ตอนที่ 199 หอนางโลมเชียนจิง
ตอนที่ 199 หอนางโลมเชียนจิง
แต่ว่า กู่ฟงมีข้อสงสัยบางอย่าง ว่าใครเป็นอยู่เบื้องหลังเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาเป็นคนทีเฉลียวฉลาดและท่องในยุทธภพเป็นเวลาหลายสิบปี เขารู้ดีว่าต้องมีคนที่มีความคับแค้นใจบางอย่างกับสำนักหยุนเซี่ย เขาต้องการยืมมือของเกาะเมฆาบรรพกาลเพื่อฆ่าคนแห่งสำนักหยุนเซี่ย ดังนั้นเขาจึงจงใจเปิดเผยตำแหน่งของคัมภีร์เคล็ดวิชาพลิกกายทะลายจันทร์ดารา
ไม่เช่นนั้นมันจะบังเอิญเช่นนี้ได้อย่างไร ?
แม้ว่ากู่ฟงจะเข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน แต่เขาไม่มีทางเลือกที่จะไม่ทำตามคำความต้องการของเขา ที่กลายเป็นดาบสังหารคนแห่งสำนักหยุนเซี่ยทั้งหมด เพราะคัมภีร์เคล็ดวิชาพลิกกายทะลายจันทร์ดาราเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเกาะเมฆาบรรพกาล
เขาเป็นใคร ? เขาวางแผนด้วยวิธีการที่ชาญฉลาดและละเอียดอ่อน และยังไร้ซึ่งความเมตตาปราณี พวกเขาไม่ควรมองข้ามเขาไป
ในเวลาเดียวกัน หยางไค่นั่งอยู่ในโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งในเมืองไห่เฉิน หยางไค่นั่งอยู่ข้างหน้าต่าง มือของเขาถือถ้วยสุรา และมองไปยังทิศทางของเกาะหยุนเซี่ยด้วยสีหน้าที่ไม่เฉยชา
ดื่มเหล้ากินอาหาร
หยางไค่นั่งอยู่บนนี้ตั้งแต่เช้ากระทั่งกลางคืน โดยไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
สงครามแห่งเกาะหยุนเซี่ย เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงกลางคืน ศิษย์สาวกทั้งหลายของพวกเขาถูกฆ่าไปจนหมดสิ้นและยังมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรใต้ท้องทะเล
หลังจากเสร็จสิ้นสงคราม เกาะเมฆาบรรพกาลที่นำทัพมากกว่า 200 คน ตายและได้รับบาดเจ็บเพียง 30 คน แต่พวกเขากลับสามารถทำลายสำนักระดับ 3 ในท้องทะเลที่กว้างไกล การแลกเปลี่ยนเช่นนี้ คุ้มค่าอย่างถึงที่สุด
เมื่อท้องฟ้าเข้าสู่ยามค่ำคืน หยางไค่วางเงินบนโต๊ะอาหารและค่อยๆเดินออกจากโรงเตี้ยมแห่งนี้
ทั้งหมดที่เขาทำไป เพียงแค่โยนคัมภีร์เคล็ดวิชาพลิกกายทะลายจันทร์ดาราไว้ในสำนักหยุนเซี่ย ก่อนจะฉีกหน้าหนึ่งของคัมภร์และส่งไปยังเกาะเมฆาบรรพกาลเท่านั้น
เขาทำเพียงเท่านี้ !!
เพียงแค่พลิกฝ่ามือ สำนักหยุนเซี่ยถูกทำลายจนหมดสิ้น !
ณ เมืองไห่เฉิน หอนางโลมเชียนจิง
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ค้นหาความสุข มันเป็นสถานที่เต็มไปด้วยมลทินที่น่าขยะแขยง สตรีทั้งหลายต่างแต่งตัวอย่างงดงามเพื่อต้อนรับแขกที่เข้ามาเยือน พวกนางสวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยเรือนร่าง และยืนอยู่บนราวบันไดชั้นสอง ยิ้มอย่างยั่วยวนให้แก่แขกผู้มาเยือน
หน้าประตู มีหญิงสาวที่น่าลุ่มหลงจำนวนหลายคนกำลังชักชวนแขกผู้มาเยือน ในบางครั้งพวกเขาจะดึงบุรุษที่แต่งตัวดูสง่าเข้ามาในหอนางโลมทันที
ถนนบริเวณนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวานของสตรี
หยางไค่มาถึงด้านหน้าของหอนางโลมเชียนจิง เขารีบเดินเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว ด้านในหอนางโลมมีสตรีอายุประมาณ 17-18 ปีเข้ามาต้อนรับ สตรีนางนี้มีหน้าตาที่งดงาม นางแต่งแต้มไปหน้าอย่างเบาบาง ทำให้ใบหน้ของนางดูอ่อนหวานอย่างยิ่ง
เมื่อสตรีนางน้อยมองเห็นหยางไค่นางเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มและโค้งคำนับอย่างอ่อนหวาน : นายท่าน เชิญ !!
เสียงที่อ่อนหวานของนาง ทำให้สติของหยางไค่แจ่มแจ้งขึ้นอีกครั้ง
ตั้งแต่วันที่เขาลวนลามยู่เอ้าชิงจนสามารถยับยั้งความปรารถนาของตนเองมันก็ผ่านไปเป็นเวลานาน จากการบ่มเพาะพลังและความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้น พิษของเคล็ดวิชาหยินหยางรวมเป็นหนึ่งเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ในตอนนี้เมื่อเขามองเห็นสตรีที่เต็มใจตอบรับความปราถนาของเขา
ทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้
ในสถานที่แห่งนี้ เพียงแค่จ่ายเงิน จะทำสิ่งที่ปรารถนาได้โดยไร้ซึ่งข้อจำกัดทางศีลธรรม ทุกคนต่างยินที่จะตอบรับความปราถนาของตนเอง พวกเขาทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้รับสิ่งที่ต้องการ เพราะมันคือการแลกเปลี่ยน 1 วันผ่านไป ไม่มีใครรู้จักใครทั้งนั้น มันเป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับการระบเยความปรารถนาเท่านั้น
แต่เมื่อคิดถึงหญิงสาวบริสุทธุ์ที่ถูกบังคับให้มามารองรับความปรารถนาของบุรุษที่นางไม่รูจักอย่างไม่เต็มใจ ทำให้หยางไค่รู้สึกขมขื่นใจอย่างยิ่ง
หญิงสาวคนนี้มีท่าทางที่เรียบร้อย แต่นางยังคงกล่าวอย่างนุ่มนวล : เป็นครั้งแรกที่น่าท่านเข้าสถานที่เช่นนี้ ?
ใบหน้าของหยางไค่แดงก่ำ เขากล่าตอบอย่างรวดเร็ว : ไม่ใช่ !!
แม้ว่าสาวน้อยคนนี้จะมีอายุที่ไม่มาก แต่นางคงทำงานอยู่ในสถานที่แห่งนี้เป็นเวลานาน นางจึงมีสายตาที่เฉียบแหลมและชาญฉลาด นางจึงไม่กล่าวซักถามหยางไค่อีกต่อไป แต่นางเดินนำ และยื่นมือจับแขนของหยางไค่ : หากนางท่านต้องการสรรหาความสนุกสนานให้แก่ตนเอง ให้ข้ารับใช้และปรณิบัตินายท่านได้ไหม ?
หยางไค่พยักหน้า สีหน้าแสดงออกอย่างเย็นชา
เด็กสาวยิ้มอย่างดีใจ นางพาหยางไค่เดินเข้าไป ขณะที่เดินเข้าไป หน้าอกที่อิ่มเอิบของนางไค่ยังสัมผัสไปที่แขนของหยางไค่อย่างเจตนา
เมื่อถูกกระตุ้นเช่นนี้ การสูดลมหายใจของหยางไค่เริ่มหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวมั่นใจในการคาดเดาของตนเอง ว่านายท่านผู้นี้เข้ามาสถานที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก
เมื่อเข้ามายังห้องโถงด้านใน ไอแห่งความร้อนพุ่งออกมา ในเมื่อมันเป็นหอแห่งนางบำเรอ สภาพการตกแต่งภายในจึงค่อนข้างที่จะไม่น่ามอง เพราะกำแพงรอบห้องโดดเด่นด้วยภาพจิตรกรรมที่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศที่แปลกประหลาดและหลากหลาย
สายตาของหยางไค่กวาดมองไปทั่ว โดยที่จิตใจของเขาสั่นไหวอย่าหนักหน่วง
แท้จริงแล้ว .ยังมีท่าแห่งการร่วมรักที่แปลกประหลาดอย่างน่าเหลือเชื่อจำนวนมากมาย
อืม เมื่อกลับไปยังหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ย ต้องหาตัวซู่เหยียนและลองทำท่าเหล่านี้
ห้องโถงในหอนางโลมเชียนจิงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะแห่งความไคร่อย่างไม่หยุด มีใครบางคนกำลังซุกไซ้ทรวงอกของสตรี มีใครบางคนกำลังจูบอย่างเร่าร้อน และยังมีใครบางคนกำลังล่วงล้ำไปยังภายในร่างกายและสัมผัสทุกสิ่งทุกอย่างของสตรี เสียงลมหายใจที่หนักหน่วงของบุรษ เสียงครางที่เร่าร้อนของสตรี คละเคล้ารวมกันอย่างไม่หยุด
ทันใดนั้นหยางไค่รู้สึกว่าเขากำลังถูกกระตุ้น แม้แต่ใบหน้าของเขายังแดงก่ำ
เด็กสาวช้อนตามองนางเขย่งเท้าและกล่าวกระซิบเบาไปยังข้างหูของหยางไค่ : นายท่าน ท่านต้องการดื่มกินและหาความสุขในหอนางโลมแห่งนี้หรือไม่ หรือนายท่านต้องการห้องพักและอยู่ร่วมกับ .?ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่าน
สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างเสียงดัง !!
นายท่านตามข้ามา !! เด็กสาวยิ้มอย่างแผ่วเบา และดึงแขนหยางไค่ขึ้นไปยังบันไดชั้น 3
เมื่อเดินมาถึงชั้น 3 นางเลือกห้องเปล่าที่ไร้ซึ่งผู้คน และดึงหยางไค่เข้าไปในห้อง
นายท่านนั่งพักก่อน ข้าจะไปเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้นายท่าน เด็กสาวทั้งเอาใจใส่และกล่าวอย่างอ่อนโยน
เดี่ยวก่อน หยางไค่กล่าวตะโกนหยุดนางอย่างฉับพลัน
เด็กสาวยิ้มให้แก่หยางไค่และกล่าวอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม : นายท่านมีเรื่องรีบร้อนที่รอไม่ได้หรือเปล่า ?
หยางไค่ส่ายหัวไปมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและกล่าวพูด : ที่จริง ข้าชอบสตรีที่มีอายุมากกว่า
เด็กสาวประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่นางไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดใจ ทุกคนต่างมีความชอบของตนเอง แม้ว่าบุรุษที่นางเคยพบจะมีอายุ 80 หรือ 100 ปี ประปรายกันไป ทุกคนล้วนมีความชอบที่แตกต่างกันมันไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอายแม้แต่น้อย
ข้าจะเรียกท่านพี่ให้นายท่าน ? เด็กสาวกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนโยนและรอฟังคำตอบของหยางไค่
ไม่จำเป็น เรียกแม่เล้าของพวกเจ้าเข้ามา หยางไค่กล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบา
เด็กสาวจ้องมองหยางไค่ด้วยสายตาที่โง่เขลาอย่างงุนงง .
แขกที่มาเยือกหอนางโลมเชียนจิงไม่มีใครเคยกล่าวขอร้องเช่นนี้ แม้เล้าของหอนางโลมเชียนจิง แม้ว่าในวัยเยาว์นางจะเคยต้อนรับแขก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ไม่มีใครที่จะไถ่ถามถึงนางอีกเลย เพราะไร้ซึ่งแขกที่ต้องการตัวนาง นางจึงได้กลายมาเป็นแม้เล้าในที่สุด
เด็กสาวถามด้วยความลังเลอีกครั้ง : นายท่านต้องการให้ท่านแม่เข้ามาบำเรอท่าน ?
ไปเรียกนางมา!! หยางไค่โยนเงินออกไปให้นางเป็นจำนวนหนึ่ง
เด็กสาวจึงพยักหน้า : นายท่านโปรดรอสักครู่ ข้าไม่แน่ใจว่าท่านแม่จะเต็มใจหรือไม่ ข้าจะไปไถ่ถามนางก่อน
นายท่านผู้นี้ .ดูเหมือนอายุไม่มาก แต่ทำไมถึงชอบสตรีที่มีอายุ ? แม่เล้าของหอนางโลมเชียนจิงอายุประมาณ 40 ปี อายุของนางคล้ายคลึงกับมารดาของนายท่านผู้นั้น ดูเหมือนว่าราติที่เขาชื่นชองคงจะหนักหน่วงไปหน่อย ?
แต่อย่างไรก็ตามแขกต้องการสตรีประเภทไหนมันเป็นเสรีภาพของเขา ไม่ว่าอย่างไรเด็กสาวก็ไม่ขัดขวางการทำการค้าในหอนางโลมเชียนจิง
หลังจากที่หยางไค่นั่งรอในห้องเป็นเวลานาน ประตูถูกเปิดเข้ามา หยางไค่จ้องมองออกไปอย่างเย็นชา เขาพบเห็นเพียงสตรีที่มีรูปร่างท้วมและแต่งหน้าอย่างหนักแน่นเดินเข้ามา
เมื่อตอนที่นางยังอ่อนเยาว์นางคงเป็นสตรีที่งดงาม แต่ในตอนนี้อายุของนางเพิ่มมากขึ้น จากความมั่งคั่งที่นางได้รับ ทำให้เสน่ห์ในวัยเยาว์ที่น่าหลงใหลหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงร่างกายอวบอ้วนที่เต็มไปด้วยชั้นไขมันที่มากมาย
เมื่อสักครู่ เด็กสาวกล่าวกับนางว่า มีนายท่านอายุน้อยคนหนึ่งต้องการตัวนางเพื่อบำเรอให้แก่เขา แม่เล้าดีใจอย่างเหลือล้น นางจึงรีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เมื่อนางเข้ามา นางเห็นว่านายท่านที่ต้องการตัวนางเป็นเด็กหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหล่า ทำให้นางรู้สึกดีใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง นางคิดว่าตนเองที่มีอายุอาณามขนาดนี้ยังมีเสน่ห์ที่ทำให้เด็กหนุ่มเช่นเขาหลงใหลได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แม้เล่าเดินเข้ามาและยิ้มอย่างมีเสน่ห์เพร้อมกล่าวคำทักท่ายอย่างนุ่มนวลสุภาพ : นายท่าน
นางยังกล่าวไม่จบ แต่หยางไค่ยื่นมือจับตัวนางเข้ามาและผลักนางให้นั่งลงไปที่เก้าอี้ที่อยู่ใกล้เคียง
* * * * * * * * ซวา
มีดสั้นที่แหลมคมปักลงไปยังด้านข้างของแม่เล้านางนี้อย่างฉับพลัน
สีหน้าของแม่เล้าแปรเปลี่ยนสีขาวซีดในทันที นางจ้องไปยังมีดสั้นเล่มนั้น โดยร่างกายสั่นเทาอย่างหนักหน่วง
นายท่านท่านนี้ .ท่านต้องการอะไร ? แม่เล้าเป็นคนฉลาด จนถึงตอนนี้นางทราบในทันทีว่าหยางไค่ไม่ได้เข้ามาเพื่อหาความสุข แต่มาเพื่อสร้างปัญหาให้แก่หอนางโลมเชียนจิง
ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า หยางไค่ดึงเก้าอี้เข้ามา เขานั่งอยู่ตรงหน้าของแม่เล้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็บเฉียบ
นายท่านโปรดภาม เรื่องใดที่ข้าทราบ ข้าจะกล่าวตอบต่อนางน้อยโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย แม่เล้ากล่าวด้วยเสียงที่หวาดกลัวอย่างสุดขีด
เมื่อ 3-4 เดือนก่อน พวกเจ้าได้ซื้อสตรีที่มีหน้างดงามอายุประมาณ 30 เข้ามาใช่ไหม? หยางไค่หรี่ตาและจ้องมองไปยังแม่เล้าอย่างดุดัน
แม่เล้าฝืนยิ้มและกล่าว : นายท่านถามอย่างไม่เข้าใจ ข้าจะจำได้อย่างไร ?หอนางโลมเชียนจิงมักจะมีสตรีถูกขายเข้ามาเสมอ
นางถูกขายเข้ามาโดยครอบครัวตระกูลเมียว
สีหน้าของแม่เล้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
หยางไค่จ้องมองการกระทำของนางไว้ในสายตาตลอดเวลาและกล่าวต่อ : นางยังกรีดหน้าของตนเองเพราะไม่ต้องการที่จะรับแขก จากนั้นนางจึงถูกขายไปยังสำนักหยุนเซี่ย !! กล่าวเช่นนี้แล้ว เจ้าจำได้หรือยัง ?
แม่เล้าส่ายหัว : ไม่มีคนที่นายท่านกล่าวถึง
หยางไค่ตบหน้าของนางไป 1 ฉาด เสียงกระทบลงใบหน้าดังออกมาอย่างชัดเจน ใบหน้าของแม่เล้ามีรอยฝ่ามือสีแดงประทับอยู่ตรงหน้า
มันเป็นความจริง
ฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าของนางอีกครั้ง
นายท่าน
ป๊าป!
ข้าไม่ได้โกหกนายท่าน !!
พลั่ก!
ข้าจำได้แล้ว แม่เล้าทนต่อการตบไปที่ใบหน้าเพียงไม่กี่ครั้ง จนใบหน้าของนางบูดบวม ฟันของนางกระเด็นออกไปหลายซี่ หากนางยังปากแข็งต่อไป ไม่แน่ว่านางอาจจะถูกตบตีจนตาย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเป็นจอมยุทธุ์ที่เลือดเย็นและโหดเหี้ยม นางเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญคนหนึ่งจะต่อต้านเขาได้อย่างไร ?
มีสตรีนางนั้นจริง แต่ร่างกายของนางมิได้แปดเปื้อนมลทิน และนางเป็นคนกรีดใบหน้าของนางเอง มันไม่เกี่ยวกับข้า !!
ข้ารู้ หยางไค่พยักหน้า และกล่าวถาม : แล้ว .ใครเป็นคนทำร้ายทุบตีนาง ? บังคับให้นางรับแขก
เป็น เป็น . สีหน้าของแม่เล้าเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน นางไม่เคยทราบเลยว่าสตรีที่งดงามผู้นั้นจะมีผู้หนุนหลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้
เป็นใคร !! หยางไค่ดึงมีดสั้นออกมา และค่อยถูไถไปยังเล็บที่เรียวยาวของนาง
เป็นข้าเองข้าเป็นคนทุบตีนาง ..นายท่านโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย นายท่านไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าฟาดแส้ไปเพียงไม่กี่ครั้ง แต่สตรีที่ถูกขายมายังหอนางโลม หากมีใครที่ไม่ยินยอมรับแขก ล้วนต้องถูกสั่งสอนเช่นนี้ ข้าไม่รู้ว่านางเป็นคนของนายท่าน หากข้ารู้ ข้าจะไม่แตะต้องนางแม้แต่น้อย แม่เล้ากล่าวไปด้วยคุกเข่าไปที่พื้นและกระแทกศีรษะลงบนพื้นดินอย่างต่อเนื่อง
หยางไค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และจ่อมีดไปยังลำคอของนาง สีหน้าและดวงตาของหยางไค่แสดงออกอย่างเยือกเย็น
ไม่นะ อย่าฆ่าข้า !! แม่เล้ากรีดร้องด้วยความหวาดกลัว : ข้าได้บอกในสิ่งที่ข้าทราบไปหมดแล้ว นายท่านไว้ชีวิตข้าด้วย !!
เสียงของนางยังมิทันที่จะจางหาย มีดสั้นที่อยู่ในมือหมุนวนเป็นวงกลม โลหิตสีแดงพุ่งกระเด็นออกมา ดวงตาของแม่เล้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง ร่างกายของนางค่อยๆทรุดลงในทันที
หยางไค่เช็ดโลหิตสีแดงสดที่ติดอยู่ในมีดสั้น จากนั้นจึงลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปอย่างช้าๆ
เด็กสาวที่พาหยางไค่เข้ามา เมื่อนางมองเห็นหยางไค่เดินออกมานางจึงกล่าวด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ : นายท่าน สนุกับค่ำคืนนี้หรือไม่ ?
หยางไค่ไม่ได้สนใจนาง การกระทำเช่นนี้ทำให้เด็กสาวประหลาดใจ นางรีบวิ่งขึ้นไปยังชั้น 3 ของหอนางโลมเชียนจิง นางผลักประตูออกไป และมองพื้นที่เต็มไปด้วยโลหิตสีแดง และร่างกายของแม่เล้าที่ทรุดตัวลงบนพื้นอย่างไร้สติ
เสียงกรีดร้องดังขึ้น หอนางโลมเชียนจิงตกอยู่ในความวุ่นวายทันที
เมืองไห่เฉิน จวนตระกูลเมียว ยังคงส่องสว่างด้วยคบไฟสีแดงก่ำ
แต่เมียวฮวาเฉินเป็นคนที่มีไหวพริบและความสามารถคนหนึ่ง เขาประสบความสำเร็จในการค้าขาย และยังได้แต่งงานกับหญิงสาวตระกูลหยินที่ทำการค้าขาย มีบุตรีและบุตรชาย และเริ่มตั้งรกราถิ่นฐานอยู่ในเมืองไห่เฉิน แม้ว่าครอบครัวของพวกเขาไมใหญ่มาก แต่ทุกๆปีพวกเขาจะได้รับเงินกว่าสองหมื่นถึงสามหมื่นชั่ง ดังนั้นครอบครัวของเขาจึงมีชีวิตที่เป็นอยู่อย่างสุขสบาย