ตอนที่ 4 หนึ่งในล้าน พลังวิญญาณจอมราชันย์
ตอนที่ 4 หนึ่งในล้าน พลังวิญญาณจอมราชันย์
การบุกรุกของปีศาจเมื่อ 6 ปีก่อน มันอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในจีนนับตั้งแต่อดีต
พลังวิญญาณที่ตกค้างทำให้โครงสร้างของมิติเวลาบิดเบี้ยว จึงทำให้เกิดรูรั่วระหว่างโลกปีศาจกับโลกมนุษย์ ภายในระยะเวลา 1 คืนได้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลต่อจีน ระบบเศรษฐกิจสูญเสียกว่าแสนล้าน
ที่น่าแปลกก็คือพวกปีศาจล่าถอยกลับไปเร็วเหมือนตอนที่พวกมันบุกมา ในระยะเวลาไม่กี่วันนั้นก็ทำให้เกิดเหล่าวีรบุรุษจำนวนมากเราเรียกพวกเขาว่า “ผู้ฝึกตนแห่งปี”
โจวยี่ผู้ซึ่งสังหารคางคกกลืนฟ้าระดับ 5 ด้วยวิชาผ่าท้องฟ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น
นอกจากโจวยี่ หวังลิ่งยังจำได้ว่ามีทั้งหมด 9 คนที่ได้รับรางวัลนั้นแต่เขานึกชื่อพวกนั้นไม่ออก เขาจำได้แค่ชื่อพวกเขาเกี่ยวกับพระอาทิตย์หรือก้อนเมฆอะไรสักอย่าง
ณ ตอนนั้น หวังลิ่งเดินเล่นอยู่ในเมืองซิงยวี่*คนเดียว เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ห่างออกไป 3000 ลี้จากกลางเมือง เป็นหมู่บ้านที่ไม่ใหญ่อยู่ติดกับขอบเมืองซิงยวี่ ถึงแม้ว่ามันจะไกลมากแต่หวังลิ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาทีถึงใจกลางเมือง
*(Xingyu อ่านว่าซิง-ยวี่ แปลว่าดวงดาว)
และเหตุผลที่เขาเดินทางกว่าพันลี้ถึงเมืองซิงยวี่ ก็เพื่อมาซื้อขนมบะหมี่กึ่งกำเร็จรูปรุ่นลิมิตเต็ด เขาจำได้ว่าเจ้าขนมที่ชื่อว่า สมอลแรคคูน (Small Raccoon) จะแถมลิมิตเต็ดการ์ดซึ่งวางขายแค่ในเมืองซิงยวี่เท่านั้น เขาบอกว่าหากใครเจอเจ้าการ์ดใบนั้น คนนั้นจะได้สิทธิ์กินขนมฟรีไปอีก 200 ปี
สำหรับหวังลิ่งแล้วมันยากที่จะต้านทานไหว
เจ้าขนมอันนี้มันอร่อยมาก มีคุณค่ามากเสียกว่าไอเท็มวิเศษในตลาด ต่อให้ไอเท็มชิ้นนั้นจะแพงหรือหายากขนาดไหน เมื่อมาอยู่ในมือหวังลิ่งมันก็ทนได้แค่ไม่กี่นาทีก่อนมันจะพัง แต่ขนมอันนี้ไม่เป็นเช่นนั้น
ต่อให้มันแตกละเอียดมันก็ยังไม่เป็นอะไรเขาตั้งให้มันเป็นขนมที่ดีที่สุดในโลก
เขารีบไปที่ร้านขายขนมนั่นแต่ทันใดนั้นเองประตูมิติก็เปิดออกปราศจากการแจ้งเตือนใดๆ มาพร้อมกับเสียงอันดังก้อง
เขาจำเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้แม่น ท้องฟ้าแยกออกจากกันเหนือร้านขนมบะหมี่คลื่นการสั่นสะเทือนอันรุนแรงทำให้ร้านนั้นพังลงแทบจะในทันที
เขาจำอะไรได้ไม่มากนักว่าต่อจากนั้นว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน สิ่งหนึ่งที่เขาจำได้คือเขาโมโหมากเขาจึงมองหาที่ระบายอารมณ์!
และจังหวะนั้นเองเขาก็เห็นอะไรบางอย่างที่มี่ขนาดใหญ่ตกลงมาจากฟ้า....
มันเป็นตัวอะไรสักอย่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและมีสีฟ้า ดวงตาของมันสั่นไหวส่องแสงอย่างแปลกๆ -มันเป็นคางคกตัวสีฟ้าที่ใหญ่มาก
นี่ถือว่าเป็นปีศาจที่ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาจำความได้
ทันทีที่เท้าซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง3คนแตะลงบนพื้น ฝุ่นจากพื้นดินก็ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณกว่า50ลี้
เจ้าคางคกกลืนฟ้าตัวนี้ช่างน่าสงสารที่ต้องมาเจอกับหวังลิ่ง มันจะรู้ไหมว่าอะไรที่กำลังจะเกิดขึ้นกับมัน?
คางคกไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้อง หวังลิ่งต่อยเข้าไปที่ท้องของมันเพียงครั้งเดียว...
มันล้มลงกับพื้นและวิญญาณบินออกจากร่าง โชคยังดีมันยังมีโอกาสได้เห็นว่าใครเป็นคนต่อยมัน
.......................
เด็กอายุเพียง 10 ขวบเนี่ยนะ?
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?
ด้วยพลังวิญญาณเฮือกสุดท้ายของคางคก มันได้กลับไปเตือนปีศาจที่อยู่อีกฟากหนึ่งว่าอย่าเข้าใกล้โลกนี้เด็ดขาด
และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ว่า ทำไมปีศาจมันถึงถอยทัพกลับไปเร็วนักมันเป็นเพราะหวังลิ่งนั่นเอง
เรื่องของโจวยี่ที่ได้ชื่อเสียงจากการฆ่าคางคกกลืนฟ้านั้น หวังลิ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลยเขารู้แค่ว่าเขาเสียใจมากที่เขาได้สูญเสียร้านขายขนมที่มีอายุกว่า100ปี
.............
และในตอนนี้เขาก็ยืนอยู่ต่อหน้ามันอีกครั้งในเวอร์ชั่นที่ตัวเล็กลงด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
เขาคิดมาแล้วว่าอาจจะเป็นไปได้ที่โรงเรียนจะนำคางคกตัวนี้มาเป็นบททดสอบ เนื่องจากศิษย์เก่าของที่นี่เป็นคนสร้างชื่อเสียงไว้ แต่เขาก็ไม่คิดว่าทางโรงเรียนจะได้วิญญาณของมันและอัพเดทเข้าสู่ระบบแบบนี้
ทางด้านคางคกกลืนฟ้ามันจำคลื่นพลังได้ คลื่นพลังของเด็กที่ฆ่ามันด้วยหมัดเพียงหมัดเดียวถึงแม้ว่าคลื่นพลังนั้นจะถูกกลบไปบ้างแต่มันไม่มีทางลืมเด็ดขาด ต่อให้เวลาล่วงเลยไป 6 ปี มันก็ยังจำหวังลิ่งได้ขึ้นใจ
ทันทีที่มันเห็นหวังลิ่งมันก็ตัวแข็งทื่อ.....มันไม่ใช่ปีศาจที่กลัวจะโดนต่อยเป็นครั้งที่2 แต่มันกลัวว่าถ้ามันโดนต่อยครั้งนี้วิญญาณของมันอาจจะโดนทำลายไปด้วย
บอกตรงๆว่า หวังลิ่งก็ไม่รู้จริงๆว่าเขาจะทำยังไงดีเมื่อเจอหน้าคางคกตัวนี้อีก
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั่นเอง เจ้าคางคกมันก็เริ่มเคลื่อนไหว -โดยที่มันล้มลงบนพื้นด้วยเสียงอันดังก้อง
และก็จบลงแค่นั้น.....
คางคกกลืนฟ้าล้มลงขาทั้ง4ของมันชี้ฟ้าและตาเหลือกเหมือนพึ่งโดนทำร้ายมา
ระบบแสดงเกรด -SSS!!!
“อะไรกัน? มันเกิดอะไรขึ้น? หวังลิ่งไม่ได้ปล่อยหมัดออกไปสักครั้ง”
“หรือระบบจะขัดข้อง?” หนึ่งในผู้คุมสอบพูดขึ้นจากสิ่งที่เขาเห็น
“มันไม่น่าเป็นไปได้...เครื่องมือทุกอย่างได้ผ่านการตรวจสอบมาเมื่อวาน มันไม่มีปัญหาอะไร”
“ฉันเข้าใจแล้ว!”
ผู้คุมสอบอีกคนหนึ่งร้องขึ้นมา “มันอาจจะเป็นไปได้ที่ว่า...นี่มันคือวิชาจิตสังหาร?”
หวังลิ่งทำหน้า = =
คางคกกลืนฟ้า = =
“มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น”
ผู้คุมสอบท่านหนึ่งพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “มันก็มีคนประเภทที่มีความสามารถพิเศษ พวกเขาสามารถล้มปีศาจด้วยการปล่อยคลื่นพลังวิญญาณและรังสีสังหารออกมา...มันได้ถูกบันทึกไว้ในตำราผู้ฝึกตน”
“หรือว่านั่นคือพลังวิญญาณจอมราชันย์?”
ในตอนนั้นเอง ผู้คุมสอบทั้ง 3 คน ถอนหายใจยาวออกมา และร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
ใช่แล้ว! มันต้องเป็นอย่างนี้!
นี่เป็นเพียงคำอธิบายเดียวที่ทำไมหวังลิ่งถึงสามารถล้มคางคกได้โดยแค่จ้องมัน
ในขณะที่หวังลิ่งกำลังเหม่อ หนึ่งในผู้คุมสอบก็เดินเข้ามาจับมือหวังลิ่ง “นักเรียนหวัง เธอเป็นความหวังของเราในโรงเรียนแห่งนี้!”
“.....”
“ขอให้ทุกคนปรบมือให้ หวังลิ่ง พวกเราจะคอยติดตามความก้าวหน้าของเธอ ในโรงเรียนอันดับที่ 60 แห่งนี้”
“.....”
.....................
หวังลิ่งเดินกลับบ้านด้วยสีหน้าพูดไม่ออกท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็น สายตาของเขาจ้องอยู่ที่กระดาษใบหนึ่งซึ่งเขียนไว้ว่า “ห้องพิเศษ” จากผู้อำนวยการโรงเรียน
แต่ในใจของหวังลิ่งกลับคิดว่า “นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันวะเนี่ย!!”