DND.22 - พลังพิฆาต
ศรปักถูกดวงตาของพยัคฆ์หนามพอดิบพอดี! มันเป็นจุดอ่อนเพียงไม่กี่จุดของมัน!
โฮกก---
พยัคฆ์หนามเจ็บปวดมาก มันถูกยิงตาบอดหนึ่งข้าง มันใช้ตาอีกข้างมองหาศัตรู
บนต้นไม้ที่อยู่ไกลๆ เด็กหนุ่มสวมชุดสีขาวรีบใช้ธนูสีชาดโจมตีอีกครั้ง
มันคำรามเสียงดังและเลิกสนใจชายหนุ่มตรงอุ้งเท้าและหลบอย่างรวดเร็ว มันอยากจะไล่ตามซือหนูแต่ธนูยิงออกมาอย่างต่อเนื่อง มันไม่มีโอกาสที่จะหลบและวิ่งหนีเมื่อบาดเจ็บหลายแห่งจากธนู ซือหยูเก็บธนูและไล่ตามมัน
เมื่อพ้นความเป็นความตาย ศิษย์ทองคำสามคนเต็มไปด้วยเหนื่อย
“เร็วเข้า ตามมันไป!”
ทั้งสามรีบไล่ตามทันที
พยัคฆ์หนามไม่ยอมตายง่ายๆ มันวิ่งหนีได้นานถึงครึ่งวันก่อนจะหมดแรงและตายลง ซือหยูรีบถลกหนังที่มีค่ามากที่สุดออก
อ๊ะ นั่นอะไรน่ะ? ซือหยูพบว่าในปากของมันมีถั่วดำติดอยู่กับฟัน มันไม่ถูกกลืนหรือกัดให้แตก เขาเอามันออกมาอย่างยากลำบาก
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
เสียงตะโกนดังตามมาจากข้างหลัง
ศิษย์ทองคำสามคนมาถึงอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเนื้อสัตว์อสูรเพราะหนังถูกถลกออกไปแล้วพวกเขาก็มามองซือหยูที่ถือถั่วดำอยู่ท่าทีพวกเขาก็เปลี่่ยนไป
หลีหมิงห่าวคุ้นหน้าเขาและจำได้ว่าเขาคือราชาระดับเงินคนใหม่
“นี่เจ้า! ราชาระดับเงินซือหยู!”
ศิษย์ทองคำอีกสองคนโล่งใจที่ซือหยูเป็นศิษย์ร่วมสำนัก หากเป็นคนแปลกหน้าพวกเขาจะลำบาก ซือหยูเพียงมองพวกเขาและจ้องสองคนที่ไม่รู้จัก
“เจ้าคือราชาระดับเงินซือหยูสินะ ข้าลู่ฉวน นี่น้องชายข้า ลู่ฉิง”
ลู่ฉวนคือคนที่มีพลังระดับสามชั้นสูง ซือหยูเคยได้ยินชื่อลู่ฉวนมาก่อน เขาคือศิษย์ทองคำที่ติดหนึ่งในสามศิษย์ทองคำที่แกร่งที่สุด!
และลู่ฉิงก็มีชื่อเสียงพอๆกับพี่ชายของเขา เขาคือศิษย์ทองคำอันดับ 10
“แล้วอยากจะพูดอะไรกับข้างั้นหรือ?”
ซือหยูถือถั่วดำไว้ใกล้ตัว
เมื่อเห็นลู่ฉวนยักคิ้วแต่เงียบเมื่อเห็นลู่ฉิงปลอดภัย หากซือหยูไม่ยื่นมือมาช่วยน้องชายของเขาคงจะตายไปแล้ว ลู่ฉิงปากสั่น เขาไม่กล้าขอถั่วดำจากซือหยูเพราะจะเป็นการเนรคุณ
หลีหมิงห่าวไม่ได้คิดเช่นนั้น เขายิ้มอย่างเย็นชา
“เราช่วยกันกำจัดสัตว์อสูรนั่น แล้วเจ้ามาฉวยโอกาสกลางครัน แล้วเจ้าก็ไม่เกรงกลัวเลยที่จะแย่งมันไปทั้งหมด!”
“เจ้าอยากได้อะไร?”
ซือหยูยังคงใจเย็นแม้เผชิญหน้ากับหลีหมิงห่าว
“อะไรของเจ้า? เอาหนังกับถั่วดำมา! แล้วเจ้าเอาเนื้อไป!”
“แล้วถ้าข้าบอกว่าไม่ล่ะ?”
ซือหยูชิงชังคนอย่างหลีหมิงห่าวที่ชอบใช้พลังข่มขู่ผู้คน เหมือนฉินเฟิงที่แย่งสตรีและแย่งลูกสาวจากตระกูลอื่น
หลีหมิงห่าวเย้ยหยัน
“เป็นราชาระดับเงินแล้วเจ้าคงจะมั่นใจมากสินะ? ถึงกล้าอวดดีต่อหน้าศิษย์ทองคำ!”
“ข้าจะนับถึงสาม ไม่งั้นจะถือว่ารังแกศิษย์ระดับเงินเช่นเจ้า เข้ามา!”
หลีหมิงห่าวชูสามนิ้วขึ้นมาและยิ้มอย่างเย็นชา หลีหมิงห่าวลดนิ้วลง
ฟึ่บ--
ซือหยูรีบพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว! เขาไปถึงตัวหลีหมิงห่าวในสองก้าวเท่านั้น!
ใบหน้ายิ้มของหลีหมิงห่าวเริ่มแข็งทื่อและเขาพยายามจะป้องกันการโจมตี! ทลายจักรวาล! หมัดและลูกเตะถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงโดยไม่มีหยุดพัก มันโจมตีเข้ามาอย่างไม่สิ้นสุด แต่เพราะความเร็วอย่างมากทำให้การโจมตี 64 ครั้งใช้เวลาเพียงแค่สองอีดใจ
อ๊ากก!-
หลีหมิงห่าวป้องกันไม่ได้อีก เขาถูกเตะอย่างจังที่หน้าอกและบาดเจ็บถึงภายใน เขากระอักเลือดออกมาและกระเด็นไปข้างหลัง ซือหยูมองใบหน้าตกใจของเขาอย่างไม่แยแส
“ข้าไม่คิดจะโจมตีเจ้า แต่เจ้าหลงตัวเองเกินไป”
เมื่อเขาพูด ซือหยูก็เดินไปขยับนิ้วสุดท้ายของหลีหมิงห่าวให้นับพอดีสาม
“สาม! เจ้าแพ้แล้ว”
เพียงสามอึดใจ เขาก็เอาชนะศิษย์ทองคำอันดับ 30 ได้!
พี่น้องลู่ตกใจมาก ราชาคนใหม่แกร่งกว่าเฉินเทียนหนานมาก เฉินเทียนหนานเคยแพ้หลีหมิงห่าวในกระบวนท่าเดียว แต่ซือหยูก็เพิ่งจะชนะหลีหมิงห่าว
ลู่ฉิงยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
“ซือหยู! เจ้าจะหยาบคายเช่นนี้ไม่ได้แม้จะช่วยชีวิตข้าไว้ เจ้าปล้นของพวกข้าแล้วยังทำร้ายคนของเราอีก!”
“ถ้าเจ้ามั่นใจเช่นนี้ มาประลองกับข้าซะ”
ลู่ฉิงก้าวออกมาข้างหน้า พลังอันแข็งแกร่งของเขามากกว่าซือหยูแน่นอน
ซือหยูปัดฝุ่นออกจากชุดและยิ้มเยาะ
“หากข้ารู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้ข้าคงปล่อยให้มันกินเจ้าก่อนจะฆ่ามันนะ ทำคุณบูชาโทษเสียจริง!”
“กลับมาซะเจ้าโง่!”
ลู่ฉวนดึงตัวลู่ฉิงกลับมาอย่างไม่พอใจ น้องชายของเขาขัดขืน
“เขาดูถูกพวกเราเกินไปแล้วนะ!”
“หุบปากซะ!”
ลู่ฉวนปิดปากลู่ฉิงที่มองซือหยูอย่างไม่เป็นมิตร
ลู่ฉวนประสานมือขอโทษ
“ข้าหวังว่าศิษย์น้องซือจะยกโทษให้กับน้องชายของข้าที่ยังอ่อนด้อยประสบการ”
เขาเรียก ‘ศิษย์น้องซือ’ ที่แสดงความเคารพต่อพลังของซือหยู
ซือหยูพยักหน้า
“อืม ถ้าไม่มีอะไร ข้าไปล่ะ”
“เดี๋ยวก่อน! ศิษย์น้องซือจะไปหาถ้ำที่มีสัตว์อสูรป้องกันอยู่ใช่ไหม?”
ลู่ฉวนคิดว่ามันบังเอิญเกินไปที่พวกเขาจะมาพบกันได้
ซือหยูเดาว่าพวกเขาน่าจะไปถ้ำเดียวกันเพื่อหาสมบัติวิญญาณที่ฉวนหลีเฟยบอกเขา ซือหยูไม่มีเหตุผลที่ต้องปิดบัง
“ใช่แล้ว”
ลู่ฉวนยิ้ม
“ศิษย์น้องซือจะเดินทางไปกับพวกเราไหม? เราจะระวังหลังให้กันได้ ที่แห่งนั้นมันอันตรายมากนะ”
ซือหยูมองหลีหมิงห่าวและส่ายหัว เขาไม่เต็มใจจะไปกับหลีหมิงห่าวที่อาจจะแทงข้างหลังเขา
หลีหมิงห่าวกัดฟัน
“ศิษย์พี่ลู่ ข้าขออภัย หลีขอตัวก่อน!”
เห็นได้ชัดว่าลู่ฉวนอยากให้ซือหยูไปด้วยแต่เพราะหลีหมิงห่าวเขาจึงไม่ไป หลีหมิงห่าวที่ละอายใจจึงหลีกทาง
ลู่ฉวนแสร้งรั้งหลีหมิงห่าวแต่ก็ปล่อยให้เขาจากไป จากนั้นซือหยูก็ไปกับพี่น้องลู่ พวกเขาทั้งสามพักใกล้ทะเลสาบ ดูจากที่พี่น้องลู่พูดแล้วถั่วดำคือเหตุผลสำคัญที่พวกเขาฆ่าพยัคฆ์หนาม มันคือผลวิญญาณทมิฬที่มีคุณสมบัติเพิ่มพลังอย่างมากและมีประโยชน์มากมาย
คืนนั้นซือหยูทุบผลวิญญาญทมิฬ ข้างในของผลเป็นเยื่อแก้วที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว เมื่อเขากินมันก็มีความเย็นแผ่กระจายไปทั่วร่าง พลังงานที่ให้ความรู้สึกสบายตัวกระจายไปตามแขนขาและกระดูก ร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การบ่มเพาะพลังถึงจุดสุดยอด เขาทะลุกำแพงไปถึงระดับสามขั้นกลางทันที!
ลู่ฉวนได้ยินมาว่าราชาระดับเงินเป็นแค่คนระดับหนึ่งธรรมดาเมื่อเดือนก่อน ตอนนี้เขามีพลังระดับสามขั้นกลางแล้ว พลังของเขาเทียบได้กับศิษย์ของคำอันดับ 20
ลู่ฉิงที่รู้สึกอิจฉาพูด
“ถึงข้าจะไม่ได้มีตัวช่วยเร่งบ่มเพาะพลังอย่างเขา ข้าก็ชนะเขาได้ในทีเดียวอยู่ดี!”
“เลิกคิดซะเถอะ เจ้าเทียบเขาไม่ติดเลย”
ลู่ฉวนส่ายหัว
“มันจะเป็นเช่นนั้นได้ยังไง? ถึงมันจะบ่มเพาะทลายจักรวาลถึงขั้นสูงสุด แต่วิชาบ่มเพาะระดับกลางของข้าสำเร็จระดับสามแล้ว เขาทนกระบวนท่าเดียวของข้าไม่ได้แน่”
ลู่ฉิงพูดอย่างมั่นใจ
ลู่ฉวนนั่งคิด
“ข้าก็ไม่รู้ แต่ข้าคิดว่าเขาต้องซ่อนพลังอันแข็งแกร่งไว้แน่”
รุ่งสาง ซือหยูลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงพลังในตัว เขาพอใจมากที่เขาทะลุขอบเขตมาได้ แต่มันยังคงไม่พอ! ฉินเฟิงยังคงเป็นศัตรูตัวฉกาจที่เป็นมีพลังระดับสี่ขั้นต้น ซือหยูยังต้องไปอีกไกล
พวกเขารีบเดินทางต่อหลังจากพักไม่นาน
ไม่กี่วันพวกเขาก็มาถึง
“มีคนบอกว่าที่ข้างเข้าถ้ำมีราชสีห์เพลิงสองตัว”
ลู่ฉวนพูดเบาๆด้วยความระมัดระวัง ราชสีห์เพลิงเป็นสัตว์อสูรขั้นหนึ่ง มันมีไฟอันรุนแรงภายในร่างกายและเจ้าเล่ห์มาก
“ตามแผนเดิมของเรา เราจะไปจัดการสัตว์อสูรด้วยกัน เพราะศิษย์น้องซืออยู่ด้วยมันคงจะง่ายขึ้นมาก”
ลู่ฉวนจ้องไปที่ความมืดของหุบเขา
ซือหยูมองเห็นข้างหน้าและเปลี่ยนท่าทีทันที
“หนีเร็ว!”
เขาถอยกลับคนแรก
ลู่ฉวนลังเลเล็กน้อยและถอยทันที เขาจ้องไปยังหุบเขาที่มืดมิด ลู่ฉิงไม่ได้เห็นอะไรเลย เขาเพียงตามพี่ชายอย่างขัดข้องใจ
“เกิดอะไรขึ้น? พูดมา!”
ลู่ฉิงที่ไม่รู้เรื่องทนไม่ได้
ซือหยูหัวใจเต้นอย่างแรงและไม่พูดอะไร เขาเห็นภาพอันโหดร้ายด้วยดวงตาของเขาที่เห็นในความมีด ที่ไกลออกไปประมาณสามลี้ในหุบเขาอันมืดมิด ชายหนุ่มสวมชุดสีเขียวได้ฆ่าคนด้วยการดีดนิ้ว!
พลังของเหยื่อเทียบเท่าระดับสามขั้นสูงเหมือนลู่ฉวน แล้วยังถูกสังหารอย่างง่ายดาย! หลังจากสังหารคนอย่างง่ายดายแล้วชายหนุ่มคนนั้นก็ยืดตัวมองบ่อโลหิต เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างและหันมาทางซือหยูทันที!
เขายิ้มเยาะเย้ยซือหยู! พวกเขาถูกเจอตัวแล้ว!
พลังของเขาน่ากลัวเกิดกว่าจะอธิบายเป็นคำพูด! เขาเคยรู้สึกแบบนี้ครั้งเดียวเท่านั้นในตอนที่เจอกับอาจารย์ใหญ่เย่ที่มีพลังระดับหก
ลู่ฉิงโกรธที่ถูกเมินเฉย เขาพุ่งมาขวางซือหยูอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย ซือ! ข้าทนเจ้าต่อไปไม่ไหวแล้ว! เจ้าคิดว่าเป็นราชาแล้วจะเมินคนอื่นได้งั้นรึ!”
ลู่ฉิงตะโกน
ซือหยูกลัวมาก ชายหนุ่มที่สวมชุดเขียวเห็นพวกเขาแล้ว แล้วลู่ฉิงที่ไม่รู้เรื่องก็เลิกที่จะหาเรื่อง
“ถ้าเจ้าอยากตายนักก็ตายไปเลย! หลีกไป!”
ซือหยูก่นด่าเพราะไม่มีเวลาอธิบาย
ลู่ฉิงหัวเราะอย่างโกรธเกรี้ยว
“เจ้าจะหนีไปโดยไม่บอกไม่กล่าวอย่างงั้นหรือ? ให้หมัดข้าเปิดปากเจ้าหน่อยไหม!”
“ไม่นะ!”
ลู่ฉวนตะโกนแต่ก็สายไปแล้ว
“ดาวหางทะลวง!”
นิ้วทั้งสองของลู่ฉิงชิดกันราวกับเป็นกระบี่พุ่งตรงเข้ามาเหมือนดาวหาง
ตู้ม -
เสียงปะทะดังสนั่น
“แพ้ไปซะ!”
ซือหยูสวนกลับทันที!
วายุกระหน่ำ!
ขาขวาของซือหยูหมุนราวกับใบไม้กลางวายุ ขาอีกข้างเคลื่อนไหวตามกันมาราวกับเป็นคลื่นน้ำวนในมหาสมุทรกว้างใหญ่ สายลมเย็นรุนแรงปกคลุมขาของเขาราวกับว่าอยู่ในเหมันต์
กร๊อบ--
นิ้วลู่ฉิงบิดและกระดูกแตก เขาลอยไปไกลกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ เลือดพุ่งออกมาจากปากเขา ลู่ฉิงตกตะลึงและมองซือหยูอย่างไม่เชื่อสายตา เขาบาดเจ็บรุนแรงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
เขาเคยคิดว่าซือหยูเป็นเพียงศิษย์ระดับเงินที่ไม่คู่ควรกับตำแหน่งราชาที่ทนกระบวนท่าเดียวของเขาไม่ได้ แต่ความจริงกลับเป็นเขาเองที่ต้องพ่ายแพ้ในการโจมตีเดียว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซือหยูเลย
ลู่ฉวนรีบดูอาการของลู่ฉิงทันที จากนั้นจึงประสานมือให้ซือหยู
“ศิษย์น้องซือ ขอบคุณที่ออมมือ!”
อะไรกัน? ลู่ฉิงไม่เชื่อในคำที่ได้ยิน ซือหยูนั่นออมมืองั้นเหรอ?
เขาเริ่มรู้สึกกลัวและให้ความเคารพซือหยูจากลึกๆในใจ
ใครชื่นชอบผลงาน รบกวนกดไลค์แฟนเพจแล้วมาติชมให้กำลังใจด้วยน้าาา