GE21 ดรรชนีคลายหยิน ฝันร้ายของสตรี
“หนิงฝาน? ผู้นำนิกายปีศาจทมิฬรุ่นที่ 972? เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณแต่กลับกล้าเอ่ยคำว่า ‘ปีศาจทมิฬ’ ช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ”
ภายในวิหารกล้วยไม้ที่สันโดษ ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มยิ้ม นางไม่เห็นหนิงฝานอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
หากผู้ที่จู่โจมวิหารกล้วยไม้คือหานหยวนจี๋ นางอาจกังวล แต่นี่เป็นหนิงฝาน...เป็นเพียงผู้เยาว์แต่กล้าอวดดี นี่ไม่เท่ากับรนหาที่ตายถึงวิหารกล้วยไม้หรอกหรือ?
แต่เด็กผู้นี้หน้าตาหล่อเหลา หากเปลี่ยนให้มันเป็นกระถางบ่มเพาะย่อมนับเป็นเรื่องดี... คิดจะทำลายนิกายยังเร็วเกินไป
ขณะที่นางกำลังขบคิด ใบหน้าที่งดงามกลับแปรเปลี่ยนฉับพลัน
ร่างของหนิงฝานที่ลอยอยู่กลางนภาปรากฏเปลวเพลิงทมิฬที่แฝงด้วยน้ำแข็งลุกโหม เพลิงหยินหยางเคลื่อนแผดเผาอาบกระบี่ มอดไหม้ในค่ำคืนที่เงียบสงัด
“เพลิงนั่น...ผสานหยินและหยาง สมควรเป็นหนึ่งในเพลิงปีศาจสิบสองชีพจรพิภพ” สายตาของนางจับจ้องที่เพลิงหยินหยางที่กำลังลุกโหมบนตัวกระบี่ แม้อำนาจของเพลิงอาจไม่รุนแรงเพราะผู้ที่ใช้มันเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่ด้วยความลึกลับของเพลิงกลับเหนือล้ำยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก
เด็กผู้นี้ช่างผิดธรรมดา
นางจ้องมองและเฝ้ารอให้หนิงฝานลงมือ นางรู้สึกสนใจหนิงฝาน นางขบคิดว่าหนิงฝานจะใช้เพลิงหยินหยางด้วยเพลงกระบี่ใด แต่ในระหว่างนั้น กระบี่ของหนิงฝานกลับเปล่งแรงกดดันที่รุนแรง เปลวเพลิงลุกโหมส่องสว่างราวกับจันทรา ทั้งปรากฏเสียงมังกรคำรามกึกก้อง
เจตจำนงค์กระบี่ประสานวิญญาณ เจตจำนงค์กระบี่ของตู่กูที่แปรเปลี่ยนกระบี่ให้เป็นเพลิง!
“คาดไม่ถึงว่าจะเป็นโลกกระบี่... กระบี่ที่แปรเปลี่ยนเป็นเพลิง” นางอ้าปากด้วยความตกตะลึง เพลงกระบี่นี้ดูคล้ายกับเพลงกระบี่ลับของเทพกษัตริย์แห่งโลกกระบี่ เหตุใดเด็กหนุ่มผู้นี้ถึงใช้ได้?
หนิงฝานแทงกระบี่เข้าจู่โจมด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตายังแน่วแน่
เมื่อหนิงฝานออกเพลงกระบี่ นางก็ออกก็กระบวนท่าส่งปราณกระบี่รูปจันทร์เสี้ยวเข้าปะทะ แต่เมื่อปราณกระบี่ของหนิงฝานปะทะกับการจู่โจมของนาง การจู่โจมของนางกลับเป็นฝ่ายถูกเผาทำลาย
สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง นางคาดไม่ถึงว่าผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณจะสามารถรับการจู่โจมของนางได้
“เจ้าทำลายการจู่โจมข้าได้ บางทีผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณขั้นกลางอาจไม่ใช่คู่มือเจ้า แต่โชคร้ายที่ทักษะระดับแก่นทองคำไม่ใช่สิ่งที่เจตจำนงค์กระบี่ประสานวิญญาณของเจ้าจะตัดทำลายได้”
นางนำ ‘ลมหายใจแห่งดวงจิตแรกเริ่ม’ ออกมา จากนั้นใช้ทักษะ ‘แปรเปลี่ยนโอสถ’ กับมัน ทักษะแปรเปลี่ยนโอสถคือทักษะที่มีเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำเท่านั้นจะบรรลุ ทักษะนี้เป็นการเพิ่มอานุภาพให้การจู่โจม
นางไม่ได้ใช้การจู่โจมระดับดวงจิตแรกเริ่มกับหนิงฝานเพราะนางคิดว่า การจู่โจมระดับแก่นทองคำเพียงพอจะเอาชนะหนิงฝานได้แล้ว
ลมหายใจแห่งดวงจิตแรกเริ่มเป็นส่วนหนึ่งในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม มันเหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่นจากกิ่งก้านที่แห้งเหี่ยว ใบไม้ปรากฏขึ้นบนผืนฟ้า ก่อตัวเกิดเป็นปีศาจต้นไม้ที่สูงกว่าร้อยจ้าง มีเล็บนับร้อย กิ่งก้านพิษนับพัน เสี้ยนหนามนับหมื่น รากสีครามหยั่งลงบนภูเขาขนาดใหญ่ ภูเขาลูกนั้นสั่นสะเทือนกระทั่งถูกทำลายเป็นเศษหิน
ปีศาจต้นไม้เกิดจากทักษะการแปลง ผู้ใช้ต้องมีพลังวิญญาณระดับแรกและต้องบรรลุขอบเขตแก่นทองคำ
ยามนี้หนิงฝานกำลังเผชิญหน้ากับปีศาจต้นไม้ แต่คล้ายกับว่าหนิงฝานกำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจริงๆ
แม้มิอาจเอาชนะได้ แต่หากใช้ทักษะลับเหยียบย่างหิมะ หนิงฝานอาจไม่เป็นฝ่ายพ่าย
หนิงฝานโคจรทักษะลับเหยียบย่างหิมะทำให้ร่างกายของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเส้นแสงหิมะที่งดงามพาดผ่านท้องฟ้า
หนิงฝานถอยห่างจากปีศาจต้นไม้กว่า 1000 จ้าง
ทักษะก้าวย่างของหนิงฝานของหนิงฝานไม่ได้ด้อยไปกว่าการเคลื่อนไหวปีศาจต้นไม้ แม้ร่างกายของปีศาจต้นไม้จะใหญ่โต แต่มันยังไม่อาจไล่ตามหนิงฝานได้ทัน
หนิงฝานเคลื่อนไหวอย่างงดงามต้องตา ราวกับมังกรทะยานหวกว่ายกลางนภา ราวกับท่องไปทั่วโลกแห่งแดนหิมะ
เด็กหนุ่มผู้นี้กลับทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มอย่างนางตกตะลึง ในดวงตาของนางยามนี้ปรากฏเงาร่างของเทพกระบี่อาภรณ์ขาวผู้ซึ่งกำลังโบยบินราวกับเซียน คล้ายกับหนิงฝานในยามนี้
ภายในวิหารกล้วยไม้ปรากฏเสียงถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ปีศาจต้นไม้ถูกนางเรียกคืน
“เจ้าชื่อหนิงฝาน... เจ้าเหมือน ‘หวินเทียนเฉว’ มาก เจ้ารู้จักเขาหรือไม่” นางกล่าวถาม
“ข้าไม่รู้จักหวินเทียนเฉว” หนิงฝานกล่าวด้วยสีหน้าไร้อามรมณ์
“ข้าจะไม่ติดใจเอาความเรื่องที่เจ้าจู่โจมวิหารกล้วยไม้... เจ้าไปได้แล้ว” นางหวนนึกถึงสหายเก่า ปกติแล้วนางจะเป็นผู้ที่ลงมือสังหารได้อย่างไร้หัวใจ แต่วันนี้นางกลับปล่อยหนิงฝานไป
หนิงฝานนิ่งเงียบ การต่อสู้เป็นตายเมื่อครู่ทำให้หนิงฝานเห็นถึงความต่างระหว่างเขากับนาง นางใช้ปราณไม่ถึง 1 ใน 100 ส่วน แต่หนิงฝานกลับต้องใช้พลังทั้งหมด หากนางไม่เมตตา หนิงฝานคงไม่อาจหลีกหนีปีศาจต้นไม้ได้พ้น
‘อย่าว่าแต่ขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม กระทั่งขอบเขตแก่นทองคำข้าก็ไม่อาจสังหารได้ ข้ายังอ่อนแอเกินไป ใช้เวลาในการบ่มเพาะน้อยเกินไป ทักษะยังอ่อนด้อยเกินไป ทั้งทักษะที่มีก็น้อยเกินไป’
ดวงจิตแรกเริ่มสามารถสังหารแก่นทองคำได้ราวกับบี้มด แก่นทองคำเองก็สังหารหนิงฝานได้ยิ่งกว่านั้นเช่นกัน
‘ต่อให้มีความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ หากระดับพลังของข้าไม่เพิ่มพูนข้าก็ยังคงอ่อนแอราวกับมด เช่นนั้นเมื่อใดที่ข้าจะช่วยหนิงกู่ออกมาจากนิกายเทียนหลีโม่ได้?’
หนิงฝานเงยหน้ามองและพบว่าชายชรากำลังจ้องมองเขาอยู่
“หนิงน้อย... ใช้วิธีสกปรกกับนาง...เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำยังไง? หากเจ้าทำได้สำเร็จ บิดาจะพาเจ้าไปนิกายเทียนหลีโม่ และหากมีโอกาส ข้าจะช่วยเจ้าช่วยเหลือน้องชายออกมาจากที่นั่น ข้ามั่นใจว่าทำได้” ชายชรากล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ไปนิกายเทียนหลีโม่?” น้ำเสียงของหนิงฝานเผยความตื่นเต้น หากช่วยหนิงกู่ได้ข้าย่อม...
“หนิงน้อย อย่าได้เข้าใจผิดไป ข้าไม่ได้จะพาเจ้าไปทำลายนิกายเทียนหลีโม่ ระดับการบ่มเพาะของข้าเสียไป ข้าไม่อาจทำลายนิกายนั่นได้ตราบใดที่ข้ายังไม่ได้ระดับการบ่มเพาะเดิมคืนมา นิกายเทียนหลีโม่ไม่ต่างจากน้ำลึก ยิ่งผู้นำนิกายนามหวูเสียยิ่งไม่ทราบที่มา บางทีปูมหลังของมันอาจยิ่งใหญ่กว่าข้า... ถ้าเป็นไปได้ข้าไม่อยากยั่วยุมัน” ชายชราขดปากราวกับว่าการนำพาหนิงฝานไปยังนิกายเทียนหลีโม่คือการสูญเสียอันใหญ่หลวง
หนิงฝานรู้สึกอบอุ่นหัวใจ หนิงฝานมองหานหยวนจี๋เป็นคนแปลกหน้ามานาน ทั้งยังไม่เคยคิดจะขอความช่วยเหลือจากชายชราในการช่วยเหลือน้องชาย แต่ยามนี้ชายชรากลับใส่ใจเรื่องน้องชายของตน
‘ข้าไม่มีบิดา ไม่มีมารดา... เป็นเพียงทาสของตระกูลหนิงตั้งแต่จำความได้ ข้าถูกเหยียดหยามอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่วันนี้ ข้ามีอาจารย์ที่ใส่ใจในตัวข้า’
ชายชราดีกับหนิงฝานมาก... มากเสียยิ่งกว่าผู้ใด...
“ขอบคุณ... ‘อาจารย์’”
“อย่าเรียกบิดาว่าอาจารย์... บิดาไม่ชอบคำนั้น!” แววตาของชายชราแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเกลียดชัง แต่ยังเปลี่ยนคืนสภาพปกติในฉับพลัน
ความเกลียดชังที่ปรากฏสมควรมาจากความหลังของชายชรา
ยามนี้หนิงฝานกำลังใคร่ครวญถึงวิธีการสกปรกที่จะใช้กับผู้นำวิหารกล้วยไม้
‘แผนสกปรก... ปีศาจเฒ่าไม่ได้บอกข้าว่าแผนสกปรกคืออะไร... แต่มันเป็นไปไม่ได้... หรือว่าปีศาจเฒ่าต้องการให้ข้าเรียนรู้วิธีใช้แผนสกปรกหากข้าเอาชนะตู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าไม่ได้’
ปีศาจทมิฬคือตัวตนที่กระทำตามความปรารถนาของตน เพียงแต่วิธีการต้องเป็นไปอย่างประณีตและซ่อนเร้น ต้องรู้ว่าจะใช้แผนสกปรกอย่างไรกับศัตรูเพื่อปกป้องตน
หากเป็นทั่วไปย่อมไม่ทางใช้แผนสกปรกได้ ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณไม่ทางเอาชนะผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม แต่ปีศาจเฒ่าหานกลับรู้สึกอยู่ลึกๆว่าหนิงฝานมีแผนการบางอย่างที่ใช้จัดการผู้นำวิหารกล้วยไม้
ในที่สุดหนิงฝานก็คิดวิธีที่ปีศาจเฒ่าคาดไม่ถึงได้
‘เด็กนั่นจะทำได้หรือไม่... หากทำได้ เช่นนั้น...’ ความคาดหวังเริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจ และความคาดหวังนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก
แผนสกปรก...
‘ข้าต้องใช้แผนสกปรก’
‘หากข้าไม่สามารถเอาชนะได้ตรงๆ ข้าต้องใช้ทางอ้อม... แต่หากทางอ้อมไม่สำเร็จ ข้าต้องใช้แผนสกปรก...’
‘ ‘การแปลงหยินหยาง’ ทักษะเย้ายวนจะใช้กับสตรีนางนี้ได้หรือไม่?’
เมื่อหนิงฝานทะลวงขอบเขตประสานวิญญาณ เขาก็สามารถใช้ทักษะที่มีชื่อว่า ‘ดรรชนีคลายหยิน!’
ดรรชนีคลายหยินคือทักษะที่ใช้กระตุ้นอารมณ์ทางเพศของสตรี เป็นการใช้ปราณเพื่อกระตุ้นให้สตรีสูญเสียสติและความยับยั้งชั่งใจ กระทั่งทำให้ผู้ที่ใช้ทักษะสามารถกระทำสิ่งใดกับนางได้ตามปรารถนา แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มยังต้องขาดสติไปชั่วขณะ
ทักษะนี้อาจใช้การได้
ดรรชนีคลายหยินคือทักษะที่ค่อนข้างชั่วร้าย... แต่ในโลกนี้มีสิ่งที่น่ารังเกียจและชั่วร้ายอยู่มากมาย ดังนั้น ชายชราจึงต้องการสอนบทเรียนนี้ให้กับหนิงฝาน
“ข้าจะลงมือแล้ว...”
หนิงฝานตัดสินใจเหยียบย่างนภาตรงไปยังวิหารกล้วยไม้ที่อยู่เบื้องล่าง
สร้อยหยินหยานที่อยู่ภายในตันเถียนของหนิงฝานเริ่มสั่นไหว มันคือสิ่งที่หนิงฝานต้องพึ่งพามันมากที่สุด...
ฝากกด LIKE แฟนเพจด้วยนะครับ ผู้ใหญ่บ้านเล่าสู่ฟัง