DND.21 - ชิ้นส่วนลึกลับ
ชั้นสามไม่ใหญ่นัก กว้างเพียงร้อยตารางเมตรและมีวิชาบ่มเพาะพลังไม่มากนัก
ในชั้นมีวิชาบ่มเพาะเจ็ดชนิดและวิชารองอีก 49 วิชา ทั้งหมดมีตำราเพียงสิบเล่ม แต่เป็นวิชาขั้นสูงเหนือวิชาทั้งหมด! มีเพียงศิษย์อสูรเท่านั้นที่จะบ่มเพาะมันได้ แค่เพียงการเปิดตำราก็ต้องการความรู้มหาศาล!
สำหรับวิชาบ่มเพราะระดับกลางบางวิชาเช่นวายุกระหน่ำนั้น สติปัญญาถือเป็นสิ่งหลัก แต่สำหรับวิชาพ่มเพาะระดับสูงสุดในชั้นนี้ทุกเล่มต้องใช้สติปัญญาระดับสูง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศิษย์อสูรจึงมีเพียง 10 คน หากศิษย์ทั้งหมดลองอ่านมันพวกเขาจะไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย
วิชาที่หกเป็นวิชาที่ไม่เหมาะกับซือหยู เขาย่อมผิดหวังเป็นธรรมดา เขาอ่าน
สายฟ้าดาราม่วง เป็นวิชาหมัด หลังจากบ่มเพาะวิชานี้จะมีพลังสายฟ้าในหมัด มีพลังโจมตีอันเกรี้ยวกราดรุนแรง!
ตำรานี้เขียนไว้เพียงระดับหนึ่ง ระดับบ่มเพาะไม่แน่ชัด! ไม่มีใครสำเร็จวิชานี้เลย!
พลังพื้นฐาน สติปัญญา พลังหลัก ทุกอย่างไม่แน่ชัด
ซือหยูแอบก่นด่าวิชาที่ไม่แน่ชัดนี้ในใจและคิดว่าทำไมถึงไม่มีใครฝึกมันได้เลย แต่บรรดาวิชาในชั้นสาม วิชานี้คือวิชาเดียวที่เหมาะกับเขา
ตอนนี้ซือหยูได้เร่งเวลายี่สิบเท่าในการจดจำตำรา
ซือหยูอ่านวิชารองทั้ง 49 ตำราทีละเล่ม น่าเสียดายนี่มันคล้ายกันวิชาในชั้นสอง
ดูเหมือนว่าเงาเมฆาะจะเป็นวิชาตัวเบาที่ดีที่สุด
“อ๊ะ ศิษย์ระดับเงินมาที่ชั้นสามได้ยังไง?”
เสียงที่บอกความไม่เชื่อดังมาจากบันได
ซือหยูหันไปดูและกำลังจะกลับ มีคนสองคนเดินมา หนึ่งในนั้นคือชายหนุ่มสวมชุดสีเขียว ดวงตากลมโตคิ้วหนา เขาจ้องซือหยูด้วยความตกตะลึง ข้างเขาเป็นชายหนุ่มอีกคนที่มีรังสีความเย็นแผ่รอบตัวและมีผมสีเงิน
ชายหนุ่มผมสีเงินจ้องซือหยูและหันกลับลงบันได
“เฉาลี่ เจ้าจะไปไหน?”
“ข้าขยะแขยงที่จะหายใจร่วมกับศิษย์ระดับเงิน!”
ซือหยูหัวเราะเศร้าๆ เขารู้สึกขยะแขยงที่หายใจร่วมกับเรางั้นหรือ?
“ฮ่าๆๆ ใครบังคับให้เจ้าหายใจล่ะ? หยุดหายใจซะสิ”
ซือหยูยักไหล่
ชายหนุ่มผมเงินพูดโดยไม่หันมามอง
“สามหาว! เจ้าไม่มีสิทธิ์จะพูดกับข้าด้วยซ้ำ!”
ซือหยูส่ายหัวและหัวเราะ เขาไม่คิดจะไปยุ่งกับคนเช่นนี้ เขากำลังคิดถึงตำราสามวิชาที่ได้มา
เขาใช้เงาเมฆาร่อนลงมาจากชั้นสามราวกับเมฆขาว พริบตาเดียวเขาก็นำชายหนุ่มทั้งสองและถึงชายแก่ที่ชั้นหนึ่งเพื่อให้เขาดูวิชาล่าสุดที่ซือหยูเลือก
วายุกระหน่ำ? วิชายากๆอีกแล้ว ชายแก่ตกตะลึงแต่ก็สงวนท่าที หากเด็กคนนี้เข้าใจเงาเมฆาได้ เขาก็น่าจะมีสติปัญญากว้างขวาง
ชายหนุ่มคิ้วหนาจ้องแผ่นหลังซือหยูด้วยความประหลาดใจ
“นั่นมันเงาเมฆา! เป็นวิชาที่เจ้ายังฝึกไม่สำเร็จเลยใช่ไหม เฉาลี่?”
ชายหนุ่มผมสีเงินเย้ยหยัน
“ข้ายุ่งเกินไปต่างหาก ระดับเงินอย่างเขาจะต้องใช้เวลานานมากแน่ๆ!”
“จะจริงเหรอ? ป้ายรหัสศิษย์ของเขาจะเป็นสีทองแล้วนะ”
ซือหยูกลับที่พัก เขาหยิบธนูสีชาดกับเสบียงและรีบไปที่เทือกเขา
ครึ่งวันผ่านไป ซือหยูได้เข้าสู่เทือกเขารัตติกาลอีกครั้ง ซือหยูยิ้มออกมาเมื่อผ่านจุดที่เขาสู้กับมังกรไฟ เขานึกถึงองค์หญิงที่เขาดูดพิษให้ ตอนนี้เขายังคงถูกตามตัวอยู่
ซือหยูรีบเดินทางตลอดวันโดยไม่พัก เขาใช้เงาเมฆากระโดดไปตามป่าเขา ตกกลางคืนเขาทำสมาธิและบ่มเพาะวิชาวายุกระหน่ำ เนตรอสูร และสายฟ้าดาราม่วง
ครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซือหยูไปตามเส้นทางที่ฉวนหลีเฟยบอกและไปถึงถ้ำที่มีสัตว์อสูรคุ้มกัน
การเดินทางตลอดครึ่งเดือนนี้ทำให้ซือหยูพัฒนาวิชาบ่มเพาะพลังอย่างมากเพราะต้องเจอกับสัตว์ป่ามากมาย ซึ่งมีบางตัวที่น่ากลัวจนตัวสั่น
ช่วงเวลาอันยาวนานนี้ทำให้การบ่มเพาะและพลังของเขากระโดดขึ้นมาก ทลายจักรวาลตอนนี้ทะลุไปถึงขั้นสูงสุดแล้ว พลังหมัดและลูกเตะอยู่ในระดับสูงสุด
เงาเมฆายังสำเร็จระดับสองอีกดว้ย ความเร็วของเขาเทียบได้กับผู้มีพลังระดับสามขั้นสูงแล้ว
แม้แต่วิชาวายุกระหน่ำที่เพิ่งฝึกฝน เขาได้สำเร็จระดับหนึ่งแล้วเช่นกัน!
แม้ว่ามันยากจะเข้าใจอย่างมาก ด้วยพลังเร่งเวลาและตลอดห้าคืนที่เขาบ่มเพาะพลังนั้นเทียบได้กับการฝึก 100 คืนเพราะเวลาถูกเร่ง 20 เท่า สติปัญญาเขาอาจจะไม่มาก แต่เพราะเวลายาวนาน เขาจึงสำเร็จมันได้ในไม่กี่วัน
ตอนนี้เขาใช้ขาฟาดและมีลมเย็นออกมาได้ หากเขาฝึกไปถึงระดับสอง หมอกความเย็นจะแช่แข็งเป้าหมายได้ หากฝึกจนถึงระดับสาม เขาจะสร้างวายุกระหน่ำได้จากลูกเตะ
แต่เขาฝึกเนตรอสูรได้เร็วที่สุด! นี่เกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก
ดวงตาของเขาในตอนนี้มีสีดำทมิฬเล็กลอดออกมาเป็นครั้งคราว ผู้ฝึกเนตรอสูรต้องมีพลังวิญญาณที่ดี และดูเหมือนว่าพรสวรรค์ของเขาจะน่ากลัวมากทีเดียว
มันง่ายที่วิชานี้จะส่งผลกระทบย้อนกลับสู่ผู้ฝึก แต่สำหรับซือหยูมันไม่อันตรายเลย เขาฝึกจนสำเร็จระดับสองแล้ว!
เนตรอสูรมีขั้นสามระดับ ระดับแรกทำให้ศัตรูหมดสติได้ด้วยการมอง
ในระดับสองจะสามารถโจมตีดวงวิญญาณให้ฉีกขาดได้ เฉินเทียนหนานได้ฝึกจนถึงขั้นนี้และพยายามจะใช้มันกับซือหยูจนเกือบจะทำให้เขาเสียสติไปตลอดกาล
ว่ากันว่าหากฝึกถึงระดับสาม ผู้ฝึกจะสะบั้นวิญญาณของเป้าหมายได้ ทำให้ตายโดยไม่ทิ้งร่องรอย
ซือหยูที่ฝึกจนสำเร็จระดับสองพบว่ามันยอดเยี่่ยมมาก เมื่อวานเขาใช้วิชานี้จัดการพยัคฆ์ภูเขาโดยทำให้มันสูญเสียสติปัญญาและอ่อนแอลงมาก
สิ่งเดียวที่ทำให้เขาเศร้าคือสายฟ้าดาราม่วงที่ไม่คืบหน้าเลยเพราะมันมีแต่ความไม่แน่ชัด ไม่ว่าเขาจะฝึกด้วยการเร่งเวลาเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจมันสักนิด มันทำให้เขาหงุดหงิดทีเดียว
แน่นอนว่าไม่มีใครฝึกวิชานี้จนสำเร็จได้มาก่อน เพราะว่าขาดพลังหลักของวิชางั้นหรือ? ซือหยูเริ่มสงสัยว่าวิชาสายฟ้าดาราม่วงต้องการอะไรกับผู้ฝึก
เขาถึงขณะที่รีบไปตามเส้นทาง เขาใกล้จะถึงแล้ว
โฮกก-
ทันใดนั้นเกิดเสียงสั่งที่ทำให้ภูเขาสั่นสะเทือนทำให้เหล่าวิหคตกใจและบินหนีไปทั่วทิศทาง
สัตว์อสูรชั้นหนึ่ง! ไม่สิ มันแข็งแกร่งกว่านั้น
มังกรไฟเป็นสัตว์อสูรชั้นหนึ่งที่พัฒนาเต็มที่แล้ว มันเทียบเท่าคนที่มีพลังระดับสามชั้นกลาง แต่มันก็ยังมีสัตว์อสูรประเภทหนึ่งที่แข็งแกร่งเทียบเท่าพลังระดับสามขั้นสูง
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคนกำลังต่อสู้อยู่
เขากระโดดขึ้นและมองจากระยะสามลี้ เขาประเมินสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
เขาเห็นพยัคฆ์ตัวใหญ่ที่มีหนามบนหลังสู้กับคนสามคน ทั้งสามคนยังเป็นเด็กอยู่แต่มีพลังแข็งแกร่ง คนที่อ่อนแอที่สุดมีพลังระดับสามขั้นต้น ส่วนคนที่แกร่งที่สุดมีพลังระดับสามขั้นสูง!
มันคือหลีหมิงห่าว! คนที่มีพลังระดับสามขั้นต้นคือหลีหมิงห่าว!
ความทรงจำนั้นยังคงสดใหม่ เพราะเขาแย่งคนรักไปจากซูเซินและปฏิบัติราวกับนางเป็นของเล่น เขาถูกซูเซินท้าประลอง
แม้ซูเซินจะแข็งแกร่งเป็นอันดับ 3 ของศิษย์ระดับเงินและมีพลังระดับสามขั้นต้นเหมือนกัน เขาก็ถูกหลีหมิงห่าวชนะอย่างง่ายดาย
คนแปลกหน้าอีกสองคนเป็นศิษย์ทองคำอย่างไม่ต้องสงสัย
พวกเขากำลังล้อมพยัคฆ์หนามตัวใหญ่โดยมีศิษย์ทองคำระดับสามขั้นสูงเป็นผู้นำ และอีกสองคนช่วยเหลือการโจมตี
กระบี่ซ้อน! ศิษย์ทองคำระดับสามขั้นสูงถือดาบยาวด้ามจับไผ่โจมตีศัตรู
ดาบยาวแหวกอากาศทำให้เกิดแสงสวยงาม มันราวกับคมดาบแห่งความตาย
โฮกกก-
พยัคฆ์หนามถูกแท่งที่คอ หัวใจของมันถูกแทงทะลุแต่สัตว์อสูรไม่ยอมตายง่ายๆ มันสวนกลับแม้ประตูแห่งความตายจะเปิดอ้ารอมัน
หลีหมิงห่าวรีบมองหาต้นไม้ใหญ่ การโจมตีสวนกลับของมันอันตรายมาก แต่มีต้นไม้ใหญ่เพียงต้นเดียวที่น่าจะทนพลังโจมตีของพยัคฆ์หนามได้
พวกเขาทั้งสามปีนต้นไม้ใหญ่พร้อมกัน พวกเขาไปถึงยอดต้นไม้เมื่อพยัคฆ์หนามมาถึง แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้โล่งใจ พยัคฆ์หนามก็คุ้มคลั่งและใช้หนามบนหลังโจมตีต้นไม้ใหญ่
แกร๊ก-
หนามคมกริบของมันเจาะทะลุต้นไม้ใหญ่จนหัก
“ไม่นะ! มันจะโค่นแล้ว หนีเร็ว!”
คนที่มีพลังระดับสามขั้นสูงหน้าซีดเผือด พยัคฆ์หนามตั้งใจจะฆ่าพวกเขาแน่นอน
แต่มันสายไปแล้ว
โครม-
ต้นไม้ใหญ่ล้มลงและพวกเขาทั้งสามติดอยู่กับกิ่งไม้ พวกเขาพยายามจะหาทางออกและหนีไป แต่พยัคฆ์หนามก็ถึงตัวพวกเขาแล้ว มันจะกัดใครให้หัวขาดเลยก็ได้ตอนนี้หากออกมาจากกิ่งไม้
ทันใดนั้นมันรู้สึกถึงลมหายใจที่ใต้ฝ่าเท้าของมัน มันตะปบใบไม้ที่ซ่อนตัวศิษย์ทองคำด้วยกรงเล็บทำให้ขาทั้งของข้างหักอยู่ใต้กิ่งไม้ เขาคือคนที่มีพลังระดับสามขั้นกลาง
เขาที่หวาดกลัวความตายมองศีรษะพยัคฆ์ที่เข้ามาใกล้ มันอ้าปากกว้างและกำลังจะส่งมอบความตายให้เขา
ฟึ่บ-
ตอนนั้นเองศรเหล็กก็ได้แล่นแหวกอากาศไปหาเป้าหมาย