ตอนที่ 6 ไปโรงเรียนวันแรก
ตอนที่ 6 ไปโรงเรียนวันแรก
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนอันดับที่ 60 แห่งนี้
ไม่สิถ้าจะพูดให้ถูกมันเป็นวันเปิดเทอมของโรงเรียนสำหรับนักฝึกตนขั้นแรกเริ่มลมปราณทั่วทั้งประเทศ
การศึกษาของประเทศจีนนั้นยึดติดกับสุภาษิตนึงว่า “หากสังคมไม่มีกฎ คนจะมีระเบียบได้อย่างไร” โดยวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมากว่า 1000 ศตวรรษ สุภาษิตนั้นไม่ได้มีไว้เฉยๆ ไปโรงเรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา พักเที่ยง เลิกเรียน สวมใส่ยูนิฟอร์มโรงเรียน กฎเหล่านี้มีมานานแล้วอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์กว่า100ปี
คืนก่อน ขณะที่หวังลิ่งกำลังกินขนมบะหมี่ชุดนักเรียนของเขาก็ถูกส่งผ่านการขนส่งข้ามมิติ
ชุดนักเรียนของโรงเรียนนี้มีสีน้ำเงินขาว ดูเหมือนชุดกีฬาข้างหลังเสื้อมีตัวหนังสือสีดำใหญ่ๆ เขียนไว้ว่า “ELITE” (พิเศษ) สำหรับนักเรียนห้องพิเศษ
แม้ว่าเขาจะเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว หวังลิ่งถอนหายใจขณะมองที่ชุดนักเรียนของเขา
เขาเข้าใจที่ว่าชุดนักเรียนมันสืบทอดกันมานานกว่า1000ศตวรรษ แต่ถึงอย่างนั้นช่วยทำให้มันดูดีกว่านี้ไม่ได้หรือยังไง แล้วนี่ยังมีคำว่า “ELITE” แปะหลาอยู่กลางหลังอีก สิทธิพิเศษสำหรับห้องพิเศษหรือยังไง?
หลังจากหวังลิ่งพลิกไปพลิกมาอยู่หลายรอบ เขาก็คิดว่าชุดนี้คงได้แรงบันดาลใจมาจากชุดของนักโทษสมัยก่อนที่รอจะโดนประหารเมื่อ3000ปีก่อน ที่เขียนว่าว่า “DEAD” แปะไว้ทั้งหน้าและหลัง
อย่างไรก็ตามจะว่ามันไม่พัฒนาเลยก็ไม่ได้ กระเป๋าเกือบทั้งหมดของชุดนักเรียนเป็นกระเป๋ามิติ ความจุของมันเยอะมากถึงขั้นว่าใส่อะไรลงไปยังไงมันก็ไม่เต็ม นี่เป็นความสำเร็จเพียงอย่างเดียวของการศึกษาที่พยายามจะลดภาระของนักเรียน
แต่มันไม่ใช่ปัญหาหลัก
สำหรับหวังลิ่งปัญหาหลักจริงๆของเขาก็คือ พรุ่งนี้เขาต้องไปโรงเรียนวันแรกนี่สิ
ระยะทางจากหมู่บ้านของเขาถึงโรงเรียนก็ประมาณหมื่นลี้ หวังลิ่งวิ่งเต็มสปีดน่าจะไปถึงหน้าประตูโรงเรียนภายใน2นาที
ก่อนหน้านี้เขาวิ่งกว่า3หมื่นลี้ไปซื้อขนมบะหมี่ แค่หมื่นลี้มันไม่ทำให้เขาเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย
…………………
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก เหล่าอาจารย์ก็มายืนรอทักทายนักเรียนอยู่หน้าประตูโรงเรียน
หวังลิ่งที่พึ่งจะเริ่มทำใจได้กับเหตุการณ์ที่ผ่าน ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันจากไกลๆ
“ฉันได้ยินว่ามีนักเรียนใหม่ได้เกรด SSS เมื่อวาน”
“ใช่ๆ ผู้อำนวยการเช็น นักเรียนคนนั้นชื่อหวังลิ่ง และเขาก็ได้เข้าห้องพิเศษด้วย”
“นั่นสินะ...ดูเหมือนนักเรียนคนนี้จะมีอนาคตที่สดใสนะ ว่าแต่หวังลิ่งคนนี้เป็นนักเรียนหญิงหรือนักเรียนชาย?” ผู้อำนวยการถาม
“นักเรียนชาย”
ผู้อำนวยการแสดงสีหน้าอย่างเสียดาย “อืม...นักเรียนชายสมัยนี้เรียนรู้อะไรได้ไว ถ้าหากเป็นนักเรียนหญิงฉันจะเชิญมาสอนตัวต่อตัวแล้ว”
เหล่าอาจารย์ถอนหายใจด้วยความเสียดาย
หวังลิ่งทำหน้า = = ต่อสิ่งที่เขาได้ยิน (อาจารย์...)
หลังจากที่เขาจัดชุดของเขาเสร็จ หวังลิ่งจึงเดินผ่านประตูโรงเรียนเข้าไป ทำความเคารพเหล่าอาจารย์โดยไม่มีใครจำเขาได้ เป็นเพราะว่าเขานั้นวิ่งมาด้วยความเร็วจากหมู่บ้านของเขา และเขาได้ใช้1ใน3000วิชาขั้นสูง -วิชาร่างจำแลงขั้นสูง
เทียบกับวิชาขั้นธรรมดา ความแตกต่างของวิชาอยู่ตรง มันสามารถแก้ไขโครงสร้างหน้าตาถึงระดับDNA และไม่สามารถตรวจสอบได้แม้จะใช้เครื่องมือตรวจสอบรุ่นล่าสุดก็ตาม
แต่ในทางกลับกัน วิชาขั้นธรรมดามีรากฐานมาจากการแต่งหน้าสมัยโบราณ ซึ่งจะถูกจับได้ทันทีโดยกล้องวงจรปิดทั่วไปตามถนน และจะแจ้งเตือนไปยังสถานีตำรวจ
หวังลิ่งแอบเข้าโรงเรียนอย่างปลอดภัย หลังจากผ่านหน้าประตูโรงเรียนมาโดยไม่มีใครจำเขาได้...ถึงจะเสียแรงแต่ก็ต้องทำ เพราะสำหรับเขาคำชมหรือเสียงปรบมือมันน่ารำคาญ
ตั้งแต่เด็กเขาหวังว่าเขาจะพบสถานที่ที่สงบ ที่ซึ่งเขาสามารถเรียนอย่างเงียบๆได้ แต่กลับไม่มีอะไรสมหวังเขาเลยสักอย่าง
มีสำนวนที่ว่า ถ้าหากพระเจ้าปิดประตู ก็จงไปเปิดหน้าต่าง
ในกรณีของหวังลิ่ง มันอนาถกว่านั้น... ไม่ใช่แค่พระเจ้าเปิดทั้งประตูและหน้าต่างให้เขา พระเจ้ายังให้ลมพายุไว้หน้าบ้านด้วย
ห้องเรียนของนักเรียนปี1ห้องพิเศษ3 นั้นอยู่ที่ชั้นแรกของตึกเรียน
เป็นทำเลที่ดี ประตูหน้าห้องติดกับห้องน้ำหญิงส่วนประตูหลังห้องติดกับห้องน้ำชาย ในขณะเดียวกันยังตั้งอยู่ใกล้ห้องอาหารที่สุด ทุกพักเที่ยงห้องพิเศษจะได้ไม่ต้องปวดหัวกับการหาที่นั่ง
ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่ตอนนี้มีวิชาเรียนน้อยลงแต่เรียนนานขึ้นซึ่งปรับให้เขากับยุคสมัย รวมถึงวิชาฟิตเนส วิชาการฝึกพลัง หรือแม้กระทั่งวิชาทั่วไป เช่น การเขียนยันต์ การทำยาบำรุงหรือยารักษา และอื่นๆ แล้วแต่นักเรียนจะเลือกเมื่อเข้าสู่ปี1ขั้นสูง
ปี1ขั้นสูงคือเมื่อนักเรียนเรียนรู้พื้นฐานสำคัญครบแล้ว แม้ว่าหวังลิ่งจะเรียนรู้พื้นฐานทั้งหมดตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว เขายังคงต้องแสร้งเป็นว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ต้องเข้าเรียนทุกครั้งและทำเกรดให้อยู่ระดับกลางๆ
มันน่ารำคาญสำหรับเขาที่ต้องคอยทำอะไรซ้ำๆซากๆ
การสร้างเพื่อนเป็นอะไรที่หวังลิ่งไม่ถนัด ในโรงเรียนมีห้องพิเศษอยู่ทั้งหมด2ห้องในห้องเขามีนักเรียน15คน
หลังจากการคัดเลือกคณะกรรมการห้อง หวังลิ่งจำชื่อคนได้แค่บางคนเท่านั้น
คนที่แรกคนได้รับเลือกเป็นหัวหน้าห้องอย่างเป็นเอกฉันท์คือ ซุนหรง ผู้ซึ่งสวยสง่ามีราศี เธออกมาพูดหน้าชั้นด้วยความมั่นใจ เล่าเรื่องเล่นละครราวกับว่าเธอกำลังแสดงละครน้ำเน่าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์
ส่วนคนที่2ที่เขาจำได้ชื่อ เช็นเฉา ซึ่งได้รับตำแหน่งเป็นผู้ดูแลด้านกีฬา เช็นเฉาอยู่ในขั้นแรกเริ่มลมปราณระดับสูง และเป็นคนที่มีโอกาศที่จะสำเร็จขั้นแก่นแท้ปราณทองคำ เขาเกิดในครอบครัวผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ เขาน่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วในโรงเรียน และเขามักจะโกรธใส่คนสัตว์สิ่งของอยู่ตลอดเวลา
คนที่3ชื่อ กัวหาว รับผิดชอบด้านวิทยาศาสตร์ เขาอยู่ในขั้นแรกเริ่มลมปราณระดับสูง ครอบครัวของเขาเปิดร้านขายสัตว์ ซึ่งขณะนี้พัฒนาเป็นร้านขายสัตว์วิญญาณ เขามักจะพานกแก้วที่ชื่อดูปี้ไปไหนมาไหนตลอด นักเรียนในห้องเลยตั้งฉายาให้เขาว่า มาสเตอร์ดูปี้
คนที่4 เป็นคนที่หวังลิ่งระวังตัวที่สุด เขาชื่อ ลี้ฉวนจิง ชื่อของเขานั้นเหมือนชื่อเด็กผู้หญิง เขาเป็นคนดูเซอๆเงียบๆ สูง190เซนติเมตร ไม่ค่อยพูดมากและดูธรรมดาที่สุดในห้อง แต่สิ่งที่แปลกก็คือวิชาอ่านใจของหวังลิ่งไม่ได้ผลกับลี้ฉวนจิง และนักเรียนชายคนอื่นๆภายในห้องด้วย
มันเป็นสถานการณ์ที่แปลก มีแค่เพียง2อย่างที่สามารถป้องกันการอ่านใจของหวังลิ่งได้ก็คือ หนึ่ง เขาต้องพกของวิเศษซึ่งสามารถป้องกันคลื่นพลังวิญญาณของเขาได้ และสองต้องเป็นคนง่ายและซื่อคิดอะไรไม่ซับซ้อน
แต่ไม่ว่าจะแบบไหน ในสายตาหวังลิ่ง ลี้ฉวนจิงเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่จะระเบิดตอนไหนก็ไม่รู้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อแผนการของเขาอย่างมาก
ทั้งหมดมีแค่4คนที่เขาจำเป็นต้องระวังตัว
หลังจากคาบแรกจบลง ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะ หวังลิ่งทำได้เพียงถอนหายใจการซ่อนตัวในจุดที่เป็นอันตรายแบบนี้มันโคตรยาก
เขาเหลือบมองนาฬิกา หวังลิ่งหยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋ามิติและวางมันลงบนโต๊ะ
จากนั้นเสียงออดก็ดังเป็นเวลาคาบถัดไป
ไม่นานนักก็มีหญิงวัยกลางคนสวมแว่นกรอบทองผมทรงโพนี่เทล เดินผ่านประตูมาและยืนบนเวทีหน้าชั้นเรียน และตีหนังสือใส่มือตัวเอง “อาจารย์ได้ยินเสียงของพวกเธอดังไปถึงห้องพักอาจารย์! พวกเธอเป็นนักเรียนชั้นพิเศษสร้างเสียงรบกวนถึงขนาดนี้แล้วต่อไปพวกเธอจะทำอะไรกันอีก”
อาจารย์หญิงวัยกลางคนคนนี้ชื่อว่า ป่าน เฉิงซง คุณครูประจำชั้นของชั้นปีที่1ห้องพิเศษ3 และในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่5 ที่หวังลิ่งต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ...