ตอนที่แล้วDND.22 - พลังพิฆาต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.24 - วัตถุลึกลับ

DND.23 - โอกาสดี


ซือหยูมองลู่ฉิงอย่างเย็นชาและรีบหันไปมองหุบเขามืด ชายหนุ่มชุดเขียวออกมาจากความมืดแล้ว

“หนีเร็ว! เขากำลังมาแล้ว!”

ซือหยูรีบใช้เงาเมฆาและหายไปกับแมกไม้ทันที

เขาอาจจะหนีไม่รอดพลังระดับหกก็ได้ ลู่ฉวนมองข้างหลังและเจอคนสวมชุดเขียวเปื้อนเลือดตรงเข้ามา ระดับของเขาเองยังเห็นได้ไม่ชัดเจน ทำให้เขากลัวมาก!

“หนีเร็ว!”

ลู่ฉวนแบกลู่ฉิงและกระโดดหนีอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะไปไม่ไปทางเดียวกับซือหยู

ในมือทั้งสองของชายชุดเขียวเปื้อนโลหิตเหนียวๆ เขามองแผ่นหลังซือหยูและลู่ฉวนที่แยกไปคนละทาง

“ช่างเป็นคนหนุ่มที่รู้จักประมานตัว ถึงกับเห็นข้าล่วงหน้าแล้วหนีไปได้”

เขายืนนิ่งและไม่ไล่ตาม เขาหายเข้าไปในหุบเขาอย่างรวดเร็ว

“เป้าหมายสำเร็จแล้ว เจ้าสามคนนั่นโชคดีจริงๆ! ถ้าพวกมันอยู่นานกว่านี้ข้าคงต้องถอยไปรายงานองค์ชายลำดับหนึ่ง”

ซือหยูหนีอยู่นานแต่ไม่เห็นใครตามมา เขาโล่งใจเล็กน้อยและไปซ่อนตัวที่ป่ารก เมื่อรู้สึกปลอดภัยแล้วเขาจึงเริ่มคิด

ก่อนที่เขาจะมาเทือกเขารัตติกาลก็มีข้อสงสัยอยู่ก่อนแล้ว หากมีคนเห็นถ้ำที่มีสัตว์อสูรเฝ้าอยู่จริงๆ ทำไมคนนั้นถึงไม่แอบไปหาสมบัติเองล่ะ? ทำไมถึงต้องกระจายข่าวไปทั่วเช่นนี้?

ขนาดคนอย่างฉวนหลีเฟยยังมีแผนที่ได้เลย ดูเหมือนข่าวจะแพร่กระจายไปเพื่อล่อคนอื่นให้เข้ามาที่หุบเขาและถูกกำจัดโดยชายชุดเดียว แต่เขาจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?

หลังจากรออยู่เงียบๆครึ่งวันก็ไม่พบว่าถูกตามอีกแล้ว

“ดูเหมือนเขาจะออกจากหุบเขาไปแล้ว”

ชายชุดเขียวถูกเปิดโปงแล้ว หากเขาอยากจะซ่อนตัวและสังหารคนต่อไป เขาควรจะฆ่าซือหยูกับพี่น้องลู่เพื่อปิดปาก แต่เมื่อไม่ถูกตามตัวนั่นหมายความว่าชายหนุ่มคนนั้นเลิกใช้หุบเขาเป็นที่ซ่อนแล้ว ซือหยูคิดแล้วคิดอีกแล้วกลับไปยังหุบเขามืด

ครึีงวันต่อมา ด้านนอกหุบเขาส่งกลิ่นโลหิตคละคลุ้ง เขาใช้พลังมองหาชายชุดเขียวแต่ไม่พบตัว มีเพียงร่างไร้วิญญาณเย็นเฉียบที่เหลืออยู่ ซือหยูก้าวเข้าไปใกล้ศพอย่างแผ่วเบา

“ศิษย์ทองคำอันดับสี่เซิงเบ่ย!”

ซือหยูอ้าปากค้าง

เซิงเบ่ยมีสัมพันธ์อันดีกับฉินเฟิง และเป็นคนรักเก่าของเขา นางเป็นแม่สื่อระหว่างฉินเฟิงและเจียงซื่อฉิง เซิงเบ่ยที่เป็นผู้หญิงเข้าออกหอสตรีได้อิสระและเป็นที่เคารพนับถืออย่างมากเพราะพลังของนาง นางมีเครือข่ายกับศิษย์หญิงในสำนักมากมายและรู้ข้อมูลภายในอย่างมาก

ซือหยูมองว่านางมีพลังระดับสามขั้นสูงที่โดดเด่นกว่าคนอื่น แต่เมื่อเจอกับการสังหาอันป่าเถื่อนต่อหน้าต่อตาก็ทำให้ใบหน้านางยังคงหลงเหลือร่องรอยความหวาดกลัวนั้น

เมื่อซือหยูค้นตัวนางก็พบว่าชายชุดเขียวไม่ได้เอาของมีค่าไปด้วย ซือหยูค้นหาของที่อยู่ในกระเป๋านาง

“โอสถวิญญาณชั้นสูง!”

ชายชุดเขียวนั่นไม่สนใจโอสถวิญญาณ! ซือหยูรีบเก็บโอสถวิญญาณไว้กับตัว เขายังพบตั๋วเงินสามใบที่มีค่าใบละ 1,000 ตำลึงเงินซึ่งซื้อโอสถวิญญาณชั้นสูงได้อีกขวด

เมื่อค้นเสร็จ ซือหยูเตรียมตัวกลับ แต่ทันใดนั้นเขาได้กลิ่นเหม็นเน่าอ่อนๆลอยมาจากหุบเขา เขาใช้พลังดวงตาตรวจสอบและพบราชสีห์ตัวใหญ่สองตัวขาดใจตายอยู่หน้าถ้ำ

หรือแผนที่สมบัติจะเป็นของจริง? ชายชุดเขียวนั่นเลือกสถานที่ที่มีสัตว์อสูรป้องกันอยู่จริงๆ

ราชสีห์เพลิงกำลังเน่าเปื่อย แต่เขี้ยวของมันก็มีค่า ซือหยูเก็บเขี้ยวพวกมันมาได้สี่ชิ้น เขี้ยวมันมีพลังลุกไหม้สูงมาก หากขว้างใส่เป้าหมายจะทำให้เกิดระเบิดและถูกเปลวเพลิงแผดเผา

พลังของมันคล้ายกับบอลเงินที่องค์หญิงเซี่ยนหยูใช้กับมังกรไฟ เขาจะเก็บมันไว้ใช้เองหรือขายก็ย่อมได้ เขี้ยวทั้งสี่มีค่าอย่างน้อย 2,000 ตำลึงเงิน

เมื่อเก็บเขี้ยวเรียบร้อยซือหยูตรวจสอบในถ้ำแต่ไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆ ถ้ำลึกเพียง 100 เมตร กำแพงศิลายังคงมีความร้อนเล็กน้อยจากเพลิงของราชสีห์

ซือหยูตัดสินใจเข้าไปในถ้ำและพบกับความว่างเปล่าที่ทำให้ผิดหวัง ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงรังของราชสีห์เพลิงที่ไม่ได้มีสมบัติอะไรอยู่เลย แต่ถ้าหากมีสมบัติชายชุดเขียวคงจะเอามันไปแล้ว

ครืน-

ตอนนั้นเองเขารู้สึกว่าพื้นที่ยืนอยู่สั่นเล็กน้อย เมื่อมองที่พื้นเขาก็พบรอยแตกสีโลหิต หากไม่ใช่เพราะพลังดวงตาเขาคงมองไม่เห็นมันแน่

เขาค่อยๆขุดลงไปและพบกับของเหลวร้อนสีแดงพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ

“ไขหยกเพลิงงั้นเหรอ?”

ซือหยูตกใจมาก! เขาเคยได้ยินเรื่องไขหยกเพลิงหลายครั้ง ว่ากันว่ามันาจากส่วนลึกของโลกและพลังเปลี่ยนแปลงร่างกายที่มากกว่าโอสถวิญญาณชั้นสูงเสียอีก! มันยังเพิ่มพลังกายได้อีกด้วย!

ไขหยกเพลิงหยดเดียวมีค่าอย่างน้อย 100 ตำลึงเงินในตลาด แต่มันไม่มีราคาตลาดอีกแล้ว! ไม่มีใครเจอมันมาร้อยปีแล้ว ตระกูลราชวงศ์ก็ไม่มีมันเลยเช่นกัน และไขหยกเพลิงตรงหน้าเขาก็มากกว่าหนึ่งหยดเสียอีก

ซือหยูตื่นเต้นมากที่ได้พบมัน

ของเหลวล้ำค่านี้เพิ่มพลังของคนที่มีพลังระดับหกได้ ชายชุดเขียวมองข้ามของล้ำค่านี้ไปได้ยังไงกัน! แต่ซือหยูรู้สึกว่าตัวเองโง่เขลานักที่ไม่ได้นำขวดหยกมามากนัก

เขาทำได้เพียงบ่มเพาะพลังที่นี่และเอาส่วนที่เหลือกลับไป! ซือหยูทำใจขุดหลมให้ลึกขึ้นและหย่อนตัวฃ

ไป

ซ่าา--

เขารู้สึกราวกับถูกทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ! ความเจ็บปวดทำให้ประสาทของเขาแทบรับไม่ได้จนอยากจะกระโดดออกมา แต่ความตั้งใจอันแรงกล้าฉุดรั้งให้เขาอดทนต่อไป

เชากัดฟันแน่น เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลออกมาจากหน้าผาก ทั้งตัวของเขาแดงก่ำจากความร้อน

ทนไว้! ที่ข้าเจ็บปวดก็เช่นนี้ก็เพราะว่าข้าอ่อนแอ หากข้ากัดฟันทนต่อไปร่างกายข้าจะเปลี่ยนไปได้!

หนึ่งนาทีผานไป!

สิบนาทีผ่านไป!

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป!

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป!

ความดื้อรั้นของซือหยูทำให้เขาอดทนได้ยาวนานถึงสามชั่วโมงจนร่างกายเปลี่ยนแปลงและปรับตัวจนไม่ทรมานอีกต่อไป หลังสิบชั่วโมงเขาก็ไม่มีความรู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย

ในตอนนี้ไขหยกเพลิงในหลุมเหลือเพียงหนึ่งกำปั้น

ซือหยูค่อยๆลืมตา พลังเอ่อล้นไปทั่วราง

“พลังไขหยกเพลิงเป็นเรื่องจริง!”

ซือหยูตื่นเต้น พลังของเขาถูกบ่มเพาะจนถึงระดับสามชั้นสูง อีกก้าวเดียวเขาจะมีพลังระดับสี่แล้ว!

การดื่มไขหยกเพลิงจะเพิ่มการบ่มเพาะพลังได้ แต่เพียงการลงไปสัมผัสกับมันก็ทำให้เขาบรรลุระดับสามขั้นสูงแล้ว! พลังของมันช่างเหลือเชื่อ! ไขหยกเพลิงที่เหลือเขาจะเก็บไว้ดื่ม ด้วยพลังของมันจะทำให้ซือหยูก้าวกระโดดไปอีกขั้น

ซือหยูจินตนาการพลังของตัวเองตอนนี้ไม่ออกเลย เขาเคยชนะลู่ฉิงที่มีพลังระดับสามขั้นกลางอย่างง่ายดาย ตอนนี้เขาน่าจะชนะลู่ฉวนพี่ชายของลู่ฉิงได้อย่างแน่นอน

“ฉินเฟิง! ระยะห่างของเจ้ากับข้าแคบลงแล้ว! หวังว่าเจ้าจะไม่ตกใจเมื่อถึงเวลานั้นนะ!”

ซือหยูกำหมัด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

ซือหยูมองดูไขหยกเพลิงล้ำค่าที่เหลืออยู่ จากนั้นเขาจึงออกไปข้างนอกเพื่อจับอสรพิษและเผาหนังของมันให้สะอาดเพื่อใช้เป็นถุงเก็บไขหยกเพลิงที่เหลือ

เมื่อเก็บไขหยกเพลิงหยดสุดท้าย ซือหยูคำนวนเวลาและพูดกับตัวเอง

“ข้าออกมาครึ่งเดือนแล้ว จะกลับไปต้องใช้เวลาอีกประมาณสองสัปดาห์ ข้าต้องรีบกลับสำนักแล้ว กำลังจะถึงเวลาประเมินศิษย์ทองคำ!”

เอ๊ะ! ตอนที่ซือหยูเก็บไขหยกเพลิงเสร็จ ทันใดนั้นเขาพบแสงหลากสีสว่างออกมาจากด้านในรอยแยกที่ไขหยกเพลิงไหลออกมา ซือหยูจึงเริ่มสำรวจต่อไป

เขาขุดลึกลงไปครึ่งเมตร

ตู้ม-

เขาพบอุโมงค์ธรรมชาติอยู่ใต้ดิน มันมีกลิ่นอายของไขหยกเพลิงด้านในอุโมงค์ที่ทอดยาวลึกลงไป

ซือหยูที่สงสัยจึงลงไปและรู้สึกเจ็บแปลบ มันถูกคลื่นความร้อนจากไขหยกเพลิง โชคดีที่ร่างกายของเขาไม่กลัวการสัมผัสไขหยกเพลิงอีกแล้ว

หลังจากเดินเข้ามาหนึ่งชั่วโมง ซือหยูพบว่ามันหายใจยากขึ้นเรื่อยๆราวกับว่าเขาได้เดินเข้ามาหลายพันลี้

แสงหลากสีสวางขึ้นมาอีกครั้งที่ด้านในสุดของอุโมงค์ ซือหยูรีบเข้าไปทันที เชาพบผนึกดินเหนียวที่มีรอยแตก แสงหลากสีสว่างมาจากตรงนั้น ซือหยูมองผ่านรอยแตกและพบห้องโถงใหญ่ทรุดโทรมที่ถูกฝังอยู่ลึกใต้ผืนโลกนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด