิติมันล้ำค่า เป็นเพราะการจะสร้างมันได้ ต้องใช้วัตถุดิบหลักคือ อัญมณีมิติ!
ที่มันล้ำค่าขนาดนี้เป็นเพราะปัจจัยในการกำเนิดมันยากมาก!
อัญมณีมิติ จะเกิดในสถานที่ที่ไร้สิ่งมีชีวิต แม้แต่หญ้าต้นเดียวถ้ามีที่แห่งนั้นก็จะไม่มีวันเกิดอัญมณีมิติได้อีกตลอดกาล
ดังนั้นสถานที่ที่มันเกิดพอมีคนไปเจอเข้า สถานที่แห่งนั้นก็จะไม่มีอัญมณีมิติกำเนิดขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สอง!
แล้วในโลกซิลวาเรียที่ที่ไม่สิ่งมีชีวิตเลยจะมีสักกี่แห่งกัน? แล้วที่ที่มีคนพบอัญมณีมิติไปแล้วมีมากแค่ไหนกัน?
ดังนั้นนี่เลยทำให้ไอเท็มประเภทมิติล้ำค่า
แต่ทว่า ลูกหลานของตระกูลชั้นสูงอย่าง ลูลู่ เฟยเฟย ย่อมมีแน่นอน
ยกเว้นคนตระกูลชั้นสูง ก็มีแต่นักรบไม่ก็นักเวทแรงค์7 ขึ้นไปถึงจะมี แน่นอนว่านี่ก็แค่ความเป็นไปได้ มิติที่ใหญ่ก็จำเป็นต้องใช้อัญมณีมิติที่ใหญ่ตามไปด้วยเหมือนกัน....
วู่หยานดูไม่เหมือนนักรบแรงค์7ไม่ก็นักเวทเลย ดังนั้นพนักงานจึงคิดไปว่าวู่หยานคือลูกหลานตระกูลชั้นสูง!
พนักงานย่อเอวลงด้วยจิตใต้สำนึก จนตนเองเตี้ยกว่าวู่หยานจึงหยุด แล้วพูดด้วยความเคารพนับถือ “ท่านครับ จะกรุณาให้ผู้ต้อยต่ำคนนี้ประเมินราคาได้มั้ยครับ?”
“เชิญเลย!” วู่หยานเอาถุงออกมาจากแหวนมิติ แล้วยื่นให้พนักงาน “แล้วก็คริสตัลเวทนี้ด้วย!”
“ทราบแล้ว กรุณารอสักครู่ครับ!” พนักงานรับถุงมาแล้วโค้งคำนับให้วู่หยาน ก่อนจะหันหลังไปจัดการ
วู่หยานนั่งเต๊ะท่าดื่มน้ำชา
มันไม่ใช่เพราะเขาชอบเล่นเป็นคนชั้นสูง เขาเข้าใจดีว่าพนักงานคิดอะไร และยังเดาได้ถึงการเปลี่ยนท่าทางหลังจากเห็นแหวนมิติ แต่ถึงยังงั้นแล้วมีอะไรไม่ดีล่ะ
บางทีเขาอาจจะขายได้ระคาดีกว่าเดิมก็ได้ อาจจะอ่ะนะ.......