DND.23 - โอกาสดี
ซือหยูมองลู่ฉิงอย่างเย็นชาและรีบหันไปมองหุบเขามืด ชายหนุ่มชุดเขียวออกมาจากความมืดแล้ว
“หนีเร็ว! เขากำลังมาแล้ว!”
ซือหยูรีบใช้เงาเมฆาและหายไปกับแมกไม้ทันที
เขาอาจจะหนีไม่รอดพลังระดับหกก็ได้ ลู่ฉวนมองข้างหลังและเจอคนสวมชุดเขียวเปื้อนเลือดตรงเข้ามา ระดับของเขาเองยังเห็นได้ไม่ชัดเจน ทำให้เขากลัวมาก!
“หนีเร็ว!”
ลู่ฉวนแบกลู่ฉิงและกระโดดหนีอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะไปไม่ไปทางเดียวกับซือหยู
ในมือทั้งสองของชายชุดเขียวเปื้อนโลหิตเหนียวๆ เขามองแผ่นหลังซือหยูและลู่ฉวนที่แยกไปคนละทาง
“ช่างเป็นคนหนุ่มที่รู้จักประมานตัว ถึงกับเห็นข้าล่วงหน้าแล้วหนีไปได้”
เขายืนนิ่งและไม่ไล่ตาม เขาหายเข้าไปในหุบเขาอย่างรวดเร็ว
“เป้าหมายสำเร็จแล้ว เจ้าสามคนนั่นโชคดีจริงๆ! ถ้าพวกมันอยู่นานกว่านี้ข้าคงต้องถอยไปรายงานองค์ชายลำดับหนึ่ง”
ซือหยูหนีอยู่นานแต่ไม่เห็นใครตามมา เขาโล่งใจเล็กน้อยและไปซ่อนตัวที่ป่ารก เมื่อรู้สึกปลอดภัยแล้วเขาจึงเริ่มคิด
ก่อนที่เขาจะมาเทือกเขารัตติกาลก็มีข้อสงสัยอยู่ก่อนแล้ว หากมีคนเห็นถ้ำที่มีสัตว์อสูรเฝ้าอยู่จริงๆ ทำไมคนนั้นถึงไม่แอบไปหาสมบัติเองล่ะ? ทำไมถึงต้องกระจายข่าวไปทั่วเช่นนี้?
ขนาดคนอย่างฉวนหลีเฟยยังมีแผนที่ได้เลย ดูเหมือนข่าวจะแพร่กระจายไปเพื่อล่อคนอื่นให้เข้ามาที่หุบเขาและถูกกำจัดโดยชายชุดเดียว แต่เขาจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?
หลังจากรออยู่เงียบๆครึ่งวันก็ไม่พบว่าถูกตามอีกแล้ว
“ดูเหมือนเขาจะออกจากหุบเขาไปแล้ว”
ชายชุดเขียวถูกเปิดโปงแล้ว หากเขาอยากจะซ่อนตัวและสังหารคนต่อไป เขาควรจะฆ่าซือหยูกับพี่น้องลู่เพื่อปิดปาก แต่เมื่อไม่ถูกตามตัวนั่นหมายความว่าชายหนุ่มคนนั้นเลิกใช้หุบเขาเป็นที่ซ่อนแล้ว ซือหยูคิดแล้วคิดอีกแล้วกลับไปยังหุบเขามืด
ครึีงวันต่อมา ด้านนอกหุบเขาส่งกลิ่นโลหิตคละคลุ้ง เขาใช้พลังมองหาชายชุดเขียวแต่ไม่พบตัว มีเพียงร่างไร้วิญญาณเย็นเฉียบที่เหลืออยู่ ซือหยูก้าวเข้าไปใกล้ศพอย่างแผ่วเบา
“ศิษย์ทองคำอันดับสี่เซิงเบ่ย!”
ซือหยูอ้าปากค้าง
เซิงเบ่ยมีสัมพันธ์อันดีกับฉินเฟิง และเป็นคนรักเก่าของเขา นางเป็นแม่สื่อระหว่างฉินเฟิงและเจียงซื่อฉิง เซิงเบ่ยที่เป็นผู้หญิงเข้าออกหอสตรีได้อิสระและเป็นที่เคารพนับถืออย่างมากเพราะพลังของนาง นางมีเครือข่ายกับศิษย์หญิงในสำนักมากมายและรู้ข้อมูลภายในอย่างมาก
ซือหยูมองว่านางมีพลังระดับสามขั้นสูงที่โดดเด่นกว่าคนอื่น แต่เมื่อเจอกับการสังหาอันป่าเถื่อนต่อหน้าต่อตาก็ทำให้ใบหน้านางยังคงหลงเหลือร่องรอยความหวาดกลัวนั้น
เมื่อซือหยูค้นตัวนางก็พบว่าชายชุดเขียวไม่ได้เอาของมีค่าไปด้วย ซือหยูค้นหาของที่อยู่ในกระเป๋านาง
“โอสถวิญญาณชั้นสูง!”
ชายชุดเขียวนั่นไม่สนใจโอสถวิญญาณ! ซือหยูรีบเก็บโอสถวิญญาณไว้กับตัว เขายังพบตั๋วเงินสามใบที่มีค่าใบละ 1,000 ตำลึงเงินซึ่งซื้อโอสถวิญญาณชั้นสูงได้อีกขวด
เมื่อค้นเสร็จ ซือหยูเตรียมตัวกลับ แต่ทันใดนั้นเขาได้กลิ่นเหม็นเน่าอ่อนๆลอยมาจากหุบเขา เขาใช้พลังดวงตาตรวจสอบและพบราชสีห์ตัวใหญ่สองตัวขาดใจตายอยู่หน้าถ้ำ
หรือแผนที่สมบัติจะเป็นของจริง? ชายชุดเขียวนั่นเลือกสถานที่ที่มีสัตว์อสูรป้องกันอยู่จริงๆ
ราชสีห์เพลิงกำลังเน่าเปื่อย แต่เขี้ยวของมันก็มีค่า ซือหยูเก็บเขี้ยวพวกมันมาได้สี่ชิ้น เขี้ยวมันมีพลังลุกไหม้สูงมาก หากขว้างใส่เป้าหมายจะทำให้เกิดระเบิดและถูกเปลวเพลิงแผดเผา
พลังของมันคล้ายกับบอลเงินที่องค์หญิงเซี่ยนหยูใช้กับมังกรไฟ เขาจะเก็บมันไว้ใช้เองหรือขายก็ย่อมได้ เขี้ยวทั้งสี่มีค่าอย่างน้อย 2,000 ตำลึงเงิน
เมื่อเก็บเขี้ยวเรียบร้อยซือหยูตรวจสอบในถ้ำแต่ไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆ ถ้ำลึกเพียง 100 เมตร กำแพงศิลายังคงมีความร้อนเล็กน้อยจากเพลิงของราชสีห์
ซือหยูตัดสินใจเข้าไปในถ้ำและพบกับความว่างเปล่าที่ทำให้ผิดหวัง ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงรังของราชสีห์เพลิงที่ไม่ได้มีสมบัติอะไรอยู่เลย แต่ถ้าหากมีสมบัติชายชุดเขียวคงจะเอามันไปแล้ว
ครืน-
ตอนนั้นเองเขารู้สึกว่าพื้นที่ยืนอยู่สั่นเล็กน้อย เมื่อมองที่พื้นเขาก็พบรอยแตกสีโลหิต หากไม่ใช่เพราะพลังดวงตาเขาคงมองไม่เห็นมันแน่
เขาค่อยๆขุดลงไปและพบกับของเหลวร้อนสีแดงพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ
“ไขหยกเพลิงงั้นเหรอ?”
ซือหยูตกใจมาก! เขาเคยได้ยินเรื่องไขหยกเพลิงหลายครั้ง ว่ากันว่ามันาจากส่วนลึกของโลกและพลังเปลี่ยนแปลงร่างกายที่มากกว่าโอสถวิญญาณชั้นสูงเสียอีก! มันยังเพิ่มพลังกายได้อีกด้วย!
ไขหยกเพลิงหยดเดียวมีค่าอย่างน้อย 100 ตำลึงเงินในตลาด แต่มันไม่มีราคาตลาดอีกแล้ว! ไม่มีใครเจอมันมาร้อยปีแล้ว ตระกูลราชวงศ์ก็ไม่มีมันเลยเช่นกัน และไขหยกเพลิงตรงหน้าเขาก็มากกว่าหนึ่งหยดเสียอีก
ซือหยูตื่นเต้นมากที่ได้พบมัน
ของเหลวล้ำค่านี้เพิ่มพลังของคนที่มีพลังระดับหกได้ ชายชุดเขียวมองข้ามของล้ำค่านี้ไปได้ยังไงกัน! แต่ซือหยูรู้สึกว่าตัวเองโง่เขลานักที่ไม่ได้นำขวดหยกมามากนัก
เขาทำได้เพียงบ่มเพาะพลังที่นี่และเอาส่วนที่เหลือกลับไป! ซือหยูทำใจขุดหลมให้ลึกขึ้นและหย่อนตัวฃ
ไป
ซ่าา--
เขารู้สึกราวกับถูกทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ! ความเจ็บปวดทำให้ประสาทของเขาแทบรับไม่ได้จนอยากจะกระโดดออกมา แต่ความตั้งใจอันแรงกล้าฉุดรั้งให้เขาอดทนต่อไป
เชากัดฟันแน่น เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลออกมาจากหน้าผาก ทั้งตัวของเขาแดงก่ำจากความร้อน
ทนไว้! ที่ข้าเจ็บปวดก็เช่นนี้ก็เพราะว่าข้าอ่อนแอ หากข้ากัดฟันทนต่อไปร่างกายข้าจะเปลี่ยนไปได้!
หนึ่งนาทีผานไป!
สิบนาทีผ่านไป!
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป!
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป!
ความดื้อรั้นของซือหยูทำให้เขาอดทนได้ยาวนานถึงสามชั่วโมงจนร่างกายเปลี่ยนแปลงและปรับตัวจนไม่ทรมานอีกต่อไป หลังสิบชั่วโมงเขาก็ไม่มีความรู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนี้ไขหยกเพลิงในหลุมเหลือเพียงหนึ่งกำปั้น
ซือหยูค่อยๆลืมตา พลังเอ่อล้นไปทั่วราง
“พลังไขหยกเพลิงเป็นเรื่องจริง!”
ซือหยูตื่นเต้น พลังของเขาถูกบ่มเพาะจนถึงระดับสามชั้นสูง อีกก้าวเดียวเขาจะมีพลังระดับสี่แล้ว!
การดื่มไขหยกเพลิงจะเพิ่มการบ่มเพาะพลังได้ แต่เพียงการลงไปสัมผัสกับมันก็ทำให้เขาบรรลุระดับสามขั้นสูงแล้ว! พลังของมันช่างเหลือเชื่อ! ไขหยกเพลิงที่เหลือเขาจะเก็บไว้ดื่ม ด้วยพลังของมันจะทำให้ซือหยูก้าวกระโดดไปอีกขั้น
ซือหยูจินตนาการพลังของตัวเองตอนนี้ไม่ออกเลย เขาเคยชนะลู่ฉิงที่มีพลังระดับสามขั้นกลางอย่างง่ายดาย ตอนนี้เขาน่าจะชนะลู่ฉวนพี่ชายของลู่ฉิงได้อย่างแน่นอน
“ฉินเฟิง! ระยะห่างของเจ้ากับข้าแคบลงแล้ว! หวังว่าเจ้าจะไม่ตกใจเมื่อถึงเวลานั้นนะ!”
ซือหยูกำหมัด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ซือหยูมองดูไขหยกเพลิงล้ำค่าที่เหลืออยู่ จากนั้นเขาจึงออกไปข้างนอกเพื่อจับอสรพิษและเผาหนังของมันให้สะอาดเพื่อใช้เป็นถุงเก็บไขหยกเพลิงที่เหลือ
เมื่อเก็บไขหยกเพลิงหยดสุดท้าย ซือหยูคำนวนเวลาและพูดกับตัวเอง
“ข้าออกมาครึ่งเดือนแล้ว จะกลับไปต้องใช้เวลาอีกประมาณสองสัปดาห์ ข้าต้องรีบกลับสำนักแล้ว กำลังจะถึงเวลาประเมินศิษย์ทองคำ!”
เอ๊ะ! ตอนที่ซือหยูเก็บไขหยกเพลิงเสร็จ ทันใดนั้นเขาพบแสงหลากสีสว่างออกมาจากด้านในรอยแยกที่ไขหยกเพลิงไหลออกมา ซือหยูจึงเริ่มสำรวจต่อไป
เขาขุดลึกลงไปครึ่งเมตร
ตู้ม-
เขาพบอุโมงค์ธรรมชาติอยู่ใต้ดิน มันมีกลิ่นอายของไขหยกเพลิงด้านในอุโมงค์ที่ทอดยาวลึกลงไป
ซือหยูที่สงสัยจึงลงไปและรู้สึกเจ็บแปลบ มันถูกคลื่นความร้อนจากไขหยกเพลิง โชคดีที่ร่างกายของเขาไม่กลัวการสัมผัสไขหยกเพลิงอีกแล้ว
หลังจากเดินเข้ามาหนึ่งชั่วโมง ซือหยูพบว่ามันหายใจยากขึ้นเรื่อยๆราวกับว่าเขาได้เดินเข้ามาหลายพันลี้
แสงหลากสีสวางขึ้นมาอีกครั้งที่ด้านในสุดของอุโมงค์ ซือหยูรีบเข้าไปทันที เชาพบผนึกดินเหนียวที่มีรอยแตก แสงหลากสีสว่างมาจากตรงนั้น ซือหยูมองผ่านรอยแตกและพบห้องโถงใหญ่ทรุดโทรมที่ถูกฝังอยู่ลึกใต้ผืนโลกนี้